มาร์ติน ชเกอร์เตล

นักฟุตบอลชาวสโลวาเกีย

มาร์ติน ชเกอร์เตล (สโลวัก: Martin Škrtel) เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1984 เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวสโลวาเกีย ตำแหน่งกองหลัง เคยเล่นในพรีเมียร์ลีกให้กับสโมสรลิเวอร์พูล

มาร์ติน ชเกอร์เตล
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็มมาร์ติน สเคอร์เทล
วันเกิด (1984-12-15) 15 ธันวาคม ค.ศ. 1984 (39 ปี)
สถานที่เกิดฮันดลอวา เชโกสโลวาเกีย
ส่วนสูง6 ft 3 in (1.91 m)[1]
ตำแหน่งกองหลัง
สโมสรเยาวชน
เอฟกาเปรียวิดซา
สโมสรอาชีพ*
ปีทีมลงเล่น(ประตู)
2001–2004เทรนชีน45(0)
2004–2008เซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก74(3)
2008–2016ลิเวอร์พูล242(16)
2016–2019เฟแนร์บาห์แช79(6)
2019อาตาลันตา0(0)
2019—2021อิสตันบูลบาชักเชฮีร์30(3)
2021—2022สปาร์ตัค เทอร์วานา18(0)
2022เอฟเค ไฮจ์สคาล่า ราซโตชโน
รวม488(28)
ทีมชาติ
2004—2019สโลวาเกีย104(6)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น

ประวัติ

สคอเทล เกิดใน Handlová และเติบโตใน Ráztočno และเริ่มเล่นฟุตบอลที่อายุ 6 ขวบ น้ำแข็งผู้เล่นฮอกกี้อำนาจเขาตามอาชีพของบิดาของเขา เขาเป็นคนสุดท้องของเด็กสามคนกับพี่ชายDušanและน้องสาวของ MarcelaSkrtel เล่นเป็นปีกซ้ายหรือกองหน้าจนกว่าจะอายุ 16 ตอนที่เขาถูกขอให้กรอกข้อมูลลงในขณะที่ใจกลางเกมลับสำหรับทีมเยาวชนสโลวัก เขาตกลงที่ถึงแม้ว่าเขาไม่เคยเล่นในตำแหน่งนั้นก่อน

เทรนซิน

สคอเทล เริ่มอาชีพของเขาที่ เทรนซิน เขาเล่นในเกมที่ 45 สำหรับพวกเขาระหว่างปี 2001 และ 2004

เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก

สคอเทล มีการเปิดตัวของเขาสำหรับเซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์กในการแข่งขันฟุตบอลรัสเซียเมื่อ 31 กรกฎาคม 2004 เขากล่าวว่าการปรากฏตัวของผู้เล่นสโลวักและสาธารณรัฐเช็กช่วยให้เขาปรับตัวให้ทีมงานใหม่ เขาเล่น 113 ครั้งและคะแนน 5 เป้าหมายสำหรับสโมสร วาเลนเซีย, ท็อตแนม, เอฟเวอร์ตันและนิวคาสเซิ่ได้รับรายงานทั้งหมดที่จะมีความสนใจในบริการของเขา แต่เขาจบลงด้วยการลงนามสำหรับลิเวอร์พูลในหน้าต่างการถ่ายโอนมกราคม 2008

ลิเวอร์พูล

ฤดูกาล 2007-08

เข้าร่วม Skrtel ลิเวอร์พูลวันที่ 11 มกราคม 2008 บนสัญญาสี่ปีและครึ่งสำหรับค่าธรรมเนียมการโอนจาก£ 6500000.

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2008, Skrtel เล่นในรอบที่ 4 ของลิเวอร์พูล FA Cup ผูกกับด้านที่ไม่ใช่ลีก Havant & Waterlooville เมื่อเขาหงุดหงิดให้ไปที่มุมที่วางอยู่ด้านหลังลิเวอร์พูล 1-0 และผู้ที่เกี่ยวข้องยัง ในการแย่งชิงปากเป้าหมายที่เห็นลิเวอร์พูลไป 2-1 ลงหลังจากที่มีเสมอภาคกันก่อนที่ลิเวอร์พูลชนะ 5-2 ในที่สุด แต่เขาใส่ในการแสดงผลที่เป็นของแข็งในเกมลีกกับ เชลซี ทำให้การฝึกปรือที่ดีหลายตัวและเซพชั่นและได้รับการคัดเลือกชายในการแข่งขันโดยผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลเมื่อเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพวกเขา แฟนลิเวอร์พูลที่มีความอบอุ่นกับ Skrtel และเขาตอนนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของลิเวอร์พูลการป้องกันหลังจากที่เปิดในการแสดงมากขึ้นของแข็งหลายครึ่งศูนย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ขาไตรมาสสุดท้ายกับ อาร์เซนอล

Skrtel ได้รับการโหวต [Man [การแข่งขัน]] โดยการสนับสนุนลิเวอร์พูลเมื่อ Liverpoolfc.TV สำหรับประสิทธิภาพการทำงานในดาร์บี้ 1-0 ชนะเหนือ เอฟเวอร์ตัน ของเขาที่ แอนฟิลด์ ที่ 30 มีนาคม 2008, Skrtel ของ ปรากฏกายขึ้นเป็นครั้งแรกใน Merseyside Derby

ฤดูกาล 2008-09

ชเกอร์เตลลงสนามเป็นตัวจริงในช่วงต้นฤดูกาล 2008-09 แต่หนึ่งการแข่งขันพรีเมียร์ลีกและแทนที่ออกจากความโปรดปรานของ แดเนียล อักเกอร์ ที่ม้านั่งสำรอง เขาใส่ในจำนวนของการแสดงที่แข็งแกร่งร่วมกับ เจมี คาร์เรเกอร์ ช่วยทีมเอาชนะทีมชั้นนำ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน และ ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก อย่างไรก็ตามในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ชเกอร์เตลมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรงหลังจากปะทะกับ Ched Evans ในช่วงท้ายเกมที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะชนะไป 3-2 แต่ได้รับการยืนยันในภายหลังว่าชเกอร์เตลมีอาการฉีกขาดเอ็นไขว้หลังในเข่าขวาของเขาและต้องพักยาวถึง 8 สัปดาห์

ในวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 2008 ชเกอร์เตลกลับมาจากอาการบาดเจ็บโดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ที่เซนต์เจมส์พาร์ก 5-1 จากนั้นชเกอร์เตลลงสนามเป็นตัวจริงในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังและช่วยทีมจบอันดับที่ 2 ในพรีเมียร์ลีกด้วย 86 แต้ม

ฤดูกาล 2009-10

ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2009 ชเกอร์เตลทำประตูแรกในสีเสื้อลิเวอร์พูลในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี 2-2 ต่อมา ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 ชเกอร์เตลมีอาการบาดเจ็บที่เท้าขวาของเขากระดูกหักในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ Unirea Urziceni 3-1 ในยูฟ่ายูโรปาลีก ต่อมา ในวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2010 ชเกอร์เตลขยายสัญญาสองปีกับ ลิเวอร์พูล โดยฝากอนาคตของเขาจนถึงปี 2014

ฤดูกาล 2010-11

ฤดูกาล 2010-11 ชเกอร์เตลลงสนามครบทุกนัดในพรีเมียร์ลีก ในวันที่ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 ชเกอร์เตลทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกและทำเข้าประตูตัวเองในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ไวต์ฮาร์ตเลน 1-2 ต่อมา ในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2010 ชเกอร์เตลฉลองวันเกิดครบ 26 ปีด้วยการสวมปลอกแขนกัปตันทีมลิเวอร์พูลในนัดที่เจอกับ Utrecht ต่อมา ในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 2011 ชเกอร์เตลทำประตูด้วยลูกโหม่ง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน ที่เดอะฮอว์ทอนส์ 1-2

ฤดูกาล 2011-12

ชเกอร์เตล ลงซ้อมให้กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2011

ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2011 ชเกอร์เตลทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกโหม่ง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โบลตันวอนเดอเรอส์ 3-1 ต่อมา ในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2011 ชเกอร์เตลโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 0-4

ในวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2011 ชเกอร์เตลทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 2-0 ต่อมา ในเอฟเอคัพ รอบ 5 ชเกอร์เตลทำประตูแรกในปี 2012 ด้วยลูกโหม่งในช่วง 5 นาทีแรกในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ Brighton & Hove Albion 6-1

ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ คาร์ดิฟฟ์ซิตี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ ชเกอร์เตลยิงประตูตีเสมอ 1-1 ก่อนจะจบด้วยผลเสมอกัน 2-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ สุดท้าย ชเกอร์เตล ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกคัพ สมัยที่ 8 มาครอง จากการยิงจุดโทษตัดสินชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี ผลประตูรวม 3-2 และเป็นแชมป์แรกของชเกอร์เตลนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล

ในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2012 ชเกอร์เตลได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมลิเวอร์พูลเป็นครั้งแรกในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แบล็กเบิร์นโรเวอส์ 3-2 ต่อมา ในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป 1-2 ทำให้ ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสคว้าแชมป์เอฟเอคัพ อย่างน่าเสียดาย

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2012 ชเกอร์เตลคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรลิเวอร์พูล

ฤดูกาล 2012-13

หลังจาก เคนนี แดลกลีช ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม สโมสรลิเวอร์พูล ก็ได้แต่งตั้ง เบรนดัน ร็อดเจอส์ ผู้จัดการทีมสวอนซีซิตี เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ ต่อมา ในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2012 ชเกอร์เตลได้ฝากอนาคตด้วยการต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล

ในวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2012 ชเกอร์เตลลงเล่นนัดเปิดฤดูกาลได้น่าผิดหวัง โดยทำเสียจุดโทษในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 0-3 ต่อมา ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2012 ชเกอร์เตลทำประตูแรกให้กับสโมสรในฤดูกาล 2012-13 ในนัดที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี แต่ในช่วงท้ายเกม ชเกอร์เตล จะจ่ายบอลให้ โคเซ มานวยล์ เรย์นา แต่จ่ายบอลพลาดโดน การ์โลส เตเบซ มาตัดบอลและยิงประตูเข้าไปก่อนจะจบด้วยผลเสมอกัน 2-2

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2013 ชเกอร์เตลทำผลงานได้น่าผิดหวังในนัดที่แพ้ให้กับ โอลดัมแอทเลติก ที่บูนดารี ปาร์ค 2-3 ในเอฟเอคัพ รอบ 4 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบ เอฟเอคัพ ไปในที่สุด

ฤดูกาล 2013-14

ชเกอร์เตล ลงซ้อมให้กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2013

ชเกอร์เตลไม่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีก 2 นัดแรก ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2013 ชเกอร์เตลได้กลับมาลงสนามช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาล 1-0 ต่อมา ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 ชเกอร์เตลทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟูลัม 4-0 ต่อมา ในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ชเกอร์เตลทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เชลซี 1-2 ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์

ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ชเกอร์เตลทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1 ต่อมา ในวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 2014 ชเกอร์เตลทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 6-3 ต่อมา ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2014 ชเกอร์เตลทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำจ่าฝูงและลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป ต่อมา ในวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ เจอกับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด และต้องลุ้นให้ เวสต์แฮมยูไนเต็ด เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ชเกอร์เตลทำเข้าประตูตัวเองทำให้ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-1 ทำให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 2 เนื่องจาก แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-0 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย

ฤดูกาล 2014-15

ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2014 ชเกอร์เตลสวมปลอกแขนกัปตันทีมลิเวอร์พูลแทน สตีเวน เจอร์ราร์ด และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เป็นตัวสำรองในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เจอกับ เรอัลมาดริด ที่ซานเตียโก เบร์นาเบว ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2014 ชเกอร์เตลได้ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ในนาทีสุดท้าย ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ อาร์เซนอล 2-2 ต่อมา ในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบ 6 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ แบล็กเบิร์นโรเวอส์ ชเกอร์เตลถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งแรกและถูกส่งโรงพยาบาลจากการปะทะกับ Rudy Gestede แต่โชคดีที่ ชเกอร์เตล ไม่เป็นอะไรมาก ต่อมา ในวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 2015 ชเกอร์เตลเหยียบขา ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1-2 แม้ว่าเจ้าตัวจะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีเจตนาย่ำใส่เพื่อนร่วมอาชีพ แต่ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ไม่ฟังลงดาบแบน ชเกอร์เตล 3 นัด จากผลแบนดังกล่าว จะทำให้ แข้งชาวสโลวาเกีย จะพลาดการลงสนามช่วย หงส์แดง ในเกมที่ออกไปเยือน อาร์เซนอล วันที่ 4 เมษายน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ เอฟเอ คัพ นัด รีเพลย์ เจอกับ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส จากนั้นอีก 5 วันถัดมาจะไม่ได้ลงสนามในการพบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ร่วมกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่เจอไล่จากข้อหาเจตนาย่ำ อังเดร เฮร์เรรา กองกลาง ปีศาจแดง ในนัดเดียวกัน

ฤดูกาล 2015-16

ในวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 2015 ชเกอร์เตลได้ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล[2] ต่อมา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 ชเกอร์เตลทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 4-1[3] [4] ต่อมา ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2015 ชเกอร์เตลทำเข้าประตูตัวเอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 0-2 ทำให้เจ้าตัวเพิ่มสถิติยอดแย่เป็นการยิงประตูตัวเองครั้งที่ 7 เป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกเป็นอันดับ 2 เทียบเท่ากับ เจมี คาร์เรเกอร์ ที่ 7 ประตู ต่อมา ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2015 ชเกอร์เตลต้องชวดลงสนามนานอย่างน้อย 6 สัปดาห์ หลังได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นหลังหัวเข่าในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 0-3

ประตูในนามทีมชาติ

#วันที่สนามคู่แข่งขันประตูผลการแข่งขัน
1.2 กันยายน 2006Tehelné Pole, Bratislava, Slovakia  ไซปรัส1 – 06–1UEFA Euro 2008 qualifying
2.7 กุมภาพันธ์ 2007Jerez de la Frontera, Spain  โปแลนด์2 – 02–2Friendly
3.24 มีนาคม 2007GSP Stadium, Nicosia, Cyprus  ไซปรัส1 – 21–3UEFA Euro 2008 qualifying
4.13 ตุลาคม 2007Mestský štadión, Dubnica, Slovakia  ซานมารีโน4 – 07–0UEFA Euro 2008 qualifying
5.6 กันยายน 2008Tehelné Pole, Bratislava, Slovakia  ไอร์แลนด์เหนือ1 – 02–12010 FIFA World Cup qualifying

สถิติ

Club performanceลีกฟุตบอลถ้วยลีกคัพContinentalรวม
ฤดูกาลสโมสรลงเล่นประตูลงเล่นประตูลงเล่นประตูลงเล่นประตูลงเล่นประตู
รัสเซียลีกฟุตบอลถ้วยยุโรปรวม
2004เซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก702050140
20051816040281
20062616250373
20072316050341
รวม7432021901135
อังกฤษลีกเอฟเอคัพลีกคัพยุโรปรวม
2007–08ลิเวอร์พูล140100050200
2008–09210200070300
2009–10191202060291
2010–113821000100492
2011–12342516100454
2012–13252100070332
2013–14367201000397
2014–15331503070481
2015–16221003020271
รวม2421619115144032018
รวมทั้งหมด3161939315163043323

เกียรติประวัติ

สโมสร

เซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก

  • Russian Premier League: 2006–07

ลิเวอร์พูล

  • Football League Cup: 2011–12

รางวัลส่วนตัว

  • Peter Dubovský Trophy (1): 2005
  • Slovakia Youth Champion (1): 2001
  • Liverpool Player of the Year Award: 2012
  • Slovak Footballer of the Year (4): 2007, 2008, 2011, 2012
  • Standard Chartered Liverpool Player of the Month (1): กุมภาพันธ์ 2012
  • ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์ (1): พฤศจิกายน 2015[5]

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: หน้าหลักสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพิเศษ:ค้นหาอสมทวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก 2024บางกอกคณิกาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)เนติพร เสน่ห์สังคมวิทยาศาสตร์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)วันวิสาขบูชาวอลเลย์บอลลมเล่นไฟตารางธาตุอันดับโลกเอฟไอวีบีอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์หมวดหมู่:จังหวัดของประเทศไทยไลเกอร์รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยไอแซก นิวตันศาสนาพุทธราชวงศ์จักรีกาลิเลโอ กาลิเลอีประวัติศาสตร์ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนารายชื่อเครื่องดนตรีจังหวัดชัยนาทสังคายนาในศาสนาพุทธประเทศไทยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดนิวแคลิโดเนียวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยศาสนาพุทธในประเทศพม่าพระสุนทรโวหาร (ภู่)นริลญา กุลมงคลเพชร