เอ็มมา วอตสัน

นักรณรงค์และนักแสดงหญิงชาวอังกฤษ (เกิด ค.ศ. 1990)
(เปลี่ยนทางจาก เอ็มมา วัตสัน)

เอ็มมา ชาร์ล็อต ดูแอร์ วอตสัน[2] (อังกฤษ: Emma Charlotte Duerre Watson; เกิด 15 เมษายน ค.ศ. 1990)[3] เป็นนักแสดง นางแบบ และนักกิจกรรมหญิงชาวบริติช เกิดในปารีสและเติบโตในออกซฟอร์ดไชร์ วอตสันเข้าเรียนโรงเรียนดรากอนสกูลขณะเป็นเด็ก และเรียนการแสดงที่โรงเรียนสเตจโคชเธียเตอร์อาตส์ สาขาออกซฟอร์ด เธอเป็นที่จดจำจากบทบาทการแสดงในบทเฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ ในภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ ปรากฏตัวในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์แปดภาคตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544-2554 โดยก่อนหน้านั้นเธอเคยแสดงเฉพาะละครในชั้นเรียน[4] แฟรนไชส์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทำให้วอตสันมีชื่อเสียงทั่วโลก ได้รับคำยกย่อง และรายได้มากกว่า 10 ล้านปอนด์[5] เธอยังคงรับงานแสดงนอกจากภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ อีก เรื่องแรกคือพากย์เสียงในภาพยนตร์ การผจญภัยของเดเปอโร และปรากฏในภาพยนตร์โทรทัศน์ฉบับดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง รองเท้าบัลเลต์ ตั้งแต่นั้นมา เธอได้รับบทในภาพยนตร์เรื่อง วัยป่วนหัวใจปึ้ก และวัยร้าย วัยลัก ได้รับบทเป็นตนเองในฉบับ "เกินจริง" ปรากฏตัวชั่วครู่ในภาพยนตร์ วันเนี๊ย...จบป่ะ[6] และรับบทเป็นบุตรบุญธรรมของตัวละครหลักในเรื่อง โนอาห์ มหาวิบัติวันล้างโลก[7]

เอ็มมา วอตสัน
วอตสันในปี ค.ศ. 2017
เกิดเอ็มมา ชาร์ล็อต ดูแอร์ วอตสัน
(1990-04-15) 15 เมษายน ค.ศ. 1990 (34 ปี)
ปารีส ฝรั่งเศส
สัญชาติบริติช[1]
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยบราวน์
วิทยาลัยวูสเตอร์
อาชีพ
  • นักแสดง
  • นางแบบ
  • นักกิจกรรม
ปีปฏิบัติงาน1999–ปัจจุบัน
มีชื่อเสียงจากภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์
7 วัน แล้วคิดถึงกันตลอดไป
วัยป่วนหัวใจปึ้ก
องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ ทูตสันถวไมตรี
ลายมือชื่อ

ตั้งแต่ พ.ศ. 2554 ถึง 2557 วอตสันแบ่งเวลาระหว่างงานภาพยนตร์กับการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยบราวน์และวิทยาลัยวูสเตอร์ ออกซฟอร์ด และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบราวน์ ระดับปริญญาตรีในสาขาวรรณกรรมอังกฤษในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557[8] งานนางแบบของเธอเป็นโครงการรณรงค์ของบริษัทเบอร์เบอรี และลังโกม[9][10] เธอยังช่วยออกแบบเสื้อผ้าในนามของที่ปรึกษาด้านแฟชั่นให้กับพีเพิลทรีด้วย[11] ในปี พ.ศ. 2557 เธอได้รับเกียรติจากรางวัลแบฟตา โดยชนะรางวัลสาขาศิลปินบริติชแห่งปี[12] ในปีเดียวกันนั้น เธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีขององค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ และช่วยริเริ่มโครงการรณรงค์ฮีฟอร์ชี (HeForShe) ที่รณรงค์ให้ผู้ชายสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ[13]

ประวัติในวัยเด็ก

เอ็มมา วอตสันเกิดที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส เธอเป็นลูกสาวของทนายความชาวอังกฤษชื่อ แจ็กลีน ลิวสบี และคริส วอตสัน[14][15][16] วอตสันอาศัยอยู่ในปารีสจนอายุ 5 ขวบ พ่อแม่ของเธอแยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก หลังจากพ่อแม่หย่าร้างกัน วอตสันย้ายกลับมาอยู่กับมารดาที่ออกซฟอร์ดไชร์ ประเทศอังกฤษ และอยู่กับบิดาที่ลอนดอนในวันสุดสัปดาห์[14][17] วอตสันเคยกล่าวว่าเธอพูดภาษาฝรั่งเศสได้บ้าง แม้ว่า "ไม่คล่องแคล่ว" เท่าที่เคย[18] หลังจากย้ายไปที่ออกซฟอร์ดกับมารดาและน้องชาย เธอเข้าศึกษาที่โรงเรียนดรากอนสกูลในออกซฟอร์ด จนกระทั่งปี พ.ศ. 2546 เธออยากเป็นนักแสดงตั้งแต่อายุ 6 ขวบ[19] และเรียนร้องเพลง เต้นรำ และการแสดงที่โรงเรียนสเตจโคชเธียเตอร์อาตส์แบบไม่เต็มเวลา[20]

เมื่ออายุ 10 ขวบ วอตสันได้แสดงในละครเวทีของโรงเรียนสเตจโคชหลายเรื่อง รวมถึงเรื่อง อาร์เธอร์: เดอะยังเยียร์แอนด์เดอะแฮปปีพรินซ์[21] แต่เธอไม่เคยแสดงมืออาชีพใด ๆ ก่อนภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ หลังจบโรงเรียนดรากอนสกูล วอตสันย้ายไปเรียนที่โรงเรียนเฮดิงตันสกูล[14] ขณะอยู่ที่กองถ่ายภาพยนตร์ เธอและเพื่อน ๆ มีครูสอนพิเศษให้วันละห้าชั่วโมง[22] ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 เธอเข้าสอบ GCSE 10 วิชา ได้รับเกรด A* 8 วิชา และเกรด A 2 วิชา[14][23]

อาชีพการงาน

2542–2546: จุดเริ่มต้นและความสำเร็จครั้งแรก

ภาพพิมพ์ฝ่ามือ รอยเท้า และไม้กายสิทธิ์ของ (จากซ้ายไปขวา) วอตสัน แรดคลิฟฟ์ กรินต์ พ.ศ. 2550

ในปี พ.ศ. 2542 การคัดเลือกนักแสดงภาพยนตรเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์เริ่มขึ้น โดยเป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายที่ขายดีที่สุดของเจ. เค. โรว์ลิง เจ้าหน้าที่ที่คัดเลือกนักแสดงพบวอตสันผ่านทางครูของเธอที่โรงละครออกซฟอร์ด และโปรดิวเซอร์รู้สึกประทับใจในความมั่นใจในตนเองของเธอ หลังการออดิชันแปดครั้ง โปรดิวเซอร์ เดวิด เฮย์แมน บอกวอตสันและผู้สมัครอีกสองคนคือ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ และ รูเพิร์ต กรินต์ว่าพวกเขาได้รับเลือกให้เป็นตัวละครเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ และรอน วีสลีย์ โดยเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกัน โรว์ลิงสนับสนุนวอตสันตั้งแต่การทดสอบหน้ากล้องครั้งแรก[19]

ในปี พ.ศ. 2544 วอตสันเปิดตัวแสดงความสามารถครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ภาพยนตร์ทำลายสถิติรายได้ในวันฉายวันแรกและสัปดาห์แรก และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดในปีนั้น[24][25] นักวิจารณ์ชื่นชมการแสดงของนักแสดงนำทั้งสามคน โดยชื่นชมวอตสันเป็นพิเศษ หนังสือพิมพ์เดอะเดลีเทลิกราฟเรียกการแสดงของเธอว่า "น่าชื่นชม"[26] และเว็บไซต์ไอจีเอ็นกล่าวว่าเธอ "โดดเด่นมากกว่าคนอื่น ๆ"[27] วอตสันได้เข้าชิงรางวัลห้ารางวัลจากเรื่องศิลาอาถรรพ์ และได้รับรางวัลนักแสดงเด็กสาขานักแสดงนำเด็กหญิง[28]

ปีต่อมา วอตสันรับบทเป็นเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ ภาพยนตร์เรื่องที่สองในชุด นักวิจารณ์ชื่นชมการแสดงของเธอ หนังสือพิมพ์เดอะลอสแอนเจลิสไทมส์กล่าวว่าวอตสันและเพื่อน ๆ เติบโตขึ้นจากเรื่องเดิม[29] ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์วิจารณ์ผู้กำกับ คริส โคลัมบัส ที่จ้างวอตสันมาเป็นตัวละครยอดนิยมด้วยค่าตัวที่น้อย[30] การแสดงของวอตสันทำให้เธอได้รับรางวัลออตโตจากนิตยสารเยอรมัน บราโว[31]

2547–2554: ความสำเร็จต่อเนื่องจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ และบทบาทอื่น ๆ

วอตสันในงานปฐมฤกษ์ของภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2548

ในปี พ.ศ. 2547 ภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบันออกฉาย วอตสันรู้สึกพอใจในบทบาทเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งเธอแสดงออกอย่างเต็มที่มากขึ้น โดยเธอเรียกตัวละครของเธอว่า "มีเสน่ห์" และเป็น "บทอัศจรรย์"[32] แม้ว่านักวิจารณ์ตำหนิการแสดงของแรดคลิฟฟ์ มองว่าเขา "เล่นแข็ง" แต่พวกเขายกย่องวอตสัน หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ชมเชยการแสดงของวอตสันว่า "โชคดีที่คุณแรดคลิฟฟ์ที่ไร้อารมณ์ถูกชดเชยด้วยความอดทนของคุณวอตสัน แฮร์รี่ได้อวดทักษะพ่อมดที่หลากหลายขึ้น แต่เฮอร์ไมโอนี่ได้รับเสียงปรบมือดังที่สุดจากหมัดปราศจากเวทมนตร์ต่อยเข้าที่จมูกของเดรโก มัลฟอย"[33] แม้ว่าเรื่องนักโทษแห่งอัซคาบันจะเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้น้อยที่สุดในภาพยนตร์ชุด แต่การแสดงของวอตสันจะชนะรางวัลออตโตสองรางวัล และรางวัลการแสดงเด็กแห่งปีจากนิตยสารโททัลฟิล์ม[34][35]

ด้วยภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี ทำให้ทั้งวอตสันและภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งใหม่ ภาพยนตร์ทำสถิติสำหรับสัปดาห์ออกฉายสัปดาห์แรกของภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นภาพยนตร์ไม่ได้เริ่มฉายในสหรัฐอเมริกาในวันสุดสัปดาห์ของเดือนพฤษภาคม และเป็นภาพยนตร์ที่ฉายสัปดาห์แรกในสุดสัปดาห์ในสหราชอาณาจักร นักวิจารณ์ชื่นชมการเติบโตของวอตสันและการแสดงวัยรุ่นของเธอ หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ชมการแสดงของเธอว่า "เอาจริงเอาจังอย่างน่าประทับใจ"[36] สำหรับวอตสัน เรื่องขบขันในภาพยนตร์ส่วนมากเกิดจากความเครียดในหมู่ตัวละครหลักสามคนขณะที่พวกเขากำลังเติบโต เธอกล่าวว่า "ฉันชอบทุกตอนที่เราทะเลาะกัน ฉันคิดว่ามันเหมือนจริงมากที่พวกเขาทะเลาะกันและที่จะมีปัญหามากมาย"[37] หลังจากภาพยนตร์เรื่องถ้วยอัคนีได้เข้าชิงสามรางวัล วอตสันชนะรางวัลออตโตเหรียญทองแดง[38][39] ต่อมาในปีนั้น วอตสันกลายเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดบนปกนิตยสารทีนโว้ก[40] เมื่อเธอปรากฏตัวอีกครั้งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552[41] ในปี พ.ศ. 2549 วอตสันรับบทเฮอร์ไมโอนี่ในละครเดอะควีนส์แฮนด์แบก ตอนพิเศษของแฮร์รี่ พอตเตอร์เพื่อธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร[42]

วอตสันที่งานปฐมฤกษ์ของภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552

ภาพยนตร์เรื่องที่ห้าในแฟรนไชส์คือ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ ออกฉายในปี พ.ศ. 2550 จากความสำเร็จด้านรายได้ครั้งใหญ่ ภาพยนตร์ทำสถิติทำรายได้ในสัปดาห์แรกสูงที่สุดที่ 332.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[43] วอตสันชนะรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม[44] เนื่องจากชื่อเสียงของวอตสันและภาพยนตร์ยังคงดำเนินต่อเนื่อง วอตสันและนักแสดงภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ และรูเพิร์ต กรินต์ พิมพ์ฝ่ามือ รอยเท้า และไม้กายสิทธิ์ที่บริเวณหน้าโรงละครกรอแมนส์ไชนีสเธียเตอร์ในฮอลลิวูดเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2550[45]

จนถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550 กล่าวกันว่างานแสดงของวอตสันในภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์สร้างรายได้ให้เธอมากกว่า 10 ล้านปอนด์ และเธอตระหนักว่าเธอไม่ต้องทำงานเพื่อเงินอีกต่อไป[5] ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552 เธออยู่ในอันดับที่ 6 ในรายชื่อ "ดาราหนุ่มสาวที่มีรายได้มากที่สุด" จัดโดยนิตยสารฟอบส์[46] และในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เธอได้ชื่อเป็นดาราสาวที่มีรายได้สูงสุดของฮอลลิวูด โดยมีรายได้ประมาณ 19 ล้านปอนด์ใน พ.ศ. 2552[47]

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องภาคีนกฟีนิกซ์ประสบความสำเร็จ อนาคตของแฟรนไชส์แฮร์รี่ พอตเตอร์กลายเป็นความไม่แน่นอน เมื่อนักแสดงทั้งสามคนลังเลที่จะต่อสัญญาการแสดงบทบาทของพวกเขาต่อไปในภาพยนตร์สองตอนสุดท้าย[48] ในที่สุดแรดคลิฟฟ์ยินยอมรับแสดงภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2550[48] แต่วอตสันยังคงลังเลใจต่อไป[49] เธออธิบายว่าเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ เนื่องจากเป็นการผูกมัดเธอกับบทบาทนี้ไปอีกสี่ปี แต่ในที่สุดเธอยอมรับว่าเธอ "ไม่อยากทิ้ง[บทเฮอร์ไมโอนี่]ไป"[50] และรับแสดงบทดังกล่าวในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2550[51]

วอตสันกับแดเนียล แรดคลิฟฟ์ (ซ้าย) และรูเพิร์ต กรินต์ ที่งานรอบปฐมฤกษ์ของภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554

วอตสันแสดงภาพยนตร์ที่ไม่ใช่แฮร์รี่ พอตเตอร์เรื่องแรกคือเรื่อง รองเท้าบัลเลต์ ออกอากาศทางช่องบีบีซีในปี พ.ศ. 2550 ดัดแปลงจากนวนิยายในชื่อเดียวกัน เขียนโดยโนล สเตรตเฟลด์[52][53] ผู้กำกับภาพยนตร์ แซนดรา โกลด์บาเชอร์ ให้ความเห็นว่าวอตสันแสดงได้ "สมบูรณ์แบบ" กับบทบาทนักแสดงหญิง พอลีน ฟอสซิล "เธอมีออร่าที่เฉียบแหลมละเอียดอ่อนที่ทำให้คุณอยากจ้องมองที่เธอ"[54] รองเท้าบัลเลต์ ฉายในสหราชอาณาจักรในวันเปิดกล่องของขวัญปี พ.ศ. 2550 ให้ผู้ชม 5.7 ล้านคน ได้รับคำวิจารณ์คละกันไป[55][56][57]

วอตสันพากย์เสียงให้บทเจ้าหญิงพีในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง เดเปอโร...รักยิ่งใหญ่จากใจดวงเล็ก ภาพยนตร์ตลกสำหรับเด็กนำแสดงโดยแมททิว บรอเดริก และนักแสดงร่วมเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ร็อบบี โคลเทรน (รูเบอัส แฮกริด) แสดงในเรื่องนี้เช่นกัน[58] การเดเปอโร...รักยิ่งใหญ่จากใจดวงเล็กออกฉายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 และทำรายได้ได้ 87 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก[59]

การถ่ายทำฉากสำคัญให้ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์เรื่องที่หก เริ่มขึ้นในปลายปี พ.ศ. 2550 โดยในส่วนของวอตสัน ถ่ายทำตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม ถึง 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2551[60][61] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม ฉายรอบปฐมฤกษ์ในวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552[62] เลื่อนจากเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2551[63] เนื่องจากนักแสดงหลายคนเป็นวัยรุ่นตอนปลาย นักวิจารณ์วิจารณ์พวกเขาในระดับเดียวกับนักแสดงคนอื่น ๆ ในเรื่อง โดยหนังสือพิมพ์ลอสแอนเจลิสไทมส์บรรยายเป็น "การแนะนำสู่การแสดงแบบทันสมัย"[64] หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์รู้สึกว่าวอตสัน "แสดงได้มีเสน่ห์ที่สุดจนถึงทุกวันนี้"[65] ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะเดลีเทลิกราฟบรรยายถึงนักแสดงนำว่า "กระตือรือต้น อิสระ และมีพลังที่จะแสดงสิ่งที่พวกเขามีให้กับส่วนที่เหลือของเรื่อง"[66] ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 วอตสันกล่าวว่าเธออยากเรียนระดับมหาวิทยาลัยหลังเธอถ่ายทำภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์จบทั้งหมด[67]

การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต เริ่มวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552[68] สิ้นสุดวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553[69] ด้วยเหตุผลด้านการเงินและบทภาพยนตร์ นวนิยายเล่มนี้ถูกแบ่งออกเป็นภาพยนตร์สองตอนซึ่งถ่ายทำต่อเนื่องกัน[70][71] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1 ออกฉายในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 และภาค 2 ออกฉายในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554

เธอปรากฏในมิวสิกวิดีโอของวงวันไนต์โอนลี หลังพบกับนักร้องนำ จอร์จ เครก ในงานรณรงค์โฆษณาวินเทอร์/ซัมเมอร์เบอร์เบรี 2010 วิดีโอเพลง "เซย์ยูโดนต์วอนต์อิต" ออกอากาศทางช่องแชนเนิล 4 ในวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553 และออกเผยแพร่วันที่ 16 สิงหาคม[72]

หลังจบเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ วอตสันแสดงภาพยนตร์เรื่อง 7 วัน แล้วคิดถึงกันตลอดไป รับบทเป็นลูซี ผู้ช่วย ที่ถูกตัวละครหลัก โคลิน คลาร์ก เกี้ยวพาราสี และออกเที่ยวกับเขาหลายครั้ง[73][74]

2555–ปัจจุบัน

วอตสันในงานเทศกาลภาพยนตร์ไทรเบกา 2012

ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2553 มีรายงานว่าวอตสันกำลังพิจารณาแสดงในภาพยนตร์เรื่อง วัยป่วนหัวใจปึ้ก[75] ภาพยนตร์เริ่มถ่ายทำในฤดูร้อนปี พ.ศ. 2554 และออกฉายเดือนกันยายน พ.ศ. 2555[76]

ภาพยนตร์เรื่อง วัยร้าย วัยลัก (2556) วอตสันรับบทเป็นนิกกี ภาพยนตร์สร้างจากเหตุการณ์ของกลุ่มโจรปล้นบลิงริงที่เกิดขึ้นจริง โดยวอตสันเล่นเป็นอเล็กซิส เนเออส์ ในโทรทัศน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวัยรุ่นเจ็ดคนที่เข้ามาพัวพันกับการปล้น ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์คละกันเป็นส่วนใหญ่ แต่นักวิจารณ์ให้คำชมวอตสันที่แสดงเป็นนิกกีอย่างเป็นเอกฉันท์ วอตสันยังได้แสดงในภาพยนตร์ตลกพยากรณ์เรื่อง วันเนี๊ย...จบป่ะ (2556) โดยเธอ เซธ โรเกน เจมส์ แฟรนโก และคนอื่น ๆ เล่นเป็น "ตนเองในแบบเกินจริง"[6] และวอตสันได้ทิ้ง "ระเบิด f-bomb" ครั้งที่เป็นที่จดจำในเรื่อง[77] เธอกล่าวว่าเธอไม่อาจพลาดโอกาสที่เธอจะได้แสดงภาพยนตร์ตลกเรื่องแรก และ "ทำงานร่วมกับนักแสดงตลกที่ดีที่สุด...ในโลกในตอนนี้"[78]

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 วอตสันยืนยันบทไอลาในภาพยนตร์เรื่อง โนอาห์ มหาวิบัติวันล้างโลก ของแดร์เรน อาโรนอฟสกี ถ่ายทำในเดือนถัดมาและออกฉายในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2557[7] ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2556 มีรายงานว่าวอตสันกำลังเจรจาแสดงเป็นตัวละครซินเดอเรลล่า ในภาพยนตร์ดิสนีย์ฉบับคนแสดง เค็นเน็ท แบรเนอ กำกับภาพยนตร์ ขณะเคต แบลนเชตต์ รับบทเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย วอตสันได้รับข้อเสนอให้เสนอบทดังกล่าว แต่เธอปฏิเสธ[79]

