พายุไต้ฝุ่นนันมาดอล (พ.ศ. 2565)
พายุไต้ฝุ่นนันมาดอล พ.ศ. 2565 ในประเทศญี่ปุ่นเรียกว่า พายุไต้ฝุ่นหมายเลข 14 ในประเทศฟิลิปปินส์เรียกว่า พายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นโจซี (ญี่ปุ่น: 令和4年台風第14号; โรมาจิ: Reiwa Yonen Taifū Dai Ichiyon Gō; อังกฤษ: Typhoon Nanmadol, Super Typhoon Josie) เป็นพายุหมุนเขตร้อนที่ขึ้นฝั่งจังหวัดคาโงชิมะตอนใต้บนเกาะคีวชูในวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2565 และมุ่งหน้าสู่เกาะญี่ปุ่นใหญ่[2] กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยพิเศษในจังหวัดคาโงชิมะและจังหวัดมิยาซากิ[3] หนึ่งวันก่อนพายุไต้ฝุ่นจะขึ้นฝั่ง ซึ่งเป็นการประกาศเตือนภัยพิเศษครั้งแรกนอกจังหวัดโอกินาวะ[4][5] มีการสั่งให้ประชาชนกว่า 2 ล้านคนที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่นอพยพ กรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่าพายุไต้ฝุ่นนี้ "รุนแรงและอันตราย" และ "อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่"[6]
พายุไต้ฝุ่นรุนแรง (JMA) | |||
---|---|---|---|
พายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 4 (SSHWS) | |||
พายุไต้ฝุ่นนันมาดอลขณะมีกำลังแรงสูงสุดเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2565 | |||
ก่อตัว | 14 กันยายน พ.ศ. 2565 | ||
สลายตัว | 20 กันยายน พ.ศ. 2565 | ||
ความเร็วลม สูงสุด |
| ||
ความกดอากาศต่ำสุด | 910 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 26.87 นิ้วปรอท) | ||
ผู้เสียชีวิต | 4 ราย[1] | ||
ความเสียหาย | 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ค่าเงินปี พ.ศ. 2565) | ||
พื้นที่ได้รับ ผลกระทบ | ประเทศญี่ปุ่น, ประเทศเกาหลีใต้ | ||
ส่วนหนึ่งของ ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2565 |
มีรายงานว่า 300,000 กว่าครัวเรือนทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถใช้ไฟได้หลังพายุไต้ฝุ่นนันมาดอลขึ้นฝั่งในวันอาทิตย์ตอนกลางคืน[7] เจแปนแอร์ไลน์ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 800 เที่ยว วันจันทร์ที่ 19 เจอาร์ตะวันตกยกเลิกการให้บริการซันโยชิงกันเซ็งระหว่างสถานีฮิโรชิมะและฮากาตะ[8] นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ชะลอการเดินทางไปนครนิวยอร์กเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเพื่อเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากพายุไต้ฝุ่น[9]
การเตรียมพร้อมและผลกระทบ
ประเทศญี่ปุ่น
มีการพยากรณ์พายุไต้ฝุ่นลูกนี้ว่าเป็นพายุไต้ฝุ่นใน 5 อันดับที่มีความรุนแรงมากที่สุดที่จะขึ้นฝั่งญี่ปุ่น[10] อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ว่ากระแสลมกรด (jet stream) จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้น้ำท่วมในปัจจุบันแย่ลงอีก[11] มีการประกาศเตือนภัยพิเศษในจังหวัดคาโงชิมะโดยกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเตือนภัยพิเศษครั้งแรกนอกจังหวัดโอกินาวะ เจแปนแอร์ไลน์ได้ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 800 เที่ยว[12] และการบริการรถไฟล่าช้าเป็นอย่างมาก[13] มีการคาดการณ์ว่าบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นหินหนามหน่อสองสัปดาห์ก่อนตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นนันมาดอล[14] โดยรวม ประชาชนกว่า 7 ล้านคนได้รับคำสั่งให้อพยพ[15] จากจำนวนประชากร 7 ล้านคนนั้น อย่างน้อย 965,000 คนอยู่ในจังหวัดมิยาซากิ, จังหวัดคาโงชิมะ และหมู่เกาะอามากูซะ มีการเตือนภัยขั้นสูงสุดตามมาตราวัดญี่ปุ่น (ระดับที่ 5) ในเมืองนิชิโนโอโมเตะ จังหวัดคาโงชิมะ[16]
ตลอดช่วงบ่ายของวันที่ 18 กันยายน มิยาซากิวัดปริมาณน้ำฝนได้ที่ 381 มิลลิเมตร กรมอุตุนิยมวิทยากล่าวเพิ่มเติมว่าเป็น "ฝนตกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" เสาไฟโค่นล้มตลอดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ อย่างน้อย 190,000 ครัวเรือนไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้[17] ในจังหวัดคาโงชิมะ ประชาชนมากกว่า 8,000 คน ย้ายออกจากบ้านและ 12,000 คนอยู่ในที่หลบภัย นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ นักดับเพลิง กองกำลังป้องกันตนเอง และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ลงไปในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ[18] ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายใน 4 จังหวัด: คาโงชิมะ, โออิตะ, มิยาซากิ และ คูมาโมโตะ ขึ้นสูงเกินระดับเตือนภัยน้ำท่วม เขือนกว่า 100 เขื่อนมีการปล่อยน้ำก่อนพายุไต้ฝุ่นจะมาถึงเพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยตัวเลขของจำนวนเขื่อนที่มีการปล่อยน้ำก่อนนั้นสูงกว่าพายุไต้ฝุ่นไห่เฉิน[19]