ยุพ ไฮน์เคิส

โยเซ็ฟ "ยุพ" ไฮน์เคิส (เยอรมัน: Josef "Jupp" Heynckes) เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 ในเมือง เมินเชนกลัดบัค ประเทศเยอรมนี เป็นอดีตนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ไฮน์เคิสเป็นผู้จัดการทีมคนที่สี่ ที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ได้ถึงสองสโมสรหลังจากเขาพา สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด เป็นแชมป์ฤดูกาล 1997–98 และสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก ฤดูกาล 2012–13

ยุพ ไฮน์เคิส
ไฮน์เคิสในปี ค.ศ. 2011
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็มโยเซ็ฟ ไฮน์เคิส
วันเกิด (1945-05-09) 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 (78 ปี)
สถานที่เกิดเมินเชนกลัดบัค, เยอรมนี
ส่วนสูง1.80 เมตร (5 ฟุต 11 นิ้ว)
ตำแหน่งกองหน้า
สโมสรเยาวชน
1956–1962Grün-Weiß Holt
1962–1964โบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค
สโมสรอาชีพ*
ปีทีมลงเล่น(ประตู)
1963–1967โบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค82(50)
1967–1970ฮันโนเฟอร์ 9686(25)
1970–1978โบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค226(168)
รวม394(243)
ทีมชาติ
1966–1967เยอรมนีตะวันตก อายุไม่เกิน 23 ปี3(1)
1967–1976เยอรมนีตะวันตก39(14)
จัดการทีม
1979โบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค (ผู้ช่วย)
1979–1987โบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค
1987–1991บาเยิร์นมิวนิก
1992–1994อัตเลติกเดบิลบาโอ
1994–1995ไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟูร์ท
1995–1997เตเนรีเฟ
1997–1998เรอัลมาดริด
1999–2000ไบฟีกา
2001–2003อัตเลติกเดบิลบาโอ
2003–2004ชัลเคอ 04
2006–2007โบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค
2009บาเยิร์นมิวนิก (รักษาการ)
2009–2011ไบเออร์เลเวอร์คูเซิน
2011–2013บาเยิร์นมิวนิก
2017–2018บาเยิร์นมิวนิก
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น

ประวัติ

ยุพ ไฮน์เคิส เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 ในเมือง เมินเชนกลัดบัค ประเทศเยอรมนี โดยไฮน์เคิสเป็นลูกคนเดียวของ คุณพ่อและคุณแม่ของเขา โดยคุณพ่อมีอาชีพเป็น กัปตันเรือ ในท่าเรือแห่งหนึ่งในเขตย่านเมืองเมินเชนกลัดบัค และคุณแม่ของไฮน์เคิสทำอาชีพเป็นแม่ครัวของโรงแรมมฟริสสตาร์ออลไดรฟ์ ในเมือง เมินเชนกลัดบัค แล้วในปี ค.ศ. 1975 ไฮน์เคิสได้แต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่งในเมืองมิวนิก โดยมีลูกสองคน

นักฟุตบอลมืออาชีพ

ไฮน์เคิสเริ่มสนใจฟุตบอลตั้งแต่เด็ก โดยเขาเริ่มเป็นนักฟุตบอลตั้งแต่วัย 18 ปี ในปี ค.ศ. 1963 ไฮน์เคิสได้ทำสัญญาฉบับแรกของเขากับสโมสรฟุตบอลโบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัคในบุนเดิสลีกา (ปัจจุบัน) โดยเขาได้เล่นในตำแหน่งกองหน้า ซึ่งไฮน์เคิสจะถูกวางไว้หน้าเป้าคนเดียว ไฮน์เคิสมีความคล่องตัวสูงและตัวสูงไม่เกิน 185 ซ.ม. จึงทำให้หลบหลีกนักฟุตบอลในตำแหน่งกองหลังของทีมอื่นได้อย่างง่ายดาย แล้วในปี ค.ศ. 1967 ฮันโนเฟอร์ 96 ได้ขอยืมตัวไฮน์เคิสไปเล่นเป็นเวลา 3 ปี แล้วในปี ค.ศ. 1970 ไฮน์เคิสได้กับมาอยุ่กับเมินเชนกลัดบัค โดยการกลับมาในรอบนี้ ไฮน์เคิสได้ถูกวางตำแหน่งไว้หน้าเป้าคนเดียวเหมือนเดิม แต่คราวผู้จัดการทีมของเมินเชนกลัดบัคได้ปรับแผนใหม่โดยจะมีปีกซ้ายและปีกขวามาช่วยส่งบอลให้ไฮน์เคิส โดยไฮน์เคิสได้เป็นฮีโรของเมินเชนกลัดบัคหลายรอบ ในช่วง 1971-1977 เมินเชนกลัดบัคได้แชมป์ บุนเดิสลีกา 4 สมัย ยูฟ่าคัพ 3 สมัย และ เดเอ็ฟเบ-โพคาล 1 สมัย โดยเขาได้ลงเล่นให้กับเมินเชนกลัดบัคทั้งหมด 400 นัด ทำประตูไปได้ 292 ประตู ปัจจุบัน ไฮน์เคิสยังเป็นมือ 3 ของนักเตะในเมินเชนกลัดบัคทั้งหมดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรขึ้นมาที่ยิงประตูได้เยอะสุด แล้วในปี ค.ศ. 1978 ไฮน์เคิสในวัย 33 ปี ประกาศตนแขวนสตั๊ดไว้กับเมินเชนกลัดบัค โดยได้ออกมากล่าวก่อนที่จะเลิกเล่นเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพไว้ว่า ชีวิตของผมในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพคงมาหยุดไว้แค่นี้ เนื่องจากผมมีครอบครัวแล้ว ผมต้องดูและลูกและภรรยาและญาติ ๆ ของผม ผมทิ้งครอบครัวแล้วมาเลือกเล่นอาชีพนักฟุตบอลต่อก็คงไม่ได้ เพราะผมที่เป็นพ่อ ยังมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องทำในอนาคตข้างหน้า

การติดทีมชาติ

ไฮน์เคิสติดทีมชาติตั้งแต่วัย 22 ปี โดยเขาได้เล่นในฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีในชุดตัวจริง โดยไฮน์เคิสเล่นให้กับทีมชาติเยอรมนีมาทั้งหมด 39 นัด ในปี ค.ศ. 1972 ทีมชาติเยอรมนีคว้าแชมป์ยูโรมาครองได้โดยชนะฟุตบอลทีมชาติสหภาพโซเวียต ไปได้ 3-0 และในปี ค.ศ. 1974 ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ทีมชาติเยอรมนีชนะฟุตบอลทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ไปได้ 2-1 โดยได้ไฮน์เคิสไม่ได้ทำประตูแต่มีส่วนช่วยในการส่งบอลให้เพื่อน โดยผลการติดทีมชาติทั้งหมดของไฮน์เคิส ลงเล่นทั้งหมด 66 นัด ทำประตูไปได้ 14 ประตู นัดสุดท้ายที่เขาได้ลงเล่นคือ ในปี ค.ศ. 1976 ที่เยอรมนีอุ่นเครื่องกับยูเครน โดยเยอรมนีชนะไป 4-2 ไฮน์เคิสได้ทำไป 2 ประตู

ผู้จัดการทีมฟุตบอล

โบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค

แล้วจากที่เขาได้เลิกเล่นฟุตบอลไปแล้วในปี ค.ศ. 1978 1 ปีให้หลังต่อมา ไฮน์เคิสได้กลับมาอยู่ในวงการฟุตบอลอีกครั้ง โดยเขาได้ออกมายืนยันกับทางสโมสรว่า เขากับภรรยาได้ตัดสินใจกันแล้วว่า เขากับภรรยาและลูกของเขาได้ย้ายบ้านมาอยู่ในเมืองเมินเชนกลัดบัค บ้านเก่าของไฮน์เคิส ภรรยาของเขาบอกไว้ว่า จะให้ไฮน์เคิสทำงานในวงการฟุตบอลต่อ เพื่อความสะดวกสบายของครอบครัวและความสุขของสามี แล้วหลังจากนั้นไฮน์เคิสก็ได้มาเป็นผู้จัดการทีมของโบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค โดยในปีแรก ไฮน์เคิสนำเมินเชนกลัดบัคจบอันดับ 5 ได้ไปเล่นยูโรปาลีกได้ แต่ก็ต้องตกรอบในโซนแบ่งกลุ่ม โดยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 ถึง ปี ค.ศ. 1987 ไฮน์เคิสไม่เคยนำทีมเมินเชนกลัดบัคจบอันดับที่ต่ำกว่าที่ 6 โดยตลอด แล้วในปี ค.ศ. 1987 ไฮน์เคิสได้ขอลาออกแล้วไปคุมสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก

บาเยิร์นมิวนิก (ปี 1989-1991)

ในปี ค.ศ. 1989 ไฮน์เคิสนำทีมเสือใต้ บาเยิร์นมิวนิก คว้าแชมป์บุนเดิสลีกา 2 สมัย และแชมป์เดเอฟอัลซูเปอร์คัพ 1 สมัย แล้วในปี ค.ศ. 1991 ไฮน์เคิสได้ไปคุมอัตเลติกเดบิลบาโอในลาลิกา ประเทศสเปน ต่อ

อัตเลติกเดบิลบาโอ

ในปี ค.ศ. 1992 ไฮน์เคิสได้มาคุมอัตเลติกเดบิลบาโอ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขามาคุทีมในลาลิกา ประเทศสเปน โดยในปีแรกที่เขาเข้ามาคุม ไฮน์เคิสนำอัตเลติกเดบิลบาโอจบในอันดับที่ 6 แล้วในปีทีสองในการคุมทีม ไฮน์เคิสนำอัตเลติกเดบิลบาโอจบในอันดับที่ 5 แล้วได้พาทีมอัตเลติกเดบิลบาโอไปเล่นในยูฟ่าคัพ เป็นครั้งที่ 12 ของสโมสร แต่เขาก็ขอลาออก หลังจากนั้นไปเขาก็ไปคุมไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟูร์ท สโมสรในประเทศบ้านเกิดของตน

เรอัลมาดริด

ในปี ค.ศ. 1997 ไฮน์เคิสได้ถูกเชิญตัวจากสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด มานั่งในตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ โดยไฮน์เคิสเริ่มทำผลงานในการคุมทีมของเขาดีขึ้น โดยนำราชันชุดขาวได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ได้ในปี ค.ศ. 1997 โดยชนะสโมสรฟุตบอลยูเวนตุสจากประเทศอิตาลี ไปได้ 1-0 และได้แชมป์ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา โดยชนะสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา คู่แข่งประจำประเทศไป 5-3

ชัลเก 04

ในปี ค.ศ. 2003 ไฮน์เคิสได้ย้ายมาคุมชัลเก 04 ในบุนเดิสลีกา ประเทศเยอรมนี โดยครั้งนี้ไฮน์เคิสนำทีมชัลเก 04 ได้แชมป์ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ 2 สมัยติดกัน โดยในปี ค.ศ. 2003 ชนะเอสเฟาพาชิงจากประเทศออสเตรีย ไปได้ 2-0 และในปี ค.ศ. 2004 ชนะสโลวาน ลิเบอร์เรซ จากสาธารณรัฐเช็ก ไปได้ 3-1

บาเยิร์นมิวนิก (ปี 2011-2013)

ถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี 2013

ไฮน์เคิสได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมบาเยิร์นมิวนิกอีกครั้ง โดยในฤดูกาล 2011-12 บาเยิร์นมิวนิกปิดฤดูกาลด้วยการเป็นรองแชมป์ใน 3 รายการใหญ่ ได้แก่ จบอันดับ 2 ในบุนเดสลีกา และแพ้ในนัดชิงของเดเอ็ฟเบ-โพคาล ทั้งสองรายการต่อโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ ของ เยือร์เกิน คล็อพ และยังแพ้ในนัดชิงยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอย่างน่าผิดหวังต่อเชลซีอีกด้วย[1] โดยในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2012 ไฮน์เคิสได้ทำสถิติคุมทีมในบุนเดสลีกาครบ 600 นัด ในฤดูกาลถัดไปบาเยิร์นมิวนิกจบฤดูกาลด้วยการชนะเลิศทั้งสามแชมป์ใหญ่[2] โดยได้อันดับ 1 ในบุนเดสลีกาพร้อมสร้างสถิติมากมายเช่น ได้แต้มมากที่สุด แต้มทิ้งห่างอันดับ 2 มากที่สุด และได้รับการการันตีแชมป์เร็วที่สุด รวมถึงยังแพ้ในลีกเพียง 1 นัด ในเวทียุโรปบาเยิร์นมิวนิกเอาชนะ บาร์เซโลน่าในรอบรองชนะเลิศและชนะโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ 2-1 ในนัดชิงยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รวมถึงชนะเลิศรายการบอลถ้วยเดเอ็ฟเบ-โพคาล ตำนานสโมสร ฟรันทซ์ เบ็คเคินเบาเออร์ ได้ยกย่องบาเยิร์นมิวนิกในฤดูกาล 2012-13 ว่าเป็น "ทีมบาเยิร์นที่ดีที่สุด"

ไฮน์เคิสได้ประกาศว่าตนจะไม่คุมทีมต่อไปในฤดูกาล 2013-2014 และสโมสรได้แต่งตั้ง เปป กวาร์ดิโอลา มาทำหน้าที่แทน

เกียรติประวัติ

นักฟุตบอล

ระดับสโมสร

ระดับทีมชาติ

ผู้จัดการทีม

บาเยิร์นมิวนิก

เรอัลมาดริด

ชาลาเก 04

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง