เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (อังกฤษ: Trent Alexander-Arnold; เกิด 7 ตุลาคม ค.ศ. 1998) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาให้กับลิเวอร์พูล และทีมชาติอังกฤษ
 อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์กับอังกฤษในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 | ||||||||||||||||
| ข้อมูลส่วนตัว | ||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ชื่อเต็ม | เทรนต์ จอห์น อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ | |||||||||||||||
| วันเกิด | 7 ตุลาคม ค.ศ. 1998 | |||||||||||||||
| สถานที่เกิด | ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ | |||||||||||||||
| ส่วนสูง | 5 ft 9 in (1.75 m)[1] | |||||||||||||||
| ตำแหน่ง | แบ็กขวา | |||||||||||||||
| ข้อมูลสโมสร | ||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | ลิเวอร์พูล | |||||||||||||||
| หมายเลข | 66 | |||||||||||||||
| สโมสรเยาวชน | ||||||||||||||||
| 2004–2016 | ลิเวอร์พูล | |||||||||||||||
| สโมสรอาชีพ* | ||||||||||||||||
| ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | |||||||||||||
| 2016– | ลิเวอร์พูล | 196 | (12) | |||||||||||||
| ทีมชาติ‡ | ||||||||||||||||
| 2013–2014 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 16 ปี | 6 | (0) | |||||||||||||
| 2014–2015 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 17 ปี | 11 | (0) | |||||||||||||
| 2016 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 18 ปี | 2 | (0) | |||||||||||||
| 2016–2017 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 19 ปี | 10 | (7) | |||||||||||||
| 2017 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 21 ปี | 3 | (0) | |||||||||||||
| 2018– | อังกฤษ | 18 | (1) | |||||||||||||
เกียรติประวัติ
| ||||||||||||||||
| *นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 23:40, 15 พฤษภาคม 2023 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 21:10, 29 พฤศจิกายน 2022 (UTC) | ||||||||||||||||
ระดับสโมสร
ทีมเยาวชน
อาร์โนลด์ได้เข้าร่วมศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสรลิเวอร์พูลเมื่อ ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ขณะอายุ 6 ปีจนกระทั่งได้เป็นกัปตันทีมชุดอายุไม่เกิน 16 ปี และชุดอายุไม่เกิน 18 ปี ก่อนจะได้รับสัญญาการเป็นนักฟุตบอลอาชีพในเวลาต่อมา ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2017 อาร์โนลด์ได้ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน ฟีลีปี โกชิญญู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์เอาชนะเพื่อนบ้านเอฟเวอร์ตัน 3-1 และเกือบทำประตูได้ในนาทีที่ 77 โดยเอ็มเร จัน เติมขึ้นมาทางขวาก่อนตบเข้ากลางให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้ยิงด้วยขวา บอลพุ่งเข้ากรอบแต่ โจเอล โรเบลส ผู้รักษาประตูเอฟเวอร์ตันบินปัดเอาไว้ได้
ทีมชุดใหญ่
ฤดูกาล 2017-18
ในวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 อาร์โนลด์ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล[2] ต่อมา ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบเพลย์ออฟ อาร์โนลด์ลงเล่นนัดแรกในบอลยุโรปและทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูลด้วยลูกฟรีคิก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฮ็อฟเฟินไฮม์ จากเยอรมัน 2-1[3] ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดคนที่สามที่ทำประตูในการลงเล่นเกมส์ยุโรปนัดแรกของเขากับลิเวอร์พูล ต่อจาก ไมเคิล โอเวน และ เดวิด แฟร์ไคลฟ์ ต่อมา ในวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E อาร์โนลด์ทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ มารีบอร์ จากสโลวีเนีย 7-0[4] ทำให้ ลิเวอร์พูลสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นทีมจากอังกฤษที่เอาชนะนอกบ้านในเกมยุโรปด้วยสกอร์ที่มากที่สุด[5] ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2017 อาร์โนลด์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017–18 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สวอนซีซิตี 5-0[6] ต่อมา ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 อาร์โนลด์คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีเป็นปีที่ 2 ในงานประกาศรางวัล Players' Awards 2018[7]
ฤดูกาล 2018-19
ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 อาร์โนลด์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 3-0[8] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2019 อาร์โนลด์ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล ไปจนถึงปี 2024[9]
ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 อาร์โนลด์ทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีกที่ทำแฮตทริคแอสซิสต์ ด้วยวัย 20 ปี 143 วัน โดย อาร์โนลด์จ่ายให้ ซาดีโย มาเน (2 ประตู) และเฟอร์จิล ฟัน ไดก์ (1 ประตู) ทำประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 5-0[10] ต่อมา อาร์โนลด์ยังได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ร่วมกับ ซาดีโย มาเน, แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน และ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ 3 นักเตะของลิเวอร์พูล อีกด้วย ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[11]
ฤดูกาล 2019-20
ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ เชลซี แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, อิสตันบูล ประเทศตุรกี สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[12] ต่อมา ในวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 2019 อาร์โนลด์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ 2-1[13] ต่อมา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 อาร์โนลด์ลงสนามให้กับลิเวอร์พูลนัดที่ 100 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 2-1[14] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ[15]
ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2019 อาร์โนลด์ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 4-0[16] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ อาร์โนลด์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนธันวาคมของพรีเมียร์ลีก[17]
ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2020 อาร์โนลด์ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-0[18] ต่อมา ในวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 อาร์โนลด์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชลซี 5-3[19] และฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 ที่แอนฟีลด์ส่งท้าย[20] จบฤดูกาล อาร์โนลด์คว้ารางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ประจำฤดูกาล 2019-20[21] รวมทั้ง อาร์โนลด์ยังได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ร่วมกับ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์, แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน, ซาดีโย มาเน และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 4 นักเตะของลิเวอร์พูล อีกด้วย[22]
ฤดูกาล 2020-21
ในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2021 อาร์โนลด์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020–21 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่สนามกีฬาทอตนัมฮอตสเปอร์ 3-1[23] ต่อมา ในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2021 อาร์โนลด์ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แอสตันวิลลา 2-1[24]
ทีมชาติอังกฤษ
ทีมเยาวชน
ทีมชุดใหญ่
ในวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2018 อาร์โนลด์ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นนัดแรก ในอุ่นเครื่องกระชับมิตร นัดที่ อังกฤษ เอาชนะ คอสตาริกา 2-0 ต่อมา ทีมชาติอังกฤษเรียกตัวอาร์โนลด์ติดรายชื่อ 23 คน ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดย อังกฤษ ได้อยู่กลุ่มจี ร่วมกับ เบลเยียม, ปานามา และ ตูนิเซีย ในวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2018 อาร์โนลด์ลงสนามเป็นตัวจริงในฟุตบอลโลก นัดแรก ในนัดที่ อังกฤษ พ่ายแพ้ เบลเยียม 0-1 สุดท้าย อังกฤษ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย คว้าอันดับ 2 ของกลุ่มจี ชนะ 2 แพ้ 1
ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 อาร์โนลด์ทำประตูแรกในนามทีมชาติ นัดที่ อังกฤษ เปิดสนามกีฬาเวมบลีย์เอาชนะ สหรัฐ 3-0[25]
สถิติอาชีพ
สโมสร
- ณ วันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2023
| สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอคัพ | อีเอฟแอลคัพ | ทวีป | อื่น ๆ | ทั้งหมด | |||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
| ลิเวอร์พูล | 2016–17[26] | พรีเมียร์ลีก | 7 | 0 | 2 | 0 | 3 | 0 | — | — | 12 | 0 | ||
| 2017–18[27] | 19 | 1 | 2 | 0 | 0 | 0 | 12[a] | 2 | — | 33 | 3 | |||
| 2018–19[28] | 29 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 11[a] | 0 | — | 40 | 1 | |||
| 2019–20[29] | 38 | 4 | 0 | 0 | 0 | 0 | 7[a] | 0 | 4[b] | 0 | 49 | 4 | ||
| 2020–21[30] | 36 | 2 | 1 | 0 | 0 | 0 | 8[a] | 0 | 0 | 0 | 45 | 2 | ||
| 2021–22[31] | 32 | 2 | 3 | 0 | 3 | 0 | 9[a] | 0 | — | 47 | 2 | |||
| 2022–23[32] | 35 | 2 | 2 | 0 | 0 | 0 | 7[a] | 1 | 1[c] | 1 | 45 | 4 | ||
| รวมทั้งหมด | 196 | 12 | 10 | 0 | 6 | 0 | 54 | 3 | 5 | 1 | 271 | 16 | ||
ทีมชาติ
- ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022[33]
| ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
|---|---|---|---|
| อังกฤษ | 2018 | 5 | 1 |
| 2019 | 4 | 0 | |
| 2020 | 3 | 0 | |
| 2021 | 4 | 0 | |
| 2022 | 2 | 0 | |
| รวม | 18 | 1 | |
ประตูในนามทีมชาติ
- ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022[33]
| ลำดับ | วันที่ | สนาม | Cap | คู่แข่ง | คะแนน | ผล | การแข่งขัน | อ้างอิง |
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | 15 พฤศจิกายน 2018 | สนามกีฬาเวมบลีย์ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ | 5 |  สหรัฐ | 2–0 | 3–0 | กระชับมิตร | [34] |
เกียรติประวัติ
สโมสร
ลิเวอร์พูล
- พรีเมียร์ลีก: 2019–20[1]
- เอฟเอคัพ: 2021–22[35]
- อีเอฟแอลคัพ: 2021–22[36]
- เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์: 2022[37]
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2018–19;[38] รองชนะเลิศ: 2017–18,[39] 2021–22[40]
- ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2019[41]
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก: 2019[42]
นานาชาติ
- ยูฟ่าเนชันส์ลีก อันดับที่ 3: 2018–19[43]
รางวัลส่วนตัว
- Liverpool Young Player of the Season: 2016–17[44], 2017–18
- PFA Team of the Year: 2018–19 Premier League, 2019–20 Premier League
- PFA Young Player of the Year: 2019–20 Premier League
- Golden Boy runner-up: 2018
- UEFA Champions League Squad of the Season: 2018–19
- UEFA Champions League Defender of the Season 3rd place: 2018–19
- FIFA FIFPro World11 nominee: 2019 (6th defender)
- Ballon d'Or nominee: 2019
- Premier League Player of the Month: ธันวาคม 2019
- IFFHS Men's World Team: 2019
- UEFA Team of the Year: 2019
- Premier League Young Player of the Season: 2019–20
- Standard Chartered Liverpool Player of the Month: พฤศจิกายน 2018[45], ธันวาคม 2019[46]
- ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์: พฤศจิกายน 2018[47]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- Profile at the Liverpool F.C. website
- Profile at the Football Association website
- เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – สถิติการลงแข่งจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) (อังกฤษ)