เบลฟาสต์
เบลฟาสต์ (อังกฤษ: Belfast; ไอริช: Béal Feirste; แปลว่า ปากสันดอนทรายซึ่งเป็นทางข้ามลำน้ำ)[4] เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของไอร์แลนด์เหนือ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแลกันบนชายฝั่งทางภาคตะวันออกของไอร์แลนด์เหนือ ถือเป็นเป็นนครที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 12 ของสหราชอาณาจักร[5] และเป็นนครที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของเกาะไอร์แลนด์ เบลฟาสต์มีประชากร 333,871 คน (ข้อมูลเมื่อปี 2015)[2] ในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 เบลฟาสต์เคยถูกรายงานว่า เป็นหนึ่งในเมืองที่อันตรายที่สุดในโลก[6] ด้วยอัตราการถูกฆาตกรรมที่ 31 ต่อ 100,000 คน[7]
เบลฟาสต์ | |
---|---|
ภาพทิวทัศน์และสิ่งก่อสร้างในนครเบลฟาสต์ | |
ตราสัญลักษณ์พร้อมคำขวัญ "Pro Tanto Quid Retribuamus" (ละติน: "What shall we give in return for so much") | |
ที่ตั้งในไอร์แลนด์เหนือ | |
พื้นที่ | 51.16 ตารางไมล์ (132.5 ตารางกิโลเมตร) [1] |
ประชากร | นครเบลฟาสต์: 341,877 (2019)[2] เขตมหานคร: 671,559 (2011)[3] |
ไอริชกริด | J338740 |
อำเภอ |
|
เคาน์ที | |
ประเทศ | ไอร์แลนด์เหนือ |
รัฐเอกราช | สหราชอาณาจักร |
โพสท์ทาวน์ | BELFAST |
เขตรหัสไปรษณีย์ | BT1–BT17, BT29 (part), BT36 (part), BT58 |
รหัสโทรศัพท์ | 028 |
ตำรวจ | ไอร์แลนด์เหนือ |
ดับเพลิง | ไอร์แลนด์เหนือ |
รถพยาบาล | ไอร์แลนด์เหนือ |
รัฐสภาสหราชอาณาจักร |
|
สมัชชาไอร์แลนด์เหนือ |
|
เว็บไซต์ | www.belfastcity.gov.uk |
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เบลฟาสต์กลายเป็นเมืองท่าที่มีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติอุตสาหกรรม เพราะเป็นเมืองที่ผลิตผ้าลินินมากที่สุดในโลก จนได้รับสมญาว่า "ลิเนโนโพลิส"[8] ต่อมาใน ค.ศ. 1888 เบลฟาสต์ได้รับการจัดตั้งเป็นนครและเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตลินิน การแปรรูปยาสูบ และการผลิตเชือกของชาวไอริช การต่อเรือก็เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญเช่นกัน โดยอู่เรือฮาร์ลันและวอล์ฟ ซึ่งต่อเรือ อาร์เอ็มเอส ไททานิก เคยเป็นอู่ต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก[9] เนื่องด้วยการพัฒนาทางอุตสาหกรรมและการอพยพเข้าของประชากรนี้เอง[10] ทำให้เบลฟาสต์กลายเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของไอร์แลนด์เหนือหลังจากที่มีการแบ่งไอร์แลนด์ใน ค.ศ. 1922 อย่างไรก็ตาม การเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมของโลกได้สิ้นสุดลงเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สองในช่วง ค.ศ. 1939–1945
ในปัจจุบัน เบลฟาสต์ยังคงเป็นเมืองท่าที่สำคัญ เป็นแหล่งอุตสาหกรรมการบินอวกาศและขีปนาวุธ มีอู่ต่อเรือเชิงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชยกรรม ซึ่งรวมถึงอู่เรือฮาร์ลันและวอล์ฟที่ดูแลชายฝั่งทะเลสาบเบลฟาสต์ ท่าอากาศยานในนครมีสองแห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานจอร์จ เบสต์ และท่าอากาศยานนานาชาติเบลฟาสต์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากนครไปทางทิศตะวันตก 15 ไมล์ (24 กิโลเมตร) โครงข่ายการวิจัยโลกาภิวัตน์และนครโลก (GaWC) ได้จัดอันดับให้เบลฟาสต์เป็นนครสำคัญของโลกประเภทแกมมาใน ค.ศ. 2018[11]
วัฒนธรรม
กีฬา
เบลฟาสต์มีทีมกีฬาที่มีชื่อเสียงที่ลงแข่งขันในกีฬาหลายประเภท ได้แก่ ฟุตบอล แกลิกเกม รักบี้ คริกเก็ต และฮอกกี้น้ำแข็ง การแข่งขันเบลฟาสต์มาราธอนถูกจัดขึ้นในวันเมย์เดย์ของทุกปี ซึ่งใน ค.ศ. 2011 มีผู้เข้าร่วมงานถึงสองหมื่นคน[12]
ฟุตบอลทีมชาตินอร์เทิร์นไอร์แลนด์ซึ่งรั้งอันดับที่ 23 จากการจัดอันดับโลกฟีฟ่าในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2017[13] ลงเล่นนัดเหย้าของพวกเขาที่วินด์เซอร์พาร์ก แชมป์ไอริชลีกฤดูกาล 2017–18 อย่างครูแซเดอส์ ก็เล่นเกมเหย้าที่สนามซีวิว ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของนคร
เบลฟาสต์เป็นบ้านเกิดของตำนานแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างจอร์จ เบสต์ ซึ่งเสียชีวิตในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2005 ในวันที่ที่ฝังศพของเขาที่เบลฟาสต์ มีประชาชนกว่า 100,000 คนยืนเรียงแถวจากหน้าบ้านของเขาบนถนนเครกัจไปยังสุสายโรสลอว์น[14] ท่าอากาศยานประจำนคร ได้นำชื่อของเขามาตั้ง เพื่อเป็นเกียรติแก่ตัวเขา นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างอนุสรณ์ของจอร์จ เบสต์ ในย่านใจกลางเมือง[15]
เมืองพี่น้อง
อ้างอิง
อ่านเพิ่มเติม
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เบลฟาสต์
- คู่มือการท่องเที่ยว เบลฟาสต์ จากวิกิท่องเที่ยว (ในภาษาอังกฤษ)
- Belfast City Council