มอฟฟ์กิเดียน

มอฟฟ์กิเดียน (อังกฤษ: Moff Gideon) เป็นตัวละครสมมติในเรื่องแต่งชุด สตาร์ วอร์ส ปรากฎตัวครั้งแรกในละครชุดทางโทรทัศน์เรื่อง เดอะแมนดาลอเรียน ซึ่งออกฉายทางดิสนีย์+ ซึ่งเขาเป็นตัวร้ายหลักของสามซีซันแรกของเรื่องนี้ กิเดียนเป็นผู้นำของภาคส่วนที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิกาแลกติกหลังการล่มสลาย เป็นผู้ครอบครองดาร์กเซเบอร์ ที่รับผิดชอบต่อการกวาดล้างแมนดาลอร์ และเขาพยายามตามล่าทารกที่มีสัมผัสถึงพลัง ชื่อ โกรกู ซึ่งถูกปกป้องโดยตัวละครที่เป็นที่มาของชื่อเรื่อง โดยกิเดียนวางแผนที่จะใช้เลือดของโกรกูเพื่อสร้างโคลนของเขาซึ่งสามารถสัมผัสถึงพลังได้

มอฟฟ์กิเดียน
ตัวละครใน สตาร์ วอร์ส
เจียนคาร์โล เอสโปซิโต เป็น มอฟฟ์กิเดียน ใน เดอะแมนดาลอเรียน
ปรากฏครั้งแรก
ปรากฏครั้งสุดท้าย
  • "Chapter 24: The Return"
  • 19 เมษายน ค.ศ. 2023
สร้างโดยจอน แฟฟโรว์
แสดงโดยเจียนคาร์โล เอสโปซิโต
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง
เผ่าพันธุ์มนุษย์
เพศชาย
ตำแหน่งมอฟฟ์
ผู้สืบทอดแห่งแมนดาลอร์ (อดีต)
อาชีพ
  • เจ้าหน้าที่หน่วยงานความปลอดภัยและความมั่นคงของจักรวรรดิ (อดีต)
  • ผู้บัญชาการของภาคส่วนที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิกาแลกติก และขุนศึก
สังกัด
อาวุธ
ญาติโคลนของกิเดียนผู้มีสัมผัสถึงพลัง ("Chapter 24: The Return")

กิเดียนรับบทโดย เจียนคาร์โล เอสโปซิโต โดยจอน แฟฟโรว์ ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดและผู้อำนวยการสร้าง เดอะแมนดาลอเรียน เป็นผู้เชิญชวนเขาให้มารับบทนี้ จากที่เขาเคยร่วมงานกับเอสโปซิโตมาแล้วหลายครั้ง กิเดียนถูกนำเสนอออกมาในลักษณะของชายผู้น่ากลัว และโหดเหี้ยม ผู้ที่ "ดูจะรู้ทุก ๆ เรื่องเกี่ยวกับทุก ๆ คน"[1][2] และไม่ลังเลที่จะสังหารใครก็ตามเพื่อเป้าหมายที่เขาต้องการ ไม่เว้นแม้แต่คนของตน ตัวละครนี้ไม่ปรากฎตัวในเรื่องจนกระทั่งตอนรองสุดท้ายของซีซันแรก เขามีบทบาททีาสำคัญขึ้นในซีซันสองโดยปรากฏตัวในห้าตอน เขากลับมาในสองตอนสุดท้ายของซีซันสาม

เอสโปซิโตปฏิเสธที่จะจัดจำแนกประเภทตัวละครกิเดียนว่าเป็นตัวละคร "ดี" หรือ "เลว" โดยชี้ให้เห็นว่าการที่ตัวละครนี้พยายามจะคืนความสงบเรียบร้อยให้กับกาแลกซีอันไร้กฎหมายนั้น มองมุมหนึ่งแล้วก็อาจถือเป็น "ผู้มากอบกู้กาแลกซี" ก็ได้[3] กิเดียนสวมชุดดำทั้งชุด จึงมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับตัวละคร สตาร์ วอร์ส ดาร์ธ เวเดอร์ และนักวิจารณ์หลายคนก็ได้ชี้ให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันในแง่ของบุคลิกและการกระทำของตัวละครทั้งสอง ตัวละครกิเดียนได้รับการตอบรับในแง่บวกจากทั้งนักวิจารณ์และเหล่าผู้ชื่นชอบ สตาร์ วอร์ส เอสโปซิโตได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ไพรม์ไทม์เอมมีอวอร์ดสำหรับนักแสดงรับเชิญยอดเยี่ยมในซีรีส์ดรามา สำหรับการแสดงของเขาในซีซันแรก ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล นักแสดงตัวประกอบยอดเยี่ยมในซีรีส์ดรามา ในซีซันสอง

การปรากฏตัว

ภูมิหลัง

มีการเปิดเผยถึงบางรายละเอียดเกี่ยวกับภูมิหลังของตัวละครนี้ กิเดียนเคยเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานความปลอดภัยและความมั่นคงของจักรวรรดิ ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองลับและตำรวจลับของจักรวรรดิกาแลกติก[4][5][6] ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ใน เดอะแมนดาลอเรียน นั้น กิเดียนมีบทบาทในการกวาดล้างครั้งใหญ่ซึ่งเป็นภารกิจการกดขี่วัฒนธรรมที่รู้จักกันในชื่อ ชาวแมนดาลอร์ ซึ่งในท้ายที่สุดนั้นคร่าชีวิตชาวแมนดาลอร์ไปจำนวนมาก และทำให้ผู้รอดชีวิตที่เหลือนั้นกระจัดกระจายทั่วทั้งกาแลกซี[7][6][8][9] กิเดียนรู้ข้อมูลเกี่ยวการตัวละครที่เป็นชื่อเรื่องนี้หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เดอะแมนดาลอเรียน" รวมถึงตัวตนของเขา ด้วยเหตุที่ว่ากิเดียนอยู่ในเหตุการณ์การกวาดล้างนั่นเอง[6][10][11] ในตอน "Chapter 23: The Spies" ได้มีการเปิดเผยว่าในระหว่างการกวาดล้างครั้งใหญ่ของแมนดาลอร์นั้น โบ-คาทานได้ยอมจำนนแล้วมอบดาร์กเซเบอร์ และตำแหน่งผู้นำดาวแมนดาลอร์ให้มอฟฟ์กิเดียน เพื่อป้องกันการทิ้งระเบิดบนผิวดาว แต่มอฟฟ์กิเดียนกลับคำพูดแล้วสร้างให้มีการทำลายดาวเคราะห์นี้อยู่ดี คำว่า "มอฟฟ์" นั้นเป็นชื่อตำแหน่งของเจ้าหน้าที่จักรวรรดิระดับสูงผู้เคยรับตำแหน่งผู้ว่าราชการของเซกเตอร์เฉพาะในอวกาศสำหรับจักรวรรดิ[12][13][14] คำนี้เคยใช้ตั้งแต่ภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส ภาคดั้งเดิม (ต.ศ. 1977) ซึ่งมีตัวละครที่โดดเด่นคือ แกรนด์มอฟฟ์ทาร์คิน[6][15][16] แต่ถึงกระนั้นคำว่า "มอฟฟ์" ไม่ถูกใช้ในภาพยนตร์ดังกล่าวและตัวละครนั้นถูกเรียกด้วยตำแหน่งดังกล่าวในเครดิตจบเรื่องเท่านั้น

ชีวิตกิเดียนนั้นเปลี่ยนไปอย่างมากหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิ[5][17][18] และเขาได้กลายเป็นขุนศึกที่นำภาคส่วนที่หลงเหลืออยู่ของเขาเอง[19] ดังที่ตัวละครคารา ดูนกล่าวในละครชุดนี้ เคยมีการเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่ากิเดียนนั้นถูกสำเร็จโทษจากอาชญากรรมสงครามก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในละครชุดนี้ขึ้น[9][10][20] ใน เดอะแมนดาลอเรียน นั้น กิเดียนพยายามที่จะจับเอเลียนเด็ก โกรกู หรือที่รู้จักในชื่อ "เด็กทารก"[21][22] เพื่อนำเลือดของเขาไปใช้ในการทดลองลับของดร. เพอร์ชิง[23][24] ไม่นานก่อนที่กิเดียนจะปรากฏตัวใน เดอะแมนดาลอเรียน นั้น เขาส่งกองกำลังไปกำจัดเผ่าแมนดาลอเรียนบนดาวเนวาร์โรซึ่งถูกเปิดเผยออกมาในภายหลังว่าเขารู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขาในช่วงตอน "Chapter 3: The Sin"[6]

เดอะแมนดาลอเรียน ซีซันหนึ่ง

กิเดียนปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในตอน "Chapter 7: The Reckoning" ซึ่งเป็นตอนก่อนสุดท้ายของซีซันแรกของ เดอะแมนดาลอเรียน[1][8][15] เขาปรากฏตัวในตอนที่เขาติดต่อ "ผู้ว่าจ้าง" ซึ่งเป็นบุคตลนิรนามผู้ทำงานเพื่อรับโกรกูมาให้กิเดียน ผู้ว่าจ้างพบกับนักล่าเงินรางวัล กรีฟ คาร์กา และเพื่อนของเขา คารา ดูน ที่ร้านอาหารบนดาวเนวาร์โร เขาอยู่ภายใต้ความคิดที่ว่ากรีฟได้นำโกรกูมาให้เขาพร้อมกับ แมนดาลอเรียนที่พยายามจะปกป้องโกรกูจากจักรวรรดิมาโดยตลอด แต่ในความเป็นจริงแล้ว โกรกูไม่ได้อยู่กับพวกเขาและการพบกันครั้งนี้เป็นกับดักที่วางแผนโดยเดอะแมนดาลอเรียนและพันธมิตรของเขา เพื่อฆ่าผู้ว่าจ้างและสตอร์มทรูปเปอร์ของเขา[25][12][15] ในตอนที่กิเดียนติดต่อผู้ว่าจ้างในระหว่างการพบกัน ผู้ว่างจ้างยืนยันกับเขาว่าเขามีโกรกูในครอบครอง กิเดียนบอกเขาว่าไม่เป็นอย่างนั้นและสั่งให้หมู่ของเดธทรูปเปอร์ของเขายิงเข้าไปในร้านอาหารและฆ่าผู้ว่าจ้างและพลทหารของเขา[15][16][25] หลังจากนั้นร้านอาหารนี้ถูกรายล้อมไปด้วยสตอร์มทรูปเปอร์และเดธทรูปเปอร์และกิเดียนนำยานทายไฟเตอร์ของเขาลงจอดนอกอาคารและก็โผล่ออกมา[8][15][26] แล้วแจ้งให้ แมนดาลอเรียน, คารา, และกรีฟทราบว่าเขาต้องการตัวโกรกู[15]

กิเดียนกลับมาในตอนสุดท้ายของซีซัน ชื่อ "Chapter 8: Redemption"[21] ซึ่งเขาคุยกับเดอะแมนดาลอเรียนและกลุ่มเขาเขาจากข้างนอกร้านอาหาร โดยบอกว่าเขาต้องการให้พวกเขาส่งตัวโกรกูมา[21][27] กิเดียนเปิดเผยว่าเขารู้รายละเอียดลับเกี่ยวกับทุก ๆ คน[10][27][20] และเรียกเดอะแมนดาลอเรียนด้วยชื่อจริงของเขา ดิน จาริน ทำให้ชื่อของเขานั้นถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรกในละครชุดนี้[20][21][26] ในตอนที่ดรอยด์ ไอจี-11 มาถึงเพื่อช่วยเดอะแมนดาลอเรียนและพันธมิตรของเขา มีการยิงกันเกิดขึ้นชั่วขณะระหว่างพวกเขากับสตอร์มทรูปเปอร์ ในระหว่างการสู้ กิเดียนทำให้เดอะแมดาลอเรียนบาดเจ็บปางตายด้วยการยิงเครื่องสร้างพลังงานเข้าใส่เขาทำให้เกิดการระเบิดขึ้น[10][20][27]

เดอะแมนดาลอเรียนและเพื่อนของเขาสามารถหนีจากพวกจักรวรรดิได้ แต่ในตอนหลังนั้นกิเดียนเผชิญหน้ากับพวกเขา ณ สถานที่อื่นบนดาว ที่ซึ่งกิเดียนนั้นโจมตีพวกเขาจากข้างบนด้วยทายไฟเตอร์ในขณะที่พวกเขาอยู่บนพื้น[8][28] เดอะแมนดาลอเรียนใช้เจ็ตแพกของเขาเพื่อบินตามและจู่โจมสตาร์ไฟเตอร์ของกิเดียน[4][10][20] โดยยึดตะขอเกี่ยวของเขาเข้ากับปีกของยาน หลังจากที่เกาะอยู่บนทายไฟเตอร์กลางอากาศ เขาวางระเบิดบนยานและก็เกิดระเบิดขึ้น[20][26][28] ทำให้ยานทายไฟเตอร์ที่เสียหายนั้นตกลง ทำให้เดอะแมนดาลอเรียนและเพื่อนของเขาหลบหนีมาได้[8][20][26] ในฉากสุดท้ายตอนและซีซันนี้ กิเดียนสามารถเอาชีวิตรอดจากยานตกได้และนำตัวเขาออกจากซากโดยตัดผ่านโลหะหุ้มยานทายไฟเตอร์ด้วยดาร์กเซเบอร์ซึ่งเป็นกระบี่แสงที่มีใบมีดสีดำและเป็นโบราณวัตถุของแมนดาลอร์[29][30][31]

เดอะแมนดาลอเรียน ซีซันสอง

ในตอน "Chapter 11: The Heiress" กิเดียนได้รับการติดต่อโดยกัปตันของยานขนสินค้าของจักรวรรดิบนดาวจันทร์ที่มีแต่มหาสมุทร แทรกส์ ซึ่งถูกล้อมโดยเดอะแมนดาลอเรียนและนักรบแมนดาลอร์รายอื่น ๆ ซึ่งนำโดยโบ-คาทาน ครีซ ผู้ตั้งเป้าหมายไปที่ยานขนสินค้าของจักรวรรดิด้วยหวังที่จะได้ครอบครองดาร์กเซเบอร์อีกครั้ง หลังจากที่คิดว่าจะเสียยานไป กิเดียนก็สั่งให้กัปตันทำลายยานและทุกคนบนยาน ชาวแมนดาลอร์ทั้งหลายสามารถป้องกันการทำลายยานได้แต่กัปตันของยานนั้นฆ่าตัวตายไปเพราะกลัวกิเดียนมากกว่าโบ-คาทาน ครีซ

แผนของกิเดียนนั้นได้รับการเปิดเผยเป็นบางส่วนในตอน "Chapter 12: The Siege" ซึ่งเดอะแมนดาลอเรียน, กรีฟ, คารา, และเพื่อนชาวมิธโรว์ของเขานั้นได้แทรกซึมเข้าไปในศูนย์การโคลนลับในฐานของจักรวรรดิบนดาวเนวาร์โร ณ ที่นั้น พวกเขาค้นพบว่ามีร่างหลายร่างอยู่ภายในตู้และมีข้อความที่บันทึกไว้จากดร. เพอร์ชิงถึงกิเดียน เพอร์ชิงกล่าวว่าเขาต้องการที่จะเข้าถึงเลือกของโกรกู ซึ่งต้องใช้เพื่อทำให้ร่างกายนั้นมีสัมผัสถึงพลัง[23] ถึงกระนั้นหลาย ๆ การทดลองก็ล้มเหลว[22][23] กิเดียนปรากฏตัวอีกครั้งในตอนจบของตอนโดยยืนอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยดาร์กทรูปเปอร์บนยานลาดตระเวนของเขาและมีเจ้าหน้าที่แจ้งให้เขาทราบว่าเดอะแมนดาลอเรียนนั้นยังครอบครองโกรกู และมีการติดเครื่องติดตามไว้บนยานของเขา เรเซอร์เครสต์

ในตอน "Chapter 14: The Tradgedy" กิเดียนติดตามเดอะแมนดาลอเรียนไปยังดาวไทธอนและส่งยานขนส่งที่มีสตอร์มทรูปเปอร์เต็มลำสองยานไปเพื่อจับตัวโกรกู ในขณะที่เดอะแมนดาลอเรียนและโบบา เฟทท์ และเฟนเนค แชนด์ที่พึ่งมาถึงนั้นสู้กับพวกนั้น พวกเขาล้มเหลวก็ในการป้องกันไม่ให้โกรกูถูกจับตัวไปโดยดาร์กทรูปเปอร์สี่นายของกิเดียน และไม่ให้ยาน เรเซอร์เครสต์ นั้นถูกทำลายโดยการโจมตีจากวงโคจรโดยยานลาดตระเวนของกิเดียน หลังจากหนีมาพร้อมกับโกรกู กิเดียนเห็นเขาใช้พลังใส่สตอร์มทรูปเปอร์สองนายซึ่งเขาจับโยนไปโยนมาในห้องขังของเขา ก่อนที่จะสตันเขาและเตรียมที่จะนำตัวเขาไปให้ดร. เพอร์ชิงเพื่อให้การถ่ายเลือดนั้นเสร็จสมบูรณ์

ในตอน "Chapter 16: The Rescue" เดอะแมนดาลอเรียนและทีมของเขาแทรกซึมเข้าไปในยานของกิเดียน ซึ่งโกรกูถึงจับเป็นตัวประกัน กิเดียนเสนอโกรกูให้เดอะแมนดาลอเรียน ภายใต้ข้อเสนอว่าเขาต้องออกจากยานไป แต่กระนั้น กิเดียนกลับโจมตีเดอะแมนดาลอเรียนด้วยดาร์กเซเบอร์ เดอะแมนดาลอเรียนเอาชนะการต่อสู้ได้และมอบตัวกิเดียนให้กับคารา ดูน ในตอนที่เดอะแมนดาลอเรียนพยายามมอบดาร์กเซเบอร์ให้กับโบ-คาทาน กิเดียนเปิดเผยว่าผู้ครอบครองดาบนั้นตั้ง เป็นผู้สืบบรรลังก์ของดาวแมนดาลอร์โดยชอบธรรมและดาบนั้นจะได้มาด้วยการเอาชนะเท่านั้น หมู่ของดาร์ธทรูปเปอร์พยายามที่จะช่วยกิเดียนแต่ทรูปเปอร์เหล่านั้นก็ถูกทำลายโดยลุค สกายวอล์คเกอร์ ผู้มาเพื่อรับตัวโกรกูไปฝึนฝนให้เป็นเจได หลังจากพ่ายแพ้แล้ว กิเดียนพยายามฆ่าตัวตายแต่ถูกขัดขวางด้วยคารา ดูนและถูกจับกุมไป

คัมภีร์แห่งโบบ้า เฟตต์

กิเดียนถูกกล่าวถึงโดยคร่าว ๆ ในภาคแยก คัมภีร์แห่งโบบ้า เฟตต์ ที่ดำเนินเรื่องหลังซีซันสองของ เดอะแมนดาลอเรียน ในตอน "Chapter 5: Return of the Mandalorian" เดอะแมนดาลอเรียนอธิบายให้กับผู้รอดชีวิตของเผ่าของเขาว่าเขาสามารถเอาชนะกิเดียนซึ่งเป็นผู้ก่อให้เกิด "การกวาดล้างแมนดาลอร์" และครอบครองดาร์กเซเบอร์ และกิเดียนถูกส่งตัวไปให้กับสาธารณรัฐใหม่เพื่อตัดสินคดี ช่างตีเหล็กอธิบายให้เดอะแมนดาลอเรียนฟังว่าการเป็นเจ้าของดาร์กเซเบอร์นั้นทำให้กิเดียนเป็น "ผู้สืบทอดแห่งแมนดาลอร์" ก่อนที่เดอะแมนดาลอเรียนจะชนะและเอากลับคืนมาได้ โดยตำแหน่งนี้ได้ตกเป็นของเขาแล้ว แต่กระนั้นด้วยการที่เขาถอดหมวกออก เขาจึงไม่ถูกนับโดยเผ่าของเขาว่าเขาเป็นชาวแมนดาลอร์ ก่อนที่เขาจะไปอาบน้ำในถ้ำใต้ซากของแมนดาลอร์

เดอะแมนดาลอเรียน ซีซันสาม

หลังจากตอนจบของตอน "Chapter 16: The Rescue" มอฟฟ์กิเดียนนั้นถูกเชื่อว่าโดนจับกุมตัวไปและพาไปขึ้นศาล แต่กระนั้น ในตอนจบของตอน "Chapter 21: The Pirate" ซากของยานขนส่งซึ่งพากิเดียนไปขึ้นศาลนั้นถูกพบโดยคาร์สัน เทวา โดยมีชิ้นส่วนของโลหะผสมเบสการ์หลงเหลือไว้

ในตอน "Chapter 23: The Spies" ได้มีการเปิดเผยว่า เอเลีย เคน (หนึ่งในเจ้าหน้าที่บนสะพานเดินเรือของยานกิเดียน ซึ่งถูกเดอะแมนดาลอเรียนโจมตีในตอนจบของซีซัน 2 และผู้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ดร. เพอร์ชิงในนามของกิเดียน ในตอน "Chapter 19: The Convert") ได้ทำงานเป็นสายลับภายในสาธารณรัฐใหม่สำหรับมอฟฟ์กิเดียน และกิเดียนนั้นกำลังรวบรวมกำลังพลบนดาวแมนดาลอร์ มอฟฟ์กิเดียนนั้นเข้าร่วมการประชุมพร้อมกันกับสมาชิกของชาโดว์เคาน์ซิล ซึ่งเป็นกลุ่มของผู้นำภาคส่วนที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิ ซึ่งประกอบด้วย กัปตันจิแลด เพลเลออน และผู้บัญชาการเบรโดล ฮักซ์ (พ่อของนายพลฮักซ์ใน สตาร์ วอร์ส ไตรภาคต่อ) มอฟฟ์กิเดียนเริ่มถามเพลเลออนเกี่ยวกับจอมพลธรอว์นในการเป็นผู้นำของภาคส่วนที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิและการกลับมาของเขาจากริมนอก (Outer Rim) และเขาได้ขอกำลังพลเพิ่มเติมหลังจากที่รู้ว่าชาวแมนดาลอร์กำลังวางแผนที่จะยึดดาวแมนดาลอร์คืนหลังจากตอน "Chapter 22: Guns for Hire" ในตอนที่โบ-คาทาน ครีซและเดอะแมนดาลอเรียนค้นพบฐานทัพลับขอกิเดียนบนดาวแมนดาลอร์นั้น กิเดียนได้เผยตนออกมาให้ชาวแมนดาลอเรียนเห็นพร้อมกับชุดเกราะแมนดาลอเรียนใหม่ของเขา แล้วอวดอ้างถึงพลังใหม่ของเขา และบอกว่าเขาจะรวบรวมทรัพยากรที่ดีที่สุดของดาวแมนดาลอร์, นักโคลน, และเจได เพื่อสร้างกองทัพซึ่งสามารถคืนความสงบเรียบร้อยให้แก่กาแลกซีได้ หลังจากที่ออกจากที่พาจารินซึ่งถูกปลดอาวุธออกไปแล้วไปยังห้องประชุม กิเดียนก็สั่งให้กองยานทายอินเตอร์เซปเตอร์และทายบอมเบอร์ของเขา เริ่มโจมตีกองยานรบของชาวแมนดาลอร์ที่อยุ่ในวงโคจรเหนือดาวแมนดาลอร์ ทำให้โบ-คาทานสั่งอพยพชาวแมนดาลอร์ ในขณะที่พาซ วิซลานั้นยื้อเวลาให้ทุกคนสามารถหนีออกไปได้และสามารถฆ่าคนของกิเดียนได้หมด ก่อนหน่วยองครักษ์เปรโตเรียนซึ่งกิเดียนขอชาโดว์เคาน์ซิลไว้นั้นจะมาถึงและฆ่าวิซลาไป

ในตอน "Chapter 24: The Return" หลังจากเดอะแมนดาลอเรียนและโกรกูสามารถหลบหนีออกมาได้จากการจับกุมตัวของจักรวรรดิ มอฟฟ์กิเดียนจึงสร้างกับดักใหม่สำหรับพวกเขา มีการเปิดเผยออกมาว่าโปรเจ็คการโคลนลับที่กิเดียนกำลังร่วมมือกับดร. เพอร์ชิงและความพยายามในการตามล่าโกรกูนั้น เพื่อสร้างกองทัพโคลนกิเดียนที่มีสัมผัสถึงพลังซึ่งเดอะแมนดาลอเรียนนั้นได้ทำลายไป "ก่อนที่พวกเขาจะได้สูดหายใจแรก" (ถึงแม้ว่าจะมีร่างหนึ่งที่ลืมตาขึ้นมาหลังจากโกรกูเข้าใกล้ตู้ก็ตาม) ด้วยโทสะ กิเดียนจึงเริ่มโจมตีเดอะแมนดาลอเรียนอย่างโหดร้ายในขณะที่กองทัพบนดาวแมนดาลอร์เริ่มที่จะต่อสู้กับกองกำลังชาวแมนดาลอร์ของโบ-คาทาน หลังจากที่ทุบตีอย่างโหดร้าย กิเดียนก็สามารถที่จะแยกโกรกูออกจากเดอะแมนดาลอเรียนได้ โดยสั่งให้หน่วยองครักษ์เปรโตเรียนตามโกรกูไป เขาถูกขัดจังหวะโดยโบ-คาทานซึ่งถึงดาร์กเซเบอร์อยู่ เดอะแมนดาลอเรียนตามไปช่วยเหลือโกรกูจากหน่วยองครักษ์เปรโตเรียนนั้น กิเดียนได้หยิบคทาไฟฟ้าและเริ่มต่อสู้กับโบ-คาทาน โดยสู้จนเขาสามารถที่จะขย้ำและทำลายดาร์กเซเบอร์ด้วยน้ำมือของเขาได้ กิเดียนสู้กับโบ-คาทาน, เดอะแมนดาลอเรียน และโกรกูในขณะที่แอกซ์ วูฟส์ปล่อยให้ยานลาดระเวนของจักรวรรดิที่ขโมยมานั้นตกลงสู่ฐานของจักรวรรดิบนดาวแมนดาลอร์ กิเดียนปล่อยเสียงคำรามเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถูกไฟคลอกและตายไป

สื่ออื่น ๆ

มอฟฟ์กิเดียนปรากฏตัวในฐานะตัวละครที่สามารถเล่นได้ในเกมเล่นตามบทบาท สตาร์ วอร์ส: กาแลกซีออฟฮีโร่ส์

ลักษณะตัวละคร

คนคนนี้นั้นดูเหมือนจะเป็นคนที่ดุร้าย โดยหน้าตาของเขานั้นทำให้เกิดความคาดหวังที่มากเพราะเราไม่รู้ว่าเขาดีหรือเลว จักรวาลนี้ล่มสลายไปแล้ว แล้วใครกันที่พยายามจะทำให้จักรวาลนี้กับมารวมเป็นหนึ่งอีกครั้ง เป็นองค์กรหรือเปล่า? หรือว่าเป็นรัฐบาล? คืออะไรกัน? เป็นกองทัพไหม? เขาคือใคร เขาดูจะรู้ทุก ๆ อย่างเกี่ยวกับทุก ๆ คน? ดูเหมือนว่าจะเราจะมีตัวละครที่ดูลึกลับนะ แต่หากคุณได้เห็นเขาและได้รู้จักเขา คุณจะทึ่งเมื่อรู้ว่าเขาได้อำนาจมาได้อย่างไร

เจียนคาร์โล เอสโปซิโต[1]

กิเดียนเป็นคนที่อันตรายและดุร้าย[1][10] เขาไม่เคยลังเลที่จะทำร้ายหรือฆ่าใครก็ตามเพื่อจะได้สิ่งที่เขาต้องการ[10] ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้นำภาคส่วนที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิ แต่เขาก็ยอมรับว่าเขาทำเพื่อประโยชน์ของตัวเขาเอง[32] โดยในตอนสุดท้ายของซีซันแรกของ เดอะแมนดาลอเรียน นั้น เขาบอกเดอะแมนดาลอเรียนและเพื่อนของเขาว่าพวกเขาไว้ใจเขาไม่ได้และเขาจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด[10] กิเดียนไม่เคยลังเลที่จะฆ่าคนของเขาเลยหากไม่สามารถทำตามที่เขาต้องการได้[8][32] หรือแม้กระทั่งหากทำให้เขารำคาญ เช่นในตอนที่มีคนขัดจังหวะเขา[27][32] กิเดียนเป็นคนที่เจ้าเล่ห น่ากลัว[27][33] และไม่เคยให้อภัยใคร[6] โดยกิเดียนนั้นตั้งเป้าหมายอย่างแรงกล้าเพื่อให้สามารถบรรลุความต้องการของเขาได้[33] และยอมที่จะเสียสละชีวิตของคนของเขาเพื่อที่จะได้ตัวโกรกูมา[34] ความต้องการตัวโกรกูของเขาดูเหมือนจะเป็นความต้องการส่วนตัว จากที่เขาบอกเดอะแมนดาลอเรียนว่า: "มันมีความหมายต่อฉันมากกว่าที่แกจะได้รู้"[5][16][35]

กิเดียนเป็นนักวางแผนทางการทหารที่เก่งกาจ[36] และถึงแม้จักรวรรดิจะล่มสลายไป เขาก็ยังมีอำนาจ[16] เขาเป็นผู้บังคับบัญชากองกำลังที่มี่จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีผู้คน อุปกรณ์ และยานอวกาศ[36][37] สเตฟานี ดูบ ดวิลสันจาก Heavy.com ระบุว่า ถึงแม้ว่าตลอดซีซันแรกนั้น สตอร์มทรูปเปอร์ของภาคส่วนที่หลงเหลือของจักรวรรดิจะมีชุดเกราะที่ผุพังและสกปรก แต่กองกำลังภายใต้บัญชาการของกิเดียนนั้นมีชุดเกราะที่ใหม่และแวววาวตลอด ซึ่งสามารถสะท้อนถึงสถานีของกิเดียนได้[38] จากการที่กิเดียนเคยเกี่ยวข้องกับหน่วยงานความปลอดภัยและความมั่นคงของจักรวรรดิ เขานั้นมีข้อมูลลับเยอะในระดับหนึ่ง ดั้งนั้น เขาจึงเป็นคนที่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ที่ตัวละครในละครชุดนี้ไม่เคยรู้มาก่อน[4] เจียนคาร์โล เอสโปซิโตกล่าวว่าตัวละครของเขานั้น "ดูจะรู้ทุก ๆ เรื่องเกี่ยวกับทุก ๆ คน" ซึ่งได้ถูกแสดงให้เห็นในตอนสุดท้ายของซีซัน ในตอนที่เขาเปิดเผยว่าเขารู้ชื่อและข้อมูลเกี่ยวกับเดอะแมนดาลอเรียน คารา ดูน และกรีฟ คาร์กา[4][34]

เอสโปซิโตปฏิเสธที่จะจัดจำแนกประเภทตัวละครกิเดียนว่าเป็นตัวละคร "ดี" หรือ "เลว"[1][35] โดยชี้ให้เห็นว่าการที่ตัวละครนี้พยายามจะคืนความสงบเรียบร้อยให้กับกาแลกซีหลังการล่มสหายของจักรวรรดิ[1][18][19] เอสโปซิโตรู้สึกว่ากิเดียนกลายเป็น "เหมือนผู้พิทักษ์ของผู้คน" หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิ และด้วยความพยายามที่จะคืนความสงบเรียบร้อยให้กับช่วงไร้กฏหมายนั้น ตัวละครนี้ก็สามารถถูกมองเป็น "ผู้มากอบกู้" ก็ได้[3][6][39] เอสโปซิโตกล่าวเกี่ยวกับตัวละครว่า: "เขาเป็นคนดี? เขาเป็นคนเลว? เราไม่รู้ เรารู้เพียงว่าโลกใบนี้ต้องการผู้ที่ทำให้โลกนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้"[2] เขารู้สึกว่าความคลุมเครือทางศีลธรรมนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ในช่วงเวลาที่ละครชุดนี้ปล่อยตัว โดยบอกว่า: "การที่ผู้นำใช้อำนาจในทางที่ผิดนั้นเป็นเพราะพวกเขามีความคิดซึ่งพวกเขาอยากจะทำด้วยตัวเอง; เรากำลังอยู่ในโลกนั้นในตอนนี้"[3] กิเดียนเห็นภาพในอนาคต[40] และมีความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับการคืนความสงบเรียบร้อยอย่างแรงกล้า[17][36] ซึ่งหนึ่งในหลักการขับเคลื่อนของจักรวรรดิที่เป็นการใช้กองทัพในการตรวจตรากาแลกซีที่กิเดียนก็นำมาใช้[36]

นักวิจารณ์หลายคนเสนอว่ากิเดียนอาจจะพยายามที่จะเลียนแบบ ดาร์ธ เวเดอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญของแฟรนไชส์ สตาร์ วอร์ส โดยเป็นผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของจักรวรรดิ[5][8][12] ลักษณะนิสัยและบุคลิกของกิเดียนนั้นก็มีความคล้ายคลึงกับเวเดอร์ เช่นการที่เขามักเลือกที่จะกำจัดผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทำให้เขาผิดหวัง[8] เควิน เมลโรสจาก คอมิก บุ๊ก รีซอร์ส ยังกล่าวอีกว่ายานทายไฟเตอร์ของกิเดียนที่ตกลงก่อนที่จะจบตอนสุดท้ายของซีซันแรกนั้น คล้างคลึงกับฉากสุดท้ายของเวเดอร์ในภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส ดั้งเดิม ในตอนที่ยานทายแอดวานซ์ไฟเตอร์ของเขาหมุนวนแบบควบคุมไม่ได้ สู่ความเวิ้งว้างของอวกาศ[8]

แนวคิด และการสร้างตัวละคร

การบรรยายภาพตัวละคร

มอฟฟ์กิเดียนรับบทโดย เจียนคาร์โล เอสโปซิโต[41][42] โดยจอน แฟฟโรว์ ผู้ให้กำเนิด และผู้อำนวยการสร้าง เดอะแมนดาลอเรียน เป็นผู้เชิญชวนเขาให้มารับบทนี้[43][44] เอสโปซิโตและแฟฟโรว์นั้นเคยร่วมงานกันมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นของละครชุดทางโทรทัศน์บันเทิงคดีวิทยาศาสตร์หลังพยากรณ์ รีโวลูชัน ซึ่งแฟฟโรว์เป็นผู้กำกับและเอสโปซิโตเป็นนักแสดงนำ หลังจากนั้นแฟฟโรว์ได้เป็นผู้กำกับการแสดงของเอสโปซิโตในโฆษณาสำหรับวิดีโอเกม เดสทินี[45][46][47] นำไปสู่การที่แฟฟโรว์เสนอบทให้แก่เอสโปซิโตสำหรับภาพยนตร์ดัดแปลงของเขา เมาคลีลูกหมาป่า (ค.ศ. 2016)[45][46][48] เอสโปซิโตกล่าวว่าสิ่งแรกที่เขาทำหลังจากตอบรับบทนี้คือการติดต่อเพื่อนของเขา ซามูเอล แอล. แจ็กสันซึ่งเป็นนักแสดงที่รับบทเป็นเมซ วินดู ใน สตาร์ วอร์ส ไตรภาคต้น และบอกว่า: "เฮ้เพื่อน ฉันได้อยู่ในซีรีส์นี้แล้วเว้ย!"[49]

การคัดเลือกเอสโปซิโตเป็นนักแสดงนั้นได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 2018[50][51][52] รายละเอียดเกี่ยวกับตัวละครของเขานั้นไม่ได้ถูกเปิดเผยในทันที แต่ก็มีการคาดการณ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าเขาอาจเป็นตัวร้าย เนื่องด้วยการแสดงในอดีตของเขาที่เป็นกัส ฟริงก์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวร้ายหลักจากเรื่อง ดับเครื่องชน คนดีแตก และเป็นตัวละครที่สำคัญในภาคแยก มีปัญหา ปรึกษาซอล[53] ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2019 ฟุตเทจของกิเดียนนั้นได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณชนที่การประชุม Star Wars Celebration ที่เมืองชิคาโก ซึ่งประกอบไปด้วยฉากสั้น ๆ ของตัวละครที่กำลังขับยานทายไฟเตอร์ของเขา[54] เอสโปซิโตปรากฏตัวในงาน D23 Expo ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2019 สำหรับการปล่อยตัวอย่างแรกของ เดอะแมนดาลอเรียน[55][56] นอกจากนี้ กิเดียนยังโผล่มาเป็นเวลาสั้น ๆ ในตัวอย่างที่สองซึ่งปล่อยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2019[57]

ในการเตรียมการสำหรับบทนี้ เอสโปซิโตนั่งย้อนดูภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส เรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ได้รู้สึกถึง "รูปแบบของภาพยนตร์นั้น ๆ" และพยายามที่จินตนาการว่าจะเป็นอย่างไร หากเขาได้เข้าไปอยู่ในจักรวาลสมมตินี้[39] ก่อนที่จะเข้าร่วม เดอะแมนดาลอเรียน นั้น เอสโปซิโตเป็นผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ในไตรภาคเดิมของ สตาร์ วอร์ส[1][18][39] แต่กระนั้น เขาก็กล่าวว่าเขาสนใจภาพยนตร์หลัง ๆ ในไตรภาคก่อนน้อยลง เพราะว่ามัน "เริ่มจะกลายเป็นสิ่งที่แตกต่างจากจักรวาลที่เขาอยากที่จะอยู่"[58][59] ในการกล่วาถึงภาพยนตร์ในไตรภาคเดิมของ สตาร์ วอร์ส เอสโปซิโตกล่าวว่า:

เอสโปซิโตนั้นผิดหวังกับการที่ภาพยนตร์เก่า ๆ ของ สตาร์ วอร์ส นั้นขาดความหลากหลายและเขารู้สึกยินดีมากที่งานสร้างหลัง ๆ ของ สตาร์ วอร์ส มีนักแสดงหน้าใหม่ที่เป็นคนกลุ่มน้อยนั้นมากขึ้น[39] รวมถึงใน เดอะแมนดาลอเรียน ซึ่งเขายกความดีความชอบให้กับแฟฟโรว์[40] เขากล่าวว่าการได้รับบทเป็นมอฟฟ์กิเดียนนั้น "คือฝันที่กลายเป็นจริง"[1] และกล่าวถึงบทบาทนี้: "เขาเป็นคนที่น่าสนใจมาก และผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างละครชุดนี้"[19] หลังจากที่ละครชุดนี้ฉายจบ เจียนคาร์โลบอกว่าสองในสี่ของลูกสาวเขาส่งข้อความมาหาเขาว่าอย่าทำร้ายเด็กทารก ซึ่งเป็นที่สนใจในอินเทอร์เน็ต เอสโปซิโตบอกว่าเขาตอบไปขำ ๆ: "ฉันจะบี้ไอเลวตัวจิ๋วหูยักษ์นั่น"[19][21]

เครื่องแต่งกาย

ชุดของมอฟฟ์กิเดียนนั้นได้รับการออกแบบโดยไบรอัน แมเทียส ซึ่งเป็นนักออกแบบแนวคิดและศิลปินสำหรับ เดอะแมนดาลอเรียน เขากล่าวว่าการออกแบบชุดของกิเดียนนั้นเป็น "หนึ่งในไฮไลท์ของละครชุดนี้ในความคิดของผมและสำหรับอาชีพผมทั้งหมด"[59] ชุดนี้นั้นมีต้นแบบมาจากงานออกแบบโดยนักออกแบบชุด โจเซฟ พอร์โร พร้อมด้วยอุปกรณ์ประกอบฉากและงานผลิตชุดโดยแฟรงก์ อิพโพลิโต และบริษัท Thingergy[59] ชุดนี้นั้นมีสีดำทั้งหมดและมีเกราะ ผ้าคลุม และชิ้นส่วนอกที่ประณีต[5] นักวิจารณ์หลายคนยังชี้ให้เห็นว่าชุดนี้มีความคล้ายคลึงกับของตัวละคร สตาร์ วอร์ส ดาร์ธ เวเดอร์[5][8][12] เอสโปซิโตบอกว่าชุดของเขา "เจ๋ง"[17] และบอกว่าเขาอยากจะเก็บชุดของเขาและอุปกรณ์ประกอบฉากอื่น ๆ หลังจากถ่ายทำเสร็จ แต่เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้: "พวกเขาบอกผมว่า ของเหล่านี้จะไปจบที่พิพิธภัณฑ์ คุณจะรู้สึกเป็นเกียรติมากในตอนที่คุณเห็นมันในอีกไม่กี่ปี แต่คุณไม่สามารถเอามันไปได้ในตอนนี้"[39]

การถ่ายทำ

ฉากของเอสโปซิโตใน เดอะแมนดาลอเรียน นั้นถ่ายทำที่เวทีเสียงในแคลิฟอร์เนียใต้ โดยใช้ วอลูม (อังกฤษ: Volume) ซึ่งเป็นเวทีจับการเคลื่อนไหวที่เหมือนโกดังขนาดใหญ่ พร้อมกรีนสกรีนและกล้องติดตามที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่[40][60][61] วอลูมนั้นเปิดโอกาสให้มีการถ่ายทำจับภาพนักแสดงและใส่ไว้ในสิ่งแวดล้อมดิจิทัล โดยใช้การผสมกันระหว่างองค์ประกอบที่จับต้องได้ภายในฉากและภาพต่าง ๆ ที่ฉายลงบนจอได้ เอสโปสิโตกล่าวว่าการถ่ายทำฉากในวอลูมนั้น: "เราสามารถควบคุมบรรยากาศทางกายภาพของอะไรก็ตามที่ฉายอยู่บนกำแพงและควบคุมว่าแรงโนมถ่วงนั้นเป็นอย่างไร โดยคุณจะรู้สึกเหมือนว่าคุณได้เล่นกับแรงโน้มถ่วง"[60][61]

เอสโปซิโตนั้นชอบการทำงานร่วมกับไทกา ไวทีที ซึ่งเป็นผู้กำกับตอนสุดท้ายเป็นพิเศษ โดยเป็นผู้ที่เขาอธิบายว่า "อยู่ในโลกของเขาเองอย่างสร้างสรรค์" และเรียกว่า "มนุษย์ที่แตกต่างและแปลกประหลาดมาก แต่เราทุกคนก็เป็นศิลปินที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่หรือ?"[62] ฉากที่มีมอฟฟ์กิเดียนขับยานทายไฟเตอร์ของเขานั้นถูกถ่ายทำในวอลูม และไวทีทีค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญกับรายละเอียดในตอนทำงานร่วมกับเอสโปซิโตในฉากนั้น ยกตัวอย่าง เช่น ไวทีทีให้ข้อติชมที่เฉพาะมาก ๆ แก่เอสโปซิโต เกี่ยวกับว่าเขารู้สึกว่าเอสโปซิโตต้องทำอย่างไรกับเท้าของเขา ในระหว่างฉากที่เขาตัดยานทายไฟเตอร์ของเขาและออกมาจากยาน เอสโปซิโตรู้สึกว่าแนวทางนั้นเป็นอะไรที่น่าสับสนโดยบอกว่า: "อะไรมันรบกวนคุณในเรื่องว่าเท้าของผมเป็นอย่างไรหรือ? ผมอยู่บนโลก [ใบนี้] และอยู่สูงขึ้นไป [บน] ท้องฟ้า 30 ฟุตนะ"[62] เอสโปซิโตกล่าวว่าเขาชอบมองและชอบมีปฏิสัมพันธ์กับหุ่นเชิดแอนิเมโทรนิกของโกรกูในช่วงถ่ายทำ โดยบอกว่า: "มันทำให้ใจผมละลาย เพราะว่าในความจริงแล้วนั้น เจ้าทารกนี้ทำในสิ่งที่คุณจินตนาการไม่สามารถได้เลย และเมื่อคุณมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นและตัวจิ๋ว ๆ นั่น คุณจะทำอะไรได้นอกจากตกหลุมรักมัน?[21] เอสโปซิโตไม่เคยเห็นฟุตเทจที่เสร็จสมบูรณ์ของ เดอะแมนดาลอเรียน จนกระทั่งไม่กี่เดือนก่อนที่ละครชุดนี้จะฉาย[40]

การตอบรับ

มอฟฟ์กิเดียนได้รับเสียงตอบรับในทางบวกโดยนักวิจารณ์และแฟน ๆ[38] สกอตต์ สโนว์เดนจาก Space.com กล่าวว่าเจียนคาร์โล เอสโปซิโตนั้น "สวมบทบาทได้สมบูรณ์แบบ"[25] ฌอน คีนจากซีเน็ตกล่าวว่าตัวละครนี้นั้น "งดงามอย่างยิ่ง" และ "โคตรน่ากลัว"[27] นักเขียนของ สกรีนแรนท์ กีกี เอแวนส์กล่าวว่ามอฟฟ์กิเดียนนั้น "เป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างน่าสะพรึงกลัว"[33] เควิน แพนโทจาจาก สกรีนแรนท์ กล่าวว่าตัวละครนี้นั้น "รู้สึกเหมือนเป็นภัยร้ายในทันที" ตั้งแต่การแนะนำตัวละครนี้ในละครชุดนี้[63] สเตฟานี ดูป ดวิลสันจาก Heavy.com กล่าวว่าตัวละครนี้ "เป็นการผสมผสานระหว่างความบ้าคลั่งและทรงพลังที่กำลังพอดี"[38] นักเขียนของ SyFy แมทธิว แจ็คสันกล่าวว่าถึงแม้การปรากฏตัวของกิเดียนในซีซันแรกนั้นมีไม่เยอะ แต่เขานั้นส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเขียนว่า "ตัวละครนี้ตั้งตนเองให้เป็นผู้มีอำนาจที่พึงคำนึงถึงอย่างรวดเร็ว"[19] ไบรอัน ซิลลีแมนจาก SyFy นั้นเรียกมอฟฟ์กิเดียนว่าตัวร้ายที่ "น่าเกรงขาม"[15] นักเขียนของ ไอจีเอ็น ลอรา พรูดอมกล่าวว่าตอนจบของซีซีนแรกนั้นจบด้วยมอฟฟ์กิเดียนนั้นอยู่ในตำแหน่งที่เป็น "คู่ปรับที่คู่ควร" สำหรับเดอะแมนดาลอเรียนและเพื่อน ๆ ของเขา[4] เบน แพร์สันจาก /Film กล่าวว่าตัวละครนี้ "สร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่" ในตอนสุดท้ายของซีซัน[34] เคทลีน แกลเลเกอร์จาก บัสเทิล ชี้ให้เห็นว่าในทันทีหลังจากตอน "Chapter 7: The Reckoning" ออกอากาศ มีแฟน ๆ หลายคนแสดงอารมณ์ "โกรธ เศร้า และกังวลใจ" เกี่ยวกับมอฟฟ์กิเดียน โดยเฉพาะบนเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย เนื่องด้วยบทบาทของเขาที่มีต่อการตายของตัวละคร ควิล และการลักพาตัวเด็กทารกไปในตอนจบของตอนนั้น[35] มอฟฟ์กิเดียนติดอันดับที่สองบนรายชื่อตัวละครที่น่าสนใจมากที่สุดจากซีซันแรกของ เดอะแมนดาลอเรียน ซึ่งจัดโดย สกรีนแรนท์[64] และติดอันดับที่สามในรายชื่อสิบอันดับตัวละครที่ดีที่สุดจากละครชุดนี้[63] และชุดของเขานั้นติดอันดับที่เจ็ดในรายชื่อสิบอันดับชุดที่ดีที่สุดจากซีซันแรก[65]

ในการแสดงเป็นกิเดียนในตอนสุดท้ายของซีซันแรกนั้น เอสโปซิโตได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลไพรม์ไทม์เอมมีอวอร์ดสำหรับนักแสดงรับเชิญยอดเยี่ยมในซีรีส์ดรามา[66]

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคลหน้าหลักพระสุนทรโวหาร (ภู่)องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพิเศษ:ค้นหาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพรอสมทวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก 2024สไปร์ท (แร็ปเปอร์)ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024พุ่มพวง ดวงจันทร์ดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)อีดิลอัฎฮาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ ปุจฉาพาเสียวราชวงศ์จักรีลำดับโปเจียมแห่งราชอาณาจักรไทยรายชื่อตัวละครในพระอภัยมณีหม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคลทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลพระอภัยมณีหม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคลหม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรหลานม่าอริยสัจ 4ตารางธาตุนิราศภูเขาทองรายชื่อเครื่องดนตรีเฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชคประเทศไทยอาณาจักรอยุธยาปิติ ภิรมย์ภักดีวอลเลย์บอลวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย