ด้วงก้นกระดก
ด้วงก้นกระดก หรือ ด้วงปีกสั้น หรือ ด้วงก้นงอน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Paederus fuscipes Curtis) เป็นด้วงขนาดเล็กประมาณ 7 มิลลิเมตร ส่วนหัวมีสีดำ ปีกสีน้ำเงินเข้ม และส่วนท้องมีสีส้มมีความสามารถในการเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว และมักจะงอส่วนท้องส่ายขึ้นลงเมื่อเกาะอยู่กับพื้น จึงมักเรียกว่า "ด้วงก้นกระดก" จัดอยู่ในอันดับ Coleoptera วงศ์ Staphylinidae พบกระจายทั่วโลก กว่า 20 ชนิด สำหรับชนิดที่พบได้ในประเทศไทย ด้วงชนิดนี้อาศัยบริเวณพงหญ้าที่มีความชื้น ชอบออกมาเล่นไฟ จะมีมากโดยเฉพาะในฤดูฝน
Rove beetles ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: Rhaetian–Recent | |
---|---|
Rove beetles of western Eurasia | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอตา |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์ขาปล้อง |
ชั้น: | แมลง |
อันดับ: | อันดับด้วง |
อันดับย่อย: | Polyphaga |
อันดับฐาน: | Staphyliniformia |
วงศ์ใหญ่: | Staphylinoidea |
วงศ์: | Staphylinidae Lameere, 1900 |
Subfamilies | |
|
พิษ
ด้วงชนิดนี้สามารถปล่อยสารที่เรียกว่า พีเดอริน (Paederin) ออกมา สารชนิดนี้มีความเป็นพิษทำลายเนื้อเยื่อ ผู้ที่สัมผัสลำตัวด้วงชนิดนี้จะมีอาการปวดแสบปวดร้อน คัน ในรายที่เป็นมาก อาจมีไข้ปวดศีรษะ หากเข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้ แผลจะมีลักษณะเป็นทางยาว อาจจะพบเป็นตุ่มใส (vesicle) อาการเหล่านี้จะหายเองได้ภายใน 7-10 วัน ควรทำความสะอาดแผลและปิดปากแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อาจใช้ยาสมานแผลพวกยาแก้แพ้ได้ เบื้องต้นหลังจากทราบว่าสัมผัสด้วงชนิดนี้ควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที หากอาการไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์
ทางการเกษตร
มีประโยชน์ในทางเป็นการควบคุมการระบาดของแมลงศัตรูพืช โดยด้วงก้นกระดกจะช่วยกำจัดไข่หนอนผีเสื้อ ทำลายไข่และหนอนของแมลงวัน