สัญลักษณ์พาราลิมปิก
สัญลักษณ์พาราลิมปิก จะมีไอคอน, ธง, และอื่น ๆ ที่ใช้ในคณะกรรมการพาราลิมปิกนานาชาติ สำหรับการส่งเสริมกีฬาพาราลิมปิก
กีฬาพาราลิมปิก |
องค์กร |
คณะกรรมการพาราลิมปิกสากล • คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งชาติ • สัญลักษณ์ • กีฬา • ผู้ร่วมแข่งขัน • ตารางเหรียญรางวัล • ผู้ได้รับเหรียญรางวัล • พิธีการ • |
การแข่งขัน |
พาราลิมปิกฤดูร้อน พาราลิมปิกฤดูหนาว |
คำขวัญ
คำขวัญของกีฬาพาราลิมปิกคือ "สปิริตทุกการกระทำ" (Spirit in Motion) คำขวัญนี้ใช้ในปี พ.ศ. 2547 ในการแข่งขันพาราลิมปิกที่กรุงเอเธนส์[1] คำขวัญในอดีตคือ "ใจ, กาย, สปริต" (Mind, Body, Spirit) ซึ่งในในปี พ.ศ. 2537[1]
ตราสัญลักษณ์พาราลิมปิก
ตราสัญลักษณ์พาราลิมปิกประกอบด้วย 3 สี "แอจิโทซ" ได้แก่สี แดง, น้ำเงิน และเขียว อยู่ในลักษณะเดี่ยว ในพื้นหลังสีขาว แอจิโทซ ("ฉันเคลื่อน" ในภาษาละติน) คือตราสัญลักษณ์ที่มีลักษณะเคลื่อนไหวด้วยเป็นขนาดเสี้ยวที่ไม่สมมาตร ตราสัญลักษณ์นี้สร้างขึ้นโดยบริษัทซโลช & เฟรน์ และได้รับการบรรจุเป็นตราสัญลักษณ์เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2546[1][2]
สีของแอจิโทซซึ่งมีลักษณะพื้นหลังสีขาวและสีต่าง ๆ อีกสามสี ซึ่งธงชาติทั่วโลกส่วนมากก็ใช้สีแอจิโทซ สามสีของตราสัญลักษณ์อยู่บนตรงกลาง หมายถึง "บทบาทของคณะกรรมการพาราลิมปิกนานาชาติ (IPC) ที่นำนักกีฬาพิการทั่วทุกมุมโลก มาแข่งขันกันเพื่อชัยชนะ" รูปร่างเสี้ยวที่ไม่สมมาตรซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์มีวิสัยทัศน์ คือ "เพื่อให้นักกีฬาพาราลิมปิกมีความเป็นเลิศทางด้านกีฬาและให้นักกีฬามีความตื่นเต้นกับโลกอันสดใส"[1][2]
ตราสัญลักษณ์พาราลิมปิกถูกตีพิมพ์ลงมาสู่ผลิตภันณฑ์ต่าง ๆ ครั้งแรง ในปี พ.ศ. 2546 เนื่องจากเวลาการแข่งขันมีอย่างจำกัด ทำให้ก่อนการแข่งขันพาราลิมปิกที่กรุงเอเธนส์ ในปี พ.ศ. 2547 สัญลักษณ์อันใหม่นี้จึงไม่ได้ใช้ในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม การปิดการแข่งขันในการแข่งขันพาราลิมปิกในครั้งนี้ ปักกิ่งได้มอบธงพาราลิมปิกที่มีตราสัญลักษณ์พาราลิมปิกใหม่ให้ด้วย[3] สัญลักษณ์ใหม่นี้จึงได้ใช้ในการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูหนาว ปี 2006 เป็นครั้งแรก[4]
สัญลักษณ์พาราลิมปิก
แต่ละการแข่งขันพาราลิมปิก มักต้องมีสัญลักษณ์เป็นของตัวเอง เมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจะต้องสร้างสัญลักษณ์พาราลิมปิกเป็นของตัวเอง[5] การออกแบบจะต้องมีตราสัญลักษณ์พาราลิมปิก, ชื่อการแข่งขัน และสิ่งที่โดดเด่นในประเทศเจ้าภาพอย่างน้อยหนึ่งอย่าง
คณะกรรมการพาราลิมปิกนานาชาติ (IPC) จะเป็นผู้อนุมัติให้สามารถใช้สัญลักษณ์พาราลิมปิกในการแข่งขันนั้นได้ สัญลักษณ์พาราลิมปิกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการโปรโมตสินค้า และนำไปติดบนเสื้อผ้าของนักกีฬาพาราลิมปิกทุกคน ทุกตราสัญลักษณ์พาราลิมปิกล้วนแล้วเป็นทรัพย์สินของ IPC
- โรม 1960 –
- โตเกียว 1964 –
- เทลอาวีฟ 1968 –
- ไฮเดลแบร์ก 1972 –
- โทรอนโต 1976 –
- เอิร์นเชิลส์วีก 1976 –
- อาร์นเฮม 1980 –
- กีลโล 1980 –
- นิวยอร์ก-สโตกแมนเดวิลล์ 1984 –
- อินส์บรุค 1984 –
- โซล 1988 –
- อินส์บรุค 1988 –
- บาร์เซโลนา 1992 –
- แอลเบิร์ทวิลล์ 1992 – ออกแบบโดย เจิน-มิเชลล์ ฟอเล่น
- ลิลแฮมเมอร์ 1994 – เป็นรูปพระอาทิตย์คน[6]
- แอตแลนตา 1996 –
- นะงะโนะ 1998 –
- ซิดนีย์ 2000 – รูปร่าง 3 กราฟิค ให้เห็นแสงจากคบเพลิงพาราลิมปิก และเรือใบอยู่ที่โรงอุปรากรซิดนีย์[7]
- ซอลต์เลกซิตี 2002 – มีวงกลมสีแดงอยู่ข้างบน ใต้วงกลมมีขีดเฉียง 2 ขีด[7]
- เอเธนส์ 2004 – มีลักษณะเป็นผู้ชายไม่ก็ผู้หญิงมองไปข้างหน้า[8]
- ตูริน 2006 – มี 3 กราฟิค โดยมีดวงดาวขึ้นทีละขั้น สื่อถึงความทะเยอทยานของมนุษย์ ออกแบบโดยสตูดิโอเบนิสคาสา-ฮัมเหม็ด[7]
- ปักกิ่ง 2008 – "นภา, โลก และมนุษย์": มีลักษณะมนุษย์ทำท่าลักษณะคล้ายกับคำอักษรจันว่า "zhi"[9]
- แวนคูเวอร์ 2010 – "ชายแข็งแกร่งดุจภูเขา": มีลักษณะเป็นป่า, ภูเขา และท้องฟ้าตามลำดับ[10]
- ลอนดอน 2012 – เป็นครั้งแรกที่มีการใช้สัญลักษณ์รูปทรงเดียวกันในโอลิมปิกและพาราลิมปิก[11] ซึ่งมีสีทางการ 4 สี ได้แก่ สีเขียว, สีม่วงแดง, สีส้ม และสีฟ้า[12] ภาพนี้ออกแบบโดยนักออกแบบในวอฟ โอเรช
- โซชิ 2014 – "sochi2014.ru" เป็นสัญลักษณ์พาราลิมปิกเดียวที่ใช้เป็นรหัสเว็บไซต์ กระจกสีน้ำเงินที่ครอบตัวคำว่า "Sochi" และ "2014" หมายถึงการพบปะกันที่ภูเขาและทะเล
- ริโอเดจาเนโร 2016 – เป็นรูปหัวใจพิเศษ ในรูปแบบสามมิติ สื่อถึงความรัก, ความแข็งแกร่ง และความอบอุ่นของชาวบลาซิล[13]
- พย็องชัง 2018 -
ธง
ธงของพาราลิมปิกมีลักษณะพื้นหลังสีขาว และตรงกลางเป็นสัญลักษณ์ของพาราลิมปิก
ธงพาราลิมปิกในปัจจุบันถูกเชิญขึ้นสู่เสาครั้งแรงในการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูหนาว ณ แวนคูเวอร์ ในปี พ.ศ. 2553
คบเพลิงและการวิ่งคบเพลิง
เมื่อถึงการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูหนาว 2010 ประเทศเจ้าภาพได้มีการเสนอแนวคิดในการจุดคบเพลิงขึ้นในพาราลิมปิก[14] เมื่อการแข่งขันพาราลิมปิกฤดูร้อน 2012 ได้มีการเสนอแนวคิดในการวิ่งคบเพลิง โดยจะนำไฟมาจากประเทศเจ้าภาพนั้น โดยการวิ่งคบเพลิงประเทศเจ้าภาพจะเป็นผู้กำหนดเส้นทางในการวิ่งคบเพลิง 1–2 วันก่อนที่จะนำไฟไปจุดบนกระถางคบเพลิงนั้น การวิ่งคบเพลิงจำเป็นที่จะต้องอยู่ในเมืองที่มีการเปิดมหกรรมพาราลิมปิกในเมืองเจ้าภาพนั้น ๆ เมื่อพิธีเปิดเริ่มขึ้นก็จะนำคบเพลิงไปจุดที่กระถางคบเพลิง พอถึงพิธีปิดการแข่งขัน ก็จะดับไฟบนกระถางคบเพลิงลง ถือว่าเป็นการปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ[15][16]
เหรียญรางวัล
เหรียญรางวัลพาราลิมปิกถือเป็นรางวัลของการแข่งขันพาราลิมปิก โดยที่มีเหรียญ 3 เหรียญ ได้แก่ เหรียญเงินชุบทอง (ส่วนใหญ่มักเรียกว่า เหรียญทอง), เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ซึ่งจะมอบให้กับผู้ชนะ 3 คนสุดท้ายของการแข่งขันนั้น ๆ
สำหรับการแข่งขันพาราลิมปิก เหรียญรางวัลจะถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงกีฬาเจ้าภาพ
เพลงสดุดี
เพลงชาติประจำพาราลิมปิก หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า เพลงสดุดีพาราลิมปิก เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงเมื่อมีการเชิญธงพาราลิมปิกขึ้นสู่ยอดเสา เพลงนี้เป็นเพลงบรรเลงในตอนแรก และใช้ชื่อว่า "Hymne de l’Avenir" ( "เพลงชาติแห่งอนาคต") ประพันธ์ทำนองโดย ทีเลอร์ นานิส จนในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2539 IPC ได้อนุมัติให้เพลงนี้เป็นเพลงประจำพาราลิมปิก[17]
ในเวลาต่อมา นักร้องสาวชาวออสเตรเลีย แจรม คาร์เนอร์ ได้เป็นผู้ประพันธ์คำร้องขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2544[18]
คำปฏิญาณพาราลิมปิก
คำปฏิญาณพาราลิมปิก ถือเป็นการกล่าวคำสัญญา โดยจะมีตัวแทนที่พูดอย่างน้อย 3 คน ได้แก่ ตัวแทนนักกีฬา, ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะกล่าวคำปฏิญาณในช่วงเปิดมหกรรรมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกนั้น ๆ
นักกีฬาที่จะกล่าวคำปฏิญาณจะถูกคัดเลือกจากประเทศเจ้าภาพ พร้อมกับถือธงพาราลิมปิก โดยจะกล่าวคำดังต่อไปนี้:
คำปฏิญาณนักกีฬา
- In the name of all the competitors I promise that we shall take part in these Paralympic Games, respecting and abiding by the rules which govern them, committing ourselves to a sport without doping and without drugs, in the true spirit of sportsmanship, for the glory of sport and the honour of our teams. / ในนามของผู้แข่งขันทั้งหมด เราจะขอสัญญาว่า เราจะมีส่วนรวมและเคารพในการแข่งขันพาราลิมปิกในครั้งนี้ เราจะเล่นกีฬาโดยปราศจากสารกระตุ้นทั้งหมด เราจะเล่นกีฬาโดยมีจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ เพื่อเป็นเกียรติศักดิ์แก่ทีมของเราเอง[19]
เจ้าหน้าที่ที่จะกล่าวคำปฏิญาณ ยังมาจากประเทศเจ้าภาพ โดยที่จะถือผืนธงตรงมุม การกล่าวคำปฏิญาณอาจจะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย:
คำปฏิญาณผู้ตัดสิน (คำปฏิญาณเจ้าหน้าที่)
- In the name of all the judges and officials, I promise that we shall officiate in these Paralympic Games with complete impartiality, respecting and abiding by the rules which govern them in the true spirit of sportsmanship. / ในนามของผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เราสัญญาว่า เราจะปฏิบัติหน้าที่ในการแข่งขันพาราลิมปิกในครั้งนี้อย่างเที่ยงธรรม เราจะเคารพและปฏิบัติตามกฎ เราจะปฏิบัติหน้าที่โดยมีจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์[20]
ผู้ฝีกสอนที่จะกล่าวคำปฏิญาณ ยังมาจากประเทศเจ้าภาพ โดยที่จะถือผืนธงตรงมุม การกล่าวคำปฏิญาณอาจจะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย:
คำปฏิญาณผู้ฝึกสอน
- In the name of all coaches and other members of the athletes entourage, I promise that we shall commit ourselves to ensuring that the spirit of sportsmanship and fair play is fully adhered to and upheld in accordance with the fundamental principles of the Paralympic movement. / ในนามของผู้ฝึกสอนและสมาชิกผู้ติดตามนักกีฬาทั้งหมด เราขอสัญญาว่า เราจะให้นักกีฬานั้น เล่นกีฬาโดยมีจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ และเล่นตรงไปตรงมา เราจะทำเต็มที่เพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันพาราลิมปิก
ผู้กล่าว
ข้างล่างนี้คือรายชื่อผู้ที่ได้กล่าวคำปฏิญาณ[19][21]
การแข่งขัน | นักกีฬา | ผู้ตัดสิน (เจ้าหน้าที่) | ผู้ฝึกสอน |
---|---|---|---|
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1960 | Franco Rossi | – | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1964 | Shigeo Aono | – | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1968 | Zvi Ben-Zvi | – | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1972 | Marga Floer | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1976 | ไม่ทราบ | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1976 | Eugene Reimer | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1980 | ไม่ทราบ | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1980 | Irene Schmidt | Henk Boersbroek | |
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1984 | ไม่ทราบ | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1984 | Ólavur Kongsbak (NY) John Harris (SM) | Jack Abramson (NY) Ronald Nicholls (SM) | |
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1988 | ไม่ทราบ | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1988 | So-Boo Kim | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1992 | Ludovic Rey-Robert | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1992 | José Manuel Rodríguez Ibáñez | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1994 | Cato Zahl Pedersen | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 1996 | Trischa Zorn | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูหนาว 1998 | Ryuei Shinohe | Takashi Takano | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 2000 | Tracey Cross | Mary Longden | |
พาราลิมปิกฤดูหนาว 2002 | Sarah Billmeier | ไม่ทราบ | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 2004 | Maria Kalpakidou | Vlassis Tamvakieras | |
พาราลิมปิกฤดูหนาว 2006 | Fabrizio Zardini | Mauro Scanacapra | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 2008 | Wu Chunmiao[22] | Hao Guohua[22] | |
พาราลิมปิกฤดูหนาว 2010 | Herve Lord[23] | Linda Kirton[24] | |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 2012 | Liz Johnson[25] | Richard Allcroft[25] | David Hunter[25] |
พาราลิมปิกฤดูหนาว 2014 | Valery Redkozubov | Elena Mokerova | Alexander Nazarov[26] |
พาราลิมปิกฤดูร้อน 2016 | Phellipe Rodrigues | Raquel Daffre | Amaury Veríssimo |
รางวัลพิเศษพาราลิมปิก
รางวัลพิเศษพาราลิมปิก ถือเป็นรางวัลสูงสุดของการแข่งขันพาราลิมปิก ผู้ที่ได้รับเหรียญนี้จะได้ตราสัญลักษณ์ของคณะกรรมการพาราลิมปิกนานาชาติอีกด้วย คุณสมบัติของผู้ได้รับรางวัลพิเศษพาราลิมปิก คือ การช่วยเหลืออันเป็นประโยชน์ต่อวงการพาราลิมปิก[27][28]
ตัวนำโชค
แต่ละการแข่งขันพาราลิมปิกจะต้องมีตัวนำโชคของประเทศเจ้าภาพ โดยตัวนำโชตอาจสื่อถึงสัตว์ประจำชาติ หรือเหตุการต่าง ๆ ในประเทศเจ้าภาพนั้น ๆ ปัจจุบันได้มีการผลิตสินค้าตัวนำโชค เพื่อให้เยาวชนสนใจในการแข่งขันพาราลิมปิก
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- Official site of the Paralympic Movement – Images and information on every game since 1960.
- The Paralympic Flag