วอตสันได้รับการติดต่อให้แสดงบทเอ็มมา ฟอร์เรสต์ ในภาพยนตร์เรื่องยัวร์วอยซ์อินมายเฮด ในขณะนั้น ผู้กำกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ เดวิด เยตส์ ก็ได้รับการติดต่อเช่นกัน ในบทสัมภาษณ์เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 ปรากฏว่าวอตสันไม่ได้แสดงในภาพยนตร์ดังกล่าวแล้ว สแตนลีย์ ทุชชีกล่าวว่าบทนั้นจะให้เอมีลี บลันต์แสดงแทน[80] อย่างไรก็ตาม ก่อนเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 มีการยืนยันว่าวอตสันจะได้กลับมารับบทฟอร์เรสต์อีกครั้ง และภาพยนตร์จะเริ่มถ่ายทำเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน โดยผู้กำกับคนใหม่คือ ฟรานเซสกา เกรกอรินี[81]

จนถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556 วอตสันมีกำหนดได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ เดวิด เฮย์แมน ในภาพยนตร์เรื่อง ควีนออฟเดอะเทียร์ลิง สร้างจากหนังสือไตรภาพที่ยังไม่วางจำหน่าย เธอจะรับบทนำเป็นฮีโรผู้หญิง เคลซี กลินน์ รวมถึงเป็นผู้ควบคุมงานสร้างด้วย[82] วอร์เนอร์บราเธอส์เป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์[83]

มีรายงานในเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 ว่าวอตสันจะแสดงในภาพยนตร์เรื่อง ไวล์เวอร์ยัง ภาพยนตร์ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง 29 ของอะดีนา แฮลเพิร์น ที่เป็นเรื่องราวของคุณยายที่จิตใจยังสาวที่ใช้เวลากับหลานสาว (วอตสัน) แทนที่จะอยู่กับลูกสาวของเธอเอง ภาพยนตร์กำกับโดยสตีเฟน เชอบอสกี ที่เคยร่วมงานกับวอตวันในภาพยนตร์เรื่อง วัยป่วนหัวใจปึ้ก[84] วอตสันยังได้รับคัดเลือกแสดงคู่กับอีธาน ฮอว์ก ในภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่อง รีเกรสชัน อเลฮานโดร อาเมนาบาร์ เขียนบทและกำกับภาพยนตร์ ออกฉายในปี พ.ศ. 2558[85]

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 วอตสันได้รับเลือกให้เป็นผู้หญิงแห่งปีโดยนิตยสารบริติชจีคิว[86] ในเดือนเดียวกันนั้น เธอเป็นนักแสดงหนึ่งในสองคนที่อยู่อันดับสูงสุดของผลสำรวจดาราภาพยนตร์เซ็กซี่ที่สุดแห่งปี 2556 นำหน้าสการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน และเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ จากผลสำรวจออนไลน์ที่มีแฟนคลับภาพยนตร์โหวตมากกว่า 50,000 คน เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ได้รับโหวตสูงสุดในฐานะนักแสดงชาย[87]

วอตสัน ร่วมกับจูดี เดนช์ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ไมก์ ลี จูเลีย ลุยส์-เดรย์ฟัส และมาร์ก รัฟฟาโล ได้รับรางวัลบริเทนเนียอะวอดส์ 2014 จัดขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคมที่ลอสแอนเจลิส วอตสันได้รับรางวัลศิลปินชาวบริติชแห่งปี และมอบรางวัลให้มิลลี หนูแฮมสเตอร์ของเธอที่ตายขณะวอตสันถ่ายทำเรื่องศิลาอาถรรพ์[12]

ปี พ.ศ. 2558 มีผลงานที่เอ็มมาแสดงออกฉาย เช่น โคโลเนีย หนีตาย ร่วมแสดงโดยแดเนียล บรูล และมีคาเอล นีควิสต์[88] วอตสันจะรับบท เบลล์ ในภาพยนตร์คนแสดงดัดแปลงเรื่อง บิวตีแอนด์เดอะบีสต์ พ.ศ. 2560 คู่กับแดน สตีเวนส์ ซึ่งรับบทเป็นบีสต์.[89] เธอจะร้องเพลงในภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ซึ่งเธอเรียกว่า "น่าหวาดกลัวในตัวเอง"[90] เธอยังร่วมแสดงในภาพยนตร์ รีเกรสชั่น สัมผัส…ผวา ภาพยนตร์ระทึกขวัญออกฉายในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 แสดงร่วมกับอีธาน ฮอว์ก และเพื่อนนักแสดงจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ เดวิด ทิวลิส[91] และเซ็นชื่อรับแสดงคู่กับทอม แฮงส์ ในภาพยนตร์ดัดแปลงเรื่อง เดอะเซอร์เคิล[92]

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 วอตสันประกาศว่าพักงานแสดงเป็นเวลาหนึ่งปี เธอวางแผนใช้เวลากับ "การพัฒนาส่วนบุคคล" และงานเกี่ยวกับสิทธิสตรี[93]

การเดินแบบและแฟชัน

ในปี พ.ศ. 2548 วอตสันเริ่มงานอาชีพนางแบบด้วยการถ่ายโฟโตชู้ตให้นิตยสารทีนโว้ก และเป็นดาราอายุน้อยที่สุดที่ได้ขึ้นปก[3] สามปีต่อมา สื่อของบริติชรายงานว่าวอตสันจะเป็นพรีเซนเตอร์ของเชอแนลแทนเคียรา ไนต์ลี แต่ทั้งสองคนปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง[94] ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2552 หลายปีหลังข่าวลือ วอตสันยืนยันว่าเธอจะร่วมกับเบอร์เบอรี เป็นพรีเซนเตอร์ในโครงการฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี พ.ศ. 2552 ซึ่งเธอได้รับค่าตอบแทนประมาณหกหลัก[9][95] เธอยังปรากฏตัวในโครงการโครงการฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี พ.ศ. 2553 ของเบอร์เบอรีร่วมกับอเล็กซ์ น้องชายของเธอ จอร์จ เครก และแมตต์ กิลเมอร์ นักดนตรี และแม็กซ์ เฮิร์ด นายแบบ[96] ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 วอตสันได้รับรางวัลสไตล์ไอคอนจากนิตยสารแอล มอบโดยวิเวียน เวสต์วูด[97] วอตสันยังคงทำงานโฆษณาแฟชันต่อไปหลังเธอประกาศว่าเธอเป็นพรีเซนเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ลังโคมในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554[10]

ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 วอตสันประกาศว่าเธอเกี่ยวข้องกับพีเพิลทรี ตราสินค้าค้าแฟชันโดยชอบธรรม[11] วอตสันทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาฝ่ายสร้างสรรค์ให้กับพีเพิลทรีสร้างเสื้อผ้าฤดูใบไม้ผลิที่จำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553[11][98] ขอบเขตของรูปแบบมีแรงบันดาลจจากฝรั่งเศสและลอนดอนตอนใต้[98][99] หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์บรรยายคอลเล็กชันนี้ว่า "ฉลาดมาก" แม้ว่ามี "ความหวังเงียบ ๆว่า [เธอ] จะสับสนกับการถักเสื้อผ้าครั้งแรก"[100] คอลเล็กชันนี้ถูกเผยแพร่ในนิตยสารหลายฉบับ เช่น ทีนโว้ก [101]คอสโมโพลิตัน และพีเพิล วอตสันซึ่งไม่ได้ค่าตัวในการร่วมมือครั้งนี้[102] ยืนยันว่าการแข่งขันของเสื้อผ้าชุดนี้มีเล็กน้อย[100] แต่แย้งว่า "แฟชันเป็นวิธีที่ดีที่จะให้อำนาจคนและเพิ่มทักษะให้พวกเขาด้วย กล่าวคือ แทนที่จะมอบเงินสดให้การกุศล คุณสามารถช่วยผู้คนได้โดยซื้อเสื้อผ้าที่พวกเขาทำและสนับสนุนสิ่งที่เขาภาคภูมิใจ" และเสริมว่า "ฉันคิดว่าคนหนุ่มสาวอย่างฉันกำลังจะตระหนักกันมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาด้านมนุษยธรรมเกี่ยวกับแฟชันที่ผ่านไปเร็วและต้องการตัดสินใจให้ดี แต่ไม่มีทางเลือกมากขนาดนั้น"[100] วอตสันยังคงร่วมงานกับพีเพิลทรี จนออกคอลเล็กชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวในปี พ.ศ. 2553[103]

วอตสันได้รับรางวัลนักออกแบบชาวบริติชยอดเยี่ยมในงานประกาศรางวัลแฟชันบริติชอะวอดส์ 2014 ในงานยังมีดารามากมาย เช่น เดวิด เบคแคม เอมัล คลูนีย์ เคต มอส และเคียรา ไนต์ลีย์

การศึกษา

หลังจบจากโรงเรียน วอตสันพักเรียนหนึ่งปี[104] เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูตในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552[71] แต่กล่าวว่าเธอตั้งใจเรียนต่อไป[67] และเธอยืนยันในภายหลังว่าเธอเลือกเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยบราวน์ในพรอวิเดนซ์ รัฐโรดไอส์แลนด์[105] ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 หลังจากเรียนมหาวิทยาลัยเป็นเวลา 18 เดือน วอตสันปรากฏว่าเธอยืดเวลาเรียนออกไปอีก "หนึ่งหรือสองภาคเรียน"[106] แม้ว่าเธอเข้าเคยเรียนที่วิทยาลัยวูสเตอร์ ออกซฟอร์ด ระหว่างปีการศึกษา 2554-2555 ในฐานะ "นักเรียนเยือน"[107]

วอตสันกล่าวกับเอลเลน ดีเจนเนอเรสก่อนจบการศึกษาว่าเธอต้องเรียนห้าปีแทนสี่ปี เนื่องจากงานแสดงของเธอ เธอ "พักเรียนสองภาคเรียนเต็ม"[108] ในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยบราวน์ด้านวรรณคดีอังกฤษ[8] ในปี พ.ศ. 2556 เธอได้รับการรับรองให้สอนโยคะและการทำสมาธิ เธอเรียนพิเศษการทำสมาธิเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่อาคารแห่งหนึ่งของชาวแคนาดา โดยเป็นสถานที่ที่ผู้อาศัยไม่ได้รับอนุญาตให้พูด เพื่อ "หาวิธีอยู่บ้านกับตนเอง"[109][110] เธอกล่าวกับนิตยสารแอลออสเตรเลียว่า อนาคตที่ไม่แน่นอนหมายถึงการค้นหา "หนทางที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยและรู้สึกเหมือนตนอยู่บ้าน เพราะฉันไม่อาจเชื่อใจสถานที่จริง ๆ ได้เลย"[111]

ชีวิตส่วนตัว

วอตสันพบและเริ่มคบหากับนักเรียนที่ออกซฟอร์ด วิล แอดาโมวิกซ์ ในปี พ.ศ. 2554 ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัยปีแรก[112] เขาไปกับเธอในงานประกาศรางวัลเอ็มทีวีมูวีอะวอดส์ 2013 ซึ่งวอตสันได้รับรางวัลเทรลเบลเซอร์[113] ทั้งคู่เลิกรากันในต้นปี พ.ศ. 2557[114] ต่อมาในปีนั้น วอตสันคบหากับนักกีฬารักบี้ของออกซฟอร์ดชื่อ แมทธิว แจนนี[115] ความสัมพันธ์สิ้นสุดลงในเดือนพฤศจิกายน ผู้แถลงข่าวแทนวอตสันกล่าวว่าทั้งคู่เลิกรากันเนื่องจาก "ตารางงานไม่มีเวลาว่าง"[116]

ขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องโนอาห์ มหาวิบัติวันล้างโลก วอตสันถูกถามเกี่ยวกับศรัทธา และเธอบรรยายตนว่าเป็นผู้มีจิตใจรอบรู้กว้างขวาง มีศรัทธา[117]

งานเกี่ยวกับสิทธิสตรี

วอตสันส่งเสริมการศึกษาของเด็กหญิงด้วยการแวะเยี่ยมประเทศบังกลาเทศและแซมเบีย[118] ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2557 เธอมีนัดพบในฐานะทูตสันถวไมตรีสตรีของสหประชาชาติ[13] ในเดือนกันยายนปีเดียวกันนั้น วอตสันซึ่งยอมรับว่ารู้สึกกังวลใจ[119] ส่งที่อยู่ให้สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนครนิวยอร์กเพื่อออกโครงการรณรงค์ฮีฟอร์ชี (HeForShe) ซึ่งเรียกร้องให้ผู้ชายสนับสนุนความเท่าเทียมกันทางเพศ ในสุนทรพจน์ครั้งนั้น เธอกล่าวว่าเธอเริ่มสงสัยถึงสมมุติฐานเกี่ยวกับเพศเมื่ออายุแปดขวบเมื่อเธอถูกเรียกว่า "เจ้ากี้เจ้าการ" (ลักษณะนิสัยที่ทำให้เธอเป็นผู้สมบูรณ์แบบ)[120] ขณะที่เด็กชายไม่ถูกเรียกเช่นนั้น และขณะอายุ 14 ปี เมื่อเธอ "ถูกสื่อบางแหล่งให้ความสำคัญทางเพศ"[121] คำกล่าวของวอตสันได้ชื่อว่ามีคตินิยมสิทธิสตรี "ความเชื่อที่ว่าผู้ชายและผู้หญิงควรมีสิทธิและโอกาสเท่าเทียมกัน" และเธอประกาศว่าเรื่องที่เธอ "เกลียดผู้ชาย" เป็นสิ่งที่เธอ "ต้องหยุดให้ได้"[119] ต่อมาวอตสันได้รับภัยคุกคามหลังจากกล่าวสุนทรพจน์ไม่ถึง 12 ชั่วโมง ทำให้เธอรู้สึก "โกรธเกรี้ยว ถ้าพวกเขาพยายามทำให้ฉันเลิกทำสิ่งนี้ มันจะเป็นตรงข้ามกันเลย"[122] ในปี พ.ศ. 2558 มาลาลา ยูซาฟไซ บอกกับวอตสันว่าเธอตัดสินใจเรียกตนเองว่าผู้สนับสนุนสิทธิสตรีหลังจากได้ฟังสุนทรพจน์ของวอตสัน[123]

เรื่องที่แสดง

ปีภาพยนตร์รับบทเป็นหมายเหตุ
2544แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
2545แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ
2547แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน
2548แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี
2550แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์
รองเท้าบัลเลต์พอลลีน ฟอสซิลภาพยนตร์โทรทัศน์
2551เดเปอโร...รักยิ่งใหญ่จากใจดวงเล็กเจ้าหญิงพีพากย์เสียง
2552แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสมเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
2553แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1
2554แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2
7 วัน แล้วคิดถึงกันตลอดไปลูซี
2555วัยป่วนหัวใจปึ้กแซม
2556วันเนี๊ย...จบป่ะตัวเอง
วัยร้าย วัยลักนิกกี
2557โนอาห์ มหาวิบัติวันล้างโลกไอลา
2558เดอะไวการ์ออฟดิบลีย์บาทหลวงไอริสตอน: The Bishop of Dibley[124]
รีเกรสชั่น สัมผัส…ผวาแอนเจลา เกรย์
โคโลเนีย หนีตายลีนา
2560โฉมงามกับเจ้าชายอสูรเบลล์
เดอะเซอร์เคิลเม ฮอลแลนด์
2562สี่ดรุณีมาร์กาเรต "เม็ก" มาร์ช

รางวัลที่ได้รับ

ปี (พ.ศ.)องค์กรรางวัลภาพยนตร์ผล
2545Young Artist AwardsBest Performance in a Feature Film – Leading Young Actressแฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ชนะ[28]
Young Artist AwardsBest Ensemble in a Feature Filmเสนอชื่อเข้าชิง
Saturn Award-Best Performance by a Younger ActorBest Performance by a Younger Actorเสนอชื่อเข้าชิง[125]
Empire AwardBest Newcomerเสนอชื่อเข้าชิง[126]
American Moviegoer AwardsOutstanding Supporting Actressเสนอชื่อเข้าชิง[127]
นักแสดงเยาวชนยอดเยี่ยมการแต่งตัวชุดที่ดีที่สุดในภาพยนตร์ขนาดยาวปานกลางเสนอชื่อเข้าชิง[28]
2545Phoenix Film Critics SocietyBest Performance by a Youth in a Leading or Supporting Roleแฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับชนะ
Phoenix Film Critics SocietyBest Acting Ensembleเสนอชื่อเข้าชิง
2546Otto AwardsBest Female Film Star (Silver)แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับชนะ[31]
2547Otto AwardsBest Female Film Star (Bronze)N/Aชนะ
2547Broadcast Film Critics AssociationBest Young Actressแฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบันเสนอชื่อเข้าชิง
Total Film AwardChild Performance of the Yearชนะ[128]
สมาคมนักวิจารณ์ละครโทรทัศน์นักแสดงหญิงดีเยี่ยมเสนอชื่อเข้าชิง[129]
2548Otto AwardsBest Female Film Star (Gold)ชนะ[130]
Broadcast Film Critics AssociationBest Young Actressแฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนีเสนอชื่อเข้าชิง[131]
2549Otto AwardsBest Female Film Star (Gold)ชนะ[132]
MTV Movie AwardsBest On-Screen Teamเสนอชื่อเข้าชิง[39]
2550ITV National Film AwardsBest Female Performanceแฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ชนะ[44]
UK Nickelodeon Kids' Choice AwardsBest Movie Actressชนะ[133]
Otto AwardsBest Female Film Star (Gold)ชนะ
2551Empire AwardBest Actressเสนอชื่อเข้าชิง[134]
Constellation Award-Best Female PerformanceBest Female Performanceชนะ[135]
SyFy GenreBest Female Performanceชนะ[136]
รางวัลเกรเมอร์Best UK TV Actressรองเท้าบัลเล่ต์เสนอชื่อเข้าชิง[137]
2553People's Choice AwardsFavorite On-Screen Teamแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสมเสนอชื่อเข้าชิง
MTV Movie AwardsBest Female Performanceเสนอชื่อเข้าชิง
Teen Choice AwardsActress Fantasyเสนอชื่อเข้าชิง
2554Capri Art Film Festival AwardsBest Ensemble Cast Award7 วัน แล้วคิดถึงกันตลอดไปเสนอชื่อเข้าชิง
Kids' Choice AwardsFavorite Movie Actressแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1เสนอชื่อเข้าชิง
People's Choice AwardsFavorite Movie Star (Under 25)เสนอชื่อเข้าชิง
Empire AwardsBest Actressเสนอชื่อเข้าชิง
National Movie AwardsPerformance of the Yearเสนอชื่อเข้าชิง
MTV Movie AwardsBest Female Performanceเสนอชื่อเข้าชิง
Best Kiss (shared with Daniel Radcliffe)เสนอชื่อเข้าชิง
Best Fight (shared with Daniel Radcliffe, Rupert Grint, Arben Bajraktaraj and Rod Hunt)เสนอชื่อเข้าชิง
Teen Choice AwardsChoice Movie: Actress Sci-Fi/Fantasyชนะ
Choice Movie: Liplock (shared with Daniel Radcliffe)ชนะ
Choice Summer Movie: Femaleแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2ชนะ
2555Kid's Choice AwardsFavorite Movie Actressแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2เสนอชื่อเข้าชิง
People's Choice AwardsFavorite Ensemble Movie Cast[138]ชนะ
People's Choice AwardsFavorite Movie Star (Under 25)เสนอชื่อเข้าชิง
Nickelodeon Kids' Choice AwardsFavorite Movie Actressเสนอชื่อเข้าชิง
Saturn AwardsBest Supporting Actressเสนอชื่อเข้าชิง
MTV Movie AwardsBest Female Performanceเสนอชื่อเข้าชิง
MTV Movie AwardsBest Kiss(shared with Rupert Grint)เสนอชื่อเข้าชิง
MTV Movie AwardsBest Cast(shared with Daniel Radcliffe, Rupert Grint and Tom Felton)ชนะ
Phoenix Film Critics Society AwardsBest Actress in a Supporting Roleวัยป่วนหัวใจปึ้กเสนอชื่อเข้าชิง
San Diego Film Critics Society AwardsBest Supporting Actressชนะ
San Diego Film Critics Society AwardsBest Ensemble Performanceชนะ
Boston Society of Film Critics AwardsBest Supporting Actressเสนอชื่อเข้าชิง
2556People's Choice AwardsFavorite Drama Movie Actress[139]วัยป่วนหัวใจปึ้กชนะ
MTV Movie AwardsBest Female Performanceเสนอชื่อเข้าชิง
MTV Movie AwardsBest Kiss(shared with Logan Lerman)เสนอชื่อเข้าชิง
MTV Movie AwardsBest Musical Moment(shared with Logan Lerman and Ezra Miller)เสนอชื่อเข้าชิง
MTV Movie AwardsMTV Trailblazer Awardชนะ
Teen Choice AwardsActress Dramaชนะ
Teen Choice AwardsMovie – Liplock(shared with Logan Lerman)เสนอชื่อเข้าชิง
Teen Choice AwardsChoice Style Iconเอ็มมา วอตสันเสนอชื่อเข้าชิง
2557People's Choice AwardsFavorite Comedic Movie Actress[140]วันเนี๊ย...จบป่ะเสนอชื่อเข้าชิง
Teen Choice AwardsChoice Movie Actress: Dramaโนอาห์ มหาวิบัติวันล้างโลกเสนอชื่อเข้าชิง
Britannia AwardsBritish Artist of the Yearเอ็มมา วอตสันชนะ
British Fashion AwardsBest British Style[141]ชนะ

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง