คอร์เทกซ์กลีบข้างส่วนหลัง
คอร์เทกซ์กลีบข้างส่วนหลัง (อังกฤษ: posterior parietal cortex ตัวย่อ PPC, Cortex parietalis posterior) เป็นส่วนของสมองกลีบข้างหลังคอร์เทกซ์รับความรู้สึกทางกายปฐมภูมิ (primary somatosensory cortex)
คอร์เทกซ์กลีบข้างส่วนหลัง (Posterior parietal cortex) | |
---|---|
กลีบสมองต่าง ๆ สมองกลีบข้างมีสีเหลือง ส่วนหลังอยู่ใกล้กับเขตสีแดง | |
ผิวด้านข้างของสมอง ตัวเลขแสดงเขตบร็อดแมนน์ (คอร์เทกซ์กลีบข้างส่วนหลังเป็นส่วน #5 และ #7) | |
รายละเอียด | |
ตัวระบุ | |
ภาษาละติน | Cortex parietalis posterior |
ศัพท์ทางกายวิภาคของประสาทกายวิภาคศาสตร์ |
คือ ก่อนที่การเคลื่อนไหวจะเกิดขึ้นระบบประสาทต้องรู้ตำแหน่งเดิมของส่วนของร่างกายที่จะต้องเคลื่อนไหวและตำแหน่งต่าง ๆ ของวัตถุภายนอกที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจะมีปฏิกิริยาร่วมด้วยคอร์เทกซ์กลีบข้างส่วนหลังรับข้อมูลจากระบบรับความรู้สึก 3 ระบบที่มีบทบาทในการกำหนดตำแหน่งของร่างกายและของวัตถุภายนอกในปริภูมิ ซึ่งก็คือระบบการมองเห็น ระบบการได้ยิน และระบบรับความรู้สึกทางกาย ต่อจากนั้น คอร์เทกซ์จึงส่งข้อมูลไปยังส่วนต่าง ๆ ของคอร์เทกซ์สั่งการ (motor cortex) ในสมองกลีบหน้าไปยัง dorsolateral prefrontal cortex, ไปยังส่วนต่าง ๆ ของคอร์เทกซ์สั่งการทุติยภูมิ (secondary motor cortex)และ ไปยัง frontal eye fieldงานวิจัยที่ใช้ fMRI ในลิง และงานวิจัยที่ใช้การกระตุ้นสมองผ่านกะโหลกด้วยแม่เหล็ก (Transcranial magnetic stimulation) ในมนุษย์ชี้ว่า คอร์เทกซ์นี้มีส่วนประกอบเป็นเขตเล็ก ๆ ที่แต่ละเขตมีหน้าที่เฉพาะในการนำทางการเคลื่อนไหวตา ศีรษะ แขน หรือมือ
ความเสียหายต่อคอร์เทกซ์นี้มีผลเป็นความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว-การรับรู้ (sensorimotor)รวมทั้งการรับรู้และความทรงจำที่เกี่ยวกับวัตถุต่าง ๆ ในปริภูมิการยื่นมือออกไปเพื่อจับวัตถุการเคลื่อนไหวตาและการใส่ใจผลที่เด่นที่สุดของความเสียหายต่อคอร์เทกซ์นี้ก็คือภาวะเสียการรู้ปฏิบัติ (apraxia) และภาวะละเลยกึ่งปริภูมิ (hemispatial neglect)[1]
บางแหล่งกล่าวว่าคอร์เทกซ์นี้เป็นส่วนของเขตบร็อดแมนน์ 5 และ 7[2] บางแหล่งกล่าวว่าอยู่ในเขตบร็อดแมนน์ 7 เท่านั้น[3]
มีหลักฐานว่า คอร์เทกซ์นี้ยังมีบทบาทในการรับรู้ความเจ็บปวดอีกด้วย[4]
งานวิจัยเร็ว ๆ นี้เสนอว่า ความรู้สึกเกี่ยวกับ "เจตจำนงเสรี" (free will) เกิดขึ้นจากเขตนี้โดยส่วนหนึ่ง[5][6]
งานวิจัยหนึ่งพบว่า เมื่อให้ทำการศิลป์ นักศิลป์สมัครเล่นมีการไหลเวียนของเลือดในระดับสูงขึ้นใน PPC ซีกขวาโดยเปรียบเทียบกับของนักศิลป์มืออาชีพ[7]
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2012 ในวารสาร Neuron โดยนักประสาทวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์กค้นพบว่า มีการยิงสัญญาณแบบคงเส้นคงวาในนิวรอนของ PPCคือ นักวิจัยได้ตรวจสอบการทำงานในระบบประสาทของลิงมาคากในขณะที่ให้ลิงทำกิจกรรมที่ต้องยื่นมือออกไปและต้องเคลื่อนไหวตาแบบ saccadesหรือกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวตาแบบ saccades เท่านั้นการยิงสัญญาณแบบคงเส้นคงวาใน PPC พบในกิจกรรมที่ต้องอาศัยทั้งการยื่นมือและการเคลื่อนไหวตาไม่พบในกิจกรรมที่เคลื่อนไหวตาเท่านั้น[8]
ในงานวิจัยโดยสร้างภาพในสมอง คอร์เทกซ์นี้ โดยเฉพาะส่วนของรอยนูนแองกูลาร์ เกิดการทำงานเมื่อบุคคลกำลังระลึกถึงความจำอาศัยเหตุการณ์ (episodic memory)