เพลย์สเตชัน 4
เพลย์สเตชัน 4 หรือ PS4 (อังกฤษ: PlayStation 4) เป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมตระกูลเพลย์สเตชันรุ่นที่ 4 ของบริษัทโซนี่คอมพิวเตอร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เปิดตัวต่อจากเพลย์สเตชัน 3 ที่งานแถลงข่าวรอบสื่อมวลชนในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2013 และเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2013 ในทวีปอเมริกาเหนือ และต่อมาในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2013 จึงวางจำหน่ายในยุโรปและออสเตรเลีย เพลย์สเตชัน 4 มีคู่แข่งที่สำคัญคือ Wii Uของนินเท็นโด และXbox Oneของไมโครซอฟท์ โซนี่ได้จำหน่ายเพลย์สเตชัน 4 ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 110 ล้านเครื่องทั่วโลก ณ เดือนพฤษภาคม 2020[9] เป็นเครื่องเล่นวีดีโอเกมยุคที่แปดที่ขายดีที่สุดแซงหน้านินเท็นโด 3DS
เครื่องเล่นวีดีโอเกมเพลย์สเตชัน 4 พร้อมด้วยจอยควบคุมดูอัลช็อก 4 | |
ชื่อเรียกอื่น | พีเอส 4 |
---|---|
ผู้พัฒนา | โซนี่ อินเตอร์แอ็กทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ |
ผู้ผลิต | โซนี่อิเล็กทรอนิกส์, ฟ็อกซ์คอนน์[1] |
ตระกูล | เพลย์สเตชัน |
ชนิด | เครื่องเล่นวีดีโอเกมภายในบ้าน |
รุ่นที่ | รุ่นที่ 8 |
วางจำหน่าย | |
พร้อมการค้าปลีก | 2013–ปัจจุบัน |
ราคาเบื้องต้น | US$399.99, €399.99, £349.99 |
ยกเลิก | JP: 5 มกราคม 2021 (บางรุ่น) |
หน่วยขาย | 106 ล้าน (ข้อมูลเมื่อ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2019[update])[4] |
หน่วยส่ง | 117.2 ล้าน (ข้อมูลเมื่อ 31 มีนาคม ค.ศ. 2022[update])[5] |
สื่อ | |
ระบบปฏิบัติการ | PlayStation 4 system software |
พลังงาน | Via internal wide voltage range (110–240 V AC 50 Hz/60 Hz) switched-mode power supply |
หน่วยประมวลผล | Semi-custom 8-core AMD x86-64 Jaguar 1.6 GHz CPU (2.13 GHz on PS4 Pro) (รวมเข้ากับ APU)[6] ชุดประมวลผลทุติยภูมิพลังงานต่ำ (สำหรับกิจกรรมเบื้องหลัง)[7] |
ความจุ |
|
หน่วยความจำ |
|
การแสดงผล |
|
กราฟฟิก | Custom AMD GCN Radeon integrated into APU; clocked at 800 MHz (911 MHz on PS4 Pro) |
ควบคุมผ่าน | ดูอัลช็อก 4, PlayStation Move, เพลย์สเตชัน วิตา |
กล้อง | PlayStation Camera |
การเชื่อมต่อ |
|
บริการออนไลน์ |
|
มิติ |
|
น้ำหนัก |
|
รุ่นก่อนหน้า | เพลย์สเตชัน 3 |
รุ่นต่อไป | เพลย์สเตชัน 5 |
เว็บไซต์ | playstation |
รุ่นย่อย
เพลย์สเตชัน 4
เพลย์สเตชัน 4 มีระบบประมวลผลระดับเซลล์ที่ซับซ้อนกว่าเพลย์สเตชันรุ่นก่อน โดยหน่วยประมวลผลเร่ง AMD x86-64 ที่นำมาใช้นี้ เป็นที่คาดหวังว่าจะช่วยดึงดูดนักพัฒนาในวงกว้างมาช่วยพัฒนาระบบ นอกจากนี้ หน่วยประมวลผลกราฟิกส์ของเพลย์สเตชัน 4 สามารถคำนวณทศนิยมลอยได้ถึง 1.843 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที (1.843 เทระฟล็อปส์) โซนี่ถึงกับกล่าวต่อนิตยสาร Edge ว่า เพลย์สเตชัน 4 นั้นเป็น "เครื่องเล่นวีดีโอเกมที่ทรงพลังที่สุดในโลก" นอกจากนี้ นักพัฒนาเกมหลายคนยังออกมาระบุอีกว่า ความเร็วของเพลยสเตชัน 4 นั้น ทิ้งห่างเอ็กซ์บ็อกซ์วันอย่างไม่เห็นฝุ่น[10]
เพลย์สเตชัน 4 สามารถเข้าถึงกิจกรรมและบริการออนไลน์ต่างๆได้ ผ่านทางเพลย์สเตชันแอป (PlayStation App) ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการเล่นเกมผ่านอุปกรณ์พกพา ไอโอเอส และ แอนดรอยด์ และยังมีเพลย์สเตชันนาว (PlayStation Now) ที่เป็นการเล่นเกมผ่านฐานข้อมูลออนไลน์ (คลาวด์) โดยการสตรีมมิง นอกจากนี้ยังมีระบบ Remote Play ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมแบบไร้สายผ่านเครื่องเพลยสเตชัน 4 ของตนเองจากที่ไหนก็ได้ไม่ว่าในบ้านหรือนอกบ้านผ่านอุปกรณ์แสดงผลทุติยภูมิอย่าง เพลย์สเตชันวีต้า, โทรศัพท์สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ตวินโดวส์และแมค หรือ โทรศัพท์ XPERIA ของโซนี่ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้ว
โซนี่ยังให้ความสำคัญกับการเล่นเกมผ่านสังคมออนไลน์ จอยควบคุมแบบใหม่มีปุ่ม "Share" อยู่ ทำให้สามารถจับภาพหรือวีดีโอบนจอขณะเล่นเกมได้ ผู้เล่นสามารถถ่ายทอดหรือรับชมการเล่นเกมผ่านการสตริมมิงแบบสดได้ นอกจากนี้ คุณลักษณะที่เรียกว่า Share Play ยังสามารถเชิญเพื่อนที่มีเพลย์สเตชัน 4 มาร่วมเล่นเกมด้วยกันได้ แม้ว่าเครื่องเพลย์สเตชันของเพื่อนจะไม่มีเกมเกมเดียวกันอยู่ในเครื่องก็ตาม และด้วยคุณลักษณะเหล่านี้เอง ทำให้ในปี 2014 เพลย์สเตชัน 4 กลายเป็นเครื่องเล่นเกมที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของโลก[11]
เพลย์สเตชัน 4 มีราคาเปิดตัวในสหรัฐคือ 399 ดอลลาร์ และในไทยคือ 19,990 บาท โดยวางตลาดในไทยเมื่อ 17 มกราคม 2014
เพลย์สเตชัน 4 สลิม
PlayStation 4 Slim เปิดตัวเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 และวางจำหน่ายเมื่อ 15 กันยายนในปีเดียวกัน ราคาเปิดตัวในไทยคือ 12,999 บาท รุ่นสลิมนี้มาแทนที่เพลย์สเตชัน 4 รุ่นเดิมซึ่งยุติสายการผลิต รุ่นสลิมนี้มีองค์ประกอบและคุณสมบัติภายในเหมือนกับรุ่นเดิมทุกอย่าง แต่รองรับมาตรฐาน WiFi มากขึ้น มีรูปร่างที่บางลงและมีน้ำหนักที่เบาลง และยังกินไฟน้อยกว่ารุ่นเดิม 35%
เพลย์สเตชัน 4 โปร
ตัวเครื่องเพลย์สเตชัน 4 โปร | |
ผู้พัฒนา | โซนี่อินเตอร์แอ็กทีฟเอ็นเตอร์เทนเมนต์ |
---|---|
วางจำหน่าย | 10 พฤศจิกายน 2016 |
สื่อ | Blu-ray, DVD |
ระบบปฏิบัติการ | PlayStation 4 system software, FreeBSD 9.2 |
หน่วยประมวลผล | 2.1GHz 8-core AMD Jaguar |
ความจุ | 1 TB |
หน่วยความจำ | 8 GB GDDR5 และ 1 GB DDR3 RAM (สำหรับกิจกรรมเบื้องหลัง) |
การแสดงผล | HDMI (480p, 720p, 1080i, 1080p, และ 4K) |
กราฟฟิก | Semi-custom AMD GCN Radeon (รวมเข้ากับ APU) |
ควบคุมผ่าน | DualShock 4, PlayStation Move, PlayStation Vita |
การเชื่อมต่อ | 802.11 b/g/n Wireless, Bluetooth 2.1, USB 4.0, Ethernet 10/100/1000 |
บริการออนไลน์ | PlayStation Network |
PlayStation 4 Pro ได้ถูกเปิดตัวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 และเริ่มวางจำหน่ายเมื่อ 10 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีหมายเลขโมเดลคือ CUH-7000[12] ซึ่งรุ่นโปรนี้เป็นรุ่นอัปเดตจากเพลย์สเตชัน 4 รุ่นเดิม โดยมี GPU ถึง 4.2 เทราฟล็อปซึ่งมากกว่ารุ่นเดิมถึง 128% และยังมีมี CPU ที่แรงกว่าเดิม ซึ่งคุณลักษณะที่แรงกว่าเดิมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถเล่นเกมที่ความคมชัดระดับ 4K ได้ และยังช่วยให้เพลย์สเตชัน วีอาร์แสดงผลได้ดีขึ้นด้วย และที่พิเศษคือรุ่นโปรนี้ยังได้เพิ่มขนาดแรมสำรอง จาก 256MB เป็น 1GB สำหรับรันแอปพลิเคชันเบื้องหลัง ทำให้การสลับหน้าจอออกจากเกมไปยังแอพลิเคชันอื่นทำได้โดยไม่สะดุด
เกมทุกเกมที่เล่นได้ในเพลย์สเตชัน 4 รุ่นเดิมจะสามารถนำมาเล่นในรุ่นโปรได้ อย่างไรก็ตาม จะมีบางเกมที่ถูกพัฒนามาเพื่อการแสดงผลที่ดีกว่าเดิมในรุ่นโปรโดยเฉพาะ และแม้ว่ารุ่นโปรจะสามารถเล่นวีดีโอสตรีมมิงที่ความชัดระดับ 4K ได้ แต่ก็ไม่สามารถอ่านแผ่น Ultra HD Blu-ray ได้[13][14][15] นอกจากนี้ รุ่นโปรยังเป็นรุ่นเดียวที่สามารถใช้งาน Remote Play ที่ความคมชัดระดับ 1080p ได้ ในขณะที่รุ่นเดิมและสลิมทำได้สูงสุดแค่ 720p[16]
รุ่นโปรสามารถประมวลผลความคมชัดระดับ 4K ได้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที หากตั้งค่าความคมชัดไว้ที่ 1080p จะสามารถเพิ่มเฟรมเรตไปได้สูงสุดถึง 60 เฟรมต่อวินาทีและมีกราฟิกที่ดีขึ้น รุ่นโปรเริ่มวางจำหน่ายในเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2016 ราคาวางตลาดในสหรัฐคือ 499 ดอลลาร์ และในไทยคือ 16,990 บาท
อุปกรณ์พื้นฐานและอุปกรณ์เสริม
- จอยควบคุม DualShock 4
- PlayStation Move Navigator
- PlayStation Move Controller
- กล้อง PlayStation Camera
การวางจำหน่าย
วันที่ | ประเทศที่วางจำหน่าย |
---|---|
15 พฤศจิกายน 2013[17] | |
29 พฤศจิกายน 2013[18] | |
13 ธันวาคม 2013[19] | |
17 ธันวาคม 2013[20][21] | |
18 ธันวาคม 2013[22] | |
19 ธันวาคม 2013[23] | |
20 ธันวาคม 2013[24] | |
6 มกราคม 2014[25] | |
9 มกราคม 2014[26] | |
14 มกราคม 2014[27] | |
22 มกราคม 2014[28] | |
20 มีนาคม 2015[29][30] |
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- US Official Site (อังกฤษ)
- UK Official Site เก็บถาวร 2013-06-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (อังกฤษ)
- Japanese Official Site เก็บถาวร 2013-05-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (ญี่ปุ่น)