โบอิง 787 ดรีมไลเนอร์

อากาศยานไอพ่นลำตัวกว้างของโบอิงที่เปิดตัวในปีค.ศ. 2011

โบอิง 787 ดรีมไลเนอร์ (อังกฤษ: Boeing 787 Dreamliner) เป็นอากาศยานไอพ่นลำตัวกว้างขนาดกลาง ซึ่งได้รับการออกแบบและผลิตโดยฝ่ายผลิตเครื่องบินพาณิชย์โบอิง เป็นอากาศยานที่มีพิสัยบินระยะปานกลางถึงระยะไกล หลังจากที่ได้พับโครงการโซนิคครุยเซอร์แล้ว โบอิงได้ประกาศเปิดตัวโครงการ 7E7 ในวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2003[2] ซึ่งเป็นอากาศยานที่จะพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานเป็นหลัก โบอิง 787 ลำแรกเผยโฉมในพิธีเปิดตัวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ที่โรงงานประกอบเอเวอร์เร็ตต์ของโบอิง โดยที่มันได้กลายมาเป็นเครื่องบินโดยสารลำตัวกว้างที่ขายเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมียอดสั่งถึง 677 ลำ[3] จนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 มีการสั่งซื้อโบอิง 787 จำนวน 797 ลำ เข้ามาจากผู้ให้บริการสายการบิน 57 ราย[4]

โบอิง 787 ดรีมไลเนอร์
บทบาทอากาศยานไอพ่นลำตัวกว้าง
ชาติกำเนิดสหรัฐอเมริกา
บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์โบอิง
บินครั้งแรก15 ธันวาคม ค.ศ. 2009
เริ่มใช้26 ตุลาคม ค.ศ. 2011 โดยออลนิปปอนแอร์เวย์
สถานะในประจำการ
ผู้ใช้งานหลักออล นิปปอน แอร์เวย์
ยูไนเต็ดแอร์ไลน์
เจแปนแอร์ไลน์
อเมริกันแอร์ไลน์
ช่วงการผลิตค.ศ. 2007–ปัจจุบัน
จำนวนที่ผลิต1093 ลำ ณ เดือนตุลาคม ค.ศ. 2023[1]

โบอิง 787 สามารถรองรับผู้โดยสารได้ลำละ 210 ถึง 290 คน ขึ้นอยู่กับรุ่น โบอิงแถลงว่า เครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินโดยสารที่ประหยัดเชื้อเพลิงที่สุดของบริษัท และเป็นเครื่องบินโดยสารสำคัญแบบแรกของโลกที่ใช้วัสดุผสมในการก่อสร้างเป็นส่วนใหญ่[5] โบอิง 787 บริโภคเชื้อเพลิงน้อยกว่าโบอิง 767 ที่มีขนาดเท่ากันถึง 20%[6] ลักษณะที่แตกต่างที่สุดมีทั้งที่กันลมสี่แผง เชฟรอนลดเสียงบนส่วนแยกเครื่องยนต์ (engine nacelle) และเส้นระดับเสียง (nose contour) ที่เรียบขึ้น

การพัฒนาและการผลิตโบอิง 787 เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตวัตถุดิบหลายรายทั่วโลก การประกอบขั้นสุดท้ายประกอบขึ้นที่โรงงานเอเวอร์เรตต์โบอิงในเอเวอร์เรตต์ รัฐวอชิงตัน เครื่องบินจะยังมีการประกอบขึ้นที่โรงงานแห่งใหม่ในนอร์ทชาลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา โรงงานทั้งสองจะส่งมองเครื่อง 787 ให้แก่ผู้ให้บริการเครื่องบินโดยสาร โครงการดังกล่าวต้องล่าช้าออกไปหลายครั้ง จากที่เคยวางแผนจะให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2551 การขึ้นบินครั้งแรกของเครื่องมีขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552 และสิ้นสุดการทดสอบการบินในกลาง พ.ศ. 2554 เอกสารรับรองของสำนักงานควบคุมความปลอดภัยการบินแห่งยุโรปสุดท้ายได้รับในปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 และโมเดลแรกถูกส่งมอบในปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2554 และเข้าให้บริการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554[7]

ข้อมูลเบื้องต้น

ในช่วงแรกนั้น โบอิง ต้องการจะพัฒนาเครื่องบินุร่นใหม่เพื่อทดแทน 767 ที่มียอดสั่งซื้อชะลอตัวลง เพื่อจะแข่งขันกับเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-200 แต่ใช้เชื้อเพลิงในปริมาณที่เท่ากับ 767 และ เอ330 แต่ภายหลังเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544และวิกฤติราคาน้ำมัน ทำให้ไม่เป็นที่ตอบรับมากนัก โบอิงจึงปรับเปลี่ยนโครงการมาพัฒนาเครื่องบินโดยสารโดยนำเครื่องเทคโนโลยีที่ได้จากการพัฒนาเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงมาใช้แทน และใช้ชื่อว่า 7E7 (มีรหัสระหว่างการพัฒนาว่า Y2 ในโครงการโบอิงเยลโลสโตนโปรเจกต์)

จนในวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2548 โบอิงได้เปลี่ยนชื่อรุ่นมาเป็น 787 และได้เปิดเผยแบบขั้นสุดท้ายในวันที่ 26 เมษายน ในปีเดียวกัน โดยโบอิงจะผลิตออกมา 3 รุ่น คือ

  • 787-8 พิสัยบินระยะไกล (13,620 กิโลเมตร) เพื่อทดแทนรุ่น 757-300, 767-200 และ-300 โดยมีลักษณะของปลายปีกเครื่องบินที่แตกแต่างจากรุ่นอื่น และมีออลนิปปอนแอร์เวย์เป็นสายการบินส่งมอบรายแรก[8] และเจแปนแอร์ไลน์เป็นลูกค้าอีกหนึ่งราย[9]
  • 787-9 เป็นรุ่นที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของ 787 มีพิสัยบินระยะไกล (14,140 กิโลเมตร) เพื่อทดแทนรุ่น โบอิง 767-200ER และ โบอิง 767-300ER และจะเป็นรุ่นแรกของ 787 ที่จะเริ่มให้บริการในปีพ.ศ. 2551
  • 787-10 มีพิสัยบินระยะไกล (11,910 กิโลเมตร) เป็นรุ่นที่ขยายลำตัวให้ยาวขึ้นจาก 787-8 เพื่อทดแทนรุ่น โบอิง 767-400ER โดยมีสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เป็นสายการบินที่ส่งมอบรายแรก

รุ่น

เครื่องบินดรีมไลเนอร์รุ่น 787-8 ซึ่งเป็นรุ่นที่สั้นที่สุดได้เริ่มทำการบินครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2009 และรุ่น 787-9 ซึ่งมีพิสัยการบินไกลกว่าเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2013 ส่วนรุ่นที่สามารถบินได้ไกลที่สุดคือ 787-10 โดยยังไม่ได้เริ่มทำการบิน

787-8

787-8 ของ การบินไทย

เครื่องบินรุ่น 787-8 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่เริ่มทำการบินตั้งแต่ปีค.ศ. 2011 นั้นสามารถจุผู้โดยสารได้ 242 คน โดยมีพิสัยบินที่ 7,355 ไมล์ทะเล (13,621 กิโลเมตร) เพื่อใช้มาทดแทนรุ่น 767-200ER และ 767-300ER รวมถึงเพื่อใช้ทำการบินแบบไม่หยุดพักโดยไม่ต้องใช้เครื่องบินที่ใหญ่เกินกว่าความสามารถทางการตลาด เครื่องบินรุ่น 787-8 มีสัดส่วนการผลิตถึง 33% (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม ค.ศ. 2017) โดยได้ทำการส่งมอบแล้ว 348 ลำ

787-9

โบอิง 787-9 เผยโฉมครั้งแรกในการบินพาณิชย์กับแอร์นิวซีแลนด์ โดยกำลังลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานเพิร์ธเป็นครั้งแรก

เครื่องบินรุ่น 787-9 ได้มีการเพิ่มความยาวจากรุ่น 787-8 ถึง 20 ฟุต (6.1 เมตร) และความแข็งแรงของบริเวณลำตัว โดยสามารถมีน้ำหนักบรรทุกสูงสุดถึง 54,500 ปอนด์ (24,700 กก.) และจุผู้โดยสารได้ถึง 280 คน (สำหรับสามชั้นโดยสาร) โดยมีพิสัยบินไกลถึง 7,635 ไมล์ทะเล (14,140 กิโลเมตร) มีจุดประสงค์หลักเพื่อทดแทนเครื่องบินรุ่น 767-400ER และแข่งขันกับแอร์บัส เอ 330 และเพื่อทำการบินระยะไกลแบบไม่ต้องหยุดพัก

ในปีค.ศ. 2005 โบอิงได้วางแผนไว้ว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ในปีค.ศ. 2010 โดยสารการบินต่างๆ ได้ข้อสรุปสำหรับการตกแต่งภายในห้องโดยสารได้แล้วเสร็จเมื่อ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 และได้เริ่มต้นส่งมอบในปีค.ศ. 2014

เครื่องบินต้นแบบของรุ่น 787-9 ได้ทำการขึ้นบินทดสอบครั้งแรกเมื่อ 17 กันยายน ค.ศ. 2013 และได้ถูกนำมาจัดแสดงก่อนการส่งมอบในงานฟาร์นโบโรแอร์โชว์ในปค.ศ. 2014 ต่อมาเมื่อ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2014 แอร์นิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นสายการบินปฐมฤกษ์สำหรับเครื่องบินรุ่นนี้ ได้ทำการบินครั้งแรกในพิธีส่งมอบจากสนามบินเพนฟีล โดยเป็นเครื่องบินรุ่นพิเศษตัวถังสีดำ โดยแอร์นิวซีแลนด์ได้เริ่มใช้บินเพื่อการพาณิชย์เป็นครั้งแรกจากออกแลนด์ไปยังซิดนีย์ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2014

สายการบินออล นิปปอน แอร์เวย์ ได้เริ่มทำการบินเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 2014 ยูไนเต็ด แอร์ไลน์จะเริ่มทำการบินแบบต่อเนื่องจากลอสแอนเจลิสถึงเมลเบิร์นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2014 แอร์ไชน่าเริ่มทำการบินระหว่างปักกิ่งถึงเฉิงตูในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2016 โดย ณ เดือนตุลาคม ค.ศ.​ 2017 54% ของเครื่องบินรุ่นโบอิง 787 เป็นรุ่น 787-9 โดยมีการส่งมอบไปแล้วกว่า 265 ลำ

ความยาวของเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดขึ้นจากการเพิ่มชิ้นส่วนขนาดยาวสิบฟุตบริเวณลำตัวเครื่องบินด้านหน้าและด้านท้าย โดยเครื่องบินรุ่น 787-8 และ 787-9 ใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ร่วมกับถึง 50% โดยส่วนปีก ลำตัว และระบบการบินของรุ่น 787-8 ได้ถูกนำมาปรับปรุงใหม่เพื่อให้ได้ระยะการบินและน้ำหนักบรรทุกสำหรับรุ่น 787-9

787-10

งานเปิดตัวโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อ 17 ก.พ. ค.ศ. 2017

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2005 โบอิงได้เริ่มทำโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายขีดความสามารถในการจุผู้โดยสารของรุ่น 787-9 ซึ่งจากเดิมคือ 290 คน เป็น 310 คน โดยเกิดจากการผลักดันของสายการบินที่สนใจคือ เอมิเรตส์ และควอนตัส โดยจะเรียกเป็นชื่อรุ่นว่า 787-10 ซึ่งจะสามารถเทียบได้กับเครื่องบินรุ่นแอร์บัส เอ 350-900 และโบอิง 777-200ER[10] โดยต่อมาได้มีการพูดคุยกันระหว่างสายการบินกับโบอิงจนถึงราวต้นปีค.ศ. 2006[11] ได้มีการเปิดเผยว่าจะมีการพัฒนาเครื่องบินรุ่นนี้ขึ้นแน่นอนเนื่องจากมีสายการบินอื่นที่ให้ความสนใจตามเอมิเรตส์[12]

ต่อมาเมื่อ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 สิงค์โปร์แอร์ไลน์ได้ตกลงเป็นสายการบินปฐมฤกษ์โดยตกลงสั่งซื้อเป็นจำนวน 30 ลำ โดยคาดว่าจะส่งมอบได้ราวปีค.ศ. 2018-2019[13][14] และเมื่อ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2013 โบอิงได้ทำการเปิดตัวเครื่องบินรุ่น 787-10 อย่างเป็นทางการที่งานปารีสแอร์โชว์ โดยมีคำสั่งซื้อถึง 102 ลำ (แอร์ลีสคอร์เปอเรชั่น 30 ลำ สิงคโปร์แอร์ไลน์ 30 ลำ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ 20 ลำ บริติชแอร์เวย์ 12 ลำ และจีอีแคปิตอล เอวิเอชันเซอร์วิส 10 ลำ)[15]

เครื่องบินรุ่น 787-10 ได้ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนโบอิง 777-200ER แอร์บัส เอ 330 และแอร์บัส เอ 340 โดยจะแข่งขันโดยตรงกับรุ่นเอ 350-900 โดยโบอิงกล่าวว่าสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีกว่าในระยะบินที่ใกล้[16] โดยรุ่น 787-10 จะมีความยาว 224 ฟุต (68 เมตร) โดยจุผู้โดยสารได้ถึง 330 คนในการจัดที่นั่งแบบสองชั้นโดยสาร และมีพิสัยบินที่ 6,430 ไมล์ทะเล (11,910 กิโลเมตร)[17]

โดยการออกแบบนั้น โบอิงได้สรุปแบบของเครื่องบินรุ่น 10 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2015 และได้เริ่มการประกอบในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2016 ผู้ออกแบบได้คาดการณ์ว่าจะสามารถใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ร่วมกันกับรุ่น 787-9 ถึง 90% ซึ่งสุดท้ายสามารถทำให้เป็นถึง 95% ส่วนต่อขยายซึ่งมีความยาว 18 ฟุต นั้นอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของลำตัว 10 ฟุต และส่วนท้าย 8 ฟุต และยังได้เพิ่มความแข็งแรงของปริเวณฐานปีกสำหรับการรับน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้น โดยความยาวที่เพิ่มขึ้นนั้นทำให้ต้องมีความเสริมการป้องกันในการเกิตอุบัติเหตุที่ส่วนหางในยามนำเครื่องขึ้นและลง และระบบปรับอากาศนั้นมีความจุมากขึ้นถึง 15% เครื่องยนต์นั้นได้มีการใช้ Rolls-Royce Trent 1000 สำหรับรุ่นแรก และรุ่นที่สาม ส่วนรุ่นที่สองนั้นใช้เครื่องยนต์จากคู่แข่ง ได้แก่ General Electric GEnx-1B

ภายในงานดูไบแอร์โชว์ 2017 ได้มีคำสั่งซื้อ 787-10 ถึง 171 ลำ โดยเอมิเรตส์ได้สั่งซื้อจำนวน 40 ลำ โดยมีทั้งรุ่นที่ให้บริการสองชั้นโดยสาร และสามชั้นโดยสาร ซึ่งสามารถจุผู้โดยสารได้ตั้งแต่ 240-330 คน โดยคาดว่าจะส่งมอบได้ในปีค.ศ. 2022

การให้บริการ

ผู้ให้บริการ

ล็อตโปแลนด์ เป็นผู้ให้บริการโบอิง 787 รายแรกของยุโรป[18]

ณ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 มีเครื่องบินโบอิ้ง 787 จำนวน 1,006 ลำที่ให้บริการในสายการบิน ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบิน 787-8 จำนวน 377 ลำ, 787-9 จำนวน 568 ลำ และ 787-10 จำนวน 61 ลำ โดยมีคำสั่งซื้อคงค้างสำหรับเครื่องบินเพิ่มเติมอีก 481 ลำ[19][20] ณ เดือนสิงหาคม 2019 ผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุด ได้แก่ ออล นิปปอน แอร์เวย์ (77), ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (63), เจแปนแอร์ไลน์ (47) และอเมริกันแอร์ไลน์ (46)[21]

คำสั่งซื้อและการส่งมอบ

ยอดสั่งซื้อและยอดส่งมอบ B787 แบ่งตามรุ่นย่อย
รุ่นย่อยยอดสั่งซื้อรวมยอดส่งมอบรวมยอดยกเลิก
787-843139635
787-91,215629586
787-1026698168
รวม1,9121,123789

ข้อมูล ณ มีนาคม 2024[22]

คุณลักษณะ

เครื่องบินที่ใกล้เคียงกัน

รุ่นที่ใกล้เคียงกัน

เครื่องบินที่คล้ายกัน

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น



อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref> สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/> ที่สอดคล้องกัน

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง