สภาผู้แทนราษฎรไทย

สภานิติบัญญัติของประเทศไทย บางโอกาสเป็นสภาล่างของรัฐสภาไทย

สภาผู้แทนราษฎรไทย เป็นสภาผู้แทนราษฎรของประเทศไทย ปัจจุบันประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 500 คน แบ่งการได้มาออกเป็น 2 แบบ ได้แก่แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง โดยให้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง จำนวน 100 คน ทั้งนี้อายุของสภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดคราวละ 4 ปี นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง

สภาผู้แทนราษฎรแห่งราชอาณาจักรไทย
สภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 26
ตรารัฐสภาไทย
ประเภท
ประเภท
เป็นส่วนหนึ่งของรัฐสภาไทย
ผู้บริหาร
รองประธานคนที่ 1
ปดิพัทธ์ สันติภาดา, เป็นธรรม
ตั้งแต่ 5 กรกฎาคม 2566
รองประธานคนที่ 2
เศรษฐา ทวีสิน, เพื่อไทย
ตั้งแต่ 22 สิงหาคม 2566
ประธานวิปฝ่ายรัฐบาล
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ, เพื่อไทย
ตั้งแต่ 22 กุมภาพันธ์ 2567
ชัยธวัช ตุลาธน, ก้าวไกล
ตั้งแต่ 17 ธันวาคม 2566
ประธานวิปฝ่ายค้าน
โครงสร้าง
สมาชิก500
กลุ่มการเมือง
ฝ่ายรัฐบาล
ฝ่ายค้าน
คณะกรรมาธิการ35 คณะ
ระยะวาระ
ไม่เกิน 4 ปี
การเลือกตั้ง
แบบคู่ขนาน
แบ่งเขตเลือกตั้ง (400)
บัญชีรายชื่อ (100)
การเลือกตั้งครั้งล่าสุด
14 พฤษภาคม 2566
การเลือกตั้งครั้งหน้า
ไม่ช้ากว่า 27 มิถุนายน 2570
ที่ประชุม
Phra Suriyan chamber.jpg
ห้องประชุมพระสุริยัน
สัปปายะสภาสถาน
เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ประเทศไทย
เว็บไซต์
เว็บไซต์สภาผู้แทนราษฎร

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย มีหน้าที่โดยตรงในทางนิติบัญญัติ และควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี การตั้งกระทู้ถาม และการเสนอญัตติขอให้เปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี

อำนาจหน้าที่

การตรากฎหมาย

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ

ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญจะเสนอได้ก็แต่โดย (ตามมาตรา 131 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560)
  • คณะรัฐมนตรี โดยข้อเสนอแนะของศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง
  • สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (ตามมาตรา 132 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560)
  1. การเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญให้เสนอต่อรัฐสภา และให้รัฐสภาประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายในเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวัน โดยการออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สาม ต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของรัฐสภา ถ้าที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาดังกล่าวให้ถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบตามร่างที่เสนอตามมาตรา 131
  2. ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ให้รัฐสภาส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้นไปยังศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความเห็น ในกรณีที่ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง ไม่มีข้อทักท้วงภายในสิบวันนับแต่วันที่ได้รับร่างดังกล่าว ให้รัฐสภาดำเนินการต่อไป
  3. ในกรณีที่ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง เห็นว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบมีข้อความใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้ ให้เสนอความเห็นไปยังรัฐสภาและให้รัฐสภาประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นดังกล่าวในการนี้ ให้รัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมตามข้อเสนอของศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระตามที่เห็นสมควรได้ และเมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว ให้รัฐสภาดำเนินการต่อไป

พระราชบัญญัติ

ร่างพระราชบัญญัติให้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรก่อน และจะเสนอได้ก็แต่โดย (ตามมาตรา 133 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560)
  • คณะรัฐมนตรี
  • สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่ายี่สิบคน
  • ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นคนเข้าชื่อเสนอกฎหมายตามหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย หรือหมวด 4 หน้าที่ของรัฐ ทั้งนี้ตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย
ในกรณีที่ร่างพระราชบัญญัติซึ่งมีผู้เสนอที่มิใช่คณะรัฐมนตรีเป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินจะเสนอได้ก็ต่อเมื่อมีคำรับรองของนายกรัฐมนตรี
การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (ตามมาตรา 134 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560)
เมื่อสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติและลงมติเห็นชอบแล้ว ให้สภาผู้แทนราษฎรเสนอร่างพระราชบัญญัตินั้นต่อวุฒิสภา วุฒิสภาต้องพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่เสนอมานั้นให้เสร็จภายในหกสิบวัน แต่ถ้าร่างพระราชบัญญัตินั้นเป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินต้องพิจารณาให้เสร็จภายในสามสิบวัน ทั้งนี้เว้นแต่วุฒิสภาจะได้ลงมติให้ขยายเวลาออกไปเป็นกรณีพิเศษซึ่งต้องไม่เกินสามสิบวัน กำหนดวันดังกล่าวให้หมายถึงวันในสมัยประชุม และให้เริ่มนับแต่วันที่ร่างพระราชบัญญัตินั้นมาถึงวุฒิสภา

คุณสมบัติ

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 97 บัญญัติให้บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

  1. มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด
  2. มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปีนับถึงวันเลือกตั้ง
  3. เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียวเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในกรณีที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเพราะเหตุยุบสภา ระยะเวลาเก้าสิบวันดังกล่าวให้ลดลงเหลือสามสิบวัน
  4. ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ด้วย
  • มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
  • เป็นบุคคลซึ่งเกิดในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง
  • เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าห้าปีการศึกษา
  • เคยรับราชการหรือปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ หรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าห้าปี

ลักษณะต้องห้าม

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 98 บัญญัติให้บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

  1. ติดยาเสพติดให้โทษ
  2. เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
  3. เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ
  4. เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 96 (1) (2) หรือ (4)
  5. อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
  6. ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
  7. เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
  8. เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
  9. เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
  10. เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน
  11. เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง
  12. เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมือง
  13. เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
  14. เป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ้นสุดลงยังไม่เกินสองปี
  15. เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
  16. เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
  17. อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
  18. เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุตามมาตรา 144 หรือมาตรา 235 วรรคสาม

ลำดับชุดสภาผู้แทนราษฎร

ชุดที่จำนวนสมาชิกระยะการดำรงตำแหน่งการสิ้นสุดสมาชิกสภาพรัฐธรรมนูญหมายเหตุ
(เลือกตั้ง/ครม.)
ชั่วคราว7028 มิถุนายน 2475 – 6 ธันวาคม 2476มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475มาจากการแต่งตั้งทั้งหมดคณะทหาร

ผู้รักษาพระนคร ครม. 1 ครม. 2 ครม. 3

115615 พฤศจิกายน 2476 – 10 กันยายน 2480ครบวาระรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 1 เป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมและมี ส.ส. จากการแต่งตั้งด้วย ครม. 4 ครม. 5 ครม. 6 ครม. 7
21567 พฤศจิกายน 2480 – 11 กันยายน 2481ยุบสภา"เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 2
ครม. 8
318212 พฤศจิกายน 2481 – 15 ตุลาคม 2488ยุบสภา"เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 3/สภาต่อวาระออกไปเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่สอง
ครม. 9 ครม. 10 ครม. 11 ครม. 12 ครม. 13
42746 มกราคม 2489 – 8 พฤศจิกายน 2490รัฐประหารรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม/รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 4 และการเลือกตั้งเพิ่มเติม เมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2489
ครม. 14 ครม. 15 ครม. 16 ครม. 17 ครม. 18
521929 มกราคม 2491 – 29 พฤศจิกายน 2494รัฐประหารรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2490 (5 ธันวาคม 2490)เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 5 และการเลือกตั้งเพิ่มเติม
ครม. 21 ครม. 22 ครม. 23
624629 พฤศจิกายน 2494 – 26 กุมภาพันธ์ 2495เลือกตั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2492สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเภทที่ 2 ทำหน้าที่แทนสภาผู้แทนราษฎรไปพลางก่อน
ครม. 24
724626 กุมภาพันธ์ 2495 – 25 กุมภาพันธ์ 2500ครบวาระรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2495เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 6
ครม. 25
828326 กุมภาพันธ์ 2500 – 16 กันยายน 2500รัฐประหาร"เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 7
ครม. 26
928115 ธันวาคม 2500 – 20 ตุลาคม 2501รัฐประหาร"เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 8
ครม. 28
1021917 กุมภาพันธ์ 2512 – 17 พฤศจิกายน 2514รัฐประหารรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2511เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 9
ครม. 31
1126926 มกราคม 2518 – 12 มกราคม 2519ยุบสภา [1]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 10
ครม. 35 ครม. 36
122794 เมษายน 2519 – 5 ตุลาคม 2519รัฐประหาร"เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 11
ครม. 37 ครม. 38
1330122 เมษายน 2522 – 19 มีนาคม 2526ยุบสภา [2]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 12
ครม. 41 ครม. 42
1432418 เมษายน 2526 – 2 พฤษภาคม 2529ยุบสภา [3]"เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 13
ครม. 43
1534727 กรกฎาคม 2529 – 29 เมษายน 2531ยุบสภา [4]"เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 14
ครม. 44
1635724 กรกฎาคม 2531 – 23 กุมภาพันธ์ 2534รัฐประหาร"เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 15
ครม. 45 ครม. 46
1736022 มีนาคม 2535 – 30 มิถุนายน 2535ยุบสภา [5]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 16
ครม. 48 ครม. 49
1836013 กันยายน 2535 – 19 พฤษภาคม 2538ยุบสภา [6]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับที่ 4) พุทธศักราช 2535 (10 กันยายน พ.ศ. 2535)เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 17
ครม. 50
193912 กรกฎาคม 2538 – 28 กันยายน 2539ยุบสภา [7]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับที่ 5) พุทธศักราช 2535 (10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538)เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 18
ครม. 51
2039317 พฤศจิกายน 2539 – 9 พฤศจิกายน 2543ยุบสภา [8]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับที่ 6) พุทธศักราช 2535 (27 กันยายน พ.ศ. 2539)เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 19
ครม. 52 ครม. 53
215006 มกราคม 2544 – 5 มกราคม 2548ครบวาระ [9]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 20 เริ่มมี 2 แบบ คือ แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ
ครม. 54
225006 กุมภาพันธ์ 2548 – 24 กุมภาพันธ์ 2549ยุบสภา[10]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2548เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 21
ครม. 55
2348023 ธันวาคม 2550 – 10 พฤษภาคม 2554ยุบสภา [11]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 23
ครม. 57 ครม. 58 ครม. 59
245003 กรกฎาคม 2554 – 9 ธันวาคม 2556ยุบสภา [12]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2554 (3 มีนาคม พ.ศ. 2554)เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 24
ครม. 60
2550024 มีนาคม 2562 – 20 มีนาคม 2566ยุบสภา [13]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 26
ครม. 62
2650014 พฤษภาคม 2566 – ปัจจุบันรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2564เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 27
ครม. 63

อ้างอิง

เชิงอรรถ

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง