ฉันท์

ฉันท์ เป็นลักษณ์หนึ่งของการประพันธ์ประเภทร้อยกรองในวรรณคดีไทยที่บังคับเสียงหนัก - เบาของพยางค์ ที่เรียกว่า ครุ - ลหุ ฉันท์ในภาษาไทยรับแบบมาจากประเทศอินเดีย ตำราฉันท์ที่เก่าแก่ที่สุดของอินเดียเป็นภาษาสันสกฤต คือ ปิงคลฉันทศาสตร์ แต่งโดยปิงคลาจารย์ ส่วนตำราฉันท์ภาษาบาลีเล่มสำคัญที่สุดได้แก่ คัมภีร์วุตโตทัยปกรณ์ ผู้แต่งคือ พระสังฆรักขิตมหาสามี เถระชาวลังกา แต่งเมื่อ พ.ศ. 1703 เป็นที่มาของ คัมภีร์วุตโตทัย ซึ่งเป็นต้นตำหรับการแต่งฉันท์ของไทย[1] เมื่อคัมภีร์วุตโตทัยแพร่หลายเข้ามาในประเทศไทย กวีจึงได้ปรับปรุงให้เหมาะกับขนบร้อยกรองไทย เช่น จัดวรรค เพิ่มสัมผัส และเปลี่ยนลักษณะครุ-ลหุแตกต่างไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความไพเราะของภาษาไทยลงไป

ฉันทลักษณ์ไทย
กาพย์
กลอน
โคลง
ฉันท์
ร่าย
ร้อยกรองแบบใหม่
กลวิธีประพันธ์
กลบท
กลอักษร

ฉันท์ ในคัมภีร์วุตโตทัยได้แปลงเป็นฉันท์ไทยครบทั้ง 108 ชนิด ในสมัยรัชกาลที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยนายฉันท์ ขำวิไล เป็นผู้ดัดแปลงเพิ่มเติมจนครบถ้วนและจัดพิมพ์รวมเล่มทั้งหมดในปี พ.ศ. 2474 ใช้ชื่อว่า ฉันทศาสตร์

นอกเหนือจากฉันท์ทั้ง 108 ชนิดดังกล่าวแล้ว กวีได้ทดลองประดิษฐ์ฉันท์ในรูปแบบใหม่ ๆ โดยดัดแปลงจากฉันท์เดิมบ้าง โดยเลียนเสียงเครื่องดนตรีบ้าง หรือโดยแรงบันดาลใจจากฉันท์ต่างประเทศ หรือชื่อบุคคลสำคัญบ้าง อย่างไรก็ตาม ฉันท์ที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ ล้วนจัดอยู่ในประเภทฉันท์วรรณพฤติทั้งสิ้น[2]

ฉันท์ในคัมภีร์วุตโตทัย

มีทั้งสิ้น 108 ชนิด แบ่งเป็น ฉันท์วรรณพฤติ ซึ่งบังคับพยางค์ จำนวน 81 ชนิด กับ ฉันท์มาตราพฤติ ซึ่งบังคับมาตรา จำนวน 27 ชนิด

ฉันท์วรรณพฤติ

ฉันท์วรรณพฤติ มีทั้งสิ้น 81 ชนิด บังคับจำนวนพยางค์ ตั้งแต่ บาทละ 6 พยางค์ ถึง 25 พยางค์ แต่ ฉันท์ที่คนไทยนิยมแต่ง มีเพียงไม่กี่ชนิด ได้แก่

จิตรปทาฉันท์ 8

หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอน

ลักษณะครุ-ลหุเหมือนกับทุกบาท คือ ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

เหตุพินาศอนุศาสน์ แสดง
ฉัพพิธะแจงนรปรีชา
เชิญมละโทษดุจพรรณนา
จักยศถาวรสวัสดี
ฉันทภิปรายอธิบายบท
คามภิรพจน์ศุภสารศรี
จิตระปทาพฤตินามมี
จินตกวีรนิพนธ์แถลง
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)

วิชชุมมาลาฉันท์ 8

วิชชุมมาลาฉันท์ มีความหมายว่า "ระเบียบแห่งสายฟ้า" ประกอบด้วยครุล้วน จึงใช้บรรยายความอย่างธรรมดา

หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอน

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

แรมทางกลางเถื่อนห่างเพื่อนหาผู้
หนึ่งในนึกดูเห็นใครไป่มี
หลายวันถั่นล่วงเมืองหลวงธานี
นามเวสาลีดุ่มเดาเข้าไป
ผูกไมตรีจิตเชิงชิดชอบเชื่อง
กับหมู่ชาวเมืองฉันอัชฌาสัย
เล่าเรื่องเคืองขุ่นว้าวุ่นวายใจ
จำเป็นมาในด้าวต่างแดนตน
สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต

มาณวกฉันท์ 8

มาณวกฉันท์ มีความหมายว่า "ประดุจเด็กหนุ่ม" ใช้แต่งบรรยายความที่รวดเร็ว

หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 คำ ส่งสัมผัสแบบกลอน

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

ล่วงลุประมาณกาลอนุกรม
หนึ่งณนิยมท่านทวิชงค์
เมื่อจะประสิทธิ์วิทยะยง
เชิญวรองค์เอกกุมาร
เธอจรตามพราหมณไป
โดยเฉพาะในห้องรหุฐาน
จึงพฤฒิถามความพิสดาร
ขอ ธ ประทานโทษะและไข
สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต

ปมาณิกฉันท์ 8

หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอน

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาทคือ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

ประดิษฐ์ประดับประคับประคอง
ละเบงละบองจำแนกจำนรร
ระเบียบและบทสุพจน์สุพรรณ์
จะเฉิดจะฉันวิเรขวิไล
ลิลิตลิลาศมิคลาดมิคล้อย
ก็เรียบก็ร้อยอำพนอำไพ
จะจัดจะแจงผิแขงผิไข
แถลงไถลก็เสื่อมก็ทราม
(ฉันทศาสตร์)

อุปัฏฐิตาฉันท์ 11

หมายถึงฉันท์ที่กล่าวสำเนียงอันดังก้องให้ปรากฏ

หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

เห็นเชิงพิเคราะห์ช่องชนะคล่องประสบสม
พราหมณ์เวทอุดมธก็ลอบแถลงการณ์
ให้วัลลภะชนคมะดลประเทศฐาน
กราบทูลนฤบาลอภิเผ้ามคธไกร
สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต

อินทรวิเชียรฉันท์ 11

อินทรวิเชียรฉันท์ มีความหมายว่า "ฉันท์ที่มีลีลาดุจสายฟ้าของพระอินทร์" เป็นฉันท์ที่นิยมแต่งกันมากที่สุด มีลักษณะและจำนวนคำคล้ายกับกาพย์ยานี 11 แต่ต่างกันเพียงที่ว่าอินทรวิเชียรฉันท์ มีข้อบังคับ ครุและลหุ

หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

บงเนื้อก็เนื้อเต้นพิศะเส้นสรีร์รัว
ทั่วร่างและทั้งตัวก็ระริกระริวไหว
แลหลังก็หลั่งโล-หิตโอ้เลอะหลั่งไป
เพ่งผาดอนาถใจตละล้วนระรอยหวาย
สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต

อุเปนทรวิเชียรฉันท์ 11

หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

ทิชงค์เจาะจงเจตน์กละห์เหตุยุยงเสริม
กระหน่ำและซ้ำเติมนฤพัทธะก่อการ
ละครั้งระหว่างคราทินะวาระนานนาน
เหมาะท่าทิชาจารย์ธก็เชิญเสด็จไป
สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต

อุปชาติฉันท์ 11

หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ

  • บาทที่ 1 และบาทที่ 4 เป็นอุเปนทรวิเชียรฉันท์ คือ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
  • บาทที่ 2 และบาทที่ 3 เป็นอินทรวิเชียรฉันท์ คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

พิธีณะฉันทศาสตร์อุปชาตินามเห็น
เชลงลักษณลำเค็ญกลนัยสลับกัน
นาเนกะบัณฑิตย์จะประกิจประกอบฉันท์
พินิจฉบับบรรพ์บทแน่ตระหนักใจ
(ประชุมจารึกวัดประเชตุพนฯ)

สาลินีฉันท์ 11

หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

พราหมณ์ครูรู้สังเกตประจักษ์เหตุตระหนักครัน
ราชาวัชชีสรรพะจักสู่พินาศสม
ยินดีบัดนี้กิจจะสัมฤทธิ์มนารมณ์
ทำมาด้วยปรากรมและอุตสาหะแห่งตน
สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต

สวาคตาฉันท์ 11

หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 7 พยางค์ วรรคหลัง 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

ข้าสดับสุมะทะนาวจะว่าวอน
ใจก็นึกกรุณะหล่อนฤดิสงสาร
เล็งก็รู้ณพะหุเหตทุขะเภทพาล
ใคร่จะช่วยและอุปะการยุวะนารี
มัทนะพาธา, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

วังสัฏฐฉันท์ 12

หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 7 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

อนี้และนามวังสฐะดั่งฉบับนิพนธ์
ประกอบวิธียลบทแบบก็แยบขบวน
ดิเรกะวิญญูชนะรู้แลใคร่แลครวญ
สนุกเสนอควรสุขจิตรประดิษฐ์ณะฉันท์
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)

อินทวงศ์ฉันท์ 12

หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 7 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

ราชาประชุมดำ-ริหะโดยประการะดัง
ดำรัสตระบัดยังวจนัตถ์ปวัตติพลัน
ให้ราชภัฏโปริสะไปขมีขมัน
หาพราหมณ์ทุพลอันบุระเนระเทศะมา
สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต

โตฎกฉันท์ 12

หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

มะทะนาดนุรักวรยอดยุพะดี
และจะรักบมิมีฤดิหน่ายฤระอา
ผิวะอายุจะยืนศะตะพรรษะฤกว่า
ก็จะรักมะทะนาบมิหย่อนฤดิหรรษ์
มัทนะพาธา, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ภุชงคประยาตฉันท์ 12

ภุชงคประยาตฉันท์ 12 มีความหมาย "งูเลื้อย" มีทำนองที่สละสลวย มักใช้แต่งกับเนื้อหาที่มีการต่อสู้ บทสดุดี บทชมความงาม บทถวายพระพร และบทสนุกสนาน นอกจักนั้นยังสามารถใช้แต่งบรรยายความให้รวดเร็วได้

หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

ทิชงค์ชาติ์ฉลาดยลคเนกลคนึงการ
กษัตริย์ลิจฉวีวารระวังเหือดระแวงหาย
เหมาะแก่การจะเสกสันปวัตติ์วัญจะโนบาย
มล้างเหตุพิเฉทสายสมัคคิ์สนธิ์สโมสร
สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต

กมลฉันท์ 12

หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

ทวิโลกยาฤๅคุณก็บุลยบันดาล
อภิมงคลาลาญทุวิบากวิบัติภัย
คณะฉันทสรรค์นามกรตามบุราณไข
บทกลอนกระมลไพเราะหพร้องลบองแสดง
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)

วสันตดิลกฉันท์ 14

วสันตดิลกฉันท์ มีความหมายว่า "ฉันท์ที่มีลีลาดังจอมเมฆในฤดูใบไม้ผลิ (ฤดูฝน)" เป็นหนึ่งในฉันท์ที่นิยมแต่งกันมากที่สุด เนื่องจากอ่านแล้วฟังได้รื่นหู รู้สึกซาบซึ้งจับใจ มักใช้แต่งชมความงาม และสดุดีความรักหรือของสูง

หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 14 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 8 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์

ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

แสงดาววะวาวระกะวะวับดุจะดับ บ เด่นดวง
แขลับก็กลับพิภพะสรวงมิสะพรึบพะพราวเพรา
เคยเห็นพระเพ็ญ ณ รัศมีรัชนีถนัดเนา
เหนือนั่นแน่ะพลันจะสละเงากลเงินอร่ามงาม
เหมือนพระจันทร์ข้างแรม, ชิต บุรทัต

มาลินีฉันท์ 15

ชื่อฉันท์แปลว่า ดอกไม้ เป็นฉันท์ที่แต่งยากแต่ทว่ามีความงามประดุจดอกไม้ ทำนองฉันท์สั้นกระชับในตอนต้น แล้วราบรื่นในตอนปลาย เป็นฉันท์ที่มีท่วงทำนองเคร่งขรึมน่ายำเกรง กวีมักใช้แต่งเพื่ออวดความสามารถในการใช้ศัพท์และเป็นเชิงกลบท

หนึ่งบทมี 15 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรคแรก 8 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ วรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก

ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ครุ ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

กษณะทวิชะรับฐานันดร์และที่วา
จกาจารย์
นิรอลสะประกอบภารพีริโยฬาร
และเต็มใจ
สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต

ประภัททกฉันท์ 15

หนึ่งบทมี 15 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 7 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก

ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

สุวุติปภัททการจิตนา
มกรประกาศ
บทคณฉันทศาสตร์นิกรปราชญ์
ประพฤติเพียร
พจนพิจิตรเรียนอลสะเพียร
มโนวิจารณ์
วิบุลยปรีชญาณพลจะชาญ
ฉลาดนิพนธ์
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)

วาณินีฉันท์ 16

หนึ่งบทมี 16 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรคแรก 7 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 5 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก

ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

นรนฤนาทภิบาลกลประมาณ
ประเล่ห์อุประมา
จะประพฤติราชกิจานุกิจสา \
ธุธรรม์บอาธรรม์
บุพบทวากยวรรณวุดิฉัน
ทวณินีนาม
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)

กุสุมิตลดาเวลลิตาฉันท์ 18

หนึ่งบทมี 18 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรคแรก 11 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก

ลักษณะครุ-ลหุ คือ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

เสวกพึงศึกษาณสุวสดิดอุด-
ดมดิเรกดุจวิการกถา
ฉันท์นี้ธีเรศอ้างกุสุมิตลดา
เวลลิตานามกรขนาน
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)

เมฆวิปผุชชิตาฉันท์ 19

หนึ่งบทมี 19 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 12 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก

ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

ขบวรเลบงเพรงพากย์พร้องก็เพราะพจนกลอน
เสนอกระวีวรทฤษฎี
ลบองเมฆวิปผุชชาติตาสุวุฒิกลมี
ฉันทคัมภีร์พฤโตทัย
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)

สัททุลลวิกกีฬิตฉันท์ 19

สัททุลลวิกกีฬิตฉันท์ มีความหมาย "เสือผยอง" ใช้แต่งบทไหว้ครู บทโกรธ และบทยอพระเกียรติ

หนึ่งบทมี 19 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรคแรก 12 พยางค์ วรรคสอง 5 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 2 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก

ลักษณะครุ-ลหุ คือ ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

พร้อมเบญจางคประดิษฐ์สฤษติตษฎี
กายจิตร์วจีไตรวาร
ไหว้คุณพระสุคตอนาวรณญาณ
ยอดศาสดาจารย์มุนี
อีกคุณสุนทรธรรมะคัมภิรวิธี
พุทธ์พจน์ประชุมตรีปิฎก
สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต

อีทิสังฉันท์ 20

อีทิสังฉันท์ 20 เป็นฉันท์ที่มีจังหวะกระแทกกระทั้น ฉะนั้นจึงใช้แต่งบรรยายความรัก ความวิตก และความโกรธ

หนึ่งบทมี 20 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 9 พยางค์ วรรคสอง 8 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก

ลักษณะครุ-ลหุ คือ ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

อ้าอรุณแอร่มระเรื่อรุจี
ประดุจมโนภิรมย์ระตีณ แรกรัก
แสงอรุณวิโรจน์นภาประจักษ์
แฉล้มเฉลาและโศภินักณ ฉันใด
หญิงและชาย ณ ยามระตีอุทัย
สว่าง ณ กลางกมลละไมก็ฉันนั้น
มัทนะพาธา, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

สัทธราฉันท์ 21

ฉันท์ที่มีลีลาวิจิตรประดุจสตรีเพศผู้ประดับด้วยพวงมาลัย

หนึ่งบทมี 21 พยางค์ แบ่งเป็น 4 วรรค วรรแรก 7 พยางค์ วรรคสอง 7 พยางค์ วรรคสาม 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก

ลักษณะครุ-ลหุ คือ

ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ
ครุ-ลหุ-ครุ-ครุลหุ-ครุ-ครุ

ตัวอย่างคำประพันธ์

อรรถแสดงแห่งเหตุพิเศษผลนิกรวิธุรชน
เชิญประกอบกลประกาศสาร
รังสรรค์ฉันทพากยโบราณบุนรจนวิถาร
สัทธราขนานณนามกร
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)

ฉันท์มาตราพฤติ

ฉันท์มาตราพฤติ เป็นฉันท์ที่บังคับมาตรา โดยกำหนดให้พยางค์เสียงหนักคือ พยางค์ครุเป็นพยางค์ละ 2 มาตรา ส่วนพยางค์เสียงเบา คือ พยางค์ลหุ เป็นพยางค์ละ 1 มาตรา ในคัมภีร์วุตโตทัยมีฉันท์มาตราพฤติ 27 ชนิด ตั้งแต่บทละ 45 มาตรา จนถึง 68 มาตรา แบ่งเป็น 4 พวกใหญ่ ๆ คือ

อริยชาติฉันท์

มี ๗ ชนิด ได้แก่ อริยฉันท์, อริยสามัญญฉันท์, อริยปัฐยาฉันท์, อริยวิปุลาฉันท์, อริยจปลาฉันท์, อริยมุขจปลาฉันท์ และ อริยชฆนจปลาฉันท์

คีติชาติฉันท์

มี ๔ ชนิด ได้แก่ คีติฉันท์, อุปคีติฉันท์, อูคีติฉันท์ และอริยคีติฉันท์

เวตาฬิยชาติฉันท์

มี ๙ ชนิด ได้แก่ เวตาฬิยฉันท์, โอปัจฉันทสกะฉันท์, อาปาตลิฉันท์, ลักขณันตฉันท์, อุทิจจวุตติฉันท์, ปัจจวุตติฉันท์, ปวัตตกฉันท์, อปรันติกฉันท์ และจารุหาสินีฉันท์

มัตตาสมกชาติฉันท์

มี ๗ ชนิด ได้แก่ อจลฐิติฉันท์, มัตตาสมกฉันท์, วิสิโลกฉันท์, วานวาสิกฉันท์, จิตราฉันท์, อุปจิตราฉันท์ และปาทากุลกฉันท์

ฉันท์มาตราพฤติเป็นฉันท์ที่กำหนดมาตรา ไม่กำหนดคณะฉันท์ ผู้แต่งสามารถพลิกแพลงอักษรใช้ได้หลายแบบในมาตราที่กำหนด ทำให้ดูขาดระเบียบ และไม่กำหนดฉันทลักษณ์ที่แน่นอนลงได้ รวมทั้งกำหนดจังหวะอ่านลำบาก กวีจึงไม่นิยมใช้ฉันท์มาตราพฤติในงานกวีนิพนธ์ จะมีก็แต่ในตำราฉันท์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเท่านั้น[2]

ฉันท์ประดิษฐ์ขึ้นใหม่

การประดิษฐ์ฉันท์ใหม่ของกวีตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่ามี 2 ลักษณะ[1]คือ

  • ฉันท์ที่ประดิษฐ์จากฉันท์เดิมในคัมภีร์วุตโตทัย
  • ฉันท์ที่ประดิษฐ์ใหม่จากแหล่งที่มาอื่น

ฉันท์ที่ประดิษฐ์จากฉันท์เดิมในคัมภีร์วุตโตทัย

ฉันท์ที่ประดิษฐ์ขึ้นในสมัยอยุธยาและปรากฏชื่อในจินดามณี

มี ๓ ชนิด คือ วิเชียรดิลกฉันท์, ดิลกวิเชียรฉันท์ และโตฎกดิลกฉันท์

  • วิเชียรดิลกฉันท์ เกิดจากการผสมระหว่างอินทรวิเชียรฉันท์ กับวสันตดิลกฉันท์ หนึ่งบทมี ๒ บาท ๒๕ พยางค์ บาทแรกเป็นอินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ พยางค์ บาทที่ ๒ เป็นวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ พยางค์ มีบังคับระหว่างบาทกับระหว่างบท ตัวอย่าง
เคยพาดพระหัตถ์เหนือ(๕)อุรราชกัลยา(๖)
กอดเกี้ยวคือกาญจนลดา(๘)อันโอบอ้อมทุมามาลย์(๖)
พิศพักตรมณฑลศศิบริสุทธิเปรียบปาน
เปรมร่วมมฤธูรสุบันดานรดีดัดบันเจิดใจ
(จินดามณี)
  • ดิลกวิเชียรฉันท์ เกิดจากการผสมระหว่างวสันตดิลกฉันท์ กับอินทรวิเชียรฉันท์ หนึ่งบทมี ๒ บาท ๒๕ พยางค์ บาทแรกเป็นวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ พยางค์ บาทที่ ๒ เป็นอินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ พยางค์ มีบังคับสัมผัสระหว่างบาทกับสัมผัสระหว่างบท ตัวอย่าง
อุรประทับอรถนัง(๘)บรามัสสิวรไวย(๖)
จุมพิตริมไร(๕)โอษฐคันฐกัลยา(๖)
บริสังคติพระอุระองค์อานุชพนิดา
สมสนุกนิเสน่หารสราคเอมอร
(จินดามณี)
  • 'โตฎกวิเชียรฉันท์ เกิดจากการผสมระหว่างโตฎกฉันท์ กับวสันตดิลกฉันท์ หนึ่งบทมี ๒ บาท ๒๖ พยางค์ บาทแรกเป็นโตฎกฉันท์ ๑๒ พยางค์ บาทที่ ๒ เป็นวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ พยางค์ มีบังคับสัมผัสระหว่างบาทกับสัมผัสระหว่างบท ตัวอย่าง
วรรังษิประไพ(๖)บุรโชติพรายพรรณ(๖)
เสตาเจนิรัตนสรรพ(๘)ปริโตปิลังโค(๖)
หรคัณหปิงคำกปิโลโลปิตโต
สิหัษรโทโพอรุโณภาศรัศศมี
(จินดามณี)

ฉันท์ที่ประดิษฐ์ในสมัยรัตนโกสินทร์

  • กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ได้ทรงประดิษฐ์ฉันท์ขึ้น ๕ ชนิด ในพระนิพนธ์เฉลิมเกียรติกษัตรีคำฉันท์ โดยผสมฉันท์ ๔ ชนิดได้แก่ อินทรวิเชียรฉันท์ วสันตดิลกฉันท์ ภุชงคปยาตฉันท์ และอินทวงศ์ฉันท์ เข้าด้วยกันเกิดเป็น ภุชพงศ์ฉันท์ (ผสมระหว่างภุชงคปยาตฉันท์กับอินทวงศ์ฉันท์) วสันตวงศ์ฉันท์ (ผสมระหว่างวสันตดิลกฉันท์กับอินทวงศ์ฉันท์) วสันตปยาตฉันท์ (ผสมระหว่างวสันตดิลกฉันท์กับภุชงคปยาตฉันท์) ภุชงควิเชียรฉันท์ (ผสมระหว่างภุชงคปยาตฉันท์กับอินทรวิเชียรฉันท์) และอินทรลิลาตฉันท์ (ผสมระหว่างอินทรวิเชียรฉันท์กับภุชงคปยาตฉันท์)

ตัวอย่างวสันตวงศ์ฉันท์ 15

ผัวเมียพม่าทุพละพาศน์หินะชาตินิวาศพนอม
ขัดแคลนนิแสนทุรนะตรอมอุระเท้งเขยงขยัน
ทำตาลก็นานนิตยะเพียงผละเลี้ยงชีวินละวัน
เกิดบุตรีก็สุดจะปิยะฉันชิวะพ่อพะนอถนอม
(เฉลิมเกียรติกษัตรีคำฉันท์)

ตัวอย่างอินทรลิลาตฉันท์ 11

ผ่านฟ้าพญาเสือดุร้ายเหลือและโลภโกง
เสมือนต้อนตะโพงโขลงพศกหาภุกาเมนทร์
ไทเอือนพระเหมือนม่านเพราะบักอานกะการเกณฑ์
เดือดดาลกะบาลเบนขบถไท้ผิใครชวน
(เฉลิมเกียรติกษัตรีคำฉันท์)
  • เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี หรือ ครูเทพได้นำเอาอินทรวิเชียรฉันท์มาแต่งสลับกับวสันตดิลกฉันท์ ใช้ชื่อว่า อินทวสัสตดิลกฉันท์ ดังตัวอย่าง
ราตรีก็แม่นมีขณะดีและร้ายปน
ไป่ผิดกะคนคนคุณโทษประโยชน์ถม
ราตรีกลีกลพิโรธหฤโหดกระหึมลม
มืดตื้อกระพือพิรุณพรมและฤเราจะแยแส
(โคลงกลอนของครูเทพ เล่ม ๒)
  • ชิต บุรทัต ได้แทรกครุ - ลหุ เพิ่มในกาพย์สุรางคนางค์ 28 ทำให้เกิดความไพเราะมากยิ่งขึ้น คนรุ่นต่อมาจึงมักเรียกเป็น สุรางคนางค์ฉันท์ 28 และเห็นว่าเหมาะสำหรับข้อความที่คึกคัก สนุกสนาน โลดโผน ตื่นเต้น

ตัวอย่างคำประพันธ์

สะพรึบสะพรั่ง
ณหน้าและหลังณซ้ายและขวา
ละหมู่ละหมวดก็ตรวจก็ตรา
ประมวลกะมาสิมากประมาณ
นิกายเสบียง
ก็พอก็เพียงพโลปการ
และสัตถภัณฑสรรพภาร
จะยุทธราญกะเรียกระดม
สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต
  • ประสาทพร ภูสุศิลป์ธร หรือนามปากกา คมทวน คันธนู ประดิษฐ์ฉันท์ใหม่ 15 ชนิด โดย
    • ผสมฉันเดิมสองแบบเข้าด้วยกัน 9 ชนิด ได้แก่
      • ทวนไฟฉันท์ 39 (สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ 19 ผสมกับอีทิสังฉันท์ 20)
      • เหมันตดิเรกฉันท์ 15 (วสันตดิลกฉันท์ 14 ผสมกับอินทวงศ์ฉันท์ 12) (ซ้ำกับวสันตวงศ์ฉันท์ 11 ของ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์)
      • อุเปนทรวังสัฏฐฉันท์ 23 (อุเปนทรวิเชียรฉันท์ 11 ผสมกับวังสัฏฐฉันท์ 12)
      • วงศ์วิเชียรฉันท์ 23 (อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ผสมกับอินทวงศ์ฉันท์ 12)
      • นาคเล่นน้ำฉันท์ 26 (ภุชงคปยาตฉันท์ 12 ผสมกับวสันตดิลกฉันท์ 26)
      • อินทวงศ์วังสัฏฐฉันท์ 12 (อินทวงศ์ฉันท์ 12 ผสมกับวังสัฏฐฉันท์ 12)
      • ภุชงควิเชียรฉันท์ 12 (ภุชงคปยาตฉันท์ 12 ผสมกับอินทรวิเชียรฉันท์ 11)
      • วิเชียรภุชงค์ฉันท์ 11 (อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ผสมกับภุชงคปยาตฉันท์ 12) (ซ้ำกับอินทรลิลาตฉันท์ 11 ของ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์)
      • อินทรวสันตฉันท์ 25 (อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ผสมกับวสันตดิลกฉันท์ 14)
    • เปลี่ยนแปลงครุลหุในฉันท์เดิม 6 ชนิด ได้แก่
      • ธนูฝนฉันท์ 17 (เพิ่มจากวสันตดิลกฉันท์ 14 อีก 3 พยางค์)
      • คิมหันตดรงฉันท์ 29 (เพิ่มลหุในวรรคที่ 2 ของวสันตดิลก 14)
      • คันฝุ่นฉันท์ 11 (ดัดแปลงอุปัฏฐิตาฉันท์ 11)
      • คมแฝกฉันท์ 40 (ดัดแปลงจากวิชชุมมาลาฉันท์ 8) บางทีเรียก ฉันท์ 40 หรือ อัษฎาดุริยางค์
        • ตัวอย่างคำประพันธ์
ความลับจะดำมืดความชืดจะชินชา
ด้วยเล่ห์ ณ เวลามองฟ้าสิอาจม
คนไทยไฉนเล่าโง่เง่าและงายงม
หลงชื่นระรื่นชมนานนมนิยมมา
ต่างเห็นจะเป็นเหยื่อเฝ้าเชื่อและบูชิต
ยิ่งคาดอนาถผิดเจ็บจิตอนิจจา
ฝังปลูกกระดูกผีกี่ปีก็เปรมปรา
โคตรใครจะไคลคลาไพร่ฟ้าสิหน้าเขียว
สามแพร่งชีวิตคำฉันท์, คมทวน คันธนู
      • นิรนามฉันท์ 20 (กำหนดครุลหุลงในกาพย์ฉบัง)
      • อินทรธนูฉันท์ 12 (ดัดแปลงจากอินทวงศ์ฉันท์ 12)

ฉันท์ที่ประดิษฐ์ใหม่จากแหล่งที่มาอื่น

  • พระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ หรือ น.ม.ส. ทรงประดิษฐ์ฉันท์ ๓ ชนิด คือ สยามรัตนฉันท์, สยามวิเชียรฉันท์ และ สยามมณีฉันท์ จาก อินเมโมเรียม ของ อังกฤษ โดยดัดแปลงสัมผัสให้แตกต่างกัน (ภายหลังมีการค้นพบว่า สยามมณีฉันท์ พ้องกับ ประมาณิกาฉันท์ ในตำราฉันโทมัญชรี ซึ่งมีมากว่า ๑,๐๐๐ ปีแล้ว)
    • ตัวอย่าง สยามมณีฉันท์ 8 (สัมผัสแบบกลอนสุภาพ)
ชโยสยาม ณ ยามจะรุ่นสยามดรุณจะเร็วเจริญ
ณ คราวจะเรียนก็เพียรจะเพลินฤ ใครจะเกินสยามดรุณ
กุมาระไทยไฉนจะหลงจะลืมพระองคะทรงสกุล
ยามะรัฐอุบัติเพราะบุญพระเดชพระคุณพระราชะวงศฯ
  • สุภร ผลชีวิน ประดิษฐ์ฉันใหม่ ๒ ชนิด คือ เปษณนาทฉันท์ จากเสียงครกกระเดื่องตำข้าว และ มุทิงคนาทฉันท์ จากเสียงจังหวะตะโพนประกอบการรำโทน
    • ตัวอย่าง เปษณนาทฉันท์ 16 (สัมผัสแบบกลอนสุภาพ)
ณยามสายัณห์ตะวันย้อยต่ำเถอะเร่งเท้าตำจะค่ำแล้วหนอ
ตะแล้กแต้กแต้กจะแหลกแล้วพ่อกระด้งเขารอจะขอรับไป
บุรุษรอทีสตีเร่งเท้าบุรุษยั่วเย้ากระเซ้าเสียงใส
กระเดื่องตำข้าวก็กราวเสียงไกลสนุกน้ำใจสมัยราตรี
  • พันโท สุจิต ศิกษมัต ประดิษฐ์ พิบูลรัชนีฉันท์ เพื่อสดุดีจอมพล แปลก พิบูลสงคราม นางสาวจิรา จันทรานนท์นัยวินิจ นำไปแต่งเผยแพร่ในนามปากกา จิราจันท์
    • ตัวอย่าง พิบูลรัชนีฉันท์
โอ้องค์พระทรงสมญา"ปิยมหาจุฬาลงกรณ์"
ไทยสามิภักดิ์ภูธรหทยเทอดพระเลิศเลอธรรม์
แสงสูริย์จรูญจำรัสรพิประภัสสร์ก็เพียงกลางวัน
แสงโสมชโลมแหล่งสรรพ์ภพอร่ามก็ยามกลางคืน
  • ถวัลย์ นวลักษณ์กวี ประดิษฐ์ฉันท์ 3 ชนิด คือ ภูมิพลอดุลยเดชฉันท์ และ วชิราโสมสวลีฉันท์ โดยกำหนดครุลหุจากชื่อฉันท์ โดยได้รับพระบรมราชานุญาต ส่วน ฉันท์ 20 เป็นการประดิษฐ์ถวายสมเด็จพระบรมราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ คราวเสด็จเยือนประเทศไทย พ.ศ. 2515
    • ตัวอย่าง ภูมิพลอดุลยเดชฉันท์
รวมปฐมพระจักริวงศ์วีระทรงบำราบอมิตร
เบญจมงค์วรงค์มหิทธิ์ปิยะราชผนิตสยาม
ดั่งพระเนาวมงค์พระนามไท้พระภัทร "ภูมิพลฯ"
ครบฉนำเฉลิมพระชนม์ปกประชาพิเศษพิชัย
รพีพัฒนศักดิ์พระเอกอัคคุณ
อร่ามเรือง ณ อรุณสถิตทอนิติธรรม
  • ชยศรี สุนทรพิพิธ ชาลี ประดิษฐ์ฉันท์ใหม่ คือ ชยสุนทรฉันท์ 23 ตัวอย่าง
ละครวิทยุประลุวิทยานันท์
กระแสส่งนภาพลันระกะสายกระจายเสียง
มิเปลืองฉากธนะผิแสดงก็สรรเพียง
ประโลมโลกนิยายเรียงรจเรขรำพันครวญ
  • พันเอก ชัยวิทย์ ชยาภินันท์ ได้ประดิษฐ์ กลาโหมกีรติฉันท์ 12 ใน กลาโหมคำฉันท์ เมื่อ พ.ศ. 2552 ตัวอย่าง
สยามชาติเจริญรุ่งคติมุ่งจรุงมั่น
วิบูลย์สุขขจายครันศุภนันทนาการ
ผดุงกิจการแผ้วก่อทแกล้ววิวัฒน์งาน
สฤษฎีวิถีภารฐิติสานลุมั่นคง
  • พรหมเทพ ชัยกิตติวณิชย์ ประดิษฐ์ฉันท์ใหม่ คือ สุริยดิลกฉันท์ เมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2558 โดยผสมผสานวสันตดิลกฉันท์กับกลอนวะกะหรือทังกะของญี่ปุ่น กล่าวคือ สองวรรคสุดท้ายจบคล้ายกลอนทังกะ แต่ใช้จำนวนพยางค์ 8 พยางค์ให้เท่ากับวรรคแรกของวสันตดิลกฉันท์ ในขณะที่ในกลอนทังกะ 2 วรรคสุดท้ายมีจำนวนพยางค์วรรคละ 7 พยางค์ญี่ปุ่น ตัวอย่าง
ในศุภวารติถิมาสนรราษฏร์ก็จงรัก
แต่งปาฏลีสตุติภักดิเฉลิมพระชนมา
องค์เทพรัตนสุดาพรมังคลาฐิตะนิรันดร์
  • ภูวรินทร์ กนกพรไพบูลย์ ประดิษฐ์ฉันท์ใหม่ คือ ภูวรอินทรฉันท์ ๑๖ เป็นฉันท์ที่มีรากฐานมาจากอินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ และมีจำนวนคำเหมือนกลอน ๘ โดยที่ ๑ บท มี ๔ วรรค และในแต่ล่ะวรรคมี ๘ คำ โดยที่วรรคแรกของภูวรอินทรฉันท์จะนำวรรคที่ ๑ ของอินทรวิเชียรฉันท์มา และนำ ๓ คำแรกของวรรคที่สองมาต่อท้าย และวรรคที่สองของภูวรอินทรฉันท์จะนำวรรคที่ ๑ ของอินทรวิเชียรฉันท์มาและนำ ๓ คำสุดท้ายของวรรคที่สองมาต่อท้าย ส่วนวรรคที่ ๓ และ ๔ จะเหมือนกับวรรคที่ ๑ และ ๒ ตามลำดับ ใน ๑ บท
    • ตัวอย่าง
แก้วกัลยาสวยบริสุทธิ์ความงามฤดีผุดสกาวใส
ผิวพรรณอนงค์นางระอุใจใจนวลขาวมิใครเทียบบ่เทียมเคียง
ปรางเจ้ากมลเย้าจิตแผ้ววาจาก็เพริศแพร้วระรื่นเสียง
ทุมถันระริกตั้งอุระเรียงทำได้พินิจเพียงมิได้ยล

อ้างอิง

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง