ประโยชน์ เนื่องจำนงค์
ประโยชน์ เนื่องจำนงค์ (19 มีนาคม พ.ศ. 2466 - 2 เมษายน พ.ศ. 2557) อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี 2 สมัย
ประโยชน์ เนื่องจำนงค์ | |
---|---|
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม | |
ดำรงตำแหน่ง 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2526 – 19 กันยายน พ.ศ. 2528 | |
นายกรัฐมนตรี | พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 19 มีนาคม พ.ศ. 2466 จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย |
เสียชีวิต | 2 เมษายน พ.ศ. 2557 (91 ปี) กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | พรรคชาติประชาธิปไตย |
คู่สมรส | สุชาดา เนื่องจำนงค์ รำแพน เนื่องจำนงค์ |
ประวัติ
ประโยชน์ เนื่องจำนงค์ คหบดีจังหวัดชลบุรี เกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2466 ที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของนายอำนาจ กับ นางพูลสุข เนื่องจำนงค์ มีพี่น้อง 5 คน[1] ด้านครอบครัวสมรสกับนางสุชาดา เนื่องจำนงค์ มีบุตรด้วยกัน 3 คน มีรายนามดังนี้:
- นางปรียาพรรณ เนื่องจำนงค์
- นายโยธิน เนื่องจำนงค์
- นายกวีวุฒิ เนื่องจำนงค์
หลังจากนั้นได้ สมรสกับ นางรำแพน เนื่องจำนงค์ มีบุตรด้วยกัน 6 คน มีรายนามดังนี้:
- นาง ชุดาพันธ์ เนื่องจำนงค์
- นาง ปรียา เนื่องจำนงค์
- พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ ผู้บังคับการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- นาง ปิยะนุช เนื่องจำนงค์
- นาง นาตยา เนื่องจำนงค์
- นางสาว สาริณีย์ เนื่องจำนงค์
งานการเมือง
ประโยชน์ ได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2522 สังกัดพรรคสยามประชาธิปไตย และได้รับเลือกรวม 2 ครั้ง
ประโยชน์ เคยเป็รองหัวหน้าพรรคสันติชน ในปี พ.ศ. 2517[2] และร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองกับพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ในปี พ.ศ. 2525 และได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคชาติประชาธิปไตย[3] และได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาล พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ (ครม.43) เมื่อ พ.ศ. 2526[4] จนถึงปี พ.ศ. 2528[5]
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ประโยชน์ เนื่องจำนงค์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 2 สมัย คือ
ถึงแก่อนิจกรรม
ประโยชน์ เนื่องจำนงค์ ถึงแก่อนิจกรรม ด้วยโรคชราที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557 สิริอายุ 91 ปี[6]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2527 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[7]
- พ.ศ. 2526 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[8]
- พ.ศ. 2543 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 3 ตติยดิเรกคุณาภรณ์ (ต.ภ.)[9]
- พ.ศ. 2533 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ[10]