การมีคนรักหลายคน
การมีคนรักหลายคน หรือ พอลีแอเมอรี (อังกฤษ: polyamory, จาก ภาษากรีก πολύ poly แปลว่า "หลากหลาย"และ ภาษาละติน amor แปลว่า "ความรัก") เป็นการปฏิบัติหรือความปรารถนา จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด กันมากกว่าหนึ่งคนโดยที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องรับรู้[1][2] มีการอธิบายไว้ว่า เป็น "ความยินยอม จริยธรรม และการมีคู่ครองหลายคนอย่างมีความรับผิดชอบ"[3][4][5] คนที่แสดงตัวเป็น พอลีแอเมอรี ปฏิเสธว่า มุมมองทางเพศและการมีความสัมพันธ์กับบุคคลเดียว เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความรัก และความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ในระยะยาว[6]
รูปแบบของพอลีแอเมอรีมีความหลากหลาย[7][8] สะท้อนถึงทางเลือกและปรัชญาของบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่ด้วยแก่นหรือค่านิยม เช่น ความรัก ความสนิทสนม ความซื่อสัตย์สุจริตความเท่าเทียมกัน การสื่อสารและข้อผูกมัด
ความสับสนเกิดขึ้นเมื่อใช้พอลีแอเมอรีในความหมายที่กว้างขึ้น โดยใช้เป็นคำที่ครอบคลุมรูปแบบต่าง ๆ ของการมีหลายคู่ครองโดยสมัครใจ ความสัมพันธ์หลายคู่ (รวมถึงพอลีแอเมอรี) หรือความสัมพันธ์ทางเพศหรือโรแมนติกที่ไม่ผูกขาดกับบุคคลเดียว[9]
รูปแบบ
พอลีแอเมอรีมีมาตรฐานสูงในการรักอย่างมีจริยธรรม การซื่อสัตย์ การเปิดเผยและการให้ความเคารพต่อกันและกัน พอลีแอเมอรีมีหลากหลายรูปแบบได้แก่
- อินทิเมตเน็ตเวิกส์ — เครือข่ายใกล้ชิดที่เชื่อมต่อความรักความสัมพันธ์ที่บุคคลอื่นอีกหลายคนและมีระดับความใกล้ชิดที่หลากหลาย
- พอลีแอเมอรีเดียว — คนที่ไม่มีความปรารถนาจะสร้างครอบครัวกับคู่รักคนอื่น
- ความสัมพันธ์แบบ"เรขาคณิต" เช่น
- วี— หนึ่งคนที่มีคู่รักสองคน โดยคู่รักสองคนไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน
- ไทรแอด — สามคนที่รักใคร่กัน โดยอาจจะเริ่มจากคู่รักตัดสินใจเพิ่มอีกคนเข้ามาในความสัมพันธ์
- ควอด — สี่คน มันเริ่มจากสองคู่ที่คบกันอยู่แล้ว
- เอ็น (N) — ความเป็นไปได้ที่คู่รักแต่ละคนจะมีคนรักเพิ่ม
ศาสนา
ชุมชนโอเนดะ (Oneida Community) เป็นชุมชนศาสนาคริสต์ในนิวยอร์ก ในช่วงศตวรรษที่ 19 เชื่อมั่นในระบบรักอิสระ (free love) และการแต่งงานที่ซับซ้อน (complex marriage)[10] โดนสมาชิกมีอิสระในการมีเซ็กส์กับทุกคนที่ยินยอม[11] การยึดครอง ความเป็นเจ้าของ และการคบหาดูใจกับคนใดแค่คนเดียวมักไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชน[12]
บางคนคิดว่าตัวเองเป็นคริสเตียนและเป็นพอลีแอเมอรี แต่หลักศาสนาคริสต์ส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ[13]
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560 คณะมนตรีเกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ลบุรุษและสตรีได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องเพศของมนุษย์ที่เรียกว่า "แถลงการณ์แนชวิลล์" ข้อความดังกล่าวได้รับการลงนามโดยผู้นำศาสนา 150 คนและรวมถึงความเชื่อ 14 ข้อ[14] หนึ่งในนั้นกล่าวว่า "เราปฏิเสธว่าพระเจ้าได้ออกแบบการแต่งงานไว้ สำหรับพวกรักร่วมเพศ พวกที่มีคู่ครองหลายคนหรือ พวกที่มีความสัมพันธ์แบบพอลีแอเมอรี"[15][16]
หลักปฏิบัติ
นอกจากปรัชญาพื้นฐานสำหรับความสัมพันธ์แล้ว พอลีแอเมอรียังมีหลักปฏิบัติที่รับมือ และจัดการกับปัญหาบางอย่างไม่ต่างจากการมีคู่สมรสเพียงคนเดียวที่ได้รับการยอมรับจากสังคม
ความเชื่อหลัก
- ความซื่อสัตย์ พอลีแอเมอรีจำนวนมาก นิยามความซื่อสัตย์ว่าไม่ได้เป็นความผูกขาดทางเพศ แต่เป็นความสัตย์ซื่อต่อสัญญาและข้อตกลงที่ทำไว้เมื่อคบกัน พอลีแอเมอรี สนับสนุนความสัมพันธ์แบบเปิดกว้างหรือการมีคนรักหลายคน โดยต่างกันไปตามระดับความใกล้ชิดและข้อตกลงร่วมกันของกลุ่ม[17] ความสัมพันธ์ทางเพศที่เป็นความลับจะนับว่าละเมิดข้อตกลงและจะถูกมองว่าเป็นความไม่ซื่อสัตย์ คำนิยามของข้อตกลงร่วมกันของกลุ่มจะพิจารณานอกเหนือจากการผูกขาดทางเพศ เช่น "ความไว้วางใจและความซื่อสัตย์"[18]
- การสื่อสารและการเจรจาต่อรอง เนื่องจากไม่มี "โมเดลมาตรฐาน" สำหรับความสัมพันธ์แบบพอลีแอเมอรี การเจรจาอย่างชัดเจนกับทุกฝ่ายในการกำหนดเงื่อนไขของความสัมพันธ์ของพวกเขามักเป็นสิ่งที่ถูกเน้นย้ำให้ทำอย่างสม่ำเสมอ เขาเชื่อว่าบางครั้งคนรักก็อาจทำผิดพลาด และการสื่อสารก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้.
- ความเชื่อถือ ความซื่อสัตย์ ศักดิ์ศรี และความเคารพ พอลีแอเมอรีส่วนใหญ่เน้นความเคารพ ความไว้วางใจ และความซื่อสัตย์ระหว่างคนรักทั้งหมด[19][20]
- ขอบเขตและข้อตกลง ความสัมพันธ์แบบพอลีแอเมอรีมักเกี่ยวข้องกับการเจรจาข้อตกลงและการกำหนดขอบเขตที่ชัดเจน โดยมี"กฎพื้นฐาน" ที่แตกต่างกันไปและอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา
- ความเสมอภาคทางเพศ พอลีแอเมอรีเชื่อในความเสมอภาคทางเพศ ต่างจากบางศาสนาที่ผู้ชายเป็นใหญ่
- ความไม่เป็นเจ้าของ: พอลีแอเมอรีสนับสนุนให้การที่คนรักของตนมีตนรักอีกคนเป็๋นสิ่งที่ดี ทำให้ตนรักของเรามีความสุขมากขึ้น ไม่ใช่การถูกแย่ง ความหึงหวงหรือความรู้สึกเป็นเจ้านั้นควรแก้ไข โดยมีเป้าหมายคือคอมเพอชัน (compersion)[21]
คอมเพอชัน (compersion)
คอมเพอร์ชัน (หรือในสหราชอาณาจักรใช้คำว่า ฟรับเบิล (frubble)[22][23]) ใช้เพื่ออธิบายว่าคนหนึ่งมีประสบการณ์ในแง่บวก เมื่อคนรักของตนกำลังมีความสุขกับความสัมพันธ์กับผู้อื่น[24][25]
อ้างอิง
อ่านเพิ่ม
- Bennett, Jessica. "Only You. And You. And You", Newsweek, July 29, 2009.
- Cook, Elaine. "Commitment in Polyamory", Electronic Journal of Human Sexuality, Volume 8, December 12, 2005.
- Davidson, Joy. "Working with Polyamorous Clients in the Clinical Setting", Electronic Journal of Human Sexuality, Volume 5, April 16, 2002. Also delivered to the Society for the Scientific Study of Sexuality, Western Regional Conference, April 2002.
- Easton, Dossie, and Liszt, Catherine. 1997. The Ethical Slut: A Guide to Infinite Sexual Possibilities. ISBN 1890159018.
- Emens, Elizabeth F. "Monogamy's Law: Compulsory Monogamy and Polyamorous Existence", New York University Review of Law & Social Change, Vol. 29, p. 277, 2004. Analyzes social and legal perspectives on polyamory.
- Hirako, Elise. "Historietas de Alice"<http://www.ashistorietasdealice.wordpress.com> A booklet with illustrations and stories that are themed in Alice and Anita being forms of love. July 2012
- Labriola, Kathy (2010). Love in Abundance: A Counselor's Advice on Open Relationships. Greenery Press. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-16. สืบค้นเมื่อ 2018-01-13.
- McCullough, Derek; Hall, David S. "Polyamory – What it is and what it isn't", Electronic Journal of Human Sexuality, Volume 6, February 27, 2003. Reviews some of the core beliefs, perspectives, practicalities, and references in polyamory.
- Newitz, Annalee. "Love Unlimited: The Polyamorists", New Scientist, July 7, 2006.
- Penny, Laurie. "Being polyamorous shows there's no 'traditional' way to live". The Guardian. Tuesday August 20, 2013.
- Ravenscroft, Anthony. 2004. Polyamory: roadmaps for the clueless and hopeful. ISBN 1890109533.
- Strassberg, Maura I. ""The Challenge Of Post-Modern Polygamy: Considering Polyamory"" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2006-05-24. สืบค้นเมื่อ 2018-01-13. (541 KB). Research analyzing monogamy, polygamy, polyfidelity and polyparenting and considers how polyfidelitous marriage might fit into Western culture within a Hegelian framework.
- Taormino, Tristan. 2008. Opening Up: A Guide to Creating and Sustaining Open Relationships ISBN 978-1573442954.
- Stewart, Kate. 2013. The Open Relationship Handbook[ลิงก์เสีย] ISBN 9781483501512
- Veaux, Franklin; Rickert, Eve. 2014. More Than Two: A practical guide to ethical polyamory, ISBN (paperback): 978-0-9913997-0-3, ISBN (Kindle/ePub): 978-0-9913997-2-7.
- Weitzman, Geri (2006). "Therapy with Clients Who Are Bisexual and Polyamorous". Journal of Bisexuality. 6 (1–2): 137–164. doi:10.1300/J159v06n01_08.