แพร์ แมร์เทิสอัคเคอร์
แพร์ แมร์เทิสอัคเคอร์ (เยอรมัน: Per Mertesacker, ออกเสียง: [ˈpeːɐ̯ ˈmɛʁtəsʔakɐ]; เกิดเมื่อวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 1984) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวเยอรมัน เคยลงเล่นให้กับ อาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และเคยติดทีมชาติเยอรมนีด้วย[2] โดยแมร์เทิสอัคเคอร์นั้นเคยเป็นผู้เล่นชุดเยาวชนของ ฮันโนเฟอร์ 96 ในบุนเดิสลีกา ก่อนจะได้ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2003
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | แพร์ แมร์เทิสอัคเคอร์ | ||
วันเกิด | 29 กันยายน ค.ศ. 1984 | ||
สถานที่เกิด | ฮันโนเฟอร์, เยอรมนีตะวันตก | ||
ส่วนสูง | 1.98 m (6.5 ft)[1] | ||
ตำแหน่ง | กองหลัง | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | อาร์เซนอล | ||
หมายเลข | 4 | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1988–1995 | แพตเทนเซน | ||
1995–2003 | ฮันโนเฟอร์ 96 | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2003–2006 | ฮันโนเฟอร์ 96 | 74 | (7) |
2006–2011 | แวร์เดอร์เบรเมิน | 147 | (12) |
2011–2018 | อาร์เซนอล | 155 | (6) |
ทีมชาติ‡ | |||
เยอรมนี ชุดยู 20 | 2 | (0) | |
2004 | เยอรมนี ชุดยู 21 | 3 | (0) |
2004–2014 | เยอรมนี | 104 | (4) |
จัดการทีม | |||
2017– | เยาวชนอาร์เซนอล | ||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 16:46, 6 ตุลาคม 2012 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 18:47, 12 ตุลาคม 2012 (UTC) |
หลังจบฟุตบอลโลก 2014 ที่เยอรมนีได้แชมป์โลกสมัยที่ 4 แมร์เทิสอัคเคอร์ได้ประกาศยุติการเล่นให้กับทีมชาติไปด้วยวัย 29 ปี[3] โดยจะไปทุ่มเทให้กับสโมสรอย่างเต็มที่ พร้อมกับรับตำแหน่งรองกัปตันทีม[4]
ซึ่งในฤดูกาล 2014–15 นั้น แมร์เทิสอัคเคอร์ ทำหน้าที่กัปตันทีมแทบจะทุกนัดที่ลงแข่ง เนื่องจาก มีเกล อาร์เตตา กัปตันทีมตัวจริงของอาร์เซนอลได้รับบาดเจ็บเกือบทั้งฤดูกาล ในเอฟเอคัพรอบชิงชนะเลิศ แมร์เทิสอัคเคอร์ เป็นผู้โหม่งทำประตูจากลูกเตะมุมได้ในนาทีที่ 62 นับเป็นประตูที่ 3 เมื่อจบการแข่งขัน อาร์เซนอลเป็นฝ่ายเอาชนะ แอสตันวิลลา ไปได้มากถึง 4–0 ทำสถิติเป็นแชมป์รายการนี้มากที่สุด คือ 12 ครั้ง และเมื่อขึ้นรับถ้วยรางวัล แมร์เทิสอัคเคอร์ยังเป็นผู้รับถ้วยร่วมกับอาร์เตตาอีกด้วย [5]
ในฤดูกาล 2016–17 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมแทนที่อาร์เตตาที่ยุติการเล่นไป แต่ทว่าตัวของแมร์เทิสอัคเคอร์เองได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าไม่อาจลงเล่นได้ในช่วงต้นฤดูกาล[6] และปรากฏว่าตลอดทั้งฤดูกาล แมร์เตซัคเกอร์ลงเล่นได้เพียงแค่ 31 นาทีเท่านั้น จนกระทั่งจบฤดูกาล ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ 2017 กับเชลซี ซึ่งได้แชมป์พรีเมียร์ลีกมาก่อนหน้านั้นไม่นาน เนื่องจากกองหลังตัวจริงทั้งหมดบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แมร์เตซัคเกอร์จึงต้องลงเล่นแทน และปรากฏว่าเล่นได้ดี สามารถสกัดลูกในจังหวะอันตราย ๆ ได้หลายครั้งจนได้รับคำชม ส่งให้อาร์เซนอลเอาชนะไปได้ในที่สุด และเป็นแชมป์เอฟเอคัพสมัยที่ 13 นับว่าเป็นสโมสรที่ได้แชมป์รายการนี้มากที่สุด จากนั้นเพียงหนึ่งสัปดาห์แมร์เตซัคเกอร์ประกาศเลิกเล่นและขอผันตัวเองไปทำหน้าที่อย่างอื่น โดยเล่นให้กับอาร์เซนอลทุกรายการทั้งหมด 210 นัด ได้แชมป์เอฟเอคัพทั้งหมด 3 สมัย[7] ต่อมา อาร์เซนอลได้ประกาศให้แมร์เทิสอัคเคอร์เป็นผู้จัดการทีมเยาวชนของอาร์เซนอลตั้งแต่ฤดูกาล 2017–18 และตั้งใจจะเลิกเล่นหลังจบฤดูกาลนี้[8]