เดอะไนน์ทีนเซเวนตีไฟฟ์

เดอะไนน์ทีนเซเวนตีไฟฟ์ (อังกฤษ: The 1975) เป็นกลุ่มดนตรีแนวอินดี้ร็อกจากอังกฤษ ก่อตั้งวงในปี 2002 ที่เมืองวิล์มสโลว์ มณฑลเชชเชอร์[2][3] ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์[4] ประกอบด้วยสมาชิกคือ แมททิว ฮีลี (ร้อง, กีตาร์), อดัม ฮันน์ (กีตาร์), จอร์จ แดเนียล (กลองชุด, ร้องประสาน) และรอสส์ แมคโดนัลด์ (เบส)[5]

The 1975
เดอะไนน์ทีนเซเวนตีไฟฟ์กำลังแสดงในปี ค.ศ. 2020
ข้อมูลพื้นฐาน
ที่เกิดวิล์มสโลว์, เชชเชอร์, ประเทศอังกฤษ
แนวเพลงอินดี้ป็อป, อินดี้ร็อก, อิเล็กโทรป็อป, ซินท์ป็อป, ป็อปร็อก, ออลเทอร์นาทิฟร็อก
ช่วงปีค.ศ. 2002 (2002)–ปัจจุบัน[1]
ค่ายเพลงDirty Hit, Polydor UK, Vagrant, Interscope
สมาชิก
  • แมททิว ฮีลี
  • รอสส์ แมคโดนัลด์
  • อดัม ฮันน์
  • จอร์จ แดเนียล
เว็บไซต์the1975.com

วงออกผลงานอีพี 4 ชุด ส่วนอัลบั้มแรกของพวกเขา The 1975 ออกเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2013 กับสังกัด Dirty Hit/Polydor[6] อัลบั้มเปิดตัวนี้สามารถติดอันดับ 1 บนชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2013 ส่วนในปี 2014 The 1975 มีทัวร์ในต่างประเทศและยังได้ไปเล่นที่เทศกาลโคลเชลลาด้วย[7]

ในปี 2016 พวกเขาออกอัลบั้มที่ 2 I Like It When You Sleep, for You Are So Beautiful yet So Unaware of It[8] อัลบั้มนี้ได้รับการตอบรับในทางบวก ขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ในชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักรและบิลบอร์ด 200[9][10] ต่อมาในปี 2018 พวกเขาออกอัลบั้มที่ 3 A Brief Inquiry Into Online Relationships อัลบั้มนี้ขึ้นถึงอันดับที่ 1 ของชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักรเช่นกัน และได้รับการตอบรับในทางที่ดีอย่างล้นหลาม ในปี 2020 และ 2022 พวกเขาออกอัลบั้มที่ 4 และ 5 Notes on a Conditional Form และ Being Funny in a Foreign Language ตามลำดับ ซึ่งทั้งสองอัลบั้มขึ้นสู่อันดับที่ 1 ของชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร[11][12]

ประวัติ

ก่อตั้งวง

แมททิว ฮีลี (เกิด 8 เมษายน 1989) ลูกชายของนักแสดง Denise Welch และ Tim Healy โตในเมืองนิวคาสเซิลและเมืองแมนเชสเตอร์[13][14] ในช่วงที่กำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่น เขาได้พบกับรอส แมคโดนัลล์, อดัม ฮันน์ และ จอร์จ แดเนียล ที่วิล์มสโลว์ไฮสกูลใกล้กับเมืองแมนเชสเตอร์ และเริ่มเล่นเพลงในปี 2004[15] วงดนตรีได้ก่อตั้งเมื่อสภาท้องถิ่นได้จัดคอนเสิร์ตสำหรับวัยรุ่นขึ้นมา แมททิวได้พบกับอดัมคนที่เข้ามาหาเขาและบอกว่าอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงครั้งนี้ด้วย[16] วงได้เล่นเพลงคัพเวอร์ไปจนกระทั่ง "เริ่มเขียนเพลงเอง" อ้างอิงจากคำพูดของแมททิว "พวกเราเริ่มต้นกันมาตั้งแต่ตอนนั้นและทำเพลงด้วยกันมาตั้งแต่อายุ 26 ปี"[16] หลังจากเดวิดเข้ามาในวงแล้ว ในช่วงแรกพวกเขาจะเน้นคัพเวอร์เพลงแนวพังก์และขึ้นแสดงในคลับของเมือง[17]

ออกผลงานอีพี (2012–2013)

ผลงานอีพีแรกของ The 1975 ชื่อ Facedown ได้เผยแพร่ในเดือนสิงหาคมปี 2012 โดยการออกอากาศครั้งแรกของวงคือในรายการวิทยุกับเพลงหลัก "The City" อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของ BBC Introducing ที่แสดงกับ Huw Stephens ใน BBC Radio 1[15]

The 1975 กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งในปลายปี 2012 ในรายการวิทยุ BBC Radio 1 กับ DJ Zane Lowe เพื่อโปรโมตซิงเกิลของพวกเขา "Sex" จาก Sex EP ที่เผยแพร่ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2012[18] พวกเขาเริ่มออกทัวร์ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ในช่วงต้นปี 2013 และเริ่มทัวร์ที่สหรัฐอเมริกาในฤดูใบไม้ผลิ[18]

หลังจากนั้น Music for Cars EP ก็ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 4 มีนาคม 2013 The 1975 ประสบความสำเร็จเมนสตรีมชาร์ตกับซิงเกิลของพวกเขา "Chocolate" ซึ่งอยู่อันดับที่ 19 บนชาร์ตของสหราชอาณาจักร. ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2013 ก็ได้ออก IV EP มาซึ่งมีเพลง "The City" ที่เป็นเวอร์ชันใหม่รวมอยู่ด้วย ซึ่งได้ขึ้นไปอยู่ในชาร์ตของสหราชอาณาจักรและยังได้เผยแพร่ในอีกหลายประเทศด้วย

The 1975 ได้ออกทัวร์เพื่อโฆษณาวงและโปรโมตวงก่อนที่พวกเขาจะออกอัลบั้มเดบิวต์ พวกเขาได้รับการสนับสนุนจาก Muse ใน the second leg ของ The 2nd Law World Tour ที่ Emirates Stadium ในลอนดอน วันที่ 26 พฤษภาคม 2013[19] วงยังได้ออกทัวร์กับวงเดอะเนเบอร์ฮูด ในสหรัฐเมื่อเดือนมิถุนายน 2013[20] และได้รับการสนับสนุนจาก The Rolling Stones ในไฮด์พาร์ก วันที่ 13 กรกฎาคม 2013[21] ในเดือนสิงหาคมปี 2013 ได้ขึ้นแสดง ณ งาน the Festival Republic Stage ที่ 2013 Reading and Leeds Festivals[22]

ในบทความที่เกี่ยวกับวงดนตรีกลุ่มนี้ เอลเลียตมิตเชลล์ จาก When the Gramophone Rings พวกเขาจะปล่อยอีพีก่อนที่จะเปิดตัวอัลบั้มเดบิวต์ "การทำแบบนี้เขาเห็นว่าจำเป็นต่อการสร้างชื่อเสียงของวงในวงกว้างแทนที่จะเป็นการออกซิงเกิลแค่เพียงอย่างเดียว" แมททิว ฮีลี กล่าวว่า "เราจะออกอัลบั้มไม่ได้ถ้าหากว่าไม่มีอีพีแรก ในขณะที่เราต้องการแน่ใจว่าจะสามารถแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาได้หลังจากเผยแพร่เพลงให้ผู้คนได้ฟัง"[22]

The 1975 (2013–2015)

The 1975 ได้ปล่อยอัลบั้มเดบิวต์ออกมาในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2013 โดยได้ co-produced เป็น Mike Crossey ที่เคยร่วมงานกับ Arctic Monkeys และ Foals[18]บัตรการแสดงของพวกเขาขายหมดเกลี้ยงก่อนที่พวกเขาจะได้เดบิวต์เสียอีก แมททิวกล่าวในการสัมภาษณ์กับ "The AU review"[23] พวกเขาเดินสายโปรโมตอัลบั้มเต็มซึ่งมีเพลง "SEX" ที่เป็นเวอร์ชันใหม่รวมอยู่และได้รับการปล่อยออกมาในวันที่ 26 สิงหาคม 2013[24] และได้โปรโมตตัวล่วงหน้ากับ Zane Lowe ใน BBC Radio 1 โชว์วันที่ 8 กรฎาคม 2013[25] และปล่อยมิวสิกวิดีโอลงยูทูบ ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2013 The 1975 ขึ้นอันดับที่ 1 ใน UK Albums Chart หลังจากเดบิวต์

แมททิว ฮีลีที่งานเทศกาลดนตรีเซาต์ไซด์ 2014

The 1975 เริ่มทัวร์ในสหราชอาณาจักรในเดือนกันยายนปี 2013 กับศิลปินท่านอื่นใน Kingston upon Hull ซึ่งได้ขึ้นแสดงนำที่ Freedom Festival ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองของเมืองที่ได้รับการคัดเลือกและแต่งตั้งเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมของสหราชอาณาจักรสำหรับปี 2017[26] และที่ iTunes Festival ในวันที่ 8 กันยายน 2013 ได้เป็นวงเปิดตัวให้กับวงบาสตีลล์ The 1975 เริ่มทัวร์อเมริกาเหนือในเดือนตุลาคมปี 2013 ยุโรปในเดือนพฤศจิกายนปี 2013 และในเดือนมกราคมปี 2014 กับ นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย[27] ในเดือนกันยายนปี 2013 การแสดงที่ Shepherd's Bush Empire ในลอนดอน บัตรของพวกเขาสามารถขายได้จนหมด[28] ในเดือนเมษายนปี 2014 ได้ขึ้นเป็นวงเปิดงานใน Major American Music and Arts Festival Coachella[7] และได้ไปเล่นที่ Royal Albert Hall ในเดือนเมษายนปี 2014 ด้วย[29]

อัลบั้ม I Like It When You Sleep, for You Are So Beautiful yet So Unaware of It (2015–2017) และยุค "Music for Cars" (2017–2021)

เดือนตุลาคม 2015 The 1975 ประกาศว่าอัลบั้มที่ 2 จะใช้ชื่อว่า I Like It When You Sleep, for You Are So Beautiful yet So Unaware of It และเผยแพร่ซิงเกิลแรกของอัลบั้ม "เลิฟมี" ต่อมาในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2016 อัลบั้มนี้ออกวางจำหน่ายและขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ในชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักรและบิลบอร์ด 200[9][10] หลังจากนั้นวงหยุดพักตลอดปี 2017 ก่อนจะกลับมาในปี 2018 แมททิว ฮีลี นักร้องนำให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุบีตส์ 1 ว่าวงวางแผนจะออกอัลบั้มภายใต้ยุค "Music for Cars" ซึ่งชื่อนี้เคยใช้เป็นชื่ออีพีที่ 3 ของวง ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2018 วงเผยแพร่ "กิฟยัวร์เซลฟ์อะไทร์" ซิงเกิลแรกของอัลบั้มที่ 3 A Brief Inquiry Into Online Relationships หลังออกจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน อัลบั้มนี้ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม ในเมทาคริติกให้คะแนน 83/100 อิงจาก 29 ความเห็น[30] แดน สตับส์จากนิตยสาร เอ็นเอ็มอี ให้คะแนน 5/5 และกล่าวว่าอัลบั้มนี้เป็นเหมือน โอเคคอมพิวเตอร์ ของคนยุคมิลเลนเนียล สตับส์กล่าวเพิ่มว่า A Brief Inquiry Into Online Relationships ผสาน "ความฉลาดและลึกซึ้ง, ความสนุกและจริงจัง, สมัยใหม่และคลาสสิก" และเป็นอัลบั้มที่ยกระดับของวง[31]

ในปี 2019 The 1975 ประกาศว่าอัลบั้มที่ 4 Notes on a Conditional Form ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 2 ของยุค "Music for Cars" จะออกจำหน่ายในวันที่ 22 พฤษภาคม 2020 ซิงเกิลนำของอัลบั้มนี้ "พีเพิล" ออกเผยแพร่ในวันที่ 22 สิงหาคม 2019[32]

อัลบั้ม Being Funny in a Foreign Language (2021–ปัจจุบัน)

วันที่ 7 กรกฎาคม 2022 วงเผยแพร่ซิงเกิล "Part of the Band" อันเป็นซิงเกิลนำของอัลบั้มที่ห้า Being Funny in a Foreign Language ซึ่งจะออกจำหน่ายวันที่ 14 ตุลาคม 2022[33]

ผลงาน

รางวัลที่ได้รับ

ปีงานผลงานรางวัลผลประกาศอ้างอิง
2019บริตอะวอดส์The 1975British Groupชนะ[36]
A Brief Inquiry into Online RelationshipsBritish Album of the Year
ไอเวอร์ โนเวลโล“Love It If We Made It”Best Contemporary Song[37]
The 1975Songwriters of the Year

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง