หม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่
หม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่ (1 เมษายน พ.ศ. 2455 – 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553) เป็นพระโอรสลำดับที่ 22 ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ประสูติแต่หม่อมนวม ทองใหญ่ ณ อยุธยา มีโสทรเชษฐาและโสทรเชษฐภคินี 8 องค์[2]
หม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่ | |
---|---|
หม่อมเจ้า ชั้น 4 | |
ประสูติ | 1 เมษายน พ.ศ. 2455 |
สิ้นชีพตักษัย | 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 (98 ปี) |
พระบุตร | หม่อมราชวงศ์กัณหา ทองใหญ่ หม่อมราชวงศ์ชาลี ทองใหญ่ หม่อมราชวงศ์อุษณีย์ ณ นคร หม่อมราชวงศ์พิณทอง อังศุสิงห์[1] |
ราชสกุล | ทองใหญ่ |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม |
พระมารดา | หม่อมนวม ทองใหญ่ ณ อยุธยา |
การศึกษา
หม่อมเจ้าทองคำเปลวทรงสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์[3] หลังจากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อยังคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (รัฐศาสตร์รุ่นแพแตก) เริ่มมาจากในปี พ.ศ. 2476 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง พ.ศ. 2476 ซึ่งมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติว่าให้โอนคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ในจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ตลอดจนทรัพย์สินและงบประมาณของคณะเหล่านั้นมาขึ้นต่อมหาวิทยาลัยนี้ก่อน และในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2477 คณะรัฐศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยได้สิ้นสภาพความเป็นคณะลง ในขณะนั้นนิสิตคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ปีที่ 2 จึงต้องไปเรียนต่อที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ดังที่คุณชะลอ วนะภูติ ได้บันทึกไว้ว่า "การที่เราเรียน ๆ อยู่ดี ๆ แล้วมีประกาศทางราชการให้ยุบคณะที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งๆที่เรียนค้างอยู่และไปยุบเอารุ่นพี่ปีสองแล้วเข้าด้วยกันเช่นนี้ ต่อมาพวกเราทั้งหมดถูกลอยแพจึงมีผู้ขนานนามว่านักเรียน รัฐศาสตร์รุ่นแพแตก คือแตกเหมือนแพ แตกแล้วลอยเปะปะไปทั่วแผ่นดิน"
การทรงงาน
หลังจากสำเร็จการศึกษา หม่อมเจ้าทองคำเปลวทรงเข้ารับราชการที่กระทรวงมหาดไทย และทรงดำรงตำแหน่งนายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัดด้วยกัน ประกอบไปด้วย นายอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ นายอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี (13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 - 28 กันยายน พ.ศ. 2507) และผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ( 1 ตุลาคม พ.ศ. 2507 - 30 กันยายน พ.ศ. 2515)
นอกจากนี้หม่อมเจ้าทองคำเปลวยังทรงดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการแรกเริ่มก่อตั้งมูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในตำแหน่งคณะกรรมการที่ปรึกษา จนกระทั่งถึงชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
หม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่ เสกสมรสกับ หม่อมอรพินท์ ทองใหญ่ ณ อยุธยา มีโอรสธิดา 3 คน คือ
- ม.ร.ว.ชาลี ทองใหญ่ สมรสกับอรณี (สกุลเดิม สายบัว) มีธิดา 2 คน คือ
- ม.ล.อรอำไพ พนานุรัตน์ สมรสกับประกิต พนานุรัตน์
- ม.ล.อณิชาล เพ็ญเจริญ สมรสกับภัทรภูมิ เพ็ญเจริญ
- ม.ร.ว.อุษณีย์ ณ นคร สมรสกับ พลอากาศตรีชื่น ณ นคร มี ธิดา 3 คน คือ
- ชไมกัญญา ณ นคร
- นภารำไพ ณ นคร
- รัชดาจรี โพธินาม สมรสกับ อรรถพัฒน์ โพธินาม
- ม.ร.ว.พิณทอง ทองใหญ่ มีบุตรธิดา 2 คน คือ
- ตรรกย ทองใหญ่
- ภัชนนท์ วิจิตรพรกุล
หม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่ ได้รับพระราชทานพระยศกองอาสารักษาดินแดน เป็นนายกองโท ขณะทรงดำรงตำแหน่งนายอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2500[4] และได้รับพระราชทานยศ นายกองเอก เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2506[5]
ในขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา หม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระสมเด็จจิตรลดา และทรงนำติดพระองค์ตลอดมา
สิ้นชีพิตักษัย
หม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่ สิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 สิริชันษา 98 ปี บำเพ็ญกุศลศพที่ศาลา 10 วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร นับเป็นหม่อมเจ้าองค์สุดท้ายของราชสกุลทองใหญ่
หม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่ | |
---|---|
รับใช้ | กองอาสารักษาดินแดน |
ชั้นยศ | นายกองเอก |
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2548 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[6]
- พ.ศ. 2547 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[7]
- พ.ศ. 2510 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายหน้า)[8]
- พ.ศ. 2514 – เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 ประเภทที่ 2 (ส.ช.)[9]
- พ.ศ. 2485 – เหรียญช่วยราชการเขตภายใน การรบสงครามอินโดจีน (ช.ร.)[10]
- พ.ศ. 2487 – เหรียญช่วยราชการเขตภายใน การรบสงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ร.)[11]
- พ.ศ. 2507 – เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)[12]
- พ.ศ. 2502 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[13]
- พ.ศ. 2510 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 3 (ภ.ป.ร.3)[14]
- พ.ศ. 2475 – เหรียญเฉลิมพระนคร 150 ปี (ร.ฉ.พ.)
- พ.ศ. 2493 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 (ร.ร.ศ.9)
- พ.ศ. 2518 – เหรียญลูกเสือสดุดี ชั้นที่ 1
- พ.ศ. 2520 – เหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 2 (เหรียญเงิน)
อ้างอิง
ก่อนหน้า | หม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ผาด นาคพิน | ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี (พ.ศ. 2501 – พ.ศ. 2507) | ส่ง เหล่าสุนทร |