การสังหารหมู่ที่เทศกาลดนตรีในเรอิม
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 กองกำลังติดอาวุธฮะมาสบุกโจมตีอิสราเอลจากฉนวนกาซาอย่างไม่ให้ตั้งตัว พลเรือน 364 คนถูกสังหารและอีกหลายคนบาดเจ็บทั้งจากการโจมตีและจากการโจมตีโต้กลับ[4] ฮะมาสจับพลเรือนอย่างน้อย 40 คนไปเป็นตัวประกันจากซูเปอร์โนวาซุกคอตแกเดอริง (Supernova Sukkot Gathering) ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีกลางแจ้งที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลอยู่เพิงใกล้กับกิบบุตส์เรอิม (ฮีบรู: רֵעִים)[5][6][7][8][9] การสังหารหมู่นี้เป็นส่วนหนึ่งของชุดการโจมตีอิสราเอลแบบประสานกันของฮะมาสที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน ซึ่งรวมถึงการกำหนดเป้าหมายไปที่พลเรือนอิสราเอลในชุมชนใกล้เคียงอย่างเนติฟฮาอาซาราฮ์, เบเอรี, กฟาร์อาซาฮ์, นีร์อ็อซ และโฆลิตในช่วงเริ่มต้นสงครามอิสราเอล−ฮะมาส[10]
| การสังหารหมู่ที่เทศกาลดนตรีในเรอิม | |
|---|---|
| เป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีอิสราเอล โดยฮะมาส พ.ศ. 2566 | |
  เรอิม สถานที่เกิดเหตุในประเทศอิสราเอล | |
| สถานที่ | เรอิม เขตใต้ ประเทศอิสราเอล |
| พิกัด | 31°23′52″N 34°28′18″E / 31.39778°N 34.47167°E |
| วันที่ | 7 ตุลาคม 2023 เริ่มต้นที่เวลาประมาณ 07:00 น. (UTC+3) |
| เป้าหมาย | พลเรือน |
| อาวุธ | อาวุธปืน เช่น ปืนเล็กยาวจู่โจมชนิดเอเค, อาร์พีจี, ระเบิดมือ[1] |
| ตาย | 364 คน; ถูกจับตัว 40 คน[2] |
 ฮะมาส (อย่างน้อย) | |
| เหตุจูงใจ | ความรุนแรงทางการเมืองของปาเลสไตน์, การต่อต้านยิว[3] |
เมื่อเวลา 06:30 น. ในช่วงรุ่งสาง มีผู้สังเกตเห็นจรวดบนท้องฟ้า[1] เมื่อเวลาราว 07:00 น. เสียงสัญญาณเตือนภัยจากการโจมตีด้วยจรวดดังขึ้น ทำให้ผู้เข้าร่วมงานเทศกาลดนตรีพากันหลบหนี[11] จากนั้นกลุ่มนักรบติดอาวุธซึ่งแต่งเครื่องแบบทหารและใช้รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก และเครื่องร่อนติดเครื่องยนต์เข้าปิดล้อมพื้นที่จัดงานแล้วกราดยิงใส่ผู้ที่พยายามหลบหนีอย่างไม่เลือกหน้า ผู้เข้าร่วมงานที่หาที่หลบภัยในสถานที่ใกล้เคียง เช่น ที่หลบระเบิด พุ่มไม้ สวนผลไม้ ถูกสังหารขณะที่ยังซ่อนตัวอยู่ ผู้ที่หนีไปถึงถนนและลานจอดรถขับรถออกไปไม่ได้เนื่องจากกองกำลังติดอาวุธกราดยิงใส่ยานพาหนะที่อยู่เบื้องหน้า กองกำลังติดอาวุธยังยิงสังหารผู้บาดเจ็บบางคนในระยะประชิดขณะที่พวกเขาหมอบอยู่กับพื้น[12][13]
รายละเอียดเกี่ยวกับที่อยู่และสถานภาพของตัวประกันยังไม่เป็นที่ทราบกันในหมู่สาธารณชน [14] การสังหารหมู่ครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐอิสราเอล[1][15][13] และถือเป็นการสังหารหมู่พลเรือนอิสราเอลครั้งเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น[16]