สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย

สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย (อังกฤษ: Franco-Prussian War) หรือ สงครามฝรั่งเศส-เยอรมัน ในฝรั่งเศสเรียกกันว่า สงครามปี 1870[10] (1870 War) เป็นความขัดแย้งระหว่างจักรวรรดิฝรั่งเศสที่สอง(และต่อมากลายเป็นสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3) และรัฐเยอรมันแห่งสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือภายใต้การนำโดยราชอาณาจักรปรัสเซีย กินเวลาตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1870 ถึง 28 มกราคม ค.ศ. 1871 ความขัดแย้งครั้งนี้มีสาเหตุมาจากความทะเยอทะยานของปรัสเซียที่จะขยายอำนาจในการรวมชาติเยอรมันและความเกรงกลัวของฝรั่งเศสในการเปลี่ยนแปลงสมดุลแห่งอำนาจในยุโรปที่จะส่งผลลัพธ์ หากปรัสเซียทำสำเร็จ นักประวัติศาสตร์บางคนได้โต้แย้งว่า นายกรัฐมนตรีปรัสเซีย อ็อทโท ฟ็อน บิสมาร์ค ได้มีความจงใจในการยั่วยุฝรั่งเศสให้ประกาศสงครามกับปรัสเซีย เพื่อที่จะชักนำให้รัฐทางใต้ของเยอรมันที่เป็นอิสระ ได้แก่ บาเดิน เวือร์ทเทิมแบร์ค บาวาเรีย และเฮ็สเซิน - ดาร์มชตัดท์ เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือซึ่งถูกปกครองโดยปรัสเซีย ในขณะที่คนอื่นยืนยันว่า บิสมาร์คไม่ได้วางแผนและใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ครั้งนี้ในขณะที่พวกเขาได้แฉออกไป อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครโต้แย้งความจริงที่ว่าบิสมาร์คต้องยอมรับศักยภาพของพันธมิตรเยอรมันใหม่ในการรับมือสถานการณ์โดยรวม[11]

สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย
ส่วนหนึ่งของ การรวมชาติเยอรมัน

(ตามเข็มนาฬิกาจากบนขวา)
  • ยุทธการมารส์-ลา-ตูร์, 16 สิงหาคม ค.ศ. 1870
  • กรมทหารราบเบาที่ 9 เลาเอินบวร์คที่กราฟลอต
  • กระสุนปืนนัดสุดท้าย
  • การป้องกันช็องปีญนี
  • การปิดล้อมกรุงปารีสใน ค.ศ. 1870
  • การประกาศสถาปนาจักรวรรดิเยอรมัน
วันที่19 กรกฎาคม ค.ศ. 1870 – 28 มกราคม ค.ศ. 1871
(6 เดือน 1 สัปดาห์ 2 วัน)
สถานที่
ฝรั่งเศสและจังหวัดไรน์ ปรัสเซีย
ผล

ฝ่ายเยอรมนีชนะ

ดินแดน
เปลี่ยนแปลง
  • การรวมชาติเยอรมันสำเร็จ
  • สถาปนาจักรวรรดิเยอรมัน
  • เยอรมันผนวกอาลซัส-ลอแรน
  • คู่สงคราม

     เยอรมนี

     แกรนด์ดัชชีบาเดิน
     บาวาเรีย
    ราชอาณาจักรเวือร์ทเทิมแบร์ค
    แกรนด์ดัชชีเฮ็สเซิน

    (ก่อนวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 1871)


     เยอรมนีc

    (หลังวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 1871)

     จักรวรรดิฝรั่งเศสa


     สาธารณรัฐฝรั่งเศสb (Government of National Defense)

    • อาสาสมัครต่างชาติ
    ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
    กำลัง

    รวม:

    • 1,494,412 นาย[1]

    กำลังเดิม:

    • 938,424 นาย
    • ทหารทั่วไปและสำรอง 730,274 นาย[2]
    • Landwehr 208,150 นาย[2]

    กำลังของกองทัพภาคสนามช่วงสูงสุด:

    รวม:

    • 2,000,740 นาย[2]

    กำลังเดิม:

    • 909,951 นาย
    • ใช้งาน 492,585 นาย รวมตัวสำรอง 300,000 นาย[3][2]
    • Garde Mobile 417,366 นาย[3]

    กำลังของกองทัพภาคสนามช่วงสูงสุด:

    • 710,000 นาย[2]
    ความสูญเสีย

    144,642 นาย[4]

    • เสียชีวิต 44,700 นาย[5]
    • บาดเจ็บ 89,732 นาย
    • หายตัวหรือถูกจับกุม 10,129 นาย

    1,005,427 นาย[6]

    • เสียชีวิต 138,871 นาย[7][8]
    • บาดเจ็บ 143,000 นาย
    • ถูกจับกุม ยอมจำนน หรือกักขัง 723,556 นาย[9]
    พลเมืองเสียชีวิตประมาณ 250,000 คน รวมชายเยอรมัน 162,000 ที่เสียชีวิตด้วยโรคฝีดาษจากเชลยศึกชาวฝรั่งเศส[4]
    • a จนถึงวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1870
    • b ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1870
    • c ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 1871

    ฝรั่งเศสได้ระดมกองทัพ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1870 ทำให้สมาพันธรัฐเยอรมันเหนือได้ทำการตอบโต้ด้วยการระดมพลเช่นกันในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1870 รัฐสภาฝรั่งเศสได้โหวตเพื่อประกาศสงครามกับปรัสเซียและคำประกาศสงครามได้ถูกไปยังปรัสเซียในสามวันต่อมา กองทัพฝรั่งเศสได้เข้ารุกดินแดนเยอรมัน เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม เยอรมันได้ระดมพลของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าฝรั่งเศสและได้เข้ารุกทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม กองทัพเยอรมันมีจำนวนที่เหนือกว่า มีการฝึกอบรมและความเป็นผู้นำที่ดี และมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือทางรถไฟ และปืนใหญ่

    หนึ่งในชัยชนะอย่างรวดเร็วของปรัสเซียและเยอรมันในทางตะวันออกของฝรั่งเศส จุดสูงสุดในการล้อมที่แม็สและยุทธการที่เชอด็อง ทำให้จักรพรรดิ นโปเลียนที่ 3ทรงถูกจับกุมและกองทัพจักรวรรดิที่สองได้ปราชัยอย่างย่อยยับ รัฐบาลปกป้องชาติได้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่สามขึ้นในปารีส เมื่อวันที่ 4 กันยายน และทำสงครามต่อไปในอีกห้าเดือน กองทัพเยอรมันได้ต่อสู้รบและพ่ายแพ้ให้กับกองทัพฝรั่งเศสใหม่ในภาคเหนือของฝรั่งเศส ปารีสซึ่งเป็นเมืองหลวงได้ถูกปิดล้อมและถูกยึดครอง เมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1871 ภายหลังการก่อการกำเริบของฝ่ายคณะปฏิวัติที่เรียกตนเองว่า คอมมูนปารีส ได้เข้ายึดอำนาจในเมืองและถือครองไว้เป็นเวลาสองเดือน จนกระทั่งกองทัพฝรั่งเศสได้เข้าปราบปรามอย่างเลือดเย็น เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1871

    รัฐเยอรมันทั้งหมดได้ประกาศว่าจะรวมตัวกันเป็นจักรวรรดิเยอรมันภายใต้การนำโดยกษัตริย์แห่งปรัสเซีย วิลเฮล์มที่ 1 ในที่สุดเยอรมนีก็รวมชาติเป็นหนึ่งเดียวในฐานะที่เป็นชาติ-รัฐ(ออสเตรียได้ถูกแยกออกไป) สนธิสัญญาแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ.1871 ทำให้ส่วนใหญ่ของแคว้นอาลซัสและบางส่วนของแคว้นลอแรนตกเป็นของเยอรมนี ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นดินแดนจักรวรรดิแห่งอาลซัสและลอแรน(Reichsland Elsaß-Lothringen). การที่เยอรมันพิชิตฝรั่งเศสและรวมชาติเยอรมนีทำให้เกิดการเสียสมดุลแห่งอำนาจในยุโรปที่มีมาตั้งแต่การประชุมใหญ่แห่งเวียนนา ในปี ค.ศ. 1815 และบิสมาร์คยังรักษาอำนาจอย่างมากในกิจการระหว่างประเทศเป็นเวลาสองทศวรรษ

    ด้วยความมุ่งมั่นของฝรั่งเศสที่จะชิงอาลซัสและลอแรนกลับคืนมา และความหวาดกลัวของสงครามฝรั่งเศสและเยอรมันอีกครั้งพร้อมกับความหวั่นเกรงของบริติชเกี่ยวกับสมดุลแห่งอำนาจ กลายเป็นปัจจัยในสาเหตุของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

    ดูเพิ่ม

    อ้างอิง

    หนังสือ

    วารสาร

    เว็บไซต์

    • de Chavannes, Pierre Puvis (1872). "Hope". The Walters Art Museum.
    • "Franco-German War". Britannica.com. Encyclopædia Britannica, Inc. 30 December 2013. สืบค้นเมื่อ 18 May 2013.

    แหล่งข้อมูลอื่น

    🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง