กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ย่อเป็น กอ.รมน. เป็นหน่วยงานของรัฐในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานกลาง เพื่อต่อต้านภัยคุกคามที่มุ่งทำลายผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ หน่วยงานดังกล่าวได้ชื่อว่าเป็นฝ่ายการเมืองของกองทัพไทย[4]
ตราสัญลักษณ์ กอ.รมน. | |
ภาพรวมหน่วยงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | 17 ธันวาคม พ.ศ. 2508[1] |
หน่วยงานก่อนหน้า |
|
ประเภท | หน่วยงานของรัฐ |
เขตอำนาจ | ทั่วประเทศไทย |
สำนักงานใหญ่ | สวนรื่นฤดี ถนนนครราชสีมา แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร |
คำขวัญ | "อสาธุ สาธุนา ชิเน" (บาลี) ("พึงชนะคนไม่ดี ด้วยความดี")[2] |
งบประมาณประจำปี | 10,200.9716 ล้านบาท (พ.ศ. 2559)[3] |
รัฐมนตรี |
|
ต้นสังกัดหน่วยงาน | สำนักนายกรัฐมนตรี |
เอกสารหลัก | |
เว็บไซต์ | www |
คำขวัญของหน่วยงานคือ "อสาธุ สาธุนา ชิเน" (พึงชนะคนไม่ดี ด้วยความดี)[5] มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) โดยตำแหน่ง[6] หน่วยงานมีเจ้าพนักงาน 5,000–6,000 คนทั่วประเทศ และมีอาสาสมัครความมั่นคงภายใน 500,000–600,000 คน และมีบุคคลอยู่ในเครือข่ายข้อมูลหลักหมื่นคน[7]
เดิมรับผิดชอบต่อการปราบปรามกลุ่มฝ่ายซ้ายตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงกลางคริสต์ทศวรรษ 1980 นอกจากนี้ยังมีการดำเนินโครงการกิจการพลเรือนหลายอย่าง รวมทั้งการพัฒนาชนบทและปฏิบัติการจิตวิทยา เพื่อแทรกซึมแวดวงสังคมและการเมืองของประเทศซึ่งยังดำเนินต่อมาแม้ภัยคุกคามคอมมิวนิสต์หมดไปแล้ว[1]: g อำนาจของ กอ.รมน. ยิ่งได้รับการส่งเสริมหลังรัฐประหารปี 2549 และปี 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้นำทิศทางการเมืองของประเทศ นับเป็นเครื่องมือที่อภิชนอนุรักษนิยมสามารถบั่นทอนและควบคุมประชาธิปไตยและเป็นวิธีที่กองทัพใช้รักษาอำนาจ[1] โดยในเดือนมิถุนายน 2550 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติอนุมัติร่างกฎหมายความมั่งคงแห่งชาติซึ่งให้ กอ.รมน. มีอำนาจกว้างขวางในการรับมือภัยคุกคามต่อประเทศ โดยให้หัวหน้า กอ.รมน. สามารถดำเนินมาตรการความมั่นคงอย่างค้นโดยไม่ต้องขออนุญาตนายกรัฐมนตรี[8] หลังรัฐประหารปี 2557 มีการขยายอำนาจของ กอ.รมน. ให้สามารถตีความภัยคุกคามได้เอง และเพิ่มงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
พวงทอง ภวัครพันธุ์เขียนว่า "การต่อต้านประชาธิปไตย" เป็นภารกิจของ กอ.รมน. และ "การขาดความสนใจในบทบาทกว้างขวางของกองทัพในแวดวงสังคมและการเมืองสะท้อนออกมา ... แม้มีการเรียกร้องให้กองทัพกลับเข้ากรมกอง ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยและให้พลเรือนควบคุมกองทัพ ... แต่ไม่มีผู้ใดเสนอให้ลบระบบการเมืองและอุดมการณ์ของกองทัพ"[4]
ประวัติ พันจ่าอากาศเอก ชัยพจน์ จรูญพวศ์
การปราบปรามคอมมิวนิสต์
วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2508 มีการก่อตั้ง กองบัญชาการป้องกันและปราบปรามคอมมิวนิสต์ (บก.ปค.) ด้วยความช่วยเหลือของสหรัฐเพื่อประสานงานปฏิบัติการต่อต้านคอมมิวนิสต์ทั่วประเทศ[9][10]
ผู้นำนักศึกษา ธีรยุทธ บุญมี แสดงหลักฐานว่าการทำลายบ้านนาทราย ในอำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคายนั้นเป็นผลงานของ บก.ปค.[11]
หน่วยงานดังกล่าวมีแนวคิดว่าการใช้การปราบปรามการก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์ด้วยอาวุธอย่างเดียวไม่พอ และมีทัศนะว่าสาเหตุรากเหง้าเกิดจากความไม่เสมอภาคทางสังคม เศรษฐกิจและการเมือง สหรัฐช่วยพัฒนายุทธศาสตร์การรุกทางการเมือง รวมทั้งโครงการพัฒนาชนบท การจัดตั้งมวลชนและปฏิบัติการจิตวิทยา เงินช่วยเหลือของสหรัฐสมประโยชน์ของผู้นำกองทัพและใช้เสริมกำลังให้แก่ระบอบทหารในประเทศ สหรัฐยังช่วยยกสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทยเพื่อใช้ต่อต้านคอมมิวนิสต์ รัฐบาลทหารเร่งปฏิบัติการจิตวิทยาเพื่อทำให้พระมหากษัตริย์เป็นสถาบันสูงสุดของไทย[4]
กอ.รมน.พันจ่าอากาศโทวิศิษฎ์ ทองโม้ จังหวัดเลย
ผู้ว่าราชกาลจังหวัดเลย
พันจ่าอากาศเอก ชัยพจน์ จรูญพวศ์
วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 ได้แปรสภาพเป็น กองอำนวยการป้องกันและปราบปรามคอมมิวนิสต์ (กอ.ปค.) จากนั้น พ.ศ. 2516 ก็เปลี่ยนชื่อเป็น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยยังคงมีหน้าที่ตาม พ.ร.บ. คอมมิวนิสต์ฯ[12] ซึ่งถึงแม้ว่าหน่วยงานอยู่ใต้อำนาจของนายกรัฐมนตรีในนาม แต่อำนาจสั่งการแท้จริงอยู่ที่กองทัพ[4]
ต่อมาภายหลัง พ.ศ. 2525[13] ภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์มีน้อยลง และมีการปรับปรุงโครงสร้าง ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัยได้ปรับบทบาทของ กอ.รมน. ให้ปฏิบัติภารกิจทางด้านป้องกันปราบปรามยาเสพติด การจัดระเบียบและเสริมความมั่นคงชายแดน การพัฒนาเพื่อความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ การแก้ปัญหาชนกลุ่มน้อยและผู้หลบหนีเข้าเมือง การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แก้ปัญหาความข้องแย้งโดยสันติวิธี (หน่วยสันตินิมิต) การปฏิบัติงานด้านการข่าว และการปฏิบัติการจิตวิทยา (ปจว.)[14]
เมื่อ พ.ศ. 2544 รัฐบาลทักษิณ ชินวัตรปรับลดบทบาทของ กอ.รมน. ลง โดยเฉพาะด้านการแก้ไขความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย และเพิ่มบทบาทด้านการประสานงาน มีการปรับโครงสร้าง กอ.รมน. จากเดิมมี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็น รอง ผอ.รมน. โดยตำแหน่ง และปรับเพิ่มตำแหน่ง ดังนี้
- รอง ผอ.รมน. มี 3 ตำแหน่ง
- ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
- ปลัดกระทรวงมหาดไทย
- รอง ผอ.รมน.ฝ่ายการเมือง
- ผู้ช่วย ผอ.รมน. มี 5 ตำแหน่ง
- นอกจากนี้ยังมีการปรับสายบังคับบัญชาของ กอ.รมน. จังหวัด จากเดิมขึ้นอยู่กับ กอ.รมน. ภาค ให้ส่วนกลางเป็นผู้สั่งการโดยตรง
หลังรัฐประหารปี 2557
ปัจจุบันมโนทัศน์ภัยคุกคามของ กอ.รมน. ได้ขยายรวมไปถึงเรื่องชนกลุ่มน้อยและผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย การลักลอบค้ายาเสพติด อาชญากรรมไซเบอร์ การก่อการร้าย การทำลายป่าและความขัดแย้งเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ผู้มีอิทธิพลและแก๊งมาเฟีย และภัยธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังคงมีบทบาทในการ "พัฒนาชาติ" ซึ่งรวมถึงกิจการทางสังคม เศรษฐกิจและการเมืองอย่างกว้างขวาง[4]
รัฐบาลประยุทธ์แก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติความมั่นคงฯ โดยยก กอ.รมน. ให้เป็นแม่ข่ายในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งยังทำให้ กอ.รมน. เป็นผู้ควบคุมงานความมั่นคงของประเทศทั้งหมด โดยสำนักงบประมาณมีหน้าที่ต้องจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานดังกล่าวด้วย และให้หน่วยงานของรัฐจัดสรรคนมายังหน่วยงานตามที่มีการร้องขอ[15] กฎหมายใหม่ยังตั้งคณะกรรมการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งประกอบด้วยรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงและผู้บังคับบัญชาหน่วยงานความมั่นคงต่าง ๆ ทำหน้าที่คู่ขนานไปกับสภาความมั่นคงแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานโดยตรงที่มีอยู่แล้ว[15] ภารกิจของ กอ.รมน. ถูกวิจารณ์ว่า สามารถกำหนดเองได้ว่าสถานการณ์ใดเป็นภัยคุกคาม และในอนาคตอาจเป็น "รัฐบาลน้อย" เพราะมีอำนาจรอบด้านไม่ต่างจากรัฐบาลที่ควบคุมประเทศอยู่[15]
เดือนพฤศจิกายน 2561 มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ตั้งคณะกรรมการบริหารความมั่นคงภายในภาค และคณะกรรมการบริหารความมั่นคงภายในจังหวัด โดยให้ทหารดำรงตำแหน่งประธาน และมีตำรวจและข้าราชการพลเรือนเป็นรองประธาน ทำให้เกิดข้อวิจารณ์ว่ากองทัพอาจใช้เพื่อออกคำสั่งด้วยเหตุผลทางการเมือง[7]
เดือนมิถุนายน 2562 โฆษก กอ.รมน. ออกมาแถลงว่า กอ.รมน. รับโอนหน้าที่ของ คสช. หลังหมดอำนาจ[16]ในเดือนเมษายน ปี 2563 มีการจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ขึ้น
ฐาน
- ศูนย์บัญชาการของกอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ตั้งอยู่ในค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี[17]
เชิงอรรถ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ กอ.รมน. เก็บถาวร 2018-11-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เว็บไซต์ ส่วนงานมวลชนและกิจการพิเศษ กอ.รมน. เก็บถาวร 2018-11-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน