ไทยสยาม
ชาวสยาม (อังกฤษ: Siamese)[27][28][29][30][31] หรือ คนไทยภาคกลาง[b] โดยทั่วไปหมายถึงกลุ่มชาติพันธุ์ไทที่อาศัยอยู่ภาคกลางและภาคใต้ของประเทศไทย ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ รองลงมาคือศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์
คนไทยในพิธีพระราชทานเพลิงศพที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ | |
ประชากรทั้งหมด | |
---|---|
ป. 52–59 ล้านคน[a] | |
ภูมิภาคที่มีประชากรอย่างมีนัยสำคัญ | |
ไทย ป. 51–57.8 ล้านคน[nb 1][1][2][3] | |
ป. 1.1 ล้านคน | |
สหรัฐ | 488,000[4] (2020) |
ออสเตรเลีย | 100,856[5] (2020) |
ญี่ปุ่น | 86,666[6] (2020) |
ไต้หวัน | 82,608[7] (2020) |
สวีเดน | 74,101[8] (2020) |
เยอรมนี | 59,130[9] (2020) |
สหราชอาณาจักร | 45,884[10] (2020) |
เกาหลีใต้ | 32,861[11] (2020) |
นอร์เวย์ | 31,387[12] (2020) |
อิสราเอล | 26,641[13] (2020) |
ฝรั่งเศส | 30,000[13] (2019)[14] |
มาเลเซีย | 51,000–70,000[13][15] (2012) |
ลิเบีย | 24,600[13] (2011) |
สิงคโปร์ | 47,700[13] (2012) |
เนเธอร์แลนด์ | 20,106[16] (2017) |
แคนาดา | 19,010[17] (2016) |
ลาว | 15,497[18] (2015) |
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 14,232[13] (2012) |
รัสเซีย | 14,087[19] (2015) |
ฟินแลนด์ | 13,687[20] (2019) |
เดนมาร์ก | 12,947[21] (2020) |
ฮ่องกง | 11,493[22] (2016) |
ซาอุดีอาระเบีย | 11,240[13] (2012) |
นิวซีแลนด์ | 10,251 (เกิด), ประมาณ 50,000 (บรรพบุรุษ)[23] (2018) |
สวิตเซอร์แลนด์ | 9,058[24] (2015) |
จีน | 8,618[13] (2012) |
อิตาลี | 5,766[25] (2016) |
บรูไน | 5,466[13] (2012) |
เบลเยียม | 3,811[13] (2012) |
ออสเตรีย | 3,773[13] (2012) |
อินเดีย | 3,715[13] (2012) |
แอฟริกาใต้ | 3,500[13] (2012) |
กาตาร์ | 2,500[13] (2012) |
บาห์เรน | 2,424[13] (2012) |
คูเวต | 2,378[13] (2012) |
อียิปต์ | 2,331[13] (2012) |
ส่วนอื่นของโลก | ป. 47,000[26] |
ภาษา | |
ไทย | |
ศาสนา | |
ส่วนใหญ่ : พุทธเถรวาทและศาสนาผี 97.6% ส่วนน้อย: อิสลามนิกายซุนนี 1.6% คริสต์ (คาทอลิกและโปรเตสแตนต์) 0.8% | |
กลุ่มชาติพันธุ์ที่เกี่ยวข้อง | |
|
ในความหมายทางชาติพันธุ์ ใช้เฉพาะเจาะจงถึงชาวไทภาคกลางและภาคใต้ของประเทศไทย หรือกลุ่มชาติพันธุ์ไทนอกบริเวณดังกล่าวที่มีความเกี่ยวดองทางวัฒนธรรมโดยตรงเช่น ไทโคราช, ชาวโยดะยา, ไทยเขตตะนาวศรี, ไทยเกาะกง แต่ในความหมายทางรัฐชาตินิยมรวมถึงชาติพันธุ์ไทอื่นทั้งในและนอกอาณาจักรด้วยเช่น ไทยอีสาน, ชาวไทยวน, ไทยเชื้อสายจีน, ไทยเชื้อสายเปอร์เซีย, ไทยเชื้อสายเขมร, ไทยเชื้อสายมลายู, ไทยเชื้อสายมอญ, และ ไทยเชื้อสายอินเดีย เป็นต้น
ประวัติ
ประชากรที่อาศัยในภาคกลางของประเทศไทยปัจจุบันมาจากการผสมผสานระหว่างชาวไทกับกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ทั้งที่เป็นชนพื้นเมืองเดิมในภูมิภาคนี้และชนที่เคลื่อนย้ายเข้ามาใหม่[32] จดหมายเหตุลาลูแบร์ระบุว่าชาวต่างชาติเรียกชนกลุ่มนี้ว่าชาวสยาม แต่ชาวสยามเรียกตนเองว่าไทน้อย[33] ต่อมาจอมพลแปลก พิบูลสงคราม ได้ออก ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยรัฐนิยม ใช้ชื่อประเทศ, ประชาชน และสัญชาติ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2482 ให้เรียกประชาชนว่าไทย[34] ต่อมาวันที่ 2 สิงหาคม ได้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยรัฐนิยม ฉบับที่ ๓ เรื่อง การเรียกชื่อชาวไทย ให้เลิกการเรียกแบ่งแยกคนไทยออกเป็นหลายพวกหลายเหล่า เช่น ไทยเหนือ ไทยอีสาน ไทยใต้ ไทยอิสลาม แต่ใช้คำว่าไทยแก่ชาวไทยโดยทั้งหมดทั้งมวลโดยไม่แบ่งแยก[35]
คนเชื้อชาติ-สัญชาติไทยในต่างแดน
ชาวไทยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศไทยแม้ว่าชาวไทยบางส่วนสามารถพบได้ในส่วนอื่นๆของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 51–57 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น[36]ในขณะที่ชุมชนขนาดใหญ่ของชาวไทยสามารถพบได้ใน สหรัฐ, จีน, ลาว, ไต้หวัน, มาเลเซีย, สิงคโปร์, กัมพูชา, พม่า, เกาหลีใต้, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, แคนาดา, ออสเตรเลีย, สวีเดน, สวีเดน, ลิเบีย และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สังคมและวัฒนธรรม
ภาษา
ชาวไทยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ ในภูมิภาคด้วยความหลากหลายของภาษาไทย กลุ่มเหล่านี้รวมถึง ภาษาไทยกลาง (รวมถึงความหลากหลายของมาตรฐานภาษาและวัฒนธรรม), ภาษาไทยถิ่นใต้, ภาษาอีสาน (ซึ่งมีเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับภาษาลาวมาตรฐานของลาวมากกว่าภาษาไทยมาตรฐาน), คำเมือง (ภาษาไทยภาคเหนือ) และภาษายาวีซึ่งเป็นภาษาไทยแบบมาเลย์มีที่ใช้ในกลันตัน-ปัตตานี
ภาษาไทยกลางยุคใหม่มีความโดดเด่นมากขึ้นเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อดูดซับและรวมความแตกต่างของคนไทยแม้จะมีความสัมพันธ์ทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมระหว่างคนที่ไม่ได้พูดภาษาไทยกับชุมชน
การแต่งกาย
ชาวไทยนิยมใส่ชุดไทยซึ่งสามารถสวมใส่โดยผู้ชายผู้หญิงและเด็ก ชุดไทยสำหรับผู้หญิงโดยทั่วไปประกอบด้วย ผ้านุ่ง หรือ โจงกระเบน, เสื้อและสไบ ผู้หญิงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออาจสวมซิ่นแทนผ้านุ่งและโจงกระเบน และสวมชุดด้วยเสื้อหรือ เสื้อปัด ส่วนชุดไทยสำหรับผู้ชายรวมถึง โจงกระเบน หรือกางเกง, เสื้อราชปะเตน พร้อมถุงเท้ายาวเข่าสีขาวเสริม ชุดไทยสำหรับผู้ชายชาวไทยภาคเหนือประกอบด้วย กางเกงชาวเล แจ็คเก็ตสไตล์แบบจีนสีขาวและบางครั้ง มักจะมีผ้าโพกหัว ส่วนในโอกาสทางการผู้คนอาจเลือกสวมใส่ชุดประจำชาติไทยหรือชุดไทยพระราชนิยม
ศาสนา
ชาวไทยยุคใหม่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาทและระบุอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ของพวกเขาอย่างยิ่งด้วยการปฏิบัติทางศาสนาของพวกเขาซึ่งรวมถึงแง่มุมของการบูชาบรรพบุรุษในหมู่ความเชื่ออื่นๆของคติความเชื่อของไทย ซึ่งชาวไทยส่วนใหญ่ (มากกว่า 90%) เป็นที่ยอมรับว่าตนเองเป็นชาวพุทธ ตั้งแต่การปกครองของพ่อขุนรามคำแหงของอาณาจักรสุโขทัยและอีกครั้งตั้งแต่ "การปฏิรูปศาสนา" ในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในศตวรรษที่ 19 การปฏิรูปยึดแบบศาสนาพุทธในประเทศศรีลังกาแบบดั้งเดิมเป็นแม่แบบ อย่างไรก็ตามความเชื่อพื้นบ้านของคนไทยคือ การผสานความเชื่อของชาวพุทธอย่างเป็นทางการเข้ากับศาสนาผีและศาสนาฮินดู[37] ที่ได้รับอิทธิพลมาจากจากอินเดียส่วนหนึ่งและอีกส่วนได้รับมรดกมาจากจักรวรรดิเขมรแห่งอังกอร์[38]
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- บรรณานกรม
- กรมศิลปากร. ประวัติศาสตร์ชาติไทย. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2558. ISBN 978-616-283-225-3
- ซีมง เดอ ลา ลูแบร์. จดหมายเหตุ ลาลูแบร์ ราชอาณาจักรสยาม. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2552. 688 หน้า. ISBN 974-93533-2-3
- ยรรยง จิระนคร (เจีย แยนจอง). คนไทไม่ใช่คนไทย แต่เป็นเครือญาติชาติภาษา. กรุงเทพฯ : มติชน, 2548. ISBN 974-323-484-5
- Girsling, John L.S., Thailand: Society and Politics (Cornell University Press, 1981).
- Terwiel, B.J., A History of Modern Thailand (Univ. of Queensland Press, 1984).
- Wyatt, D.K., Thailand: A Short History (Yale University Press, 1986).