สโมสรฟุตบอลชลบุรี

สโมสรฟุตบอลชลบุรี เป็นสโมสรฟุตบอลในประเทศไทย โดยเป็นสโมสรจากจังหวัดชลบุรี ปัจจุบันลงเล่นในไทยลีก 2 เคยได้ตำแหน่งชนะเลิศไทยลีก ในฤดูกาล 2550 ซึ่งปัจจุบันใช้สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดียม เป็นสนามเหย้าของสโมสร

ชลบุรี เอฟซี
ชื่อเต็มสโมสรฟุตบอลชลบุรี
ฉายาฉลามชล[1]
ก่อตั้งพ.ศ. 2540 ในชื่อ สโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตร สมุทรปราการ (รวมทีม)
พ.ศ. 2543 ในชื่อ สโมสรฟุตบอลชลบุรี (แยกออกจากสโมสรฟุตบอลสันนิบาตรฯ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันโปรวินเชียลลีก)
สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดียม
ความจุ8,600 [1]
เจ้าของบริษัท ชลบุรี เอฟซี จำกัด
ประธานวิทยา คุณปลื้ม
ผู้จัดการสินทวีชัย หทัยรัตนกุล
ผู้ฝึกสอนพิภพ อ่อนโม้
ลีกไทยลีก 2
2566–67ไทยลีก , อันดับที่ 14 (ตกชั้น) ลดลง
เว็บไซต์เว็บไซต์สโมสร
สีชุดทีมเยือน
สีชุดที่สาม
ฤดูกาลปัจจุบัน
ทีมของชลบุรีเอฟซี
ฟุตบอล (ชาย)ฟุตบอลบี (ชาย)ฟุตซอล (ชาย)
อีสปอร์ตฟุตบอล (หญิง)

ประวัติสโมสร

ยุคเริ่มต้น

สโมสรฟุตบอลจังหวัดชลบุรี แต่เดิมเป็นทีมฟุตบอลเยาวชนของโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา โดยมี อรรณพ สิงห์โตทอง, ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ, สนธยา คุณปลื้ม และ วิทยา คุณปลื้ม เป็นผู้ดูแล โดยได้ส่งทีมฟุตบอลของโรงเรียนเข้าร่วมการแข่งขันในระดับเยาวชน และได้รับรางวัลชนะเลิศในหลายการแข่งขัน อาทิ การแข่งขันฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา เป็นต้น[2] ต่อมาทางทีมฟุตบอลของโรงเรียนจึงสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ในนามของ ทีมฟุตบอลโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา

ต่อมาเมื่อ สมาคมสันนิบาตสงเคราะห์ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศการแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. ประจำปี 2539 ทางกลุ่มผู้ดูแลทีมฟุตบอลฯ ได้มีการเจรจาขอรวมทีม จึงได้ก่อตั้งเป็น สโมสรฟุตบอลชลบุรี–สันนิบาตฯ สมุทรปราการ และได้เข้าแข่งขันใน ดิวิชัน 1[3]

ยุคโปรลีก

ต่อมาเมื่อทางสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันโปรวินเชียลลีก ในปี 2543 จึงได้ออกมาก่อตั้ง ทีมฟุตบอลจังหวัดชลบุรี โดยได้แยกสโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตฯ สมุทรปราการ ซึ่งในขณะนั้นลงเล่นในดิวิชั่น 1 ออกจากกัน โดยผู้เล่นของทีมส่วนใหญ่ ได้นำผู้เล่นจากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และ โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี โดยในฤดูกาลแรกที่เข้าร่วมแข่งขัน (โปรลีก 2543/44) สโมสรจบอันดับที่ 3 ของตาราง

เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก

ต่อมาในฤดูกาล 2548 ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้มีการกำหนดให้ทีมจังหวัดที่ชนะเลิศและรองชนะเลิศ ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นในไทยลีก และในปีนั้นสโมสรประสบความสำเร็จโดยได้ตำแหน่งชนะเลิศการแข่งขัน และได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปทำการแข่งขันในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลถัดมา และในปีเดียวกันนั้นทางสโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานควีนสคัพ ในนามของสโมสรราชประชา และเข้าร่วมการแข่งขันสิงคโปร์คัพอีกด้วย

ยุคไทยลีก

ในฤดูกาล 2550 สโมสรฯ ภายใต้การนำของจเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกสอนในขณะนั้น สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรและวงการฟุตบอลไทย โดยสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศ ไทยลีก ได้เป็นสมัยแรก และถือว่าเป็นสโมสรฟุตบอลจังหวัด สโมสรแรกของประเทศไทยที่ทำได้ พร้อมกับได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก

ฤดูกาล 2551

เสื้อเหย้าของชลบุรีในฤดูกาล 2551 พร้อมตราสัญลักษณ์แบบเก่า

สโมสร ได้เริ่มต้นฤดูกาล โดยลงทำการแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก. ประจำปี 2550 โดยได้ตำแหน่งชนะเลิศอีกด้วยในปีนั้น โดยเอาชนะ สโมสรธนาคารกรุงไทย ไปได้ 1-0 จากการทำประตูของ จูเลียส บาก้า

ต่อมาก่อนที่ไทยลีก 2551 จะเริ่มการแข่งขัน ในเดือนเมษายน สโมสรก็ได้เตรียมการที่จะจดทะเบียนสโมสรให้อยู่ในรูปแบบ บริษัทนิติบุคคล โดยใช้ชื่อ บริษัท สโมสรฟุตบอลชลบุรี จำกัด พร้อมกับจดลิขสิทธิ์ฉายาและตราสัญลักษณ์ของสโมสรด้วย ซึ่งทางบริษัท จะเข้ามาจัดการบริหารสโมสรอย่างเต็มตัว เพื่อความสะดวกในการวางงบประมาณทำทีมและแผนงานต่างๆ[4]

ส่วนผลงานในลีกในฤดูกาลนั้น สโมสรไม่สามารถป้องกันตำแหน่งชนะเลิศไว้ได้ โดยได้แค่รองชนะเลิศ โดยสโมสรชนะเลิศในฤดูกาลนั้น คือ สโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แต่ก็ยังได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี คัพ ซึ่งเป็นถ้วยรองในระดับทวีปเอเชียแทน

เข้าร่วมแข่งขันในระดับทวีปครั้งแรก

สโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เป็นครั้งแรก โดยจับฉลากแบ่งสาย อยู่ในสาย G ร่วมกับ เมลเบิร์น วิกตอรี (ออสเตรเลีย) กัมบะ โอซะกะ (ญี่ปุ่น) และ ชุนนัม ดรากอนส์ (เกาหลีใต้) โดยสโมสรได้เลือก สนามศุภชลาศัย เป็นสนามเหย้าแทน เนื่องเพราะ สนามสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี ไม่ผ่านมาตรฐานของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ด้านผลงานของสโมสรในการแข่งขัน สโมสรทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในช่วงสองเกมแรก สามารถบุกไปเสมอ กัมบะ โอซะกะ ได้ถึงประเทศญี่ปุ่น และกลับมาชนะ เมลเบิร์น วิกตอรี ได้ที่สนามศุภชลาศัย 3 ประตูต่อ 1

แต่ทว่า ใน 4 เกมที่เหลือ สโมสรทำผลงานได้ไม่ดีนัก โดยเก็บได้แค่คะแนนเดียว ในเกมที่เสมอกับ ชุนนัม ดรากอนส์ ทำให้สโมสร ต้องตกรอบแบ่งกลุ่มในปีนั้นด้วยอันดับสุดท้าย แต่ก็เป็นเกียรติประวัติให้กับสโมสร ที่ได้เป็นที่รู้จักในระดับเอเชียมากขึ้น

ฤดูกาล 2552

ปี 2552 สโมสรได้มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอน โดยได้แต่งตั้ง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จาก สโมสรจุฬาฯ-สินธนา มาแทน จเด็จ มีลาภ ที่ย้ายไปเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสรพัทยา ยูไนเต็ด โดยเริ่มต้นในปีนี้ ด้วยการได้ตำแหน่งชนะเลิศ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก. ประจำปี 2551 ได้อีกครั้ง และเริ่มต้นการบริหารในรูปแบบนิติบุคคลขึ้น แต่ผลงานในลีกก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ โดยทำได้เพียงตำแหน่งรองชนะเลิศอีกครั้งหนึ่ง โดยสโมสรชนะเลิศในฤดูกาลนั้น คือ สโมสรเมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด

เอเอฟซีคัพ 2552
ชลบุรีพบกับเกดะห์ในเอเอฟซีคัพ 2009

สโมสรได้สิทธิร่วมแข่งขันในรายการ เอเอฟซี คัพ ในฐานะรองชนะเลิศของลีก โดยจับฉลากแบ่งสายรอบแรก ชลบุรีได้อยู่ในสาย G โซนตะวันออก โดยอยู่ร่วมสายเดียวกับทีม ฮานอย เอซีบี (เวียดนาม) อีสเทิร์น แอธเลติก (ฮ่องกง) และ เคดาห์ (มาเลเซีย) [5]

ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมชลบุรีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์ของกลุ่ม G ไปเจอกับทีม พีเอสเอ็มเอส เมดาน จากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งชลบุรีเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4 ประตูต่อ 0[6] ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ พบกับบินห์เยือง สโมสรจากเวียดนาม แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อทีมตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ฤดูกาล 2553

ในปี 2553 สโมสรได้แต่งตั้ง จเด็จ มีลาภ กลับมาคุมทีมอีกครั้ง พร้อมกับย้ายสนามเหย้าจาก สนามสิรินธร ภายในโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา มาที่สนามสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี โดยในฤดูกาลนี้ สโมสรจบด้วยอันดับที่ 3 ในการแข่งขัน แต่ก็ยังสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศฟุตบอลถ้วย มูลนิธิไทยคมเอฟเอคัพ เป็นครั้งแรก ทำให้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซีคัพ ฤดูกาล 2554

ฤดูกาล 2554

ในปี 2554 สโมสร ได้ย้ายสนามเหย้าจาก สนาม สพล. ชลบุรี มาใช้ ชลบุรี สเตเดียม โดยได้ วิทยา เลาหกุล มารับตำแหน่งผู้จัดการทีมเต็มตัว โดยทำงานร่วมกับ จเด็จ มีลาภ ซึ่งในปีเดียวกันนี้ สโมสรสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก. ประจำปี 2553 มาครองไว้ได้ ซึ่งถือเป็นสมัยที่สามในประวัติศาสตร์สโมสร และจบอันดับด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศ ไทยลีก เป็นสมัยที่ 3 แต่ได้สิทธิเข้าไปเล่น รอบคัดเลือกใน เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีกอีกครั้ง

เอเอฟซีคัพ 2554

ในฤดูกาลนี้ สโมสรได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้ง จากการชนะเลิศ ไทยเอฟเอคัพ โดยผลการจับสลากแบ่งสาย สโมสรอยู่สาย H ร่วมสายกับ เปอซิปุระชัยปุระ (อินโดนีเซีย) เซาต์ไชน่า (ฮ่องกง) และ คิงฟิชเชอร์อีสต์เบงกอล (อินเดีย)

ผลการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม ปรากฏว่า สโมสรสามารถคว้าอันดับที่หนึ่งของกลุ่ม H ด้วยผลงาน ชนะ 4 เสมอ 1 และแพ้ 1 มี 13 คะแนน ได้สิทธิเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายและได้สิทธิเล่นเป็นเจ้าบ้านพบกับ ศรีวิจาย่า จากอินโดนีเซีย[7] และสามารถเอาชนะเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ โดยเข้าไปพบกับทีม นาซาฟ จากอุซเบกิสถาน โดยชลบุรีเป็นฝ่ายแพ้การดวลจุดโทษนาซาฟหลังประตูรวมสองนัดเท่ากัน 1 ประตู ต่อ 1 ตกรอบไปในที่สุด

ฤดูกาล 2555

ปี 2555 สโมสร ได้มีการเปลี่ยนผู้สนับสนุนอุปกรณ์กีฬาจากเอฟบีที เป็น ไนกี้[8] และเริ่มเปิดฤดูกาลด้วยการป้องกันตำแหน่งคว้าตำแหน่งชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก. ไว้ได้อีกสมัย โดยการเอาชนะจุดโทษ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไป 6 ประตูต่อ 5 ภายหลังเสมอในเวลา 90 นาที 2 ประตูต่อ 2 ส่วนในลีกนั้น ชลบุรีทำได้เพียงตำแหน่งรองชนะเลิศ เป็นสมัยที่ 4 ส่วนจเด็จ มีลาภ ย้ายไปเป็นผู้จัดการทีมสงขลา ยูไนเต็ด

เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2555

ภายหลังจากเอเอฟซีปรับจำนวนทีมจากประเทศไทยให้สามารถเข้าร่วมแข่งขันในรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม 1 ทีม และรอบคัดเลือกอีก 1 ทีม ทำให้ชลบุรีได้สิทธิเข้าไปเล่นในรอบคัดเลือกเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกโซนตะวันออกอีกครั้ง ด้วยสาเหตุที่ว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าตำแหน่งชนะเลิศทั้งรายการไทยพรีเมียร์ลีกและรายการเอฟเอคัพทั้งสองรายการ ทำให้ชลบุรีซึ่งได้ตำแหน่งรองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีกใด้สิทธิตัวแทนของประเทศไทยอีกหนึ่งทีม โดยจะเข้าไปพบกับโปฮัง สตีลเลอร์ส จากเกาหลีใต้ ก่อนที่จะเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มต่อไป แต่กลับแพ้ไป 2-0 ต้องตกชั้นลงมาเล่นเอเอฟซีคัพแทน

เอเอฟซีคัพ 2555

หลังจากที่ตกรอบคัดเลือกเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก จากการบุกไปแพ้ โปฮัง สตีลเลอร์ส ของเกาหลีใต้ไป 2 - 0 ชลบุรีได้สิทธ์ไปเล่นใน เอเอฟซีคัพ ซึ่งเป็นถ้วยรองของเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก โดยชลบุรีได้อยู่ใน กลุ่มจี ร่วมกับย่างกุ้ง ยูไนเต็ด จากประเทศพม่า โฮม ยูไนเต็ด จากประเทศสิงคโปร์ และ ซิตี้เซนต์ แอธแลนติก จากประเทศฮ่องกง ซึ่งชลบุรี ได้แชมป์ของกลุ่มจี และ โฮม ยูไนเต็ด เป็นรองแชมป์

โดยชลบุรีสิทธ์ล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายพบกับอัล ซาวร่า รองแชมป์ กลุ่มอี จากประเทศอิรัก ทำการแข่งขันในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 19.00 (ตามท้องถิ่น) ที่ ชลบุรีสเตเดียม จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย ผลปรากฏว่า ชลบุรี ชนะ อัล ซาวร่า ไปได้ 1 - 0 จากประตูของ พิภพ อ่อนโม้ ในนาทีที่ 8 จึงผ่านเข้ารอบไปสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป[9]

ชลบุรีได้ไปเจอกับสโมสรกีฬาอัลชอร์ตา จากประเทศซีเรีย โดยรอบแรกเล่นที่ชลบุรีสเตเดียม ผลปรากฏว่าชลบุรีแพ้ไป 2 - 1 ทั้งที่นำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 3 จาก ตีอาโก คุนญา[10] และรอบสองได้ไปเล่นที่สนาม ปรินทส์ โมฮัมเหม็ด สเตเดียม ที่ ประเทศจอร์แดน เนื่องจากสนามเหย้าของอัลชอร์ต้าซึ่งอยู่ในประเทศซีเรีย ในเมืองดามัสกัสได้มีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้น ทางเอเอฟซีจึงปรับให้มาเล่นที่สนามของประเทศจอร์แดนแทน ซึ่งผลปรากฏว่าครบ 90 นาที ชลบุรีนำอยู่ 2 - 1 แต่รวมสกอร์แล้วยังเสมออยู่ 3 - 3 เลยต้องต่อเวลาพิเศษไป ผลปรากฏว่าชลบุรีได้ 2 ประตู จากติอาโก คุนญา ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ครบ 120 นาที ชลบุรีจึงบุกไปชนะได้ 4 - 2 รวมสกอร์จากนัดแรก ชลบุรีชนะไป 5 - 4 โดยรอบก่อนรอบรองชนะเลิศ ชลบุรีจะได้พบทีม สโมสรฟุตบอลอาร์บิล จากประเทศอิรัก[11] ซึ่งนัดแรกชลบุรีบุกไปแพ้ถึง 1 - 4 และนัดที่สองได้กลับมาเล่นที่ชลบุรีก็แพ้ไปด้วยสกอร์เดิม 1 - 4 รวมผลสองนัดชลบุรีตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 8 - 2 คว้าอันดับ 3 ไปครอง

ฤดูกาล 2556

ปี 2556 สโมสรเปิดตัววรวุฒิ ศรีมะฆะ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้งเทิดศักดิ์ ใจมั่น ขึ้นโค้ชและผู้เล่นอีกตำแหน่งหนึ่ง ในปีนี้จบฤดูกาลด้วยดันดับสามในลีกแต่ได้สิทธิในการเข้าร่วมรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกในรอบคัดเลือกรอบสอง ขณะเดียวกัน วิทยา เลาหกุล ได้ประกาศลาออกจากการคุมทีมและขึ้นไปดำรงตำแหน่งประธานพัฒนาเทคนิคตามเดิม โดยแต่งตั้ง มะซะฮิโระ วะดะ จากวิสเซล โคเบะ เข้ามาทำหน้าที่แทน[12]

ฤดูกาล 2557

ปี 2557 สโมสรภายใต้การคุมทีมของมะซะฮิโระ วะดะ จบฤดูกาลในตำแหน่งรองชนะเลิศทั้งรายการไทยพรีเมียร์ลีกและรายการไทยคมเอฟเอคัพ โดยพ่ายให้กับบางกอกกล๊าส 1-0 ภายหลังมะซะฮิโระ วะดะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม มติผู้บริหารตัดสินใจดึง จเด็จ มีลาภ กลับมาคุมทีมอีกครั้ง

ฤดูกาล 2558

ปี 2558 สโมสรที่ได้จเด็จ มีลาภ กลับมาคุมทีมอีกครั้ง พาทีมจบฤดูกาลในอันดับที่สี่ แต่ได้สิทธิในการเข้าร่วมรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกในรอบเพลย์ออฟ รอบสองแทน สโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี ที่ขาดคุณสมบัติเข้าร่วมรายการนี้เนื่องจากติดปัญหาเรื่องคลับไลเซนซิ่ง โดยหลังจบนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ชลบุรีเปิดบ้านพ่ายให้กับ สโมสรฟุตบอลสระบุรี 0-3 จเด็จ มีลาภ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมทันที

ยุคปัจจุบัน

ผู้เล่นชลบุรีในนัดที่ออกไปเยือนเมืองทอง ยูไนเต็ดเมื่อฤดูกาล 2559

สโมสร ได้มีการปรับเปลื่ยนนโยบายการพัฒนาสโมสร โดยเน้นใช้ผู้เล่นเยาวชนของสโมสรมากขึ้น โดยได้เริ่มต้นตั้งแต่ฤดูกาล 2556 โดยส่ง สโมสรพานทอง เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลในระดับ ดิวิชัน 2 โดยนำนักฟุตบอลเยาวชนเข้าร่วม และพัฒนา ต่อยอดสู่สโมสรในอนาคต ต่อมาใน

ฤดูกาล 2559

ฤดูกาล 2559 ได้แต่งตั้ง เทิดศักดิ์ ใจมั่น ขึ้นเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของสโมสร[13] และพร้อมกับดันนักฟุตบอลเยาวชนของสโมสรขึ้นสู่ ทีมชุดใหญ่ โดยผลงานในปีนี้ จบอันดับที่ 5 แข่ง 31 นัดมี 51 คะแนน

โดยในปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ไทยลีกแข่งไม่จบฤดูกาล หลังจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศยุติการแข่งขันในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 หลังจากมีการแข่งขันไปแล้ว 31 เกม เพื่อถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ฤดูกาล 2560

ใน ฤดูกาล 2560 จบอันดับที่ 7 แข่ง 34 นัดมี 53 คะแนน ทำให้ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังสิ้นสุดฤดูกาล

ฤดูกาล 2561

ผู้บริหารแต่งตั้ง โกรัน บาร์ยัคทาเรวิช ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีม[14]และแต่งตั้ง เทิดศักดิ์ ใจมั่น ดำรงตำแหน่งผู้ช่วย ต่อมา โกรันได้ลาออกจากตำแหน่ง[15] และได้แต่งตั้ง จักรพันธ์ ปั่นปี ขึ้นเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนแทน จบที่อันดับ 9 แข่ง 34 นัด มี 46 คะแนน ในฤดูกาลนั้น

ฤดูกาล 2562

ในฤดูกาล 2562 ทีมมีผลงานไม่ค่อยดีนักโดยหลังจากการแข่งขันทั้งสิ้น 13 นัด ทีมตกอยู่ในอันดับ 10 ของตาราง และตกรอบรายการเอฟเอคัพ จักรพันธ์ ปั่นปี จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 [16] ต่อมาบอร์ดบริหารสโมสรตัดสินใจแต่งตั้งสะสม พบประเสริฐ ขึ้นเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนแทน[17] สะสม พบประเสริฐ ได้ดึงตัวนักเตะมากประสบการณ์ เช่น ดัสกร ทองเหลา ธีรเทพ วิโนทัย สมปอง สอเหลบ มงคล นามนวด และสินทวีชัย หทัยรัตนกุล กลับมาช่วยประคองนักเตะเยาวชนที่มีอยู่ในทีม และสามารถจบที่อันดับ 7 มี 40 คะแนน ในฤดูกาลนั้น

ฤดูกาล 2563/2564

ชลบุรี เอฟซี ยังมีผลงานไม่ดีต่อเนื่องจากฤดูกาลที่แล้ว โดยแข่งไปทั้งสิ้น 30 นัด มี 32 คะแนน จบอันดับที่ 12 ของฤดูกาล แต่สามารถเข้าไปถึงนัดชิงชนะเลิศรายการเอฟเอคัพ ได้สำเร็จ และจบด้วยการเป็นรองแชมป์

ฤดูกาล 2564/2565

ชลบุรี เอฟซี เริ่มต้นฤดูกาลได้ดีในเลกแรก แข่งไป 15 นัด มี 28 คะแนน เป็นอันดับ 3 ในเลกแรก ทว่าหลังจบเลกแรกสโมสรมีความจำเป็นต้องขาย วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ไป บีจี ปทุมยู ไนเต็ด เพื่อพยุงสภาพคล่องทางการเงินของสโมสรจากผลกระทบจากวิกฤติไวรัสโควิด-19[18] และการบาดเจ็บของเดนนิส มูริลลู กองหน้าคนสำคัญ[19] ทำให้ในครึ่งฤดูกาลหลังผลการแข่งขันจึงตกลงเมื่อเทียบกับเลกแรก แต่ยู บย็อง-ซู ก็มีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้น[20] สามารถประคองทีมจบฤดูกาลในอันดับที่ 7 ในส่วนของบอลถ้วยสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรายการไทยลีกคัพ[21]

ฤดูกาล 2566/2567

เมื่อจบฤดูกาลนี้ ชลบุรี เอฟซี ต้องตกลงไปแข่งในไทยลีก 2 เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปีนับตั้งแต่สโมสรได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในไทยลีกตั้งแต่ฤดูกาล 2549[22]

สัญลักษณ์สโมสร

ในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ สนามชลบุรีสเตเดียม สโมสรฟุตบอลชลบุรีได้จัดพิธีเปิดตัวสัญลักษณ์สโมสรใหม่ ทดแทนสัญลักษณ์แบบเดิมที่ใช้งานมายาวนานนับสิบปี ทั้งนี้นายวิทยา คุณปลื้ม ประธานสโมสร ได้กล่าวถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ว่าต้องการปรับปรุงภาพลักษณ์ของสโมสรให้มีความเป็นมืออาชีพพร้อมเข้าสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ จึงต้องมีการพัฒนาสัญลักษณ์สโมสรให้มีความเป็นสากลและมีเอกลักษณ์ของตัวเอง[23]

สถิติ

ผลงานของสโมสรในแต่ละฤดูกาล

ฤดูกาลลีก[24]เอฟเอคัพลีกคัพควีนสคัพถ้วยพระราชทาน กการแข่งขันระดับเอเชียผู้ทำประตูสูงสุด
ระดับลีกแข่งชนะเสมอแพ้ได้เสียแต้มอันดับเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกเอเอฟซีคัพชื่อประตู
2543/44โปรลีก221354301644อันดับ 3
2545โปรลีก1045115717อันดับ 2
(สาย เอ)
 – – – – – –นิกร อนุวรรณ10
10532171218รองชนะเลิศ
2546โปรลีก221255623032อันดับ 3 – – – – – –วีระพงษ์ ศรีเพชร20
2547โปรลีก18567262621อันดับ 7 – – – – – –วีระพงษ์ ศรีเพชร6
2548โปรลีก221633571951ชนะเลิศ – – – – – –พิภพ อ่อนโม้14
2549ไทยลีก225125292827อันดับ 8 – – – – – –พิภพ อ่อนโม้7
2550ไทยลีก301965502563ชนะเลิศ – – – – – –พิภพ อ่อนโม้16
2551ไทยลีก3015141341459รองชนะเลิศ – – –ชนะเลิศแบ่งกลุ่ม –พิภพ อ่อนโม้5
2552ไทยลีก301884503062รองชนะเลิศรอบ 16 ทีมรอบรองชนะเลิศชนะเลิศก่อนรองชนะเลิศโคเน่ โมฮัมเหม็ด14
2553ไทยลีก301794572860อันดับ 3ชนะเลิศรอบ 2รอบรองชนะเลิศพิภพ อ่อนโม้10
2554ไทยลีก342095582969รองชนะเลิศรอบ 5รอบรองชนะเลิศชนะเลิศก่อนรองชนะเลิศพิภพ อ่อนโม้15
2555ไทยลีก342176653370รองชนะเลิศรอบ 3ก่อนรองชนะเลิศชนะเลิศรอบรองชนะเลิศพิภพ อ่อนโม้14
2556ไทยลีก321886613562อันดับ 3รอบ 3ก่อนรองชนะเลิศตีอากู คุนญา13
2557ไทยลีก3821134623376รองชนะเลิศรองชนะเลิศรอบ 16 ทีมสุดท้ายตีอากู คุนญา20
2558ไทยลีก3415127624457อันดับ 4รอบ 8 ทีมสุดท้ายรอบ 16 ทีมสุดท้ายเพลย์ออฟตีอากู คุนญา17
2559ไทยลีก311498523351อันดับ 5ชนะเลิศรอบ 16 ทีมสุดท้ายโรดรีกู แวร์จีลีอู15
2560ไทยลีก3415811595953อันดับ 7รอบแรกรอบ 16 ทีมสุดท้ายเรนัน มาร์เกวซ27
2561ไทยลีก3413714455346อันดับ 9รอบ 8 ทีมสุดท้ายรอบ 8 ทีมสุดท้ายวรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ12
2562ไทยลีก3011712434540อันดับ 7รอบ 64 ทีมสุดท้ายรอบ 32 ทีมสุดท้ายลูเคียน อาราอูโฌ จี อัลเมดา11
2563–64ไทยลีก309516304632อันดับ 12รองชนะเลิศยกเลิกการแข่งขันไคอง6
2564–65ไทยลีก3012810504044อันดับ 7รอบ 32 ทีมสุดท้ายรอบรองชนะเลิศยู บย็อง-ซู12
2565–66ไทยลีก3013413463843อันดับ 6รอบ 64 ทีมสุดท้ายรอบ 32 ทีมสุดท้ายดานีลู อัลวิส14
2566–67ไทยลีก307914335230อันดับ 14รอบก่อนรองชนะเลิศรอบ 16 ทีมสุดท้ายวีลียัง ลีรา15
ชนะเลิศรองชนะเลิศเลื่อนชั้นตกชั้น

ผลงานระดับทวีป

ฤดูกาลการแข่งขันรอบคู่แข่งเหย้าเยือนรวม
2551เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม กัมบะ โอซากะ0–21–1อันดับที่ 4
เมลเบิร์นวิกตอรี3–11–3
ช็อนนัมดรากอนส์2–20–1
2552เอเอฟซีคัพรอบแบ่งกลุ่ม อีสเทิร์น4–11–2อันดับที่ 1
เกดะห์3–11–0
ฮานอย เอซีบี6–02–0
รอบ 16 ทีมสุดท้าย เปเอ็ซเอ็มเอ็ซ เมดัน4–0
รอบก่อนรองชนะเลิศ บิ่ญเซือง2–20–22–4
2554เอเอฟซีคัพรอบแบ่งกลุ่ม อีสต์เบงกอล4–04–4อันดับที่ 1
เซาท์ไชนา3–03–0
เปอร์ซิจายาปูรา4–10–3
รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศรีวิชัย3–0
รอบก่อนรองชนะเลิศ นาซาฟการ์ชี0–11–0
(ต่อเวลา)
1–1
(3–4 ลูกโทษ)
2555เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือกเพลย์ออฟ โปฮัง สตีลเลอร์ส0–2
เอเอฟซีคัพรอบแบ่งกลุ่ม ย่างกุ้งยูไนเต็ด1–01–1อันดับที่ 1
โฮม ยูไนเต็ด1–02–1
ซิติเซน2–03–3
รอบ 16 ทีมสุดท้าย Al-Zawra'a1–0
รอบก่อนรองชนะเลิศ Al-Shorta1–24–2
(ต่อเวลา)
5–4
รอบรองชนะเลิศ Arbil1–41–42–8
2557เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือกรอบ 2 เซาท์ไชนา3–0
รอบคัดเลือกรอบ 3 เป่ย์จิงกั๋วอัน0–4
2558เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือกรอบ 2 คิตฉี4–1
รอบเพลย์ออฟ คาชิวะ เรย์โซล2–3
(ต่อเวลา)
2559เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือกรอบ 2 ย่างกุ้งยูไนเต็ด3–2
(ต่อเวลา)
รอบเพลย์ออฟ เอฟซี โตเกียว0–9

ผู้เล่น

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลขตำแหน่งสัญชาติผู้เล่น
1GK ปาทริก เดย์โต
3DF ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์
4MF ลีออน เจมส์ (ยืมตัวจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
6DF ทรงชัย ทองฉ่ำ
7MF ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว
9FW วีลียัง ลีรา
11MF มูรีลู
14MF พิทักษ์ พิมแป้
15DF จักรพงษ์ แสนมะฮุง
17FW ไคอง
19MF สหรัฐ สนธิสวัสดิ์
23GK ศุภวัฒน์ โยคะกุล
24MF ภานุพงศ์ พลซา
26MF ธีรภัทร แก้วผึ่ง
เลขตำแหน่ง สัญชาติผู้เล่น
31MF นูรูล ศรียานเก็ม (ยืมตัวจาก การท่าเรือ)
33DF อียานิก แอมโบเน
35GK ชนินทร์ แซ่เอียะ
40MF อี ชัน-ดง
42DF กิตติพงษ์ แสนสนิท
64DF กษิดิศ กาฬสินธุ์
65DF บุคฆอรี เหล็มดี
81FW อามาดู วาตารา
86DF ปริญญา หนูสง
87GK ธนวัตน์ แป้นทอง
88FW ยศกร บูรพา
91DF พงศกร ตรีสาตร์
98MF ณภัทร ชุมปัญญา

หมายเหตุ: สโมสรยกเลิกหมายเลข 12 ให้เป็นตัวแทนของกองเชียร์

ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลขตำแหน่งสัญชาติผู้เล่น
8FW สิทธิโชค ภาโส (ไป พัทยา ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล)
20MF สุขสันต์ บุญตา (ไป โปลิศ เทโร จนจบฤดูกาล)
27FW เสฏฐวุฒิ วงค์สาย (ไป แพร่ ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล)
30GK ชาคร พิลาคลัง (ไป นครศรีฯ ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล)
32MF รชต หมอรักษา (ไป โปลิศ เทโร จนจบฤดูกาล)
80GK ชมพัฒน์ บุญเลิศ (ไป แพร่ ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล)
82DF ธนชัย นาถธนกุล (ไป ฉะเชิงเทรา ไฮ-เทค จนจบฤดูกาล)
93FW สิรภพ วันดี (ไป สุพรรณบุรี จนจบฤดูกาล)
เลขตำแหน่ง สัญชาติผู้เล่น
94MF รัฐภูมิ หม่อมพิบูลย์ (ไป ราชประชา จนจบฤดูกาล)
99FW ภูเก็ต เฟื่องคร (ไป สายมิตร กบินทร์ ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล)
FW อองกองมานน์ (ไป นครราชสีมา มาสด้า จนจบฤดูกาล)
FW วรากร ทองใบ (ไป คัสตอม ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล)
DF เตวิช ณรงค์เปลี่ยน (ไป สอ.รฝ. จนจบฤดูกาล)
DF นนทการ ศรีมงคล (ไป สอ.รฝ. จนจบฤดูกาล)
FW อธิป แก้วแจ้ง (ไป สอ.รฝ. จนจบฤดูกาล)
GK วิสรรค์ ผ่อนเสาร์น้อย (ไป สอ.รฝ. จนจบฤดูกาล)

ผู้เล่นชุดเยาวชน

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลขตำแหน่งสัญชาติผู้เล่น
84FW ศาสตรพร สุโสะ
85MF รัฐธรรมนูญ ดียิ่ง
89DF จิรพงษ์ แช่มสกุล
เลขตำแหน่ง สัญชาติผู้เล่น
92FW ต้นตะวัน ปุนทมุณี
95MF พัชรพล เหล็กกุล
96DF ธนกฤต ล้อมนาค
97FW เริงชัย เกษฎา

ทีมงานประจำสโมสร

ฝ่ายบริหาร & ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทีมและเทคนิค

ตำแหน่งชื่อ
ประธานสโมสรวิทยา คุณปลื้ม
รองประธานสโมสรอรรณพ สิงห์โตทอง
ผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศธนศักดิ์ สุระประเสริฐ
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์จีระศักดิ์ โจมทอง
ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจพาทิศ สุภะพงศ์
ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนสโมสรอัตสึโอะ โอกุระ
เลขานุการสโมสรธิติกร อาจวาริน
ผู้จัดการทีมสินทวีชัย หทัยรัตนกุล
ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิควิทยา เลาหกุล
หัวหน้าผู้ฝึกสอนพิภพ อ่อนโม้
ผู้ช่วยผู้ฝีกสอนมาซาโตะ ฮาราซากิ
ฮิโรฟูมิ โยชิทาเกะ
ณัฐวุฒิ วิจิตรเวชการ
ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตูบุญคง อรรคบุตร
ผู้ฝึกสอนฟิตเนสอี ชางยาบ
เจ้าหน้าที่ฟิตเนสเทรนนิ่งจีฮุน ชุน
แพทย์ประจำสโมสรนายแพทย์รุ่งรัฐ จิตตการ
เจ้าหน้าที่บันทึกสถิติและวิเคราะห์เกม & ผู้บันทึกสถิติและวิเคราะห์มิซึโอะ คาโตะ
หัวหน้ามีเดียประจำทีมณัฐวุฒิ ข่อยแก้ว

หัวหน้าผู้ฝึกสอน

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ถึงปัจจุบัน

ปีชื่อเกียรติประวัติ
2544 สมภพ สุขสมบัติ
2545 – 2546 จเด็จ มีลาภ
2547 – 2549 วิทยา เลาหกุลชนะเลิศ โปรลีก 2548
2550 – 2551 จเด็จ มีลาภชนะเลิศ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2550, ชนะเลิศ ถ้วย ก. ครั้งที่ 73
2552 เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองชนะเลิศ ถ้วย ก. ครั้งที่ 74, รองชนะเลิศ ไทยพรีเมียร์ลีก 2552
2553 – 2554 จเด็จ มีลาภชนะเลิศ เอฟเอคัพ 2553, ชนะเลิศ ถ้วย ก. ครั้งที่ 76
2554 – 2556 วิทยา เลาหกุลรองชนะเลิศ ไทยพรีเมียร์ลีก 2554, ไทยพรีเมียร์ลีก 2555, ชนะเลิศ ถ้วย ก. ครั้งที่ 77
2557 มะซะฮิโระ วะดะรองชนะเลิศ ไทยพรีเมียร์ลีก 2557, รองชนะเลิศ เอฟเอคัพ 2557
2558 จเด็จ มีลาภ
2559 – 2560 เทิดศักดิ์ ใจมั่น
2561 – 2562 จักรพันธ์ ปั่นปี
2562 – 2566 สะสม พบประเสริฐรองชนะเลิศ เอฟเอคัพ 2563–64
2566 อดุล หละโสะ
2566 มาโกโตะ เทงูราโมริ
2566 ณัฐวุฒิ วิจิตรเวชการ (รักษาการ)
2566 วิทยา เลาหกุล
2567พิภพ อ่อนโม้

เกียรติประวัติ

ลีก

ถ้วย

สโมสรพันธมิตร

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

13°21′53″N 100°58′36″E / 13.364621°N 100.976651°E / 13.364621; 100.976651

🔥 Top keywords: หน้าหลักสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพิเศษ:ค้นหาอสมทวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก 2024บางกอกคณิกาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)เนติพร เสน่ห์สังคมวิทยาศาสตร์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)วันวิสาขบูชาวอลเลย์บอลลมเล่นไฟตารางธาตุอันดับโลกเอฟไอวีบีอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์หมวดหมู่:จังหวัดของประเทศไทยไลเกอร์รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยไอแซก นิวตันศาสนาพุทธราชวงศ์จักรีกาลิเลโอ กาลิเลอีประวัติศาสตร์ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนารายชื่อเครื่องดนตรีจังหวัดชัยนาทสังคายนาในศาสนาพุทธประเทศไทยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดนิวแคลิโดเนียวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยศาสนาพุทธในประเทศพม่าพระสุนทรโวหาร (ภู่)นริลญา กุลมงคลเพชร