สัญญาประชาคม

ในปรัชญาศีลธรรมและการเมือง สัญญาประชาคม (อังกฤษ: social contract) เป็นทฤษฎีหรือแบบจำลองที่ถือกำเนิดขึ้นในยุคเรืองปัญญา โดยปกติ (แต่ไม่เสมอไป) จะเกี่ยวข้องกับความชอบธรรมของอำนาจหน้าที่ของรัฐเหนือปัจเจก[1]

ปกต้นฉบับของหนังสือโดยโทมัส ฮอบส์ ชื่อเลอไวอะทัน (ค.ศ. 1651) ซึ่งเขาบรรยายมโนทัศน์ทฤษฎีสัญญาประชาคม

ข้อโต้แย้งของทฤษฎีสัญญาประชาคมคือ ปัจเจกล้วนยินยอมที่จะสละเสรีภาพบางส่วนไปและมอบให้แก่ผู้ถืออำนาจหน้าที่ (อาจเป็นผู้ปกครอง หรือขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่) ทั้งอย่างชัดแจ้งและอย่างซ่อนเร้น เพื่อแลกกับความคุ้มครองในสิทธิหรือเพื่อการธำรงไว้ซึ่งระเบียบทางสังคม[2][3] ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิธรรมชาติและสิทธิทางกฎหมายมักเป็นประเด็นในทฤษฎีสัญญาประชาคม ชื่อของทฤษฎีได้มาจากชื่อหนังสือสัญญาประชาคม (ฝรั่งเศส: Du contrat social ou Principes du droit politique) ใน ค.ศ. 1762 โดยฌ็อง-ฌัก รูโซ แม้ทฤษฎีนี้เคยปรากฏอยู่ในปรัชญากรีกโบราณและสโตอิก รวมไปถึงกฎหมายโรมันและกฎหมายศาสนจักร ยุคที่ทฤษฎีสัญญาประชาคมรุ่งเรืองที่สุดอยู่ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อได้กลายมาเป็นลัทธิสำคัญในเรื่องความชอบธรรมทางการเมือง

จุดเริ่มต้นของทฤษฎีสัญญาประชาคมส่วนใหญ่คือ การพิจารณาสภาพของมนุษย์โดยไร้ระเบียบทางการเมือง (โทมัส ฮอบส์ ใช้คำว่า "สภาพธรรมชาติ")[4] ในสภาพนี้ การกระทำของปัจเจกจะมีพันธะเพียงต่ออำนาจและมโนธรรมของบุคคลนั้น จากจุดเริ่มต้นดังกล่าว นักทฤษฎีสัญญาประชาคมพยายามศึกษาว่าเหตุใดปัจเจกถึงให้ความยินยอมโดยสมัครใจในการสละเสรีภาพโดยธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์จากระเบียบทางการเมือง

นักทฤษฎีสัญญาประชาคมและสิทธิโดยธรรมชาติที่โดดเด่นในคริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 ได้แก่ Hugo Grotius (ค.ศ. 1625), โทมัส ฮอบส์ (ค.ศ. 1651), Samuel von Pufendorf (ค.ศ. 1762), จอห์น ล็อก (ค.ศ. 1689), ฌ็อง-ฌัก รูโซ (ค.ศ. 1762) และอิมมานูเอล คานต์ (ค.ศ. 1797) ซึ่งต่างมีแนวทางการศึกษามโนทัศน์เรื่องอำนาจหน้าที่ทางการเมืองไม่เหมือนกัน Grotius ตั้งสมมติฐานว่ามนุษย์แต่ละคนมีสิทธิโดยธรรมชาติ ฮอบส์กล่าวว่าใน "สภาพธรรมชาติ" ชีวิตของมนุษย์จะ "โดดเดี่ยว, ยากแคลน, น่ารังเกียจ, โหดร้าย และแสนสั้น" ในสภาพที่ปราศจากระเบียบทางการเมืองและกฎหมาย ทุกคนจะมีสิทธิโดยธรรมชาติที่ไม่จำกัด รวมไปถึง "สิทธิถึงทุกสิ่ง" (right to all things) อย่างสิทธิที่จะปล้นชิง ข่มขืน และฆ่าผู้อื่น นำไปสู่ "สงครามของทุกคนต่อทุกคน" (bellum omnium contra omnes, "war of all against all")[5] เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เช่นนี้ เสรีชนทำสัญญาร่วมกันเพื่อสถาปนาชุมชนทางการเมือง (ประชาสังคม) ผ่านสัญญาประชาคมซึ่งพวกเขาจะได้ความคุ้มครองโดยแลกกับการที่ตกเป็นผู้ถูกปกครองโดยองค์อธิปัตย์สัมบูรณ์ (absolute sovereign) ทั้งในรูปแบบของผู้ปกครองคนเดียวหรือคณะบุคคลร่วมปกครอง แม้คำสั่งองค์อธิปัตย์อาจทั้งพลการและโหดร้าย (arbitrary and tyrannical) ฮอบส์มองว่ารัฐบาลอำนาจสิทธิ์ขาดเป็นหนทางเดียวที่จะไม่ให้เกิดอนาธิปไตยของสภาพธรรมชาติ ฮอบส์ยืนกรานว่ามนุษย์ยินยอมที่จะสละสิทธิของตนเพื่อให้ได้รัฐบาลที่มีอำนาจเด็ดขาด (ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์หรือระบบรัฐสภา)

ในทางตรงกันข้าม ล็อกและรูโซแย้งว่ามนุษย์พึงมีสิทธิพลเมืองโดยแลกกับการต้องยอมรับ ให้ความเคารพ และปกป้องสิทธิของผู้อื่น ซึ่งทำได้โดยการยอมสละเสรีภาพบางส่วนไป[6][7][8]

นักทฤษฎีสัญญาประชาคมคนอื่น ๆ ชี้ให้เห็นว่า หากรัฐบาลไม่สามารถประกันสิทธิโดยธรรมชาติ (ล็อก) หรือทำให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์สูงสุดของสังคม ประชาชนสามารถถอนพันธะที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่ง หรือเปลี่ยนผู้นำผ่านการเลือกตั้งหรือโดยวิธีอื่นใด รวมไปถึงความรุนแรง (หากจำเป็น) รูโซเชื่อว่าประชาธิปไตย (หรือการปกครองโดยเสียงข้างมาก) เป็นหนทางที่ดีที่สุดสู่การประกันสวัสดิภาพในขณะที่รักษาเสรีภาพของปัจเจกภายใต้หลักนิติธรรม มโนทัศน์ของล็อกเรื่องสัญญาประชาคมมีอิทธิพลในคำประกาศอิสรภาพสหรัฐ[9] John Geoffrey Jones ผู้พิพากษาอังกฤษเชื่อในการนำทฤษฎีสัญญาประชาคมมาใช้วินิจฉัยสุขภาพจิต โดยมีจุดมุ่งหมายในการพิพากษาคดีให้ยุติธรรมที่สุด[10]

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

หนังสืออ่านเพิ่ม

  • Ankerl, Guy. Towards a Social Contract on a Worldwide Scale: Solidarity contracts. Research series. Geneva: International Institute for Labour Studies [Pamphlet], 1980, ISBN 92-9014-165-4.
  • Carlyle, R. W. A History of mediæval political theory in the West. Edinburgh London: W. Blackwood and sons, 1916.
  • Falaky, Faycal (2014). Social Contract, Masochist Contract: Aesthetics of Freedom and Submission in Rousseau. Albany: State University of New York Press. ISBN 978-1-4384-4989-0
  • Gierke, Otto Friedrich Von and Ernst Troeltsch. Natural Law and the Theory of Society 1500 to 1800. Translated by Sir Ernest Barker, with a Lecture on "The Ideas of Natural Law and Humanity", by Ernst Troeltsch. Cambridge: The University Press, 1950.
  • Gough, J. W.. The Social Contract. Oxford: Clarendon Press. 1936.
  • Harrison, Ross. Hobbes, Locke, and Confusion's Empire: an Examination of Seventeenth-Century Political Philosophy. Cambridge University Press, 2003.
  • Hobbes, Thomas. Leviathan. 1651.
  • Locke, John. Second Treatise on Government 1689.
  • Narveson, Jan; Trenchard, David (2008). "Contractarianism/Social Contract". ใน Hamowy, Ronald (บ.ก.). The Encyclopedia of Libertarianism. Thousand Oaks, CA: SAGE; Cato Institute. pp. 103–05. doi:10.4135/9781412965811.n66. ISBN 978-1412965804. LCCN 2008009151. OCLC 750831024.
  • Pettit, Philip. Republicanism: A Theory of Freedom and Government. NY: Oxford U.P., 1997, ISBN 0-19-829083-7, Oxford: Clarendon Press, 1997
  • Pufendorf, Samuel, James Tully and Michael Silverthorne. Pufendorf: On the Duty of Man and Citizen according to Natural Law. Cambridge Texts in the History of Political Thought. Cambridge University Press 1991.
  • Rawls, John. A Theory of Justice (1971)
  • Riley, Patrick. "How Coherent is the Social Contract Tradition?" Journal of the History of Ideas 34: 4 (Oct. – Dec., 1973): 543–62.
  • Riley, Patrick. Will and Political Legitimacy: A Critical Exposition of Social Contract Theory in Hobbes, Locke, Rousseau, Kant, and Hegel. Cambridge, Massachusetts : Harvard University Press, 1982.
  • Riley, Patrick. The Social Contract and Its Critics, chapter 12 in The Cambridge History of Eighteenth-Century Political Thought. Eds. Mark Goldie and Robert Wokler. Vol 4 of The Cambridge History of Political Thought. Cambridge University Press, 2006. pp. 347–75.
  • Rousseau, Jean-Jacques. The Social Contract, or Principles of Political Right เก็บถาวร 2008-02-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (1762)
  • Scanlon, T. M. 1998. What We Owe To Each Other. Cambridge, Massachusetts

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง