วิกฤตเกาหลี พ.ศ. 2556

วิกฤตเกาหลี พ.ศ. 2556 หรือ วิกฤตการณ์เกาหลีเหนือ เป็นความตึงเครียดรอบใหม่ระหว่างเกาหลีเหนือ กับเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น โดยเริ่มต้นจากเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมควังมย็องซ็อง-3 ยูนิต 2 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555 และการทดลองนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 วิกฤตการณ์นี้มีลักษณะเป็นการยกระดับวาทศิลป์โดยรัฐบาลเกาหลีเหนือใหม่ภายใต้คิม จ็อง-อึน และการกระทำที่ส่อการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ต่อเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาในอนาคตอันใกล้[2]

วิกฤตเกาหลี พ.ศ. 2556
ส่วนหนึ่งของ การแบ่งประเทศเกาหลี

ประเทศในคาบสมุทรเกาหลี: เกาหลีเหนือสีส้มและเกาหลีใต้สีฟ้า เมืองหลวงทั้ง 2 ประเทศ คือ กรุงเปียงยางและโซล ซึ่งแสดงจุดสีแดง
วันที่24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556
(6 เดือน 2 สัปดาห์)
สถานที่
สถานะ

เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้กลับมาดำเนินการที่เขตอุตสาหกรรมแคซ็อง

  • เกาหลีเหนือทดลองอาวุธนิวนิวเคลียร์
  • การซ้อมรบทางทหารร่วมเกาหลีใต้กับสหรัฐอเมริกาโดยมีเรือดำน้ำ เรือพิฆาตและเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์
  • เกาหลีเหนือประกาศยุติ "สถานะหยุดยิง"
    • สายด่วน โซล-เปียงยางได้รับการซ่อมโดยเกาหลีเหนือ
  • เกาหลีเหนือกลับมาร่วมเจรจา 6 ฝ่ายและอ้างว่ายินดีที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับนานาชาติ บนเงื่อนไขที่ว่าสถานะของพลังงานนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือไม่ถูกท้าทาย
  • สถานะการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติถูกประกาศในคำสั่งที่ 13466
คู่สงคราม
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ

เบื้องหลัง

การปล่อยดาวเทียมควังมย็องซ็อง-3 ยูนิต 2

วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เพื่อเป็นการรำลึกวันคล้ายวันเกิดครบ 100 ปีของคิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ ได้มีการปล่อยดาวเทียม ชื่อ ควังมย็องซ็อง-3 สู่อวกาศ

จากนั้น สหรัฐอเมริกาแถลงตอบโต้การกระทำของเกาหลีเหนือทันที คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้อนุมัติบทลงโทษใหม่กับเกาหลีเหนือในการปกปิดการทดสอบขีปนาวุธ เหตุการณ์นี้ได้สร้างความวิตกเป็นอย่างมากสื่อหลายสำนักทั่วโลกรวมทั้งจีน รัสเซีย และญี่ปุ่นได้รายงานข่าวว่าเกาหลีเหนือได้เข้าร่วมกลุ่มประเทศที่สามารถผลิตและส่งดาวเทียมในโลก กองบัญชาการป้องกันห้วงอากาศ-อวกาศอเมริกาเหนือ (North American Aerospace Defense Command) รายงานว่าทั้งดาวเทียมและชิ้นส่วนที่ลอยอยู่บนอวกาศ "มิได้เป็นปัจจัยคุกคามความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา"

รัฐบาลเกาหลีกล่าวว่าการปล่อยครั้งนี้เป็นเพียงการนำดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรและปฏิเสธว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการทหาร ในวันที่ 22 มกราคม รัฐบาลเกาหลีเหนือเดินหน้าจดทะเบียนกับสหประชาชาติ โดยแถลงว่าดาวเทียมดังกล่าวเป็นดาวเทียมสังเกตการณ์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อตรวจสอบพืชผล ทรัพยากรป่าไม้และภัยพิบัติธรรมชาติของโลก ที่มีคาบเวลาโหนด (nodal period) 95 นาที 25 วินาที

กระนั้น ชาติส่วนใหญ่ในโลกประณามการกระทำดังกล่าว แม้กระทั่งจีน ซึ่งตามสนธิสัญญาทางทหารกำหนดให้ป้องกันเกาหลีเหนือในกรณีถูกรุกราน นอกเหนือจากนั้น คู่ปรับแต่อดีตของเกาหลีเหนือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อ้างว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการทดสอบทางทหารเพื่อเตรียมทำสงคราม โดยมีภารกิจเดียว คือ ยั่วยุคู่ปรับทางการเมือง

หลังการปล่อย ชาวเกาหลีเหนือเฉลิมฉลองเหตุการณ์ดังกล่าว วันรุ่งขึ้น เกาหลีเหนือจัดการเฉลิมฉลองครั้งมโหฬารในจัตรุสกรุงเปียงยางเพื่อแสดงว่าปฏิบัติการดังกล่าวดำเนินไปสำเร็จอย่างไร

วิธีการบังคับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

หลังการปล่อยดาวเทียมครั้งนั้น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมเพื่อถกเหตุการณ์ดังกล่าว ตามคำร้องของญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ ผลคือ คณะมนตรีฯ ออกคำแถลงประธานาธิบดีซึ่งสมาชิกคณะมนตรีฯ 15 ประเทศรู้สึกว่าการปล่อยดังกล่าวเป็นการทดสอบขีปนาวุธ

ท้ายสุด วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556 คณะมนตรีฯ สรุปว่าจะลงโทษเกาหลีเหนือจากการปล่อยดาวเทียม ซึ่งคณะมนตรีฯ พิจารณาว่าเป็นการทดสอบขีปนาวุธ ฝ่ายเกาหลีเหนือปฏิเสธว่าวิธีการบังคับของคณะมนตรีฯ ถูกกำหนดภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐอเมริกาเพื่อรบกวนการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของเกาหลีเหนือ โดยกล่าวว่า เทคโนโลยีจรวดซึ่งใช้ปล่อยดาวเทียมเป็นแบบเดียวกับที่ใช้กับขีปนาวุธ

การตอบสนองของเกาหลีเหนือ

หลังจากที่คณะมนตรีฯ มีบทลงโทษเกาหลีเหนือ ในวันที่ 23 มกราคม รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศจะยังทดลองต่อไป ไม่เพียงแต่ทุ่มเทกับขีปนาวุธเท่านั้น แต่ชัดเจนว่ามีความพยายามจะเอื้อวัตถุประสงค์อาวุธนิวเคลียร์ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เกาหลีเหนือยังข่มขู่สหรัฐอเมริกาโดยตรง ว่าสามารถยิงขีปนาวุธพิสัยไกลถล่มสหรัฐอเมริกาได้

เราไม่ปิดบังว่าเราจะปล่อยดาวเทียมและจรวดพิสัยไกล และดำเนินการทดสอบนิวเคลียร์ในระดับสูงกว่าต่อไป การต่อสู้ระยะใหม่ต่อสหรัฐอเมริกา ศัตรูอาฆาตของชาวเกาหลี

— คณะกรรมาธิการทหารกลางแห่งเกาหลีเหนือ

รัฐบาลเกาหลีเหนือกล่าวหาสหรัฐอเมริกาที่สหประชาชาติ ว่ากำลังนำ "ขบวนการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนต่อเกาหลีเหนือ" โดยวิธีการบังคับใหม่และประวิงความพยายามของรัฐบาลที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ โทรทัศน์ของรัฐยังกล่าวว่า "นี่ได้พิสูจน์อีกครั้งแล้วว่าเกาหลีเหนือต้องปกป้องเอกราชด้วยตนเอง ได้มาประจักษ์แล้วว่าไม่อาจมีการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดทหารได้ก่อนที่โลกจะปลอดนิวเคลียร์"

ลำดับเหตุการณ์

มกราคม พ.ศ. 2556

ในวันที่ 1 มกราคม คิม จ็อง-อึน อวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับเกาหลีใต้[3][4]

ในการตอบโต้ต่อการอนุมัติของมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติซึ่งประณามการยิงจรวดที่ประสบความสำเร็จครั้งล่าสุดของพวกเขาและกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงยิ่งขึ้น เกาหลีเหนือแถลงในวันที่ 24 มกราคม ว่ามีความมุ่งมั่นที่จะพุ่งเป้าไปที่สหรัฐอเมริกาในขีปนาวุธและโครงการนิวเคลียร์ คำแถลงได้เรียกสหรัฐอเมริกาว่า"ศัตรูคู่อาฆาตของประชาชนเกาหลี"[5]

กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เกาหลีเหนือดำเนินการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งถูกประณามอย่างกว้างขวางจากนานาประเทศ สามวันต่อมาในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เกาหลีเหนือแจ้งจีนว่าจะดำเนินการทดลองนิวเคลียร์ต่อหนึ่งหรือสองครั้งในปี พ.ศ. 2556[6]

มีนาคม พ.ศ. 2556

เมษายน พ.ศ. 2556

พฤษภาคม พ.ศ. 2556

มิถุนายน พ.ศ. 2556

สิงหาคม พ.ศ. 2556

อ้างอิง



🔥 Top keywords: พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคลหน้าหลักพระสุนทรโวหาร (ภู่)องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพิเศษ:ค้นหาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพรอสมทวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก 2024สไปร์ท (แร็ปเปอร์)ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024พุ่มพวง ดวงจันทร์ดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)อีดิลอัฎฮาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ ปุจฉาพาเสียวราชวงศ์จักรีลำดับโปเจียมแห่งราชอาณาจักรไทยรายชื่อตัวละครในพระอภัยมณีหม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคลทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลพระอภัยมณีหม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคลหม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรหลานม่าอริยสัจ 4ตารางธาตุนิราศภูเขาทองรายชื่อเครื่องดนตรีเฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชคประเทศไทยอาณาจักรอยุธยาปิติ ภิรมย์ภักดีวอลเลย์บอลวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย