ยกสยามปี 1
ยกสยาม เป็นรายการเกมโชว์ควิซโชว์ ที่เน้นส่งเสริมให้คนในแต่ละจังหวัดรักบ้านเกิด ส่งเสริมให้เกิดการใช้ความรู้ความสามารถ ที่เกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ในแต่ละจังหวัด ถ่ายทอดผ่านเกมได้อย่างสนุกสนาน ออกอากาศตั้งแต่ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 18.30 - 18.55 น. เริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 เวลา 18.30 น. ทาง โมเดิร์นไนน์ ทีวี ผลิตโดย บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินรายการโดย ปัญญา นิรันดร์กุล โดยปีสองของรายการ ดูที่ ยกสยามปี 2
ยกสยามปี 1 | |
ออกอากาศ | 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 - 7 มกราคม พ.ศ. 2552 |
สถานีโทรทัศน์ | โมเดิร์นไนน์ทีวี |
ผู้ดำเนินรายการ | ปัญญา นิรันดร์กุล |
ผลิตโดย | บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) |
นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ได้พระราชทานแผ่นประกาศนียบัตรจารึกพระปรมาภิไธยย่อ ม.ว.ก. [1] เพื่อเป็นเกียรติแก่จังหวัดผู้ชนะในรายการยกสยาม
กติกาการแข่งขัน
กติกาทั่วไป
การแข่งขันแบ่งเป็น 19 สาย สายละ 4 ทีม แต่ละรอบ จะแข่งรอบละ 2 จังหวัด จังหวัดหนึ่งจะมีตัวแทน 10 ท่าน ซึ่งมีอาชีพแตกต่างกัน โดยมีหัวหน้าทีมเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในจังหวัดนั้นๆ ผู้เข้าแข่งขันแต่ละทีมจะตอบคำถามเกี่ยวกับความรู้เกี่ยวกับจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย โดยเป็นคำถามแบบตัวเลือกสองข้อ (ก และ ข) โดยพิธีกรจะให้เวลาปรึกษาในทีม 1 นาที เมื่อหมดเวลา หัวหน้าทีมจะยกป้ายคำตอบก่อน แล้วลูกทีมจึงยกป้ายคำตอบพร้อมกัน ทีมใดทำคะแนนได้ถึง 5 ข้อก่อน (สายที่ 1-9) หรือ 3 ข้อก่อน (สายที่ 10 เป็นต้นไป) จะเป็นผู้ชนะ เจอ กับอีก 2 จังหวัดที่แข่งขันกัน ชนะ พบกับทีมชนะ เพื่อหาทีมชนะของแต่ละสาย เข้ารอบที่ 1 รอบชิงสาย จนกระทั่งมีทีมชนะเพียงทีมเดียวเข้าชิงเงินรางวัล 10 ล้านบาท
การยกป้ายคำตอบ
การยกป้ายคำตอบในเกมจะมีสองลักษณะ คือ การยกป้ายคำตอบเหมือนกันทั้งทีม คือการที่ทีมจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งหรือทั้ง 2 จังหวัดยกป้ายคำตอบเหมือนกันทั้งทีมทั้งจังหวัด หากปรากฏว่าเป็นคำตอบที่ผิดจะต้องตกรอบไปทั้งทีมทั้งจังหวัด แต่ตั้งแต่คู่ระหว่างสุโขทัยและนนทบุรีในรอบที่ 2 เป็นต้นไป ถ้าตอบเหมือนกันหมดทั้ง 20 คน และตอบถูกก็จะเข้ารอบไปทั้ง 2 จังหวัด และการยกป้ายคำตอบแตกต่างกัน ซึ่งเป็นการยกป้ายคำตอบคละกันระหว่าง ก และ ข หากทีมจังหวัดที่มีป้ายคำตอบถูกมากที่สุดทีมจังหวัดนั้นจะได้คะแนนไป และทีมจังหวัดที่มีป้ายคำตอบถูกน้อยที่สุดทีมจังหวัดนั้นจะไม่ได้คะแนนไป หรือถ้าจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งหรือทั้ง 2 จังหวัดยกป้ายคำตอบของทีมจังหวัดตัวเองต่างกันซึ่งป้ายคำตอบเหมือนกันทั้ง 2 จังหวัดด้วย จะได้คะแนนทีมละ 1 คะแนน ถือว่าเสมอเท่ากัน ไม่ว่าทีมจังหวัดจะยกป้ายคำตอบถูกมากหรือน้อย แต่ถ้าทั้ง 2 ทีมจังหวัดมีคะแนน 5 คะแนน (สายที่ 1-9) หรือ 3 คะแนน (สายที่ 10 เป็นต้นไป) เท่ากันทั้ง 2 ทีมจังหวัด จะต้องเล่นเกมตอบคำถามตัดสินในข้อต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ทีมจังหวัดที่ชนะเข้ารอบต่อไปได้ หรือตกรอบทั้ง 2 จังหวัด หรือเข้ารอบทั้ง 2 จังหวัด
รอบที่ 3
จะใช้การแข่งขันทั้งหมด 3 ชุด โดยกติกาอื่นๆ ยังคงเดิม ถ้าจังหวัดใดทำคะแนนได้ 2 ชุดใน 3 ชุดก่อนก็จะเข้าสู่รอบที่ 4 ในกรณีที่ต้องเล่นชุดตัดสิน จะต้องเล่นเกมตอบคำถามตัดสินทีละข้อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ทีมจังหวัดที่ชนะเข้ารอบต่อไปได้
รอบที่ 4
มีทีมเข้ารอบทั้งหมด 5 ทีม โดยจะแข่งแบบพบกันหมด ทีมละ 4 นัด โดยกติกาทีมใดได้ 5 คะแนนก่อนเป็นผู้ชนะจะได้ 1 คะแนน ส่วนผู้แพ้จะไม่มีคะแนน เมื่อแข่งครบทีมละ 4 นัด ทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 1 และอันดับที่ 2 จะเข้าไปชิงชนะเลิศ
รอบชิงชนะเลิศ
จะมีทั้งหมด 3 ยก แต่ละยกจะมีกติกาที่แตกต่างกัน โดยยกที่ 1 และยกที่ 2 ผู้ชนะจะได้ 1 คะแนน ส่วนในยกที่ 3 ผู้ชนะจะได้ 2 คะแนน เมื่อแข่งครบ 3 ยกจังหวัดที่มีคะแนนมากกว่าจะเป็นผู้ชนะ ในกรณีที่เสมอกัน 2 ต่อ 2 คะแนนจะมียกตัดสิน
ยกที่ 1
ยกที่ 1 เป็นการแข่งแบบเล่นเดี่ยว โดยเริ่มแรกพิธีกรจะเกริ่นนำก่อนเข้าสู่คำถาม จากนั้นจังหวัดจะต้องส่งตัวแทนมาตอบคำถามทีละคนภายในเวลา 30 วินาที จากนั้นจึงเข้าสู่คำถาม โดยตัวแทนจะมีเวลา 30 วินาทีในการตัดสินใจตอบ ใครตอบผิดก็จะโดนคัดออก จนเหลือคนสุดท้ายคือหัวหน้าทีม จังหวัดใดที่สมาชิกในทีมต้องออกจากการแข่งขันหมดก่อนจะเป็นผู้แพ้
ยกที่ 2
ยกที่ 2 เป็นการแข่งระหว่างหัวหน้าทีมกับลูกทีม 1 ต่อ 9 การตอบคำถามเหมือนยกที่ 1 โดยหัวหน้าทีมเป็นผู้เลือกลูกทีมฝั่งตรงข้ามขึ้นมาตอบคำถาม ถ้าหัวหน้าทีมตอบถูก และลูกทีมฝั่งตรงข้ามตอบผิด จะถือว่าหัวหน้าสามารถปราบได้ แต่ถ้าหัวหน้าทีมตอบผิดเกมจะยุติทันที และนับจำนวนคนที่หัวหน้าทีมปราบได้ ทีมไหนที่หัวหน้าทีมปราบได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะในยกนี้
ยกที่ 3
ยกที่ 3 ใช้กติกาแบบดั้งเดิมของรายการ แข่งขันแบบ 10 ต่อ 10 แต่รูปแบบที่แตกต่างออกไปคือ จะปรึกษาหารือกันไม่ได้ พิธีกรให้เวลา 10 วินาที เมื่อพิธีกรสั่งยกจะยกพร้อมกันทั้งหมด ทีมใดทำถึง 10 คะแนนก่อนจะเป็นผู้ชนะในยกนี้
ผลการแข่งขัน
รอบแรก
หมายเหตุ: x ตอบผิดทั้งหมด 10 คน ตกรอบ
รอบที่ 2
หมายเหตุ: x ตอบผิดทั้งหมด 10 คน ตกรอบ
รอบที่ 3
หมายเหตุ :
x หมายถึง ตอบผิดทั้งหมด 10 คน ตกรอบ
รอบที่ 4
|
|
หมายเหตุ : x หมายถึง ตอบผิดทั้งหมด 10 คน
โปรแกรมพิเศษยกสยามเกร็ดความรู้
ลำดับ | วันที่ออกอากาศ | เกร็ดความรู้เรื่อง |
---|---|---|
1 | 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 | สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ |
2 | 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 | ชื่อ...นี้มีที่มา แต่คนไทยไม่เคยรู้ |
3 | 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 | พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ |
4 | 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 | เมนูไข่ จากอาหารที่พระพี่นางฯ โปรดเสวย ถึงบทเพลงพระราชนิพนธ์ |
5 | 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 | ไกลปืนเที่ยง, ชื่อเสียง, ตีตราจอง |
6 | 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 | นรก- สวรรค์ที่คนไทยไม่เคยรู้ |
7 | 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 | ความเชื่อ และโชคลางไทยๆ |
8 | 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 | คำว่าถั่วดำ มีที่มาจากอะไร |
9 | 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 | หมูๆ |
10 | 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 | รวม 10 คำถามสุดอึ้ง |
11 | 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 | รวม 10 คำถามสุดอึ้ง ตอน 2 |
รอบชิงชนะเลิศ
รอบชิงชนะเลิศ จะแบ่งออกเป็น 3 ยก โดยยกที่ 1 และ 2 มียกละ 1 คะแนน และยกที่ 3 มี 2 คะแนน ทีมที่มีคะแนนสะสมมากกว่าจะเป็นผู้ชนะ
ยกที่ 1
ยกที่ 2
- หัวหน้าทีมระนอง VS ลูกทีมนนทบุรี (คำถามข้อที่1-5)
- หัวหน้าทีมนนทบุรี VS ลูกทีมระนอง (คำถามข้อที่6)
ยกที่ 3
10 ยกกับความประทับใจตลอดการแข่งขัน
ยกที่ | เรื่อง | รายละเอียด |
---|---|---|
1 | ยกผิดคิดจนตัวตาย | เป็นเหตุการณ์ที่คุณต๊อก ศุภกรณ์ หนึ่งในลูกทีมของจังหวัดอุทัยธานี ยกป้ายคำตอบผิดจากที่วางแผนเอาไว้ กลายเป็นว่าทั้งจังหวัดตอบเหมือนกันหมด และผลสุดท้ายคือตอบผิด ทำให้จังหวัดอุทัยธานี ตกรอบทั้งจังหวัด |
2 | ถ้าผมแพ้ ผมขอคลานไปขึ้นรถ | เป็นเหตุการณ์ที่คุณหม่ำ จ๊กมก หนึ่งในลูกทีมของจังหวัดยโสธร ประกาศตัวเองว่าถ้าแพ้ คุณหม่ำจะขอคลานไปขึ้นรถ และผลสุดท้ายคือจังหวัดยโสธรแพ้ คุณหม่ำจึงต้องคลานไปขึ้นรถตามที่พูดไว้แต่โดยดี |
3 | ศิษย์ล้างครู | เป็นการแข่งขันระหว่าง อ่างทอง กับ ระยอง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ครูลิลลี่ หัวหน้าทีมจังหวัดระยอง ต้องเจอกับคำถามที่เกี่ยวกับสำนวนไทย ซึ่งเป็นคำถามที่ครูลิลลี่ถนัด แต่ผลสุดท้ายก็คือครูลิลลี่ตอบผิด แต่ในขณะที่จังหวัดอ่างทอง ได้คะแนนนี้ไป และหนึ่งสมาชิกของทีมจังหวัดอ่างทอง เป็นลูกศิษย์ของครูลิลลี่ และที่ทราบคำตอบนี้ได้เพราะเคยเรียนกับครูลิลลี่มาก่อน |
4 | ไม่เคยรักใครเท่าเมย์ | แม้ว่าคุณเมย์ เฟื่องอารมย์ จะไม่ได้เป็นผู้เข้าแข่งขัน แต่ว่าคุณเมย์ เฟื่องอารมย์ก็เป็นบุคคลที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดตลอดการแข่งขัน โดยเฉพาะทุกครั้งที่คุณหนุ่ม กรรชัย หัวหน้าทีมจังหวัดระนอง แข่งขัน ก็มักจะเจอเหตุการณ์อย่างนี้ตลอด |
5 | เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด | เป็นการแข่งขันระหว่าง ระนอง ซึ่งนำทีมโดยคุณหนุ่ม กรรชัย กับ อำนาจเจริญ ซึ่งนำทีมโดยคุณกอล์ฟ เบญจพล และด้วยความบังเอิญที่หัวหน้าทีมของทั้งสองจังหวัดเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก แต่เมื่อต้องมาประชันกัน ทั้งสองก็สู้ไม่ถอย |
6 | ศึกร้องระหว่างรบ | เป็นการแข่งขันระหว่าง เชียงใหม่ ซึ่งนำทีมโดยน้าเน็ก กับ นครราชสีมา ซึ่งนำทีมโดยคุณติ๊ก ชีโร่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการแข่งขันที่ครึกครื้นที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะนอกจากจะสู้ด้วยความรู้ ตลอดการแข่งขันก็ยังสู้กันด้วยเสียงเพลงอีกด้วย โดยเฉพาะฝั่งของนครราชสีมา มี อ.กำปัด ยอดศิลปินภาคอีสานอยู่ด้วย และทุกครั้งที่ท่านตอบ ก็มักจะต้องร้องเป็นเพลงทุกครั้ง |
7 | นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ | นับตั้งแต่การแข่งขันในรอบแรกจนถึงรอบสุดท้าย ก็มีอยู่หลายครั้งที่ต้องต่อสู้กันอย่างยืดเยื้อ แต่ก็มีบางครั้งที่แข่งขันกันอย่างรวดเร็วชนิดที่เรียกได้ว่า "นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ" อย่างเช่นเป็นการแข่งขันระหว่าง ตราด ซึ่งนำทีมโดยฝันดี-ฝันเด่น จรรยาธนากร กับ ปทุมธานี ซึ่งนำทีมโดย อ.วันชัย สอนศิริ โดยหลังจากที่ตราดนำไปก่อน 1 คะแนน จังหวัดตราดเกิดพลาดท่าตอบผิดทั้งจังหวัด ส่งผลให้ตกรอบแรก ในขณะที่ปทุมธานีก็เป็นจังหวัดแรกที่ชนะโดยไม่มีคะแนนเลย ถือได้ว่าเป็นการแข่งขันที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา |
8 | สาย 16 หัวหาย | ในรอบแรกได้มีการแบ่งสายออกเป็น 19 สาย โดยจะแข่งขันเพื่อหาตัวแทนของแต่ละสาย แต่มีเพียงสายเดียวเท่านั้นที่ไม่มีตัวแทนสายเลย นั่นคือสายที่ 16 เนื่องจากในรอบชิงสาย ทั้งจังหวัดนครนายกและจังหวัดสมุทรสาคร ต่างก็ตอบผิดทั้ง 10 คน ทำให้ตกรอบไปทั้งคู่ |
9 | เล่นทีเผลอ | แต่ละคำถามที่ถามกันในรายการ พิธีกรจะเกริ่นนำด้วยหลากหลายวิธี แต่ในบางคำถามก็มาโดยที่ผู้เข้าแข่งขันไม่รู้ตัว เรียกว่า "เล่นทีเผลอ" ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้เข้าแข่งขันหลายคน เช่น คุณยิ่งยง ยอดบัวงาม กับเพลง "สมศรี 1992" คุณติ๊ก ชีโร่ กับเพลง "ไชโย" คุณไชยา มิตรชัย กับเพลง "กระทงหลงทาง" และคุณแจ๊ค ธนพล กับเซอร์ไพรส์วันเกิดของตัวเอง |
10 | ไดโนเสาร์กินไข่ | ตลอดการแข่งขันที่ผ่านมา ก็มีอยู่หลายจังหวัดที่พ่ายแพ้โดยไม่มีคะแนนกลับไป และหนึ่งในนั้นก็คือทีมเมืองไดโนเสาร์อย่างจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งนำทีมโดยคุณอี๊ด ลาล่า และลูลู่ แห่งโปงลางสะออน ซึ่งพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ ไม่ได้สักคะแนนเดียว แต่ถึงกาฬสินธุ์จะพ่ายแพ้ไป ก็ยังร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน |
เหตุการณ์สำคัญในการแข่งขันและข้อสังเกต
- ปราจีนบุรี กับ ขอนแก่น เป็นคู่แรกของรายการนี้
- พิษณุโลก กับ ตาก เป็นคู่ที่มีการแข่งขันยาวนานที่สุดในรอบคัดเลือกถึง 11 ข้อ และมีคะแนนรวมมากที่สุดคือทีมละ 7 คะแนน
- ยโสธร ขอนแก่น และกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีหัวหน้าทีมเป็นนักการเมือง
- ทีมที่ไม่มีคะแนนจากการแข่งขันในรายการนี้ ได้แก่ นครสวรรค์ (แพ้ ศรีสะเกษ 0-4) นครศรีธรรมราช (แพ้ กาญจนบุรี 0-3) น่าน (แพ้ นนทบุรี 0-3) และ กาฬสินธุ์ (แพ้ สมุทรปราการ 0-3) ซึ่งทุกทีมที่ชนะ ด้วยคะแนน 0 นี้ จะเข้ารอบเป็นตัวแทนของสายด้วย
ส่วนในรอบที่ 2 ทีมที่ไม่มีคะแนนได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ (แพ้ ระนอง 0-3)
และในรอบที่ 3 ทีมที่ไม่มีคะแนนได้แก่ เชียงราย ในคำถามชุดที่ 2 (แพ้ สุโขทัย 0-3) - เพชรบุรี เป็นจังหวัดที่ทำคะแนน 3 ข้อติดต่อกัน จึงทำให้พลิกสถานการณ์จากที่มีคะแนนเท่ากับ ฉะเชิงเทรา 2 ต่อ 2 กลายเป็นชนะด้วยคะแนน 5 ต่อ 2
- อ่างทอง เป็นทีมที่ตอบข้อเดียวกันหมด ถึง 10 คน มากที่สุด ถึง 5 ครั้ง ในรอบที่ 1 รอบแรก และในรอบที่ 1 รอบชิงสาย อีก ถึง 2 ครั้ง รอบ 2 อีก 1 ครั้งในข้อแรก
- ระนอง เป็นทีมที่ตอบข้อเดียวกันหมด 10 คน 3 ข้อติดต่อกัน จึงทำให้เอาชนะประจวบคีรีขันธ์ด้วยคะแนน 3-0
- เพชรบูรณ์ เป็นทีมที่ตอบข้อเดียวกันหมด ถึง 10 คนแล้วตอบถูก 3 ข้อติดต่อกัน จึงทำให้พลิกสถานการณ์จากที่มีคะแนนตามหลัง ชัยภูมิ 2 ต่อ 4 กลับมาชนะด้วยคะแนน 5 ต่อ 4
- ชลบุรี เป็นทีมแรกที่มีคะแนนนำ 3 ต่อ 1 แล้วตกรอบเนื่องจากตอบผิดทั้ง 10 คน
- ตราด กับ ปทุมธานี
ยะลา กับ สกลนคร และ
แม่ฮ่องสอน กับ อุทัยธานี เป็นคู่ที่มีการแข่งขันสั้นที่สุดเพียง 2 ข้อ ซึ่งคู่ระหว่าง ตราด และ ปทุมธานี เป็นคู่ที่มีคะแนนรวมน้อยที่สุดคือทีมละ 1 คะแนน - สกลนคร เป็นทีมที่ตอบถูก 4 ข้อติดต่อกัน ตั้งแต่ข้อแรก แต่ผิดข้อที่ 5 ทำให้ทีมตกรอบ
- สายที่ 16 (แพร่ นครนายก สมุทรสาคร และอุดรธานี) เป็นสายเดียวที่ตกรอบทั้งสายตั้งแต่รอบที่ 1
- อำนาจเจริญ กับ ระนอง และ
กรุงเทพมหานคร กับ ลพบุรี เป็นคู่ที่ตอบข้อเดียวกันหมด ถึง 20 คน 3 ข้อติดต่อกัน
ส่วนคู่ระหว่าง พิษณุโลก กับ ตาก เป็นคู่ที่ตอบข้อเดียวกันหมด 20 คน ถึง 4 ข้อติดต่อกัน และข้อสุดท้ายทำให้ทั้ง 2 จังหวัดตกรอบ - การตกรอบทั้ง 2 ทีม เกิดขึ้นทั้งหมด 7 ครั้ง
โดยแบ่งเป็น
รอบที่1:รอบแรก 4 ครั้งได้แก่
สายที่ 1 พิษณุโลก (7 คะแนน) กับ ตาก (7 คะแนน)
สายที่ 8 ชลบุรี (3 คะแนน) กับ พิจิตร (1 คะแนน)
สายที่ 15 อุบลราชธานี (3 คะแนน) กับ ลำปาง (3 คะแนน)
สายที่ 19 กรุงเทพมหานคร (4 คะแนน) กับ ลพบุรี (4 คะแนน)
รอบที่1:รอบชิงสาย 1 ครั้งได้แก่
สายที่ 16 สมุทรสาคร (3 คะแนน) กับ นครนายก (3 คะแนน) ซึ่งการตกรอบนี้ส่งผลให้สายที่ 16 ไม่มีตัวแทนของสาย
รอบที่ 2 มี 1 ครั้งได้แก่
คู่ที่ 8 กาญจนบุรี (2 คะแนน) กับ นครราชสีมา (2 คะแนน)
รอบที่ 4 มี 1 ครั้งได้แก่
คู่ที่ 5 ปราจีนบุรี (4 คะแนน) กับ อ่างทอง (2 คะแนน) - เกิดความผิดพลาดในการแข่งขันระหว่าง จันทบุรี กับ หนองคาย โดยคำถามได้ถามว่า การกระทำได้ที่ถือว่าผิดกฎหมาย และต้องเสียค่าปรับ 100 บาท (ก) ถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ (ข) ตะโกนคำหยาบในที่สาธารณะ ซึ่งทางจังหวัด จันทบุรี ได้ตอบ ข ทั้ง 10 คน ส่วนทาง หนองคาย ได้ตอบ ก ทั้ง 10 คนเช่นกัน ผลเฉลย ออกมาว่า ก. ถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ ทำให้ หนองคาย เข้ารอบ แต่พอเบรกโฆษณา ทางรายการได้เชิญตัวแทนของทั้งสองจังหวัด ให้มารับทราบถึงข้อผิดพลาดของรายการว่าคำตอบของข้อนี้ถูกทั้งสองข้อ แล้วประกาศให้ หนองคาย และ จันทบุรี เข้ารอบทั้งสองจังหวัด
- ในรอบที่ 2 คู่ที่ 3 ระหว่าง สุโขทัย กับ นนทบุรี ในระหว่างที่มีคะแนนอยู่ 4-4 ได้มีการเปลี่ยนแปลงกติกาว่า ถ้าตอบเหมือนกันทั้งหมด 20 คน (จากทั้ง 2 จังหวัด) แล้วถูก ก็จะเข้ารอบไปทั้งสองจังหวัด
- สุโขทัย เป็นทีมแรกที่ตอบข้อเดียวกันหมด ถึง 5 ครั้งติดต่อกัน จึงทำให้ได้คะแนน 5 ข้อติดต่อกัน ทำให้พลิกสถานการณ์จากที่มีคะแนนตาม นนทบุรี 0 ต่อ 2 กลายเป็นเข้ารอบไปทั้งสองจังหวัดด้วย 5 ต่อ 5 คะแนน
- ในรอบที่ 4 นี้ หากจังหวัดใดมีการเทเกิดขึ้น คือ ตอบคำตอบเหมือนกันทั้ง 10 คน แล้วผิด จะไม่มีการตกรอบทั้งจังหวัดเหมือนในรอบที่1-3 แต่จะถือว่าเป็นการแพ้ในเกมนั้นแทน ซึ่งได้เกิดขึ้นในคู่ระหว่าง ปราจีนบุรี กับ อ่างทอง
- ระนอง นัดที่เจอกับ นนทบุรี เป็นจังหวัดที่สามารถตอบถูก 5 ข้อติดต่อกัน โดยการตอบเหมือนกันทั้ง 10 คน ทำให้เป็นจังหวัดแรกที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และเป็นจังหวัดเดียวที่ชนะรวดทั้ง4นัด
- ปราจีนบุรี เป็นจังหวัดเดียวในรอบ 4 ที่แข่งทั้งหมด4นัด แพ้ทั้งหมด แล้วยังเป็นการแพ้แบบตอบผิดทั้ง10คนทุกนัดที่ลงแข่งขัน
- ฉากหลังของรายการ ยกสยาม มี 3 ฉากดังนี้ ฉากแรก เป็นชื่อรายการ "ทศกัณฐ์ยกสยาม" ฉากที่ 2 "หน้าทศกัณฐ์" ฉากที่3 "ระเบียงวัด"
- ในการตอบของผู้เข้าแข่งขันแต่ละครั้ง ทำให้มีศัพท์ที่ใช้บ่อยอยู่ 2 คำ นั่นคือ
- เท หมายถึง การที่ทั้งจังหวัดตอบเหมือนกันทั้งหมด
- ติ่ง หมายถึง การที่สมาชิกของทีมบางส่วนตอบแตกต่างจากเพื่อนร่วมทีม โดยมากจะมี 1-2 คน
- อ.อัญชัญ จากทีมระนองเป็นผู้ที่พลิกสถานการณ์ของจังหวัด โดยสามารถตอบถูก 8 ข้อติดต่อกัน ทำให้จากเดิมที่ระนองเหลือผู้เล่น 2 คน แต่นนทบุรีเหลือผู้เล่น 5 คน กลายมาเป็นทั้งสองจังหวัดเหลือผู้เล่นจังหวัดละ 2 คน และสุดท้ายก็พลาด ตอบผิดพร้อมกับคุณน้ำเพชร จากทีมนนทบุรี ส่งผลให้หัวหน้าทีมของทั้งสองจังหวัดต้องมาเจอกัน ก่อนที่ ระนอง จะตอบถูกและชนะในยกที่หนึ่ง
- ระนอง เป็นจังหวัดเดียวที่ไม่เคยแพ้จังหวัดใดเลยตลอดการแข่งขัน (รวมทั้ง 2 ชุดในรอบที่ 3, 4 นัดในรอบที่ 4 และ 3 ยกในรอบชิงชนะเลิศ) และได้เป็นจังหวัดที่ชนะเลิศในที่สุด
ฉาก
ฉากหลังของรายการ ยกสยาม มี 3 ฉากดังนี้ ฉากแรก เป็นชื่อรายการ "ทศกัณฐ์ยกสยาม" ฉากที่ 2 "หน้าทศกัณฐ์" ฉากที่ 3 "ระเบียงวัด"
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- ดูรายการยกสยามย้อนหลัง เก็บถาวร 2008-12-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เวิร์คพอยท์
แชมป์ ระนอง |
รองแชมป์ นนทบุรี |
ตกรอบที่ 4 ปราจีนบุรี • เชียงราย • อ่างทอง |
ตกรอบที่ 3 หนองคาย • ศรีสะเกษ • จันทบุรี • สุโขทัย • เพชรบุรี |
ตกรอบที่ 2 ยะลา • ชุมพร • แม่ฮ่องสอน • ยโสธร • สมุทรปราการ • นครราชสีมา • กาญจนบุรี • ประจวบคีรีขันธ์ |
ตกรอบที่ 1 (รอบชิงสาย) สิงห์บุรี • สุพรรณบุรี • สมุทรสงคราม • กระบี่ • ระยอง • เพชรบูรณ์ • กำแพงเพชร • เลย • ปทุมธานี • ชัยนาท • สกลนคร • มุกดาหาร • นครนายก • สมุทรสาคร • อุทัยธานี • อำนาจเจริญ |
ตกรอบที่ 1 (รอบแรก) ขอนแก่น • พิษณุโลก • ตาก • นครสวรรค์ • ราชบุรี • สงขลา • นครปฐม • เชียงใหม่ • สุรินทร์ • สระแก้ว • ฉะเชิงเทรา • มหาสารคาม • นราธิวาส • ชัยภูมิ • ตรัง • ชลบุรี • พิจิตร • พระนครศรีอยุธยา • ร้อยเอ็ด • สตูล • ลำพูน • อุตรดิตถ์ • นครศรีธรรมราช • ตราด • น่าน • นครพนม • สระบุรี • สุราษฎร์ธานี • ปัตตานี • กาฬสินธุ์ • พังงา • ลำปาง • อุบลราชธานี • แพร่ • อุดรธานี • พัทลุง • บุรีรัมย์ • ภูเก็ต• หนองบัวลำภู • พะเยา • กรุงเทพมหานคร • ลพบุรี |
ก่อนหน้า | ยกสยามปี 1 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ทศกัณฐ์ช่วยครูใต้ | ยกสยามปี 1 (18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 - 7 มกราคม พ.ศ. 2552) | ยกสยามปี 2 |