ฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1
เนฟอาอารุดที่ 1 หรือ นัยเฟารุดที่ 1 และเป็นที่รู้จักกันดีในพระนามภาษากรีกว่า เนเฟริเตสที่ 1 เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นผู้สถาปนาราชวงศ์ที่ยี่สิบเก้าแห่งอียิปต์ขึ้นในช่วง 399 ปีก่อนคริสตกาล
ฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เนฟอาอารุดที่ 1, นัยเฟารุดที่ 1 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สฟิงซ์ของฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 จากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หมายเลย เอ 26[1] | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ฟาโรห์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รัชกาล | 399–393 ปีก่อนคริสตกาล | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | อไมร์เตอุส | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ถัดไป | ฮาคอร์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชบุตร | ฮาคอร์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สวรรคต | 393 ปีก่อนคริสตกาล[3] | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สุสาน | เมนเดส? | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ที่ยี่สิบเก้า |
รัชสมัย
การขึ้นครองพระราชบัลลังก์
เป็นที่เชื่อกันว่า ฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 เดิมทรงเป็นแม่ทัพจากเมืองเมนเดส ซึ่งอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ได้เริ่มการต่อต้านฟาโรห์อมิร์เตอุสในช่วงฤดูใบไม้ร่วงช่วงปี 399 ปีก่อนคริสตกาล โดยพระองค์ทรงเอาชนะในการต่อสู้แบบเปิด[3] แล้วทรงสำเร็จโทษฟาโรห์อมิร์เตอุสที่เมืองเมมฟิส[4] หลังจากนั้นฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 ก็ทรงปราบดาภิเษกพระองค์เองขึ้นเป็นฟาโรห์ที่เมืองเมมฟิส และอาจจะที่เมืองซาอิสอีกด้วย ก่อนที่ทรงจะย้ายเมืองหลวงจากเมืองซาอิสไปยังเมืองเมนเดส[5] ซึ่งเป็นสถานที่พระราชสมภพของพระองค์ และข้อเท็จจริงที่ว่าฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 ทรงเลือกใช้พระนามฮอรัสเดียวกันกับฟาโรห์พซัมติกที่ 1 และพระนามฮอรัสทองคำของฟาโรห์อมาซิสที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ปกครองจากราชวงศ์ที่ยี่สิบหกแห่งอียิปต์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงต้องการเชื่อมโยงรัชสมัยของพระองค์เข้ากับ 'ยุคทอง' ในช่วงก่อนหน้านี้ของประวัติศาสตร์อียิปต์[6]
กิจกรรมในรัชสมัย
ตามคำกล่าวของมาเนโท ฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 ทรงครองราชย์เป็นระยะเวลา 6 ปี ถึงแม้ว่าหลักฐานทางโบราณคดีที่เกี่ยวข้องกับพระองค์จะสามารถย้อนไปเพียงแค่ปีที่ 4 แห่งการครองราชย์[5]
พบหลักฐานการก่อสร้างในรัชสมัยของฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 ในหลายพื้นที่ทั่วพระราชอาณาจักร ในบริเวณอียิปต์ล่าง พระองค์ได้โปรดให้มีการก่อสร้างที่เมืองธมูอิส, เทล โรบา, บูโต (สถานที่ที่ค้นพบรูปสลักของพระองค์[7]), เมมฟิส, ซัคคารา (ที่ฝังพระศพเทพเจ้าอาปิสในช่วงปีที่ 2 แห่งการครองราชย์ของพระองค์) และเมืองเมนเดส ซึ่งเป็นทั้งเมืองหลวงและสถานที่พระราชสมภพของพระองค์ ในบริเวณอียิปต์กลางและบน พระองค์โปรดให้สร้างสั่งวิหารที่อาคอริส ในขณะที่ในอัคมิมที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองซอฮัก มีหลักฐานการบูชารูปสลักของพระองค์ ซึ่งวางไว้ภายในวิหาร นอกจากนี้ พระองค์ยังโปรดให้เพิ่มอาคารบางหลังที่เมืองคาร์นัก เช่น ห้องเก็บของและศาลเทพเจ้า[6][5] สฟิงซ์หินบะซอลต์ที่ปรากฏพระนามของพระองค์ ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ แต่ทราบกันว่าถูกนำไปยังยุโรปตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 16 โดยนำไปประดับประดาน้ำพุที่สวนวิลลาบอร์เกเซในกรุงโรม[8]
ในด้านการความสัมพันธ์กับดินแดนอื่น พระองค์ทรงกลับมาใช้พระราชนโยบายการแทรกแซงของอียิปต์ในดินแดนตะวันออกกลาง ตามที่ดิโอดอรัส ซิคูลัสกล่าว ในช่วง 396 ปีก่อนคริสตกาล พระองค์ทรงสนับสนุนกษัตริย์สปาร์ตาพระนามว่า อะเกซิลาอุส ในการทำสงครามกับเปอร์เซีย โดยสปาร์ตาได้พิชิตเกาะไซปรัสและโรดส์ และยังพยายามขยายอิทธิพลออกไปทางตะวันออก ฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 ได้ทรงจัดหาเมล็ดธัญพืชและวัสดุจำนวนห้าแสนหน่วยแก่สปาร์ตาสำหรับเรือหนึ่งร้อยลำ อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ่งของเหล่านี้เดินทางมาถึงเมืองโรดส์ มันก็เป็นช่วงเวลาหลังจากที่ชาวเปอร์เซียสามารถยึดเกาะคืนได้แล้ว ดังนั้น เกาะนี้จึงถูกยึดครองโดยโคนอนแห่งเอเธนส์ นักปรัชญาชาวเปอร์เซีย[9][10]
การสวรรคตและการสืบสันตติวงศ์
ฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 เสด็จสววรคตลงในฤดูหนาวช่วง 394/393 ปีก่อนคริสตกาล หลังจากที่พระองค์ทรงครองราชย์เป็นระยะเวลาหกปี[5] ในประชุมพงศาวดารเดมอติกได้ระบุไว้ว่า "พระราชโอรสของพระองค์" ได้ทรงรับพระราชานุญาตให้สืบทอดพระราชบัลลังก์โดยไม่ระบุพระนาม และปัจจุบันนี้เชื่อกันโดยทั่วไปว่าพระราชโอรสของฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 คือ ฟาโรห์ฮาคอร์ ซึ่งปกครองพระราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาเพียงหนึ่งปีก่อนที่จะถูกโค่นล้มพระราชบัลลังก์โดยฟาโรห์พซัมมูเธส ซึ่งเป็นผู้อ้างสิทธิ์ในการครองราชย์ที่ไม่เกี่ยวข้องทางสายพระโลหิต อย่างไรก็ตาม ฟาโรห์ฮาคอร์ก็ทรงสามารถยึดพระราชบัลลังก์ได้คืนในอีกปีถัดมา[11]
สถานที่ฝังพระบรมศพที่เป็นไปได้
สถานที่ฝังพระบรมศพที่เชื่อว่าเป็นของฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 ถูกค้นพบโดยทีมร่วมจากมหาวิทยาลัยโตรอนโตและมหาวิทยาลัยวอชิงตันในปี ค.ศ. 1992-93[12] ความเป็นไปได้ที่พระองค์จะทรงเป็นเจ้าของหลุมฝังศพนี้คือ การค้นพบตุ๊กตาชวาบติที่ปรากฏพระนามของฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1 แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่พบหลักฐานยืนยันใดอีก[13] ถึงแม้ว่าจะยังคงหลงเหลือวัตถุในพิธีฝังศพและโลงศพหินปูนขนาดใหญ่ แต่เชื่อกันว่าหลุมฝังศพนี้ถูกทำลายโดยชาวเปอร์เซียในช่วง 343 ปีก่อนคริสตกาล[12] มีการค้นพบพบภาชนะเซรามิกที่มีลายปลาปลาและจารึกที่รายล้อมไปด้วยรูปสลักปลาในพื้นที่ฝังศพ ซึ่งการปรากฏตัวของปลานั้น ซึ่งมักถูกตีความว่าเป็นเครื่องเซ่นไหว้ อาจจะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าสถานที่นี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของวิหารแห่งเทพีฮัตเมฮิต ซึ่งเป็นเทพีแห่งปลา[14]
ดูเพิ่ม
มูธิส – สันนิษฐานว่าเป็นฟาโรห์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเชื่อว่าเป็นพระราชโอรสของฟาโรห์เนเฟริเตสที่ 1
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- Livius.org: Nepherites I เก็บถาวร 2014-06-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน