ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย หรือ สนามบินเชียงราย (อังกฤษ: Mae Fah Luang – Chiang Rai International Airport) (IATA: CEIICAO: VTCT) ตั้งอยู่เลขที่ 404 หมู่ 10 ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ห่างจากถนนพหลโยธิน (เชียงราย - แม่จัน) ทางทิศตะวันออกประมาณ 2.6 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองเชียงราย ประมาณ 8 กิโลเมตร โดยมีเส้นทางหลักคือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1418 มีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 3,042 ไร่ เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ (International Airport)[1]

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
ข้อมูลสำคัญ
การใช้งานสนามบินพาณิชย์ / ศุลกากร
ผู้ดำเนินงานบมจ.ท่าอากาศยานไทย / สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พื้นที่บริการจังหวัดเชียงราย, จังหวัดพะเยา
สถานที่ตั้งเลขที่ 404 หมู่ 10 ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
ฐานการบินไทยเวียดเจ็ทแอร์
ไทยแอร์เอเชีย
ผู้บัญชาการนาวาอากาศตรี ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์
ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล390 เมตร / 1,280 ฟุต
พิกัด19°57′08″N 99°52′58″E / 19.95222°N 99.88278°E / 19.95222; 99.88278
เว็บไซต์chiangrai.airportthai.co.th
แผนที่
CEIตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย
CEI
CEI
CEIตั้งอยู่ในประเทศไทย
CEI
CEI
ทางวิ่ง
ทิศทางความยาวพื้นผิว
เมตรฟุต
03/213,0009,843ยางมะตอย
สถิติ (2562)
ผู้โดยสาร2,928,884
เที่ยวบิน20,128
แหล่งข้อมูล: https://www.airportthai.co.th/
ภายในอาคารท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

ข้อมูลทั่วไป

ท่าอากาศยานเชียงรายเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2535 สังกัดกรมการบินพาณิชย์ (บพ.) กระทรวงคมนาคม ใช้ชื่อว่า "สนามบินบ้านดู่"[2] ต่อมา บพ.ได้ถูกโอนมาขึ้นอยู่กับการบริหารของ "การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย” เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2541 และ "การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย” ได้แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชน ตามแนวนโยบายของรัฐบาล ภายใต้ชื่อ "บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.)” เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2545 ถึงปัจจุบัน[3]

ต่อมา คณะกรรมการ ทอท. มีมติเห็นชอบให้เพิ่มชื่อท่าอากาศยานเชียงรายเป็น ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดีที่มีต่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตามที่ได้มีการร้องขอจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนในจังหวัดเชียงราย ดังนั้น ทอท. จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ชื่อดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นมา[4]

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เป็นสนามบินที่มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคนต่อปี และสามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ เช่น Boeing 777, Boeing 787, Airbus A330 series, Airbus A340 series และอากาศยานขนาดใหญ่มาก เช่น Boeing 747 series ในอดีต บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เคยนำเครื่องบินขนาดใหญ่แบบ แอร์บัส เอ340 Airbus A340-642 และขนาดใหญ่มากแบบ Boeing 747 ทำการบินจาก ท่าอากาศยานดอนเมือง ไป-กลับ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย อีกด้วย

ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการที่ ทชร. จำนวน 5 สายการบิน แบ่งเป็นเส้นทางภายในประเทศ 5 สายการบิน (สายการบิน การบินไทย, ไทยเวียดเจ็ทแอร์, ไทยไลออนแอร์, ไทยแอร์เอเชีย, และสายการบินนกแอร์) โดยเปิดบริการในเส้นทางดังต่อไปนี้ เชียงราย-กรุงเทพมหานคร ไป-กลับ วันละ 19 เที่ยวบิน รวม 38 เที่ยวบิน (แบ่งเป็นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 7 เที่ยวบิน, ท่าอากาศยานดอนเมือง 12 เที่ยวบิน) ภูเก็ต - เชียงราย สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ทุกวัน จ,พ,ศ และ อาทิตย์ เริ่มทำการบินตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2566 โดยตารางบินข้างต้นอาจเพิ่มหรือลดได้ตามตารางบินของสายการบินนั้นๆ

ทั้งนี้ ทชร.มีศักยภาพพร้อมที่จะรองรับสายการบินระหว่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการค้าและเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย

Boeing 737 ของสายการบินนกแอร์ ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

รายชื่อสายการบิน

สายการบินจุดหมายปลายทางหมายเหตุ
การบินไทยกรุงเทพฯ-สุวรรณภูมิภายในประเทศ
ไทยเวียดเจ็ทแอร์กรุงเทพ-สุวรรณภูมิภายในประเทศ
ภูเก็ตภายในประเทศ
ไทยแอร์เอเชียกรุงเทพ-ดอนเมืองภายในประเทศ
นกแอร์กรุงเทพ-ดอนเมืองภายในประเทศ
ไทยไลอ้อนแอร์กรุงเทพฯ-ดอนเมืองภายในประเทศ
ภายในอาคารท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
ภายนอกอาคารท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

เส้นทางบินที่เคยให้บริการ

สายการบินจุดหมายปลายทาง
การบินไทยดอนเมือง,เชียงใหม่
แองเจิลแอร์ไลน์ดอนเมือง
ภูเก็ตแอร์ไลน์ดอนเมือง
วัน-ทู-โกดอนเมือง
โอเรียนต์ไทยแอร์ไลน์ดอนเมือง
นกมินิเชียงใหม่
กานต์แอร์เชียงใหม่
สายการบินทีเวย์อินชอน (Chartered Flight)
ไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลน์คุณหมิง
ไทยแอร์เอเชียสุวรรณภูมิ,ภูเก็ต,หาดใหญ่,มาเก๊า,สิงคโปร์,กัวลาลัมเปอร์,เซินเจิ้น
ฮ่องกงเอ็กซเพรสฮ่องกง
ไห่หนานแอร์ไลน์ไหโข่ว
เป่ยจิงแคปิตอลแอร์ไลน์ไหโข่ว
บางกอกแอร์เวย์สุวรรณภูมิ
ไทยเวียดเจ็ทแอร์อุดรธานี,หาดใหญ่
ไทยไลอ้อนแอร์ฉางชา
รุ่ยลี่แอร์ไลน์เชียงรุ่ง
เสฉวนแอร์ไลน์เฉิงตู
ไทยสมายล์สุวรรณภูมิ

สถิติ

ข้อมูลการจราจรในแต่ละปีปฏิทิน
ปี (พ.ศ.)ผู้ใช้บริการ (คน)เปลี่ยนแปลงจำนวนเที่ยวบิน
2551682,512
2552718,536 05.28%
2553726,127 01.06%
2554818,163 12.67%5,819
2555986,436 20.57%
25561,089,202 10.42%
25571,291,708 18.59%10,029
25581,639,829 26.98%12,799
25592,059,675 21.74%14,590
25602,503,375 21.51%17,661
25612,867,289 14.54%20,072
25622,928,884 02.15%20,128
25631,513,047 51.66%12,126
2564710,408 53.06%9,337
25651,686,726 137.43%11,920
25661,920,228 13.84%12,485
ม.ค.-ก.พ 2567347,823 6.80%2,174
ที่มา: บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)[5]

ข้อมูลจำเพาะของท่าอากาศยาน

  • ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ตั้งอยู่ละติจูดที่ 19 องศา 57 ลิปดา 8 ฟิลิปดาเหนือ ลองติจูด 99 องศา 52 ลิปดา 59 ฟิลิปดาตะวันออก สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,279 ฟุต หรือ 390.23 เมตร
  • เปิดบริการ 24 ชั่วโมง.

ทางวิ่งอากาศยาน (RUN WAY)

ทางวิ่งมีหนึ่งเส้นทาง เป็นแอสฟัลติกคอนกรีตในทิศทาง 03/21 ค่าความแข็งของพื้นผิวทางวิ่ง PCN 84/F/D/X/T มีความยาว 3,000 เมตร กว้าง 45 เมตร ไหล่ทางวิ่งข้างละ 7.5 เมตร และ STOP WAY ปลายทางวิ่งทั้ง 2 ด้าน ยาวด้านละ 60 เมตร[6] สามารถรองรับอากาศยาน CODE E (กางปีกตั้งแต่ 52 เมตร ไม่เกิน 65 เมตร ฐานล้อหลักกว้างตั้งแต่ 9 ถึง 14 เมตร) เช่น B-777, B-787 and A330

รหัสอักษรระยะระหว่างปลายปีกระยะห่างพวงล้อหลักแบบของเครื่องบิน
A< 15 ม.< 4.5 ม.PIPER PA-31/CESSNA 404 Titan
B15 ม. แต่ < 24 ม.4.5 ม. แต่ < 6 ม.BOMBARDIER Regional Jet CRJ-200/DE HAVILLAND CANADA DHC-6
C24 ม. แต่ < 36 ม.6 ม. แต่ < 9 ม.BOEING 737-700/AIRBUS A-320/EMBRAER ERJ 190-100
D36 ม. แต่ < 52 ม.9 ม. แต่ < 14 ม.B767 Series/AIRBUS A-310
E52 ม. แต่ < 65 ม.9 ม. แต่ < 14 ม.B777 Series/B787 Series/A330 Family/A340 Family/A350 Family
F65 ม. แต่ < 80 ม.14 ม. แต่ < 16 ม.BOEING 747-8/AIRBUS A-380-800

ทางขับ (TAXI WAY)

EXIT TAXI WAY มี 2 เส้นทาง คือ TAXI WAY A และ TAXI WAY B (ไม่มี RAPID-EXIT TAXI WAY) ทางขับทั้งสองเส้นเป็นแอสฟัลติคคอนกรีต มีความกว้าง 23 เมตร ไหล่ทางขับกว้าง 10.5 เมตร ค่าความแข็งของพื้นผิวทางขับ (TAXI WAY) 84 F/D/X/T[7]

ลานจอดอากาศยาน

มีจำนวนเนื้อที่โดยประมาณ 45,330 ตารางเมตร ขนาด 120 x 337 เมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ของทางวิ่ง ห่างจาก RUN WAY CENTER LINE 280 เมตรพื้นผิวเป็นคอนกรีต ค่าความแข็ง 73 R/D/X/T มีจำนวน หลุมจอดอากาศยาน จำนวน 7 หลุมจอด และมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 12 หลุมจอด[8]

หลุมจอดอากาศยาน

จำนวน 7 หลุมจอด แบ่งเป็น[9]

  • CONTACT GATE มีจำนวน 3 หลุมจอด สามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่สุดถึง B-737, A-320
  • REMOTE มีจำนวน 4 หลุมจอด สามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่สุดถึง B-747
  • ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 12 หลุมจอด

อาคารผู้โดยสาร

เป็นอาคารเดี่ยวคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น พื้นที่ขนาด 60 x 180 เมตร พื้นที่ใช้ประโยชน์ 22,960 ตารางเมตร ลักษณะอาคารเป็นแบบ Linear Terminal ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน (อดีตคือกรมการบินพานิชย์/กรมการบินพลเรือน) อาทิ สนามบินอุดรธานี อุบลราชธานี นครรศรีธรรมราช กระบี่ ขอนแก่น ฯลฯ ซึ่งคาดว่าจะใช้แบบการก่อสร้างอาคารใกล้เคียงกัน ตั้งแต่สมัยอยู่ในความรับผิดชอบของกรมการบินพานิชย์ (บพ.) ลักษณะพิเศษของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย คือ ผู้โดยสารขาเข้าและผู้โดยสารขาออกจะต้องใช้พื้นที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารร่วมกัน (ขาเข้าเดินจากบนลงล่าง ขาออกเดินจากล่างขึ้นบน) ประกอบกับถูกออกแบบมาให้มีห้องรับรองพิเศษอยู่ตรงกึ่งกลางอาคาร (อาคารผู้โดยสารปัจจุบันมีอายุการใช้งาน 31 ปี) สามารถรองรับผู้โดยสารในชั่วโมงคับคั่งได้ถึง 1,250 คน โดยพื้นที่ใช้ประโยชน์ประกอบด้วย[10]

พื้นที่รวม22,960 ตารางเมตร
ห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศและระหว่างประเทศ1,520 ตารางเมตร
ห้องผู้โดยสารขาออกภายในประเทศและระหว่างประเทศ1,520 ตารางเมตร
สำนักงานท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย470 ตารางเมตร
พื้นที่เช่าผู้ประกอบการ1,730 ตารางเมตร
พื้นที่สำนักงานเจ้าหน้าที่หน่วยราชการ250 ตารางเมตร
พื้นที่สาธารณะอื่น ๆ17,927 ตารางเมตร

บริการที่จอดรถยนต์

  • พื้นที่รองรับการจอดรถ 1,200 คัน
อัตราค่าบริการจอดรถยนต์ ​
ระยะเวลาใช้บริการรถยนต์ 4 ล้อรถยนต์ 6 ล้อขึ้นไป
1 ชั่วโมง10 บาท20 บาท
2 ชั่วโมง20 บาท40 บาท
3 ชั่วโมง35 บาท70 บาท
4–24 ชั่วโมง150 บาท200 บาท
หมายเหตุ เศษของชั่วโมงตั้งแต่ 5 นาทีขึ้นไปคิดเป็น 1 ชั่วโมง[11]

โครงการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

ในปัจจุบัน อาคารผู้โดยสารถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับผู้โดยสารสูงสุดคือ 3,000,000 คนต่อปี ซึ่งในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีปริมาณผู้โดยสารสูงสุดเกือบ 3,000,000 คนส่งผลทำให้เกิดความหนาแน่น แอดอัด คับคั่ง และความไม่สะดวกต่อการให้บริการผู้โดยสารและสายการบินที่เข้ามาใช้บริการ

ดังนั้น จึงได้มีการวางแผนพัฒนาขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายเพื่อให้สามารถรองรับต่อการให้บริการในอนาคตข้างหน้าที่คาดว่าจะสามารถรองรับ ผดส.ได้สูงสุด คือ 8 ล้านคนต่อปี ใน พ.ศ. 2578 โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 ระยะ

แผนพัฒนาระยะที่หนึ่ง ปี พ.ศ. 2564-2568

- สร้างทางขับคู่ขนานทางทิศเหนือ*

- ปรับปรุง RESA**

- ก่อสร้างอาคารดับเพลิงกู้ภัยอากาศยาน

- ปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ

- ก่อสร้างอาคาร VIP

- ก่อสร้างอาคารสำนักงาน (ย้ายสำนักงานออกนอกอาคารผู้โดยสาร เพิ่มพื้นที่ให้ผู้โดยสาร)

*น.ต.ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ผชร.) เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตหลายด้าน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายจึงมีโครงการก่อสร้างระบบทางขับขนานด้านทิศเหนือและปรับปรุงทางขับซ้ายหลุมจอด พร้อมทางขับเอและบี เริ่มก่อสร้าง 4 ต.ค. 64

ทชร.ได้ทำสัญญากับผู้รับเหมา เมื่อช่วงเดือน ก.พ. 64 ที่ผ่านมา โดยมีระยะเวลาสัญญาก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 660 วัน (4 ต.ค. 64–26 ก.ค. 66) รายละเอียดโครงการประกอบด้วยการปรับปรุงพื้นผิวทางวิ่งเดิม (Existing taxiways), เส้นนำจอด (Apron taxilane) และทางวิ่งคู่ขนาน (Parallel taxiway) พร้อมจุดเชื่อมต่อกับทางวิ่งหลัก โดยมีกรอบการทำงานแบ่งออกเป็น 3 ระยะ (ในการก่อสร้างบางพิ้นที่อาจจะมีการปิดสนามบินช่วงเวลา 15.01–22.59 ของทุกวัน ทำให้ตารางบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง)

1.ระยะที่ 1 (Phase 1, ช่วงเวลาก่อสร้าง 3 เดือนหลังจากเริ่มก่อสร้าง) ทำการปรับระดับพื้นผิวก่อสร้างและถอดถอนอุปกรณ์บางส่วนของทางวิ่งหมายเลข 21 (RWY 21) เช่น ไฟสัญญาณ PAPI (Precision Approach Path Indicator), ระบบ AWOS (Automated Weather Observing System)

2.ระยะที่ 2 (Phase 2, ช่วงเวลาก่อสร้าง 12 เดือน หลังจากเสร็จระยะที่ 1) ทำการก่อสร้างทางขับ (Taxiway) A, B, C, D, P และ G โดยที่ C คือทางขับออกด่วน (Rapid exit taxiway) และ P คือทางขับคู่ขนาน (Parallel taxiway), ระบบท่อระบายน้ำ, ระบบไฟสัญญาณ รวมถึงการถอดถอนและติดตั้งอุปกรณ์บางส่วนของทางวิ่งหมายเลข 21 (RWY 21)

3.ระยะที่ 3 (Phase 3, ช่วงเวลาก่อสร้าง 7 เดือน หลังจากเสร็จระยะที่ 2) ทำการปรับปรุงและก่อสร้างเพิ่มเติมทางขับประชิด (Closer taxiway) E, F และ G รวมถึงทำการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ไฟสัญญาณ, PAPI และระบบท่อระบายน้ำ

** ช่วงปลายปี 2565 ทอท.ได้มีการอนุมัติเพิ่มเติมโครงการก่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง (Runway End Safety Area: RESA) ซึ่งเป็นหนึ่งในกายภาพของสนามบินที่มีวัตถุประสงค์ไว้เพื่อลดความเสี่ยง (Risk) ที่จะเกิดความเสียหาย (Severity) ของอากาศยานที่ลงถึงก่อนทางวิ่ง (Undershooting) หรือร่อนลงบนทางวิ่งแล้ววิ่ง ทะลุออกนอกทางวิ่งด้านหัว/ปลาย (Overrunning) ออกไป ซึ่งโครงการได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยระยะที่ 1 จะทำการก่อสร้างที่ปลาย Runway 21 ก่อน จากนั้นในระยะที่ 2 จะดำเนินการก่อสร้างที่ปลาย Runway 03 ถัดไป โดยจะทำการขยายระยะทางจากปลาย Runway แต่ละด้านออกไปด้านละ 240 เมตร ทั้งนี้แผนการดำเนินการดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน พ.ย. 66

แผนพัฒนาระยะที่สอง ปี พ.ศ. 2568-2571

- ทางขับขนานด้านทางทิศใต้

- เพิ่มลานจอดอากาศยานด้านทิศใต้ และระบบเติมน้ำมันอากาศยานทางท่อ

- สร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ

- ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ

- สร้างอาคารจอดรถยนต์

- สร้างอาคารศูนย์ซ่อมแซมอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น

- สร้างลานจอดอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น Ground Support Equipment

แผนพัฒนาระยะที่สาม ปี พ.ศ. 2576-2578

- เพิ่มลานจอดอากาศยานด้านทิศใต้ และระบบเติมน้ำมันอากาศยานทางท่อ

- ปรับปรุงและต่อเติมอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และต่างประเทศ (โครงการต่อเนื่อง)

- รองรับเที่ยวบินได้ 30 เที่ยวบิน/ชั่วโมง

- หลุมจอดอากาศยาน 13 หลุมจอด

- งานปรับปรุงอาคารจอดรถ

- งานปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค

ในขณะเดียวกันเมื่อช่วงปี 2563 ทอท. ได้อนุมัติสัญญาเช่าระยะยาวให้แก่บริษัท เชียงราย เอเวชั่น โฮลดิ้ง จำกัด (Chiang Rai Aviation Holding Co., Ltd. : CAH) เพื่อก่อสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul : MRO) เครื่องบินลำตัวแคบ (Narrowbody) ประกอบด้วยอาคารซ่อมบำรุงอากาศยาน จำนวน 2 หลัง แต่ละหลังมี 4 หลุมจอด, ลานจอดอากาศยานภายนอก 7 หลุมจอด, อาคาร Workshop และอาคารสำนักงาน บนพื้นที่ 50 ไร่ บริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ ทชร. ภายใต้กรอบการพัฒนาร่วมของ ทอท. โดยได้มีการเริ่มดำเนินการปรับพื้นที่เพื่อก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 65 คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2568

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง