ลอมพอก

ลอมพอก บ้างเรียก พอก หรือ พอกเกี้ยว[2] เป็นเครื่องสวมศีรษะรูปยาว บ้างมียอดแหลม บ้างมียอดมนไม่แหลมมากนัก เมื่อสวมแล้วจะแลดูเหมือนการเกล้าผมขึ้นไปข้างบนเป็นทรงกรวยแหลม แล้วปัดไปด้านหลังเล็กน้อย[1] ใช้เป็นเครื่องทรงของพระเจ้าแผ่นดิน และเป็นเครื่องแบบขุนนางยุคกรุงศรีอยุธยา[3] ซึ่งลักษณะของลอมพอกสามารถบ่งถึงตำแหน่งสูงต่ำของขุนนางได้[4][5] นอกจากนี้เหล่าโขนละครเองก็เคยใช้ลอมพอกในการแสดง ก่อนพัฒนาเป็นชฎาหรือมงกุฎในภายหลัง[3]

เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) เมื่อ พ.ศ. 2229 วาดโดย ฌ็อง ไฮน์เซลมาน (Jean Hainzelman) จิตรกรชาวเยอรมันที่พำนักในประเทศฝรั่งเศส[1]

ลอมพอกเป็นเครื่องสวมศีรษะของไทยที่ได้รับอิทธิพลมาจากการโพกผ้าของมุสลิมเปอร์เซีย[3][6][7] และมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะรับมาตั้งแต่ก่อนเกิดกรุงศรีอยุธยา[1] ลอกพอกมักสวมใส่พร้อมกับเสื้อเยียรบับและสวมเสื้อครุยทับอีกที โดยลอมพอกเป็นเครื่องบ่งบอกยศและตำแหน่งของผู้สวม โดยลอมพอกของราชทูตประดับด้วยแถบทองคำกว้างสองถึงสามนิ้วทำเป็นเสวียนรอบหมวก มีดอกไม้ทำด้วยทองคำบาง ๆ กลางดอกไม้เป็นเกสรที่ทำจากทับทิมสองถึงสามเม็ดติดประดับ แต่เนื่องจากแผ่นทองคำที่ใช้ทำดอกไม้นั้นมีน้ำหนักเบามาก จึงไหวติงอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ลอมพอกของตรีทูตมีแต่แถบทองคำสลักประดับ ไม่มีดอกไม้ตกแต่ง และลอมพอกของผู้ติดตาม ไม่มีแถบทองคำประดับอยู่เลย[8]

มงซีเออร์ เดอ วีเซได้เขียนคำอธิบายเกี่ยวกับการแต่งกายของคณะทูตสยามที่ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นำโดยออกพระวิสูตรสุนทร (ปาน) เมื่อปี พ.ศ. 2229 ความว่า "....สิ่งที่สำคัญซึ่งทำให้ดูราชทูตไทยผิดกว่าราชทูตเมืองอื่นมากนั้นก็คือหมวก หมวกไทยนั้นเป็นหมวกมียอดแหลมซึ่งเขาเรียกว่า ลอมพอก สูงกว่าหมวกเราเป็นไหน ๆ เรียวขึ้นไปเป็นชั้น ๆ สัณฐานคล้ายกับมงกุฎ แต่ละชั้นล้วนประดับด้วยเครื่องเงินทองเพชรพลอยและนิลจินดาเป็นอย่างหนึ่ง ๆ และชั้นต่อ ๆ ไปก็ประดับด้วยวิธีอื่นอีก ดูแปลกเข้าที..."[9] ส่วนซีมง เดอ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสที่มาเจริญสัมพันธไมตรีกับกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2230 ได้กล่าวถึงลอมพอกในจดหมายเหตุ ความว่า "...พระลอมพอกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ประดับขอบหรือเสวียนเกล้าด้วยพระมหามงกุฎเพชรรัตน์..." และกล่าวถึงลอมพอกขุนนางว่า "ของพวกขุนนางนั้นประดับเสวียนทองคำ, เงิน, หรือกาไหล่ทองมากน้อยตามยศ ลางคนก็ไม่มีเสวียนเลย พวกขุนนางจะใช้ลอมพอกนี้ชั่วเวลาเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ หรือเพลาประชุมคณะขุนศาลตุลาการ หรือในพิธีลางอย่างเท่านั้น เขาใช้แถบผูกโยงยึดไว้ใต้คาง และเมื่อแสดงการเคารพก็มิได้ถอดออก..."[3]

ลอมพอกได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นชฎาและมงกุฎสำหรับเจ้านายและนักแสดงโขนในยุคหลัง[3][6][10] และยังเป็นเครื่องสวมศีรษะในบางท้องถิ่นด้วย ดังปรากฏที่บ้านชอนไพร และบ้านป่าเลา อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ มีเครื่องสวมศีรษะที่มีลักษณะใกล้เคียงกันกับลอมพอก เรียกว่า ตะลอมพอก ถือเป็นชฎาแบบหนึ่ง เมื่อมีการอุปสมบทในท้องถิ่น ก็จะให้นาคสวมตะลอมพอก ซึ่งโครงทำจากตอก ประดับด้วยหนังสัตว์และกระดาษสีแกะลวดลาย ถือเป็นเอกลักษณ์ประจำชุมชน[11]

ศัพทมูล

ลอมพอก ประกอบมาจากคำสองคำ ได้แก่[1][3]

  • ลอม แปลว่า "กองเรียงขึ้นไปให้สูงเป็นจอม เช่น ลอมฟาง ลอมฟืน"
  • พอก แปลว่า "เพิ่ม, พูน, โพก เช่น โพกหัว โพกผ้าขาวม้า"

ระเบียงภาพ

อ้างอิง

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง