จีนา แฮสเปล

จีนา เชรี แฮสเปล (เกิด 1 ตุลาคม พ.ศ. 2499) เป็นเจ้าหน้าที่ด้านข่าวกรอง อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ คนที่ 7 ซึ่งแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ดอนัลด์ ทรัมป์[1][2][3] ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 และวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติรับรองการเข้ารับตำแหน่งของเธอเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมาซึ่งสืบต่อจาก ไมก์ ปอมเปโอ และเธอเป็นสุภาพสตรีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้[2][3][4][5][6]

จีนา แฮสเปล
ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ คนที่ 7
ดำรงตำแหน่ง
พฤษภาคม 21, 2018 – มกราคม 20, 2021
ประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมป์
รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ
คนที่ 6
ดำรงตำแหน่ง
มกราคม 7, 2017 – พฤษภาคม 21, 2018
ประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมป์
ก่อนหน้าเดวิด โคเฮน
ถัดไปว่าง
ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการลับแห่งชาติ สหรัฐ
รักษาการ
ดำรงตำแหน่ง
กุมภาพันธ์ 28, 2013 – พฤษภาคม 7, 2013
ประธานาธิบดีบารัก โอบามา
ก่อนหน้าจอห์น เบ็นเน็ต
ถัดไปแฟรงค์ อาชิบาลด์
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด
Gina Cheri Haspel
จีนา เชรี แฮสเปล

(1956-10-01) 1 ตุลาคม ค.ศ. 1956 (67 ปี)

เธอถูกโจมตีอย่างหนักเมื่อครั้นยังเป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการ CIA ในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2545 ซึ่งนักโทษถูกทรมานด้วยความโหดร้าย[7][8][9][10] ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้ทรมานอย่างเหี้ยมโหด[11] และถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรสงคราม[12][13]

การรับราชการที่สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ

แฮสเปล ได้เข้าร่วมสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ ใน พ.ศ. 2528 และได้ดำรงตำแหน่งสูงสุดหลายตำแหน่งในหน่วยงานนี้รวมถึงตำแหน่งรองผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการลับแห่งชาติ ภายหลังเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของ โจซ โรดิเกซ ซึ่งเป็นหัวหน้าศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ ในไดอารี่ของเขา ได้เขียนถึงแฮสเปลว่า เธอได้ "ใช้เส้นสาย" ใน พ.ศ. 2558 ในสั่งการทำลายหลักฐานวิดีโอเทปที่เกี่ยวกับฐานปฏิบัติการลับในประเทศไทย[14]

รองผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการลับแห่งชาติ

ใน พ.ศ. 2556 จอห์น เบรนแนน ผู้อำนวยการแผนกข่าวกรองกลางสหรัฐในขณะนั้น เสนอชื่อเธอให้ได้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการลับแห่งชาติ ซึ่งหน้าที่ดำเนินการภารกิจอย่างลับ ๆ ทั่วโลก[15] อย่างไรก็ตาม เธอได้ปฏิเสธตำแหน่งอย่างถาวร เนื่องจากมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของเธอในการคุมขังและการสอบปากคำ[16] แฮสเปลเคยดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการลับแห่งชาติ ฝ่ายข่าวกรองต่างประเทศและปฏิบัติการลับอีกด้วย .[17]

รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ประธานาธิบดี ดอนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้งเธอเป็นรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ[18] นแถลงการณ์อย่างเป็นทางการออกมาในวันนั้น ประธานกรรมาธิการสรรหาด้านข่าวกรอง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดวิน นูเนส กล่าวว่า[19]

"ด้วยประสบการณ์กว่าสามสิบปีในการให้บริการแก่ซีไอเอ และประสบการณ์จากต่างประเทศอย่างกว้างขวาง เธอได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับกรรมาธิการข่าวกรอง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และได้สร้างความประทับใจให้แก่เราด้วยความทุ่มเทของเธอตรงไปตรงมา และความมุ่งมั่นทุ่มเทให้แก่เครือข่ายข่าวกรอง เธอเป็นคนที่เหมาะสมสำหรับงานและคณะกรรมการคาดว่าจะได้ร่วมงานกับเธอในอนาคต"

ต่อมาในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 สมาชิกของคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาสหรัฐหลายคน ได้เรียกร้องให้ทรัมป์พิจารณาทบทวนการแต่งตั้ง แฮสเปลเป็นรองผู้อำนวยการฯ[20] สมาชิกวุฒิสภา เชลดอน ไวท์เฮ้าส์ ได้อ้างถึงสมาชิกวุฒิสภา รอน ไวเดน และ สมาชิกวุฒิสภา มาร์ติน เฮนริช ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรรมาธิการฯ ความว่า :

"ผมมีความกังวลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับการมีรายงานว่าบุคคลนี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำลายเทปวีดีทัศน์ของ CIA โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับการใช้ทรมานของผู้ถูกกักขังสองคน เพื่อนของผมสมาชิกวุฒิสภาไวเดน และ สมาชิกวุฒิสภา เฮนริช กล่าวว่า มีรายละเอียดข้อมูลลับ ๆ ว่าทำไมรองผู้อำนวยการคนใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้ง ถึงไม่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งและขอให้ข้อมูลเหล่านี้เป็นความลับอีกต่อไป ผมก็รับคำขอของพวกเขา"

15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 สเปนเซอร์ แอคเคอร์แมน ได้รายงานว่า นักจิตวิทยา บรูซ เจนเซ่น และ เจมส์ มิตเชลล์ ผู้ออกแบบโครงการสอบปากคำที่รุนแรงขึ้น ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อทำลาย อาบู ซูไบดาห์ และต่อมาได้ถูกใช้ต่อผู้ถูกคุมขังคนอื่น ๆ ที่เรือนจำลับของซีไอเอทั่วโลก เจนเซ่น และ มิตเชลล์กำลังถูกฟ้องร้องโดย สุไลมาน อับดุลลาห์ ซาลิม, โมฮัมเหม็ด อาเหม็ด เบน ซูอุด และ โอเบด อุลลาห์ ที่ถูกทรมานโดยนักจิตวิทยา เจนเซ่น และ มิตเชลล์ กำลังพยายามบังคับให้ แฮสเปลและเพื่อนร่วมงานของเธอ เจมส์ โคทเซน่า เพื่อเป็นพยานในฝั่งของพวกเขา[21][22]

การได้รับการเสนอชื่อให้เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2561 ประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมป์ ประกาศผ่านทาง Twitter ว่าเขาจะเสนอชื่อ แฮสเปลให้เป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ ซึ่งจะทำให้เธอเป็นผู้อำนวยการคนแรกของซีไอเอ ที่เป็นสุภาพสตรี[23]

อ้างอิง

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง