ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 (อังกฤษ: 2020 UEFA European Football Championship) หรือรู้จักกันในชื่อ ยูโร 2020 เป็นการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปครั้งที่ 16 จัดขึ้นโดยยูฟ่า โดยเป็นครั้งแรกที่จะมีการแข่งขันใน 12 เมืองของทวีปยุโรป เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 60 ปีของการแข่งขัน[1]

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020
รายละเอียดการแข่งขัน
ประเทศเจ้าภาพ
11 ประเทศ
อาเซอร์ไบจาน
เดนมาร์ก
อังกฤษ
เยอรมนี
ฮังการี
อิตาลี
เนเธอร์แลนด์
โรมาเนีย
รัสเซีย
สกอตแลนด์
สเปน
วันที่11 มิถุนายน – 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2021
ทีม24
สถานที่11 (ใน 11 เมืองเจ้าภาพ)
อันดับเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน
ชนะเลิศธงชาติอิตาลี อิตาลี (สมัยที่ 2)
รองชนะเลิศธงชาติอังกฤษ อังกฤษ
สถิติการแข่งขัน
จำนวนนัดที่แข่งขัน51
จำนวนประตู142 (2.78 ประตูต่อนัด)
ผู้ชม1,099,278 (21,554 คนต่อนัด)
ผู้ทำประตูสูงสุดเช็กเกีย ปาตริก ชิก
โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด
(คนละ 5 ประตู)
ผู้เล่นยอดเยี่ยมอิตาลี จันลุยจี ดอนนารุมมา
ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมสเปน เปดริ
2016
2024

ทัวร์นาเมนต์จะจัดขึ้นใน 12 เมืองใน 12 ประเทศยูฟ่า เดิมทีจะมีกำหนดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน ถึง 12 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2020 ยูฟ่าได้ประกาศออกมาว่าทัวร์นาเมนต์จะล่าช้าประมาณหนึ่งปีเนื่องจากการแพร่ระบาดโคโรนาไวรัสทั่วยุโรปใน ค.ศ. 2020 และเสนอให้มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน ถึง 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 การแข่งขันได้ถูกเลื่อนการแข่งขันออกไปเพื่อลดแรงกดดันต่อการบริการสาธารณะในประเทศที่ได้รับผลกระทบและเพื่อให้มีพื้นที่ว่างในปฏิทินสำหรับความสำเร็จของลีกในประเทศที่ถูกระงับ[2]

รอบคัดเลือก

ทีมที่ผ่านเข้ารอบ

ทีม[A]วิธีการเข้ารอบวันที่เข้ารอบจำนวนครั้งที่เข้ารอบ[B]
 เบลเยียมชนะเลิศ กลุ่มไอ10 ตุลาคม 20195 (1972, 1980, 1984, 2000, 2016)
 อิตาลีชนะเลิศ กลุ่มเจ12 ตุลาคม 20199 (1968, 1980, 1988, 1996, 2000, 2004, 2008, 2012, 2016)
 รัสเซีย[C]รองชนะเลิศ กลุ่มไอ13 ตุลาคม 201911 (1960, 1964, 1968, 1972, 1988, 1992, 1996, 2004, 2008, 2012, 2016)
 โปแลนด์ชนะเลิศ กลุ่มจี13 ตุลาคม 20193 (2008, 2012, 2016)
 ยูเครนชนะเลิศ กลุ่มบี14 ตุลาคม 20192 (2012, 2016)
 สเปนชนะเลิศ กลุ่มเอฟ15 ตุลาคม 201910 (1964, 1980, 1984, 1988, 1996, 2000, 2004, 2008, 2012, 2016)
 ฝรั่งเศสชนะเลิศ กลุ่มเอช14 พฤศจิกายน 20199 (1960, 1984, 1992, 1996, 2000, 2004, 2008, 2012, 2016)
 ตุรกีรองชนะเลิศ กลุ่มเอช14 พฤศจิกายน 20194 (1996, 2000, 2008, 2016)
 อังกฤษชนะเลิศ กลุ่มเอ14 พฤศจิกายน 20199 (1968, 1980, 1988, 1992, 1996, 2000, 2004, 2012, 2016)
 เช็กเกีย[D]รองชนะเลิศ กลุ่มเอ14 พฤศจิกายน 20199 (1960, 1976, 1980, 1996, 2000, 2004, 2008, 2012, 2016)
 ฟินแลนด์รองชนะเลิศ กลุ่มเจ15 พฤศจิกายน 20190 (ครั้งแรก)
 สวีเดนรองชนะเลิศ กลุ่มเอฟ15 พฤศจิกายน 20196 (1992, 2000, 2004, 2008, 2012, 2016)
 โครเอเชียชนะเลิศ กลุ่มอี16 พฤศจิกายน 20195 (1996, 2004, 2008, 2012, 2016)
 ออสเตรียรองชนะเลิศ กลุ่มจี16 พฤศจิกายน 20192 (2008, 2016)
 เนเธอร์แลนด์รองชนะเลิศ กลุ่มซี16 พฤศจิกายน 20199 (1976, 1980, 1988, 1992, 1996, 2000, 2004, 2008, 2012)
 เยอรมนี[E]ชนะเลิศ กลุ่มซี16 พฤศจิกายน 201912 (1972, 1976, 1980, 1984, 1988, 1992, 1996, 2000, 2004, 2008, 2012, 2016)
 โปรตุเกสรองชนะเลิศ กลุ่มบี17 พฤศจิกายน 20197 (1984, 1996, 2000, 2004, 2008, 2012, 2016)
 สวิตเซอร์แลนด์ชนะเลิศ กลุ่มดี18 พฤศจิกายน 20194 (1996, 2004, 2008, 2016)
 เดนมาร์กรองชนะเลิศ กลุ่มดี18 พฤศจิกายน 20198 (1964, 1984, 1988, 1992, 1996, 2000, 2004, 2012)
 เวลส์รองชนะเลิศ กลุ่มอี19 พฤศจิกายน 20191 (2016)
 มาซิโดเนียเหนือชนะเลิศ รอบเพลย์ออฟ สายดี12 พฤศจิกายน 20200 (ครั้งแรก)
 ฮังการีชนะเลิศ รอบเพลย์ออฟ สายเอ12 พฤศจิกายน 20203 (1964, 1972, 2016)
 สโลวาเกียชนะเลิศ รอบเพลย์ออฟ สายบี12 พฤศจิกายน 20201 (2016)
 สกอตแลนด์ชนะเลิศ รอบเพลย์ออฟ สายซี12 พฤศจิกายน 20202 (1992, 1996)

สถานที่

ลอนดอน โรม มิวนิก
สนามกีฬาเวมบลีย์สตาดีโอโอลิมปีโกอัลลีอันทซ์อาเรนา
ความจุ: 90,000ความจุ: 70,634ความจุ: 70,000
บากู เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก บูดาเปสต์
สนามกีฬาโอลิมปิกสนามกีฬาเครสตอฟสกีปุชกาชออเรนอ
ความจุ: 68,700ความจุ: 68,134ความจุ: 67,215
เซบิยา บูคาเรสต์ อัมสเตอร์ดัม กลาสโกว์ โคเปนเฮเกน
สนามกีฬาลาการ์ตูฆาอาเรนานัตซียอนาเลอโยฮัน ไกรฟฟ์ อาเรนาแฮมป์เดนพาร์กสนามกีฬาพาร์เกิน
ความจุ: 60,000ความจุ: 55,600ความจุ: 54,990ความจุ: 51,866ความจุ: 38,065

แต่ละเมืองจะเป็นเจ้าภาพในจัดการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มสามกลุ่ม และอีกหนึ่งนัดในรอบ 16 ทีมหรือรอบรองชนะเลิศ การจัดสรรการแข่งขันสำหรับ 11 สนามมีดังต่อไปนี้:

เมืองเจ้าภาพนั้นแบ่งออกเป็นหกการจับคู่ โดยอิงตามพื้นฐานของความแข็งแกร่งด้านการกีฬา (หากทีมเจ้าภาพทุกคนมีคุณสมบัติ) การพิจารณาทางภูมิศาสตร์ และข้อจำกัดด้านความปลอดภัยหรือการเมือง การจับคู่จัดสรรให้กับกลุ่มโดยใช้วิธีการสุ่มเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2017 แต่ละประเทศเจ้าภาพที่ผ่านการรับรองจะเล่นอย่างน้อยสองนัดแบบเหย้า การจับคู่สถานที่กลุ่มมีดังนี้[3]

ผู้เล่น

เพื่อลดภาระของผู้เล่นเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 จึงมีการเพิ่มขนาดทีมจาก 23 คน (ใช้จำนวนนี้ทุกครั้งนับตั้งแต่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004) เป็น 26 คน อย่างไรก็ตาม ทีมยังคงส่งผู้เล่นในแต่ละนัดได้สูงสุดเพียง 23 คน[4] ทีมชาติแต่ละทีมจะต้องมีผู้รักษาประตูอย่างน้อยสามคน และลงทะเบียนรายชื่อผู้เล่นใน 10 วันก่อนการแข่งขันนัดแรกเริ่มต้น (ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2021) หากผู้เล่นได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยรุนแรงจนไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันก่อนการแข่งขันนัดแรกของทีม สามารถเปลี่ยนเป็นผู้เล่นคนอื่นได้[1] อย่างไรก็ตาม ผู้รักษาประตูอาจถูกเปลี่ยนหลังจากการแข่งขันนัดแรกของทีมได้ หากได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย[4]

ผู้ตัดสิน

พิธีเปิด

รอบแบ่งกลุ่ม

ยูฟ่าประกาศตารางการแข่งขันเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2018[5][6] เวลาแข่งขันในงรอบแบ่งกลุ่มและรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะมีการประกาศหลังจับฉลากรอบสุดท้าย

ทีมชนะเลิศ รองชนะเลิศ และทีมอันดับสามที่ดีที่สุดสี่ทีมของแต่ละกลุ่ม จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เวลาทั้งหมดเป็นเวลาออมแสงยุโรปกลาง (UTC+2) และตามเวลาท้องถิ่น หากสถานที่ตั้งอยู่ในเขตเวลาที่แตกต่างกัน

กลุ่มเอ

อันดับทีมเล่นชนะเสมอแพ้ได้เสียต่างคะแนนการผ่านเข้ารอบ
1  อิตาลี (H)330070+79ผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออก
2  เวลส์311132+14[a]
3  สวิตเซอร์แลนด์311145−14[a]
4  ตุรกี300318−70
ตุรกี  0–3  อิตาลี
รายงานเดมีรัล  53' (เข้าประตูตัวเอง)
อิมโมบีเล  66'
อินซิญเญ  79'
ผู้ชม: 12,916 คน[7]
ผู้ตัดสิน: ดันนี มักเกอลี (เนเธอร์แลนด์)
เวลส์  1–1  สวิตเซอร์แลนด์
มัวร์  74'รายงานเอ็มโบโล  49'
ผู้ชม: 8,782 คน[8]
ผู้ตัดสิน: เกลม็อง ตูร์แป็ง (ฝรั่งเศส)

ตุรกี  0–2  เวลส์
รายงานแรมซีย์  42'
ซี. รอเบิตส์  90+5'
ผู้ชม: 19,762 คน[9]
ผู้ตัดสิน: อาร์ตูร์ ซูวารึช ดีอัช (โปรตุเกส)
อิตาลี  3–0  สวิตเซอร์แลนด์
โลกาเตลลี  26'52'
อิมโมบีเล  89'
รายงาน
ผู้ชม: 12,445 คน[10]
ผู้ตัดสิน: เซียร์เกย์ คาราเซฟ (รัสเซีย)

สวิตเซอร์แลนด์  3–1  ตุรกี
เซเฟรอวิช  6'
ชาชีรี  26'68'
รายงานคาฮ์เวจี  62'
ผู้ชม: 17,138 คน[11]
ผู้ตัดสิน: สเลากอ วินชิช (สโลวีเนีย)
อิตาลี  1–0  เวลส์
เปสซีนา  39'รายงาน
ผู้ชม: 11,541 คน[12]
ผู้ตัดสิน: ออวีดียู ฮัตเซกัน (โรมาเนีย)

กลุ่มบี

อันดับทีมเล่นชนะเสมอแพ้ได้เสียต่างคะแนนการผ่านเข้ารอบ
1  เบลเยียม330071+69ผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออก
2  เดนมาร์ก (H)310254+13[a]
3  ฟินแลนด์310213−23[a]
4  รัสเซีย (H)310227−53[a]
เดนมาร์ก  0–1  ฟินแลนด์
รายงานโปฮ์ยันปาโล  60'
ผู้ชม: 15,200 คน[13]
ผู้ตัดสิน: แอนโทนี เทย์เลอร์ (อังกฤษ)
เบลเยียม  3–0  รัสเซีย
ลูกากู  10'88'
เมอนีเย  34'
รายงาน
ผู้ชม: 26,264 คน[14]
ผู้ตัดสิน: อันโตนิโอ มาเตว ลาโอซ (สเปน)

ฟินแลนด์  0–1  รัสเซีย
รายงานมีรันชุค  45+2'
ผู้ชม: 24,540 คน[15]
ผู้ตัดสิน: ดันนี มักเกอลี (เนเธอร์แลนด์)
เดนมาร์ก  1–2  เบลเยียม
พออุลเซิน  2'รายงานเต. อาซาร์  55'
เดอ เบรยเนอ  70'
ผู้ชม: 23,395 คน[16]
ผู้ตัดสิน: บีเยิร์น เกยเปิร์ส (เนเธอร์แลนด์)

รัสเซีย  1–4  เดนมาร์ก
ดซูย์บา  70' (ลูกโทษ)รายงานตัมส์กอร์  38'
พออุลเซิน  59'
เครสเตินเซิน  79'
เมเลอ  82'
ผู้ชม: 23,644 คน[17]
ผู้ตัดสิน: เกลม็อง ตูร์แป็ง (ฝรั่งเศส)
ฟินแลนด์  0–2  เบลเยียม
รายงานฮราเด็ตสกี  74' (เข้าประตูตัวเอง)
ลูกากู  81'
ผู้ชม: 18,545 คน[18]
ผู้ตัดสิน: เฟลิคส์ บรึช (เยอรมนี)

กลุ่มซี

อันดับทีมเล่นชนะเสมอแพ้ได้เสียต่างคะแนนการผ่านเข้ารอบ
1  เนเธอร์แลนด์ (H)330082+69ผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออก
2  ออสเตรีย320143+16
3  ยูเครน310245−13
4  มาซิโดเนียเหนือ300328−60
ออสเตรีย  3–1  มาซิโดเนียเหนือ
ไลเนอร์  18'
เกรโกริทช์  78'
อาร์เนาทอวิช  89'
รายงานปันแดฟ  28'
ผู้ชม: 9,082 คน[19]
ผู้ตัดสิน: อันเดรียอัส เอียกแบร์ย (สวีเดน)
เนเธอร์แลนด์  3–2  ยูเครน
ไวนัลดึม  52'
เวคอสต์  59'
ดัมฟรีส  85'
รายงานยาร์มอแลนกอ  75'
ยาแรมชุก  79'
ผู้ชม: 15,837 คน[20]
ผู้ตัดสิน: เฟลิคส์ บรึช (เยอรมนี)

ยูเครน  2–1  มาซิโดเนียเหนือ
ยาร์มอแลนกอ  29'
ยาแรมชุก  34'
รายงานอาลีออสกี  57'
ผู้ชม: 10,001 คน[21]
ผู้ตัดสิน: เฟร์นันโด ราปาลินิ (อาร์เจนตินา)
เนเธอร์แลนด์  2–0  ออสเตรีย
เดอไป  11' (ลูกโทษ)
ดัมฟรีส  67'
รายงาน
ผู้ชม: 15,243 คน[22]
ผู้ตัดสิน: โอเรล กรินเฟลด์ (อิสราเอล)

มาซิโดเนียเหนือ  0–3  เนเธอร์แลนด์
รายงานเดอไป  24'
ไวนัลดึม  50'58'
ผู้ชม: 15,227 คน[23]
ผู้ตัดสิน: อิสต์วัน กอวัช (โรมาเนีย)
ยูเครน  0–1  ออสเตรีย
รายงานเบาม์การ์ทเนอร์  21'
ผู้ชม: 10,472 คน[24]
ผู้ตัดสิน: จือเนย์ท ชาคือร์ (ตุรกี)

กลุ่มดี

อันดับทีมเล่นชนะเสมอแพ้ได้เสียต่างคะแนนการผ่านเข้ารอบ
1  อังกฤษ (H)321020+27ผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออก
2  โครเอเชีย311143+14[a]
3  เช็กเกีย311132+14[a]
4  สกอตแลนด์ (H)301215−41
อังกฤษ  1–0  โครเอเชีย
สเตอร์ลิง  57'รายงาน
ผู้ชม: 18,497 คน[25]
ผู้ตัดสิน: ดานีเอเล ออร์ซาโต (อิตาลี)
สกอตแลนด์  0–2  เช็กเกีย
รายงานชิก  42'52'
ผู้ชม: 9,847 คน[26]
ผู้ตัดสิน: ดานีเอล ซีเบิร์ท (เยอรมนี)

โครเอเชีย  1–1  เช็กเกีย
เปริชิช  47'รายงานชิก  37' (ลูกโทษ)
ผู้ชม: 5,607 คน[27]
ผู้ตัดสิน: การ์โลส เดล เซร์โร กรันเด (สเปน)
อังกฤษ  0–0  สกอตแลนด์
รายงาน
ผู้ชม: 20,306 คน[28]
ผู้ตัดสิน: อันโตนิโอ มาเตว ลาโอซ (สเปน)

โครเอเชีย  3–1  สกอตแลนด์
วลาชิช  17'
มอดริช  62'
เปริชิช  77'
รายงานแม็กเกรเกอร์  42'
ผู้ชม: 9,896 คน[29]
ผู้ตัดสิน: เฟร์นันโด ราปาลินิ (อาร์เจนตินา)
เช็กเกีย  0–1  อังกฤษ
รายงานสเตอร์ลิง  12'
ผู้ชม: 19,104 คน[30]
ผู้ตัดสิน: อาร์ตูร์ ซูวารึช ดีอัช (โปรตุเกส)

กลุ่มอี

อันดับทีมเล่นชนะเสมอแพ้ได้เสียต่างคะแนนการผ่านเข้ารอบ
1  สวีเดน321042+27ผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออก
2  สเปน (H)312061+55
3  สโลวาเกีย310227−53
4  โปแลนด์301246−21
โปแลนด์  1–2  สโลวาเกีย
ลีแนตตือ  46'รายงานชแชนสนือ  18' (เข้าประตูตัวเอง)
ชกริเญียร์  69'
ผู้ชม: 12,862 คน[31]
ผู้ตัดสิน: ออวีดียู ฮัตเซกัน (โรมาเนีย)
สเปน  0–0  สวีเดน
รายงาน
ผู้ชม: 10,559 คน[32]
ผู้ตัดสิน: สเลากอ วินชิช (สโลวีเนีย)

สวีเดน  1–0  สโลวาเกีย
ฟ็อชแบร์ย  77' (ลูกโทษ)รายงาน
ผู้ชม: 11,525 คน[33]
ผู้ตัดสิน: ดานีเอล ซีเบิร์ท (เยอรมนี)
สเปน  1–1  โปแลนด์
โมราตา  25'รายงานแลวันดอฟสกี  54'
ผู้ชม: 11,742 คน[34]
ผู้ตัดสิน: ดานีเอเล ออร์ซาโต (อิตาลี)

สโลวาเกีย  0–5  สเปน
รายงานดูเบรากา  30' (เข้าประตูตัวเอง)
ลาปอร์ต  45+3'
ซาราเบีย  56'
เอเฟ. ตอร์เรส  67'
กุตสกา  71' (เข้าประตูตัวเอง)
ผู้ชม: 11,204 คน[35]
ผู้ตัดสิน: บีเยิร์น เกยเปิร์ส (เนเธอร์แลนด์)
สวีเดน  3–2  โปแลนด์
ฟ็อชแบร์ย  2'59'
คลอซ็อน  90+4'
รายงานแลวันดอฟสกี  61'84'
ผู้ชม: 14,252 คน[36]
ผู้ตัดสิน: ไมเคิล โอลิเวอร์ (อังกฤษ)

กลุ่มเอฟ

อันดับทีมเล่นชนะเสมอแพ้ได้เสียต่างคะแนนการผ่านเข้ารอบ
1  ฝรั่งเศส312043+15ผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออก
2  เยอรมนี (H)311165+14[a]
3  โปรตุเกส311176+14[a]
4  ฮังการี (H)302136−32
ฮังการี  0–3  โปรตุเกส
รายงานกึไรรู  84'
โรนัลโด  87' (ลูกโทษ)90+2'
ผู้ชม: 55,662 คน[37]
ผู้ตัดสิน: จือเนย์ท ชาคือร์ (ตุรกี)
ฝรั่งเศส  1–0  เยอรมนี
ฮุมเมิลส์  20' (เข้าประตูตัวเอง)รายงาน
ผู้ชม: 13,000 คน[38]
ผู้ตัดสิน: การ์โลส เดล เซร์โร กรันเด (สเปน)

ฮังการี  1–1  ฝรั่งเศส
ฟิโอลอ  45+2'รายงานกรีแยซมาน  66'
ผู้ชม: 55,998 คน[39]
ผู้ตัดสิน: ไมเคิล โอลิเวอร์ (อังกฤษ)
โปรตุเกส  2–4  เยอรมนี
โรนัลโด  15'
ฌอตา  67'
รายงานดียัช  35' (เข้าประตูตัวเอง)
กึไรรู  39' (เข้าประตูตัวเอง)
ฮาเวิทซ์  51'
โกเซินส์  60'
ผู้ชม: 12,926 คน[40]
ผู้ตัดสิน: แอนโทนี เทย์เลอร์ (อังกฤษ)

โปรตุเกส  2–2  ฝรั่งเศส
โรนัลโด  31' (ลูกโทษ)60' (ลูกโทษ)รายงานแบนเซมา  45+2' (ลูกโทษ)47'
ผู้ชม: 54,886 คน[41]
ผู้ตัดสิน: อันโตนิโอ มาเตว ลาโอซ (สเปน)
เยอรมนี  2–2  ฮังการี
ฮาเวิทซ์  66'
โกเร็ทซ์คา  84'
รายงานอาด. ซอลออี  11'
เชเฟอร์  68'
ผู้ชม: 12,413 คน[42]
ผู้ตัดสิน: เซียร์เกย์ คาราเซฟ (รัสเซีย)

ตารางคะแนนทีมอันดับที่สาม

อันดับกลุ่มทีมเล่นชนะเสมอแพ้ได้เสียต่างคะแนนการผ่านเข้ารอบ
1เอฟ  โปรตุเกส311176+14ผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออก
2ดี  เช็กเกีย311132+14
3เอ  สวิตเซอร์แลนด์311145−14
4ซี  ยูเครน310245−13
5บี  ฟินแลนด์310213−23
6อี  สโลวาเกีย310227−53

รอบแพ้คัดออก

สายการแข่งขัน

 
รอบ 16 ทีมรอบ 8 ทีมรอบรองชนะเลิศรอบชิงชนะเลิศ
 
              
 
27 มิถุนายน ค.ศ. 2021 – เซบิยา
 
 
 เบลเยียม1
 
2 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 – มิวนิก
 
 โปรตุเกส0
 
 เบลเยียม1
 
26 มิถุนายน ค.ศ. 2021 – ลอนดอน
 
 อิตาลี2
 
 อิตาลี
(ต่อเวลา)
2
 
6 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 – ลอนดอน
 
 ออสเตรีย1
 
 อิตาลี
(ลูกโทษ)
1 (4)
 
28 มิถุนายน ค.ศ. 2021 – บูคาเรสต์
 
 สเปน1 (2)
 
 ฝรั่งเศส3 (4)
 
2 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 – เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
 
 สวิตเซอร์แลนด์
(ลูกโทษ)
3 (5)
 
 สวิตเซอร์แลนด์1 (1)
 
28 มิถุนายน ค.ศ. 2021 – โคเปนเฮเกน
 
 สเปน
(ลูกโทษ)
1 (3)
 
 โครเอเชีย3
 
11 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 – ลอนดอน
 
 สเปน
(ต่อเวลา)
5
 
 อิตาลี
(ลูกโทษ)
1 (3)
 
29 มิถุนายน ค.ศ. 2021 – กลาสโกว์
 
 อังกฤษ1 (2)
 
 สวีเดน1
 
3 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 – โรม
 
 ยูเครน
(ต่อเวลา)
2
 
 ยูเครน0
 
29 มิถุนายน ค.ศ. 2021 – ลอนดอน
 
 อังกฤษ4
 
 อังกฤษ2
 
7 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 – ลอนดอน
 
 เยอรมนี0
 
 อังกฤษ
(ต่อเวลา)
2
 
27 มิถุนายน ค.ศ. 2021 – บูดาเปสต์
 
 เดนมาร์ก1
 
 เนเธอร์แลนด์0
 
3 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 – บากู
 
 เช็กเกีย2
 
 เช็กเกีย1
 
26 มิถุนายน ค.ศ. 2021 – อัมสเตอร์ดัม
 
 เดนมาร์ก2
 
 เวลส์0
 
 
 เดนมาร์ก4
 

รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เวลส์  0–4  เดนมาร์ก
รายงานตอลแปร์  27'48'
เมเลอ  88'
เบรทเวต  90+4'
ผู้ชม: 14,645 คน[43]
ผู้ตัดสิน: ดานีเอล ซีเบิร์ท (เยอรมนี)

อิตาลี  2–1 (ต่อเวลาพิเศษ)  ออสเตรีย
กีเอซา  95'
เปสซีนา  105'
รายงานกาไลจิช  114'
ผู้ชม: 18,910 คน[44]
ผู้ตัดสิน: แอนโทนี เทย์เลอร์ (อังกฤษ)

เนเธอร์แลนด์  0–2  เช็กเกีย
รายงานโฮแล็ช  68'
ชิก  80'
ผู้ชม: 52,834 คน[45]
ผู้ตัดสิน: เซียร์เกย์ คาราเซฟ (รัสเซีย)

เบลเยียม  1–0  โปรตุเกส
เต. อาซาร์  42'รายงาน
ผู้ชม: 11,504 คน[46]
ผู้ตัดสิน: เฟลิคส์ บรึช (เยอรมนี)

โครเอเชีย  3–5 (ต่อเวลาพิเศษ)  สเปน
เปดริ  20' (เข้าประตูตัวเอง)
ออร์ชิช  85'
ปาชาลิช  90+2'
รายงานซาราเบีย  38'
อัซปิลิกูเอตา  57'
เอเฟ. ตอร์เรส  77'
โมราตา  100'
โอยาร์ซาบัล  103'
ผู้ชม: 22,771 คน[47]
ผู้ตัดสิน: จือเนย์ท ชาคือร์ (ตุรกี)


อังกฤษ  2–0  เยอรมนี
สเตอร์ลิง  75'
เคน  86'
รายงาน
ผู้ชม: 41,973 คน[49]
ผู้ตัดสิน: ดันนี มักเกอลี (เนเธอร์แลนด์)

สวีเดน  1–2 (ต่อเวลาพิเศษ)  ยูเครน
ฟ็อชแบร์ย  43'รายงานซินแชนกอ  27'
ดอว์บึก  120+1'
ผู้ชม: 9,221 คน[50]
ผู้ตัดสิน: ดานีเอเล ออร์ซาโต (อิตาลี)

รอบก่อนรองชนะเลิศ


เบลเยียม  1–2  อิตาลี
ลูกากู  45+2' (ลูกโทษ)รายงานบาเรลลา  31'
อินซิญเญ  44'
ผู้ชม: 12,984 คน[52]
ผู้ตัดสิน: สเลากอ วินชิช (สโลวีเนีย)

เช็กเกีย  1–2  เดนมาร์ก
ชิก  49'รายงานดิเลนีย์  5'
ตอลแปร์  42'
ผู้ชม: 16,306 คน[53]
ผู้ตัดสิน: บีเยิร์น เกยเปิร์ส (เนเธอร์แลนด์)

ยูเครน  0–4  อังกฤษ
รายงานเคน  4'50'
แมไกวร์  46'
เจ. เฮนเดอร์สัน  63'
ผู้ชม: 11,880 คน[54]
ผู้ตัดสิน: เฟลิคส์ บรึช (เยอรมนี)

รอบรองชนะเลิศ


อังกฤษ  2–1 (ต่อเวลาพิเศษ)  เดนมาร์ก
แคร์  39' (เข้าประตูตัวเอง)
เคน  104'
รายงานตัมส์กอร์  30'
ผู้ชม: 64,950 คน[56]
ผู้ตัดสิน: ดันนี มักเกอลี (เนเธอร์แลนด์)

รอบชิงชนะเลิศ

สถิติ

ผู้ทำประตู

มีการทำประตู 142 ประตู จากการแข่งขัน 51 นัด เฉลี่ย 2.78 ประตูต่อนัด


การทำประตู 5 ครั้ง

การทำประตู 4 ครั้ง

การทำประตู 3 ครั้ง

การทำประตู 2 ครั้ง

การทำประตู 1 ครั้ง

การทำเข้าประตูตัวเอง 1 ครั้ง

แหล่งที่มา : ยูฟ่า[58]

การออกอากาศ

ศูนย์แพร่ภาพกระจายเสียงระหว่างประเทศ (ไอบีซี) จะตั้งอยู่ที่แอ็กซ์โปฮาร์เลมเมอร์เมร์ในเมืองไฟฟ์เฮยเซิน ประเทศเนเธอร์แลนด์[59]

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: หน้าหลักเอฟเอคัพองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)อสมทสโมสรฟุตบอลเชลซีสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพระบรมสารีริกธาตุพิเศษ:ค้นหาสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีเฟซบุ๊กไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซินสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีการแข่งขันระหว่างสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดหอแต๋วแตก (ภาพยนตร์ชุด)สโมสรฟุตบอลแอสตันวิลลาเฮลล์คิทเช่นไทยแลนด์สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาอสุภญีนา ซาลาสสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลยูเวนตุสเอซี มิลานนางทาสหัวทองโอลด์แทรฟฟอร์ดยลดา สวนยศคิม ซู-ฮย็อนสโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ดอามาด ดียาโลสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตีชาลี ไตรรัตน์สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็งประเทศไทยสโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์