เศรษฐา ทวีสิน

อดีตนายกรัฐมนตรีไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

เศรษฐา ทวีสิน (เกิด 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505) ชื่อเล่น นิด เป็นนักธุรกิจและนักการเมืองชาวไทย นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 30 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภายหลังการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เศรษฐาในฐานะบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี (แคนดิเดต) ของพรรคเพื่อไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถัดจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน ระหว่างการประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 30
เริ่มดำรงตำแหน่ง
22 สิงหาคม พ.ศ. 2566[1]
(0 ปี 249 วัน)
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
รอง
ก่อนหน้าประยุทธ์ จันทร์โอชา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เริ่มดำรงตำแหน่ง
1 กันยายน พ.ศ. 2566
(0 ปี 239 วัน)
นายกรัฐมนตรีตนเอง
รัฐมนตรีช่วยกฤษฎา จีนะวิจารณะ
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์
ก่อนหน้าอาคม เติมพิทยาไพสิฐ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 (62 ปี)
จังหวัดพระนคร ประเทศไทย
พรรคการเมืองเพื่อไทย (2565–ปัจจุบัน)
คู่สมรสพักตร์พิไล ปลัดรักษา (สมรส 2532)
บุตร
  • ณภัทร
  • วรัตม์
  • ชนัญดา
บุพการี
  • อำนวย ทวีสิน (บิดา)
  • ชดช้อย ทวีสิน (มารดา)
ที่อยู่อาศัยทำเนียบรัฐบาล
บ้านพิษณุโลก
ศิษย์เก่าโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์
มหาวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาแคลร์มอนต์
อาชีพนักธุรกิจ
นักการเมือง
ทรัพย์สินสุทธิ659.39 ล้านบาท (พ.ศ. 2566)[2]
ลายมือชื่อ

เขาได้รับการศึกษาในสหรัฐ ต่อมาเขาร่วมก่อตั้ง บมจ.แสนสิริ ใน พ.ศ. 2531 ซึ่งต่อมากลายเป็นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย และทำให้เขาเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทรงอิทธิพล ในฐานะประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทดังกล่าว ก่อนลาออกเพื่อเข้าสู่เส้นทางการเมือง[3] เขาเป็นคนสนิทของทั้งทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อมาได้รับการแต่งตั้งจากพรรคเพื่อไทยให้ทำหน้าที่เป็นประธานที่ปรึกษาของแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของทักษิณ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อีกทั้งเป็นหนึ่งในสามแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2566 ร่วมกับแพทองธาร และชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด[4]

หลังพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และมอบสิทธิ์ดังกล่าวให้พรรคเพื่อไทย พรรคได้รวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล และเสนอชื่อเศรษฐาให้รัฐสภาพิจารณา เขาได้รับการลงมติเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภาตามเกณฑ์ที่กำหนด และต่อมาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แต่งตั้งเขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นเขาพบหารือกับทั้งนักธุรกิจจากบริษัทขนาดใหญ่ และว่าที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งเขาควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย เพื่อดำเนินโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทตามที่ได้หาเสียงไว้ โดยเขาเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายของโครงการนี้

ปฐมวัยและการศึกษา

เศรษฐา ทวีสิน เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 ที่จังหวัดพระนคร โดยเติบโตในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย[5] เขาเป็นบุตรเพียงคนเดียวของร้อยเอกอำนวย ทวีสิน[6] และชดช้อย ทวีสิน (สกุลเดิม จูตระกูล)[6][7][8][9] โดยบิดาเสียชีวิตตั้งแต่เขาอายุสามขวบ[10]

เศรษฐามีศักดิ์เป็นหลานอาของคุณหญิงพิมพา สุนทรางกูร ภริยาของพลเอก ประจวบ สุนทรางกูร อดีตอธิบดีกรมตำรวจ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย[10] ส่วนสายสกุลทางมารดาเกี่ยวข้องกับตระกูลนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน 5 ตระกูล ได้แก่ ยิบอินซอย, จักกะพาก, จูตระกูล, ล่ำซำ และบุรณศิริ[6][9][11]

เขาสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร[12] ปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์[13] และปริญญาโท สาขาการเงิน มหาวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาแคลร์มอนต์ (Claremont Graduate University) ในสหรัฐ[14]

การทำงาน

หลังจากสำเร็จการศึกษาใน พ.ศ. 2529 เศรษฐาเดินทางกลับมาทำงานที่ประเทศไทยในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (Procter & Gamble) เป็นระยะเวลา 4 ปี[4][15] ต่อมาเขาร่วมกับอภิชาติ จูตระกูล และวันจักร์ บุรณศิริ ซึ่งทั้งสามเป็นลูกพี่ลูกน้องกันผ่านสายสกุลฝั่งมารดา[6][16] ก่อตั้งแสนสิริใน พ.ศ. 2531 ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย[17] โดยภาระหน้าที่ส่วนใหญ่ของเขาประกอบด้วยการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์, การบริหาร และการขับเคลื่อนธุรกิจที่กำลังเติบโตตามแผนของคณะกรรมการบริหารบริษัท

ใน พ.ศ. 2563 เขาซื้อที่ดินที่แพงที่สุด ราคา 3.9 ล้านบาทต่อตารางวา บนถนนสารสินติดกับสวนลุมพินี ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งอาคารสำนักงานของ บมจ. ที ไลฟ์ ประกันชีวิต[18][19] ด้วยการบริหารจัดการของเขา แสนสิริยังคงสามารถเติบโตได้แม้จะอยู่ในช่วงการระบาดทั่วของโควิด-19[20] และก่อนได้รับการเสนอในบัญชีรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยสำหรับการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2566 เขาได้โอนหุ้นทั้งหมดในแสนสิริ คิดเป็นสัดส่วน 4.4% ของทุนจดทะเบียนบริษัทในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2566 ให้กับชนัญดา ทวีสิน ผู้เป็นบุตรสาวของเขา[21]

งานการเมือง

ระหว่างวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 เขาได้ต่อต้านการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. จนกระทั่งภายหลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติซึ่งนำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกให้เข้ารายงานตัวที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์[22] หลังจากนั้น เมื่อเกิดการระบาดทั่วของโควิด-19 และการประท้วงซึ่งนำโดยกลุ่มเยาวชน เศรษฐาได้วิจารณ์การบริหารสถานการณ์ดังกล่าวของรัฐบาลซึ่งมีประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น[23]

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 พรรคเพื่อไทยได้แต่งตั้งให้เศรษฐาเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยมีหน้าที่ให้คำปรึกษาหรือดำเนินการตามที่แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมอบหมาย[24]

การเลือกตั้ง สส. เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566

เศรษฐา ทวีสิน ในสัมภาษณ์การหาเสียง

ในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2566 เขาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสามบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี (แคนดิเดต) ของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2566[25][26] เขามักได้รับความนิยมตามหลังแพทองธารในผลสำรวจบุคคลที่สนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขาเริ่มหาเสียงจากเขตคลองเตยในกรุงเทพมหานคร และกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกที่จังหวัดพิจิตร ต้นเดือนเมษายน เขาประกาศว่าหากตนเป็นนายกรัฐมนตรี จะดำเนินโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับประชาชนสัญชาติไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน[27] กลางเดือนเดียวกัน เขากล่าวที่จังหวัดเลยว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่มีส่วนร่วมในการรัฐประหาร พ.ศ. 2557[22]

หลังการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม พรรคเพื่อไทยได้รับคะแนนเสียงเป็นลำดับที่สองตามหลังพรรคก้าวไกล และเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลร่วมกับอีก 6 พรรค โดยมีการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน[28] ในช่วงเวลาดังกล่าวเศรษฐาสนับสนุนพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลมาโดยตลอด[29][30] อย่างไรก็ดี ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีครั้งแรกของที่ประชุมร่วมรัฐสภา (ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา) เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พิธาได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดของรัฐสภาตามที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 กำหนด[31] ต่อมาในวันที่ 19 กรกฎาคม รัฐสภามีมติห้ามเสนอชื่อพิธาซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน ส่งผลให้พรรคก้าวไกลมอบสิทธิ์การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้พรรคเพื่อไทย โดยพรรคเพื่อไทยได้ยกเลิกบันทึกความเข้าใจฉบับดังกล่าว ต่อมาพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาลในวันที่ 7 สิงหาคม

ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้องจากผู้ตรวจการแผ่นดินให้สืบสวนการขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญของมติรัฐสภาที่ห้ามไม่ให้เสนอชื่อพิธาอีกครั้ง ทำให้พรรคเพื่อไทยมีมติเสนอชื่อเศรษฐาให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี[32][33] หลังจากนั้นพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติก็เข้าร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน แม้จะขัดกับสัญญาที่ให้ไว้ก่อนการเลือกตั้ง แต่เศรษฐากล่าวว่ามีความจำเป็น[34][35][36]

การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เศรษฐาให้สัมภาษณ์หลังการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เสร็จสิ้น
เศรษฐาถ่ายภาพร่วมกับผู้นำเอเปคในการประชุมที่ซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีรอบที่ 3 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเขาได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบ 482 เสียง จากจำนวนสมาชิกที่ลงคะแนนทั้งหมด 728 คน ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ[37] ส่งผลให้เศรษฐาได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 30[38] และคะแนนเห็นชอบส่วนหนึ่งในครั้งนี้มาจากอดีตสมาชิกของคณะรัฐประหารที่เคยมีส่วนร่วมในการรัฐประหารรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ครั้ง คือ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ อาทิ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อาทิ พลเอก ปรีชา จันทร์โอชา, พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว, พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร, พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง เป็นต้น[39] เศรษฐาจึงเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ได้รับการเห็นชอบจากสมาชิกคณะรัฐประหารทั้ง 2 คณะข้างต้น

เศรษฐาพบกับเอกอัครราชทูตสหรัฐ รอเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก ที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทยใน พ.ศ. 2566
เศรษฐากล่าวสุนทรพจน์ที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 78 ใน พ.ศ. 2566

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย แทนที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566[40][41] โดยมีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการในช่วงเย็นของวันถัดมา ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย[42] ต่อมาในวันที่ 24 สิงหาคม เศรษฐาได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล[43] นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การปฏิวัติ พ.ศ. 2475 ที่นายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ เข้าพบนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่ในรัฐบาลรักษาการ[44] วันต่อมาเขาลงพื้นที่ครั้งแรกหลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่จังหวัดภูเก็ตและต่อไปยังจังหวัดพังงาในวันรุ่งขึ้น[45] ทั้งนี้ การเดินทางดังกล่าวเป็นไปในนามพรรคเพื่อไทย[46]

ต่อมาเขาได้พบกับนักธุรกิจชั้นนำ ได้แก่ วิชิต สุรพงษ์ชัย กับอาทิตย์ นันทวิทยา จากเอสซีบี เอกซ์, ฐาปน สิริวัฒนภักดี จากไทยเบฟเวอเรจ, ศุภชัย เจียรวนนท์ จากเครือเจริญโภคภัณฑ์, ปลิว ตรีวิศวเวทย์ จาก ช.การช่าง, อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา จากคิง เพาเวอร์, จรีพร จารุกรสกุล จากดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น รวมถึงสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย[47] ถัดมาเขาได้พบกับสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ และหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร บุคลากรในทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าจะได้โควต้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หลังการหารือดังกล่าว เศรษฐาประกาศว่าจะลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันดีเซลทันทีหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก[48]

ในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ โดยเศรษฐาควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง[49] สองวันต่อมาเขาพร้อมด้วย ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ว่าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ว่าที่ผู้บัญชาการทหารบก และพลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ว่าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ ณ โรงแรมโรสวู้ด กรุงเทพ ถนนเพลินจิต[50] วันถัดจากนั้นเขากล่าวว่าตนกับพลเอกทรงวิทย์จะเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในช่วงกลางเดือนกันยายน เนื่องจากมีประเด็นการเจรจาด้านความมั่นคงกับสหรัฐ[51]

เศรษฐาได้นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ รวมจำนวน 33 คน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ในช่วงบ่ายของวันที่ 5 กันยายน[52] หลังจากนั้นเขากล่าวว่ารัฐบาลจะฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ภายใต้หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน และจะสร้างความเท่าเทียมเพื่อเปลี่ยนไทยสู่ประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนในอนาคต[53] ในวันรุ่งขึ้นเขาได้นัดประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นกรณีพิเศษ[54] อีกทั้งมีการเผยแพร่คำแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแก่สื่อมวลชน[55]

เขาลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน[56] ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในอีก 4 วันถัดจากนั้น[53] ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายซึ่งใช้เวลา 2 วัน (11 และ 12 กันยายน) คณะรัฐมนตรีจึงประชุมอย่างเป็นทางการนัดแรกในวันรุ่งขึ้น (13 กันยายน) โดยเขาได้แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยมีตนเองเป็นประธานกรรมการ, แพทองธาร ชินวัตร เป็นรองประธานกรรมการ และมีกรรมการอื่น เช่น ชฎาทิพ จูตระกูล, พิมล ศรีวิกรม์, หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล, ดวงฤทธิ์ บุนนาค ,เสริมคุณ คุณาวงศ์,วิเชียร ฤกษ์ไพศาล เป็นต้น โดยมีนายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นกรรมการและเลขานุการ[57] เขายังแต่งตั้งนลินี ทวีสิน เป็นผู้แทนการค้าไทยอีกด้วย[58] 2 วันถัดมา (15 กันยายน) เขาได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยมีกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธานที่ปรึกษา[59]

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการอีก 2 ชุด คือ คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท[60] และคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยตนเองเป็นประธานกรรมการทั้ง 2 ชุด[61] ในวันเดียวกันเกิดเหตุกราดยิงที่สยามพารากอน เขาสั่งการให้พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะทำงาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบเป็นระยะ[62] ภายหลังเหตุการณ์สงบลง เขาได้กล่าวแสดงความเสียใจและให้กำลังใจแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ[63] อีกทั้งได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ[64] และเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ[65] ในช่วงค่ำวันเดียวกัน วันต่อมาในพิธีเปิดโซนเอสซีบี เอกซ์ เน็กซ์ เทค ในอาคารดังกล่าว เขากล่าวว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์กราดยิงเช่นนี้อีก และว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันและความปลอดภัยของประชาชน[66] อีกทั้งกล่าวว่ามีกำหนดเดินทางไปพบเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อรายงานเหตุการณ์และขอโทษด้วยตนเอง[67]

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเพื่อดำเนินงานต่อเนื่องจากสมัยรัฐบาลประยุทธ์ โดยเศรษฐาเป็นรองประธานกรรมการในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง[68]

ข้อวิจารณ์

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นกล่าวโทษเศรษฐาต่อพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สืบสวนการซื้อที่ดินของเศรษฐาเมื่อปี พ.ศ. 2563 ซึ่งชูวิทย์อ้างว่าเศรษฐาและแสนสิริมีพฤติการณ์หลบเลี่ยงภาษี[69] ต่อมาอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ชี้แจง โดยระบุว่าสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินแปลงดังกล่าวระหว่างแสนสิริกับผู้ขาย กำหนดให้ผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบภาษีอากร ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ประกอบกับเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของผู้ขายในการเสียภาษีอากรข้างต้นด้วย หลังจากนั้นเศรษฐาได้ยื่นฟ้องร้องชูวิทย์ในข้อหาหมิ่นประมาทและเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 500 ล้านบาท[70]

หลังการลงมติรัฐสภาเสียงข้างมากรับรองการเป็นนายกรัฐมนตรีของเศรษฐา เขาถูกวิจารณ์โดยสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้สนับสนุนและลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทย รวมถึงคาดหวังให้เศรษฐาดำรงตำแหน่งในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ว่าเศรษฐาได้มาซึ่งตำแหน่งจากการ "ถอนตัวจากพรรคฝ่ายประชาธิปไตยแล้วไปจับมือกับพรรคสืบทอดอำนาจ"[71]

ในห้วงการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2566 ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค วิจารณ์คำแถลงนโยบายของรัฐบาลเศรษฐาว่าคลุมเครือและไม่มีเป้าหมายหรือกรอบเวลา ศิริกัญญากล่าวว่า "คำแถลงนโยบายนี้ก็ไม่แตกต่างไปจากเอกสารที่ออกมาก่อนหน้า ไม่ได้บอกอะไร มีแค่คำพูดกว้าง ๆ ไม่มีตัวชี้วัดและมีแต่คำขยายเต็มไปหมด ถ้าบอกว่านี่คือจีพีเอส ประเทศก็คงหลงทาง ว่างเปล่า"[72][73][74]

ชีวิตส่วนตัว

ชีวิตของเศรษฐาในช่วงวัยเด็กมักป่วยบ่อย และตรวจพบว่าไตข้างหนึ่งไม่แข็งแรง จึงต้องผ่าตัดเอาไตข้างดังกล่าวออก ด้วยเหตุนี้จึงเน้นรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เขามักรับประทานผักก่อนอาหารจานหลักเสมอ[75] เขาเคยให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าตนมีบุคลิกขึงขัง จริงจัง แต่มีความประนีประนอม[76]

ในวันที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขามีส่วนสูง 192 เซนติเมตร เป็นผู้นำรัฐบาลในกลุ่มอาเซียนที่มีความสูงมากที่สุด และสูงเป็นอันดับสามของโลก รองจากเอดี รามา นายกรัฐมนตรีแอลเบเนีย และอาเล็กซานดาร์ วูชิช ประธานาธิบดีเซอร์เบีย[77]

เขาสมรสกับแพทย์หญิงพักตร์พิไล (สกุลเดิม: ปลัดรักษา) มีบุตรด้วยกัน 3 คน เขายังเป็นหนึ่งในกลุ่มแฟนคลับของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล[78] โดยในนัดชิงชนะเลิศของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อปี พ.ศ. 2561 เศรษฐาได้จองแพกเกจวีไอพีและร่วมฉลองแชมป์กับลิเวอร์พูลที่โรงแรมในกรุงเคียฟด้วย[79] นอกจากนี้เขายังชอบสะสมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ และเคยมีการจัดแสดงคอลเลกชันดังกล่าวต่อสาธารณะในปี พ.ศ. 2565[80]

เขาใช้เอ็กซ์เป็นช่องทางสื่อสารออนไลน์ตั้งแต่ พ.ศ. 2552[81]

ดูเพิ่ม

ลำดับสาแหรก

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

ก่อนหน้าเศรษฐา ทวีสินถัดไป
ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 30
(ครม. 63)

(22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 – ปัจจุบัน)
อยู่ในวาระ
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
(ครม. 63)

(1 กันยายน พ.ศ. 2566 – ปัจจุบัน)
อยู่ในวาระ
🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง