ใน ค.ศ. 1995 เดปป์ได้ร่วมงานกับ จิม จาร์มุช ผู้กำกับหนังอินดี้ ในหนังขาวดำเรื่อง Dead Man และได้รับบทนำในหนังอาชญากรรมระทึกขวัญเรื่อง Nick of Time ที่มีรายได้และคำวิจารณ์ออกมาไม่ดีนัก จอห์นนี่ไม่มีผลงานออกมาใน ค.ศ. 1996 ต่อมาในปี 1997 เขาก็ได้รับบทนำในเรื่อง Donnie Brasco ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของ FBI ที่ปลอมตัวไปอยู่ในแก๊งค์มาเฟียนานถึง 6 ปี ผลงานอีกเรื่องในปี 1997 ของเดปป์คือเรื่อง The Brave ผลงานที่เขาร่วมเขียนบทกับพี่ชาย และกำกับภาพยนตร์ด้วยตัวเอง The Brave เป็นหนึ่งในหนังที่ถูกคัดเลือกให้ฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ในปีนั้น แต่กลับได้รับกระแสตอบรับไม่ดีจากนักวิจารณ์ในอเมริกา ทำให้เขาตัดสินใจไม่นำหนังเรื่องนี้เข้าฉายในอเมริกา
ใน ค.ศ. 1998 เดปป์ได้รับบทบาทที่น่าสนใจอีกเรื่อง นั่นคือเรื่อง Fear and Loathing in Las Vegas (film) จากนิยายในชื่อเรื่องเดียวกันของนักเขียนชื่อดังอย่าง Hunter S. Thompson ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเขียนที่จอห์นนี่โปรดปรานมากที่สุด และในปี 1999 จอห์นนีก็รับบทนำในภาพยนตร์ถึง 3 เรื่องซึ่งเป็นหนังแนวสยองขวัญทั้งหมด คือ The Ninth Gate , The Astronaunt's Wife และการกลับมาร่วมงานกับทิม เบอร์ตัน อีกครั้งใน Sleepy Hollow
ใน ค.ศ. 2000 มีภาพยนตร์ที่เขาแสดงออกฉาย 3 เรื่อง แต่แต่ละเรื่องก็เป็นแค่บทเล็ก ๆ เท่านั้น คือบทยิปซีใน The Man Who Cried , บทสาวประเภทสองใน Before Night Falls และนักแสดงสมทบใน Chocolat ซึ่งเป็นหนังที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนั้นด้วย นอกจากนั้นเขายังเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์เรื่อง The Fast Show ในตอนที่มีชื่อว่า The Last Ever Fast Show ก่อนที่จะรับบทนำในหนังปี 2001 อีกสองเรื่อง Blow ซึ่งเป็นเรื่องจริงของพ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติ และอีกเรื่องคือ From Hell ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาชญากรชื่อดังอย่าง Jack the Ripper
เดปป์ไม่มีผลงานออกมาใน ค.ศ. 2002 แต่ในปี 2003 กลับกลายเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตนักแสดงของเขาเมื่อจอห์นนี่ เดปป์ตัดสินใจรับบทกัปตันแจ็ก สแปร์โรว ในเรื่อง Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl ซึ่งกลายเป็นบทบาทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวิตการแสดงของเขา และทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในฐานะ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม เป็นครั้งแรก รวมถึงยังเป็นหนังคนแสดงเรื่องแรกของค่ายดิสนีย์ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์อีกด้วย นอกจากเรื่อง Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl แล้ว จอห์นนี่ เดปป์ก็มีผลงานแอ็กชั่นอีกเรื่องในปี 2003 นั่นคือ Once Upon A Time in Mexico
ใน ค.ศ. 2004 เดปป์มีผลงานสยองขวัญเรื่อง Secret Window และได้ให้เสียงตัวละครในการ์ตูนซีรีส์ที่ฉายทางโทรทัศน์เรื่อง King of the Hill ก่อนจะเป็นนักแสดงรับเชิญในหนังฝรั่งเศสเรื่อง Ils se marièrent et eurent beaucoup d'enfants รวมถึงรับบทนำในเรื่อง Finding Neverland และ The Libertine และบทบาทใน Finding Neverland ก็ทำให้เขาได้เข้าชิงออสการ์เป็นครั้งที่ 2 อีกด้วย
ค.ศ. 2005 - ปัจจุบัน
ใน ค.ศ. 2005 เดปป์กลับมาร่วมงานกับทิม เบอร์ตันอีกครั้ง ในภาพยนตร์เรื่อง Charlie and the Chocolate Factory ซึ่งถือเป็นหนังอีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในอาชีพการแสดง นอกจากนั้น เขาก็ยังได้ให้เสียงพากย์ในแอนิเมชั่นเรื่อง Corpse Bride ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่กำกับโดยทิม เบอร์ตันเช่นเดียวกัน
เดปป์เว้นวรรคการแสดงไปหนึ่งปี ต่อมาในปี 2009 เขาได้ให้เสียงพากย์ในแอนิเมชั่นชื่อดังที่ฉายทางโทรทัศน์อย่าง SpongeBob SquarePants ในตอนพิเศษที่ใช้ชื่อตอนว่า SpongeBob SquarePants vs. The Big One ก่อนที่จะเป็นนักแสดงรับเชิญในภาพยนตร์เรื่อง The Imaginarium of Doctor Parnassus แทนที่ฮีธ เลดเจอร์ที่เสียชีวิตในขณะที่ภาพยนตร์ยังถ่ายทำไม่เสร็จ และในปีเดียวกันนั้นจอห์นนีก็ได้รับบทนำในภาพยนตร์แนวอาชญากรรมที่สร้างจากเรื่องจริงอย่าง Public Enemies อีกด้วย
ใน ค.ศ. 2010 เดปป์รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Alice in Wonderland ซึ่งถือเป็นการร่วมงานกับทิม เบอร์ตันเป็นครั้งที่ 7 ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้อย่างสูงและทำรายได้กว่าพันล้านเหรียญทั่วโลก ในปีเดียวกันนั้นจอห์นนีก็ได้แสดงในหนังแอ็กชั่นเรื่อง The Tourist ซึ่งทำให้ในปีนั้นเขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในภาพยนตร์เพลงหรือตลกจาก 2 บทบาทคือบท Mad Hatter จาก Alice in Wonderland และบท Frank Tupelo จาก The Tourist
เดปป์ได้ให้เสียงพากย์ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ออกฉาย ค.ศ. 2011 เรื่อง Rango ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ได้รางวัลออสการ์ในสาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยม และเขายังกลับมารับบทกัปตันแจ็ก สแปร์โร่ว อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สามของจอห์นนี เดปป์ที่ทำรายได้มากกว่าพันล้านเหรียญทั่วโลก และทำให้ในตอนนี้เขายังคงเป็นนักแสดงเพียงคนแรกและคนเดียวที่มีภาพยนตร์ที่แสดงนำทำรายได้ถึงพันล้านเหรียญมากที่สุดในโลก และจอห์นนีก็มีภาพยนตร์อีกเรื่องของเขาที่ออกฉายในปี 2011 ถึงแม้จะถ่ายทำมาตั้งแต่ปี 2009 ก็คือ The Rum Diary ซึ่งเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่สร้างมาจากนิยายของHunter S. Thompson นอกจากนั้นเขายังเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์เรื่อง Life's Too Short อีกด้วย
ใน ค.ศ. 2012 เดปป์ได้กลับไปรับบทเป็น Tom Hanson ในภาพยนตร์เรื่อง 21 Jump Street ซึ่งดัดแปลงมาจากซีรีส์ที่เขาเคยแสดงนำไว้เมื่อนานมาแล้ว ก่อนที่จะกลับไปร่วมงานกับทิม เบอร์ตันเป็นครั้งที่ 8 ในภาพยนตร์เรื่อง Dark Shadows และเขาได้ให้เสียงพากย์เป็นตัวละครชื่อ Edward Scissorhands ในแอนิเมชั่นทางโทรทัศน์เรื่อง Family Guy ซึ่งมีคาแร็กเตอร์ตรงกับตัวละครที่เขาเคยแสดงเอาไว้ในภาพยนตร์ปี 1990
ใน ค.ศ. 2013 มีภาพยนตร์ของเดปป์ออกฉายเพียงสองเรื่องคือ The Lone Ranger ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งทางรายได้และคำวิจารณ์ และเรื่อง Lucky Them หนังอินดี้ซึ่งเขาเป็นนักแสดงรับเชิญโดยที่ไม่คิดค่าตัวในการแสดง
ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดใน ค.ศ. 2014 ของเดปป์คือภาพยนตร์แนวปรัชญา-ไซไฟเรื่อง Transcendence ที่ถือเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องของเขาที่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของรายได้และคำวิจารณ์ ส่วนผลงานอื่น ๆ ที่มีคิวเข้าฉายในปี 2014 ก็คือเรื่อง Tusk และ London Fields ที่เขาเป็นนักแสดงรับเชิญ และภาพยนตร์เพลงแนวแฟนตาซีผจญภัยฟอร์มยักษ์จากดิสนีย์ซึ่งเขารับบทเป็นหมาป่าในตอนของหนูน้อยหมวกแดงอย่างเรื่อง Into the Woods
ภาพยนตร์ที่เข้าฉายใน ค.ศ. 2015 ของเดปป์คือเรื่อง Mortdecai และภาพยนตร์อีกเรื่องที่จะเข้าฉายในเดือนกันยายน ค.ศ. 2015 คือภาพยนตร์อาชญากรรมที่สร้างจากเรื่องจริงของ Whitey Bulger เรื่อง Black Mass
ภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายใน ค.ศ. 2016 คือ Through the Looking Glass ซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง Alice in Wonderland ในปี 2010
และภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในปี 2017 คือเรื่อง Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales ซึ่งกำลังถ่ายทำที่ออสเตรเลีย จอห์นนีได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่านี่อาจจะเป็นการรับบทบาทเป็นกัปตันแจ็ก สแปร์โร่วเป็นครั้งสุดท้ายของเขา
เมื่อจอห์นนี่ เดปป์อายุ 12 แม่ของเขาได้ซื้อกีต้าร์มือสองมาให้เขาในราคา 25 เหรียญ จอห์นนี่ได้ขโมยหนังสือคอร์ดกีต้าร์มาจากร้านและเรียนรู้การเล่นดนตรีด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ได้ร่วมเล่นในวงดนตรีในฟลอริด้าอีกหลายวง ได้แก่ วง Flame, Zaphyre, Bitch, Bad Boys ในตอนนั้นความใฝ่ฝันของเขาคือการได้เป็นมือกีต้าร์ในวงดนตรีชื่อดังของฟลอริด้าอย่างวง The Kids และในปลายทศวรรษ 1980's ความใฝ่ฝันของเขาก็เป็นจริง
The Kids ค่อนข้างประสบความสำเร็จในฟลอริด้า พวกเขาได้เล่นเป็นวงเปิดให้วงดนตรีดัง ๆ ไม่ว่าจะเป็น The Pretenders, The B-52s, Talking Heads and Iggy Pop, Chuck Berry ในเดือนธันวาคมปี 1983 The Kids ได้เดินทางเข้าสู่ลอสแอนเจลิสด้วยความหวังที่ว่าโชคจะเข้าข้างพวกเขาและจะทำให้พวกเขาโด่งดังมากขึ้น และได้เปลี่ยนชื่อวงเป็น Six Gun Method แต่ในลอสแอนเจลิสนั้นมีการแข่งขันสูงกว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้มากทำให้สมาชิกในวงเริ่มขาดรายได้ จนกระทั่งจอห์นนี่ได้ถูกนิโคลัส เคจชักชวนให้เข้าวงการบันเทิงเพื่อหารายได้เสริม
ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นจอห์นนี เดปป์จะได้แสดงในหนังและซีรีส์ทางทีวีหลายเรื่อง แต่เขาก็ยังคงมองว่านักดนตรีคืออาชีพหลักของเขาและยังคงใฝ่ฝันจะเป็นร็อคสตาร์อยู่ จนกระทั่งปี 1986 หลังจากที่กลับมาจากประเทศฟิลิปปินส์จากการเดินทางไปถ่ายทำเรื่อง Platoon เขาก็ได้เป็นมือกีต้าร์ริทึ่มของวง Rock City Angels ซึ่งเป็นวงที่มีสมาชิกหลายคนมาจากฟลอริด้าร์เช่นเดียวกัน แต่เขาก็อยู่ในวงนี้ได้เพียงแค่ 8 เดือน ก่อนที่จะถูกบังคับให้ลาออกจากวงเพราะต้องรับบทนำในซีรีส์เรื่อง 21 Jump Street ในตอนแรกจอห์นนีได้ปฏิเสธบทนี้ไป แต่หลังจากถูกทีมงานโทรศัพท์มาเพื่อชักชวนหลาย ๆ ครั้ง เขาก็ต้องยินยอมรับบทนี้ในที่สุด ซึ่งในขณะเดียวกัน วง Rock City Angels ที่เขาเพิ่งลาออกก็ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่
หลังจากนั้นหลายปี ในขณะที่จอห์นนีกำลังถ่ายทำเรื่อง What’s Eating Gilbert Grape อยู่ใกล้ ๆ เมืองออสติน รัฐเท็กซัส เขาและเพื่อนในวัยเด็กของเขาอย่าง Sal Jenco ก็ได้ทำความรู้จักกับGibby Haynes นักร้องนำของวง Butthole Surfers และได้ทำความรู้จักกับศิลปินชาวเท็กซัสอย่าง Bill Carter ในตอนแรกพวกเขาได้ร่วมเล่นดนตรีด้วยกันเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้ฟอร์มวงร่วมกัน และตั้งชื่อว่าวง P และในปีนั้น เมื่องานเทศกาลดนตรีประจำออสตินอย่างงาน South By Southwest มาถึง ผู้จัดงานก็ได้เชิญวง Butthole Surfers มาร่วมแสดงด้วย แต่กิ๊บบี้ขอร้องให้ผู้จัดเชิญวงดนตรีวงใหม่ของเขามาแสดงแทน และนั่นคือการแสดงสดและการเปิดตัวครั้งแรกของ P ซึ่งตรงกับวันที่ 17 มีนาคม 1993 หลังจากนั้นวงของพวกเขาก็ได้แสดงอยู่ในผับThe Viper Room ที่จอห์นนีเป็นเจ้าของ และในไปแสดงในเวียนนาสองครั้งในปี 1997 อัลบั้มแรกของพวกเขาวางแผงในเดือนพฤศจิกายนปี 1995 ซึ่งมีซิงเกิลแรกคือเพลง Michael Stipe ในปี 2000 จอห์นนี่ยังคงพูดถึงความเป็นไปได้ที่สมาชิกในวงจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกัน จอห์นนีก็กลับไปเล่นดนตรีกับวง The Kids อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงยังเคยร่วมแสดงกับวงนี้ในคอนเสิร์ตการกุศลที่ใช้ชื่อว่า Sheila Witkin Memorial Reunion Concerts ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 28 มกราคม 2007 และวันที่ 29 - 30 สิงหาคม 2008 ในฟลอริด้าร์อีกด้วย
หลายปีที่ผ่านมา จอห์นนีได้ร่วมงานในอัลบั้มที่มีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้กับศิลปินหลายคนไม่ว่าจะเป็น Shane MacGowan, Oasis, Iggy Pop, Vanessa Paradis, Glenn Tilbrook, Babybird, Marilyn Manson, Patti Smith และ Aerosmith
จอห์นนีได้เล่นดนตรีให้กับเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เขาแสดงอย่าง Chocolat, Once Upon a Time in Mexico และ The Rum Diary และเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับอัลบั้ม Rogue’s Gallery: Pirate Ballads, Sea Songs and Chanteys และอัลบั้มเพลงประกอบสารคดีเรื่อง Gonzo อีกด้วย นอกจากนั้นจอห์นนี่ยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับ Shane MacGowan ในปี 2010 เขารับตำแหน่งกีต้าร์โซโล่ในเพลง I Put a Spell on You ซึ่งเป็นซิงเกิลที่วางขายเพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเฮติ และทั้งคู่ยังได้ร่วมงานกันอีกครั้งในปี 2013 ในเพลง Leaving of Liverpool จากอัลบั้ม the Son of Rogue's Gallery
ในปี 2007 จอห์นนีได้รับบทนำในภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากละครเวทีเรื่อง Sweeney Todd: The Demon Barber Of Fleet Street ซึ่งในเรื่องนี้เขาต้องร้องเพลงในภาพยนตร์ด้วยตัวเองถึงแม้เขาจะไม่เคยร้องเพลงอย่างจริงจังหรือเข้าคอร์สเรียนร้องเพลงเลยก็ตาม
จอห์นนีมีบริษัทหนังของตัวเองโดยเขาได้เริ่มก่อตั้งในปี 2004 และตั้งชื่อว่า Infinitum Nihil และในปี 2011 ทางบริษัทของเขาก็ได้ขยายเป็นบริษัทที่ครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมเพลงด้วย และในปี 2013 Infinitum Nihil ก็ได้ร่วมงานกับบริษัทอื่นผลิตอัลบั้มออกมาวางขายชื่อว่า Tonto's Giant Nuts โดยมีเครดิตบริษัทของเขาในเพลง Little Lion Man และในแทร็กที่มีชื่อว่า Damien Echols Death Row Letter Year 16 1/2
จอห์นนี่ยังได้ร้องเพลง Hello, Little Girl ในภาพยนตร์เพลงเรื่อง Into the Woods ซึ่งเขารับบทเป็นหมาป่า
นอกจากนี้ จอห์นนี่ยังได้ฟอร์มวงใหม่โดยใช้ชื่อว่า Hollywood Vampires กับ Alice Cooper และ Joe Perry โดย Alice Cooper นอกจากนี้ยังได้ Paul McCartney, Zak Starkey, และ Brian Johnson มาร่วมแจมอีกด้วย โดย Hollywood Vampires จะทำการแสดงสดครั้งแรกที่เทศกาล Rock in Rio
ชีวิตส่วนตัว
ครอบครัวและชีวิตรัก
การแต่งงานครั้งแรกของจอห์นนี เดปป์เกิดขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคม 1983 กับ Lori Anne Allison ซึ่งเป็นช่างแต่งหน้าและเป็นคนที่แนะนำจอห์นนีให้รู้จักกับนิโคลัส เคจผู้ชักนำจอห์นนีเข้าสู่วงการบันเทิง จอห์นนีและลอรี่หย่าร้างกันไปในปี 1986 ต่อมาในปีเดียวกันนั้น จอห์นนีได้เริ่มต้นความสัมพันธ์กับSherilyn Fenn ซึ่งเป็นนักแสดงและได้ร่วมงานกับเขาในซีรีส์เรื่อง 21 Jump Street ด้วย ทั้งคู่เลิกลากันไปในปี 1988 จากนั้นจอห์นนีก็คบกับ Jennifer Grey และเคยมีข่าวลือว่าทั้งคู่หมั้นกันแต่ทั้งสองก็เลิกลากันไปในเวลาสั้น ๆ
ในช่วงนั้นได้มีข่าวลือออกมาอีกว่าจอห์นนี เดปป์กำลังเริ่มต้นความสัมพันธ์กับAmber Heard นางเอกสาวที่เคยร่วมงานกับเขาในภาพยนตร์เรื่อง The Rum Diary ในปี 2009 และมีภาพทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกันหลายต่อหลายครั้งแต่ทั้งสองก็ไม่เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ จนกระทั่งวันที่ 11 มกราคม 2014 จอห์นนีและแอมเบอร์เปิดตัวว่าทั้งสองเป็นคู่รักกันอย่างเป็นทางการในงาน The Art of Elysium's 7th Annual Heaven Gala
แมน เรย์คือร้านอาหารที่ตกแต่งและขายอาหารแนวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นโรงภาพยนตร์ และครั้งหนึ่งจอห์นนีก็เคยเป็นหุ้นส่วนในร้านนี้ร่วมกับ Sean Penn, John Malkovich และ Mick Hucknall Man Ray ตั้งอยู่บนถนน 34 Rue Marbeuf ใกล้ ๆ กับช็องเซลีเซ
Infinitum Nihil
ปี 2004 จอห์นนีได้ก่อตั้งบริษัท Infinitum Nihil ซึ่งเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ จอห์นนีมีรายชื่อเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท ในขณะที่คริสตี้ พี่สาวของเขามีตำแหน่งเป็นประธานบริษัท
หนังเรื่องแรกที่บริษัทรับหน้าที่เป็นผู้ผลิตจริง ๆ คือเรื่อง The Rum Diary ที่ออกฉายในปี 2011 และในปีเดียวกันนั้นบริษัทก็ได้ร่วมผลิตภาพยนตร์เรื่อง Hugo ต่อมาในปี 2012 บริษัทก็ได้ร่วมผลิตภาพยนตร์เรื่อง Dark Shadows อีกด้วย
ในปี 2011 Infinitum Nihil ได้ครอบคลุมไปถึงอุตสาหกรรมเพลง และในปี 2012 จอห์นนี เดปป์ก็ได้ขยายบริษัทเป็นสำนักพิมพ์อีกด้วย
ผลงานในวงการภาพยนตร์
ภาพยนตร์
ปี
เรื่อง
บทบาท
หมายเหตุ
1984
Nightmare on Elm Street, AA Nightmare on Elm Street
เกล็น แลนซ์
ภาพยนตร์เรื่องแรกของจอห์นนี เดปป์
1985
Private Resort
แจ็ก มาร์แชล
1986
Slow Burn
ดอนนี่ ฟเลซ์เชอร์
ภาพยนตร์ทางโทรทัศน์
1986
Platoon
เลินเนอร์
1990
Cry-Baby
เวด "คราย เบบี่" วอล์คเกอร์
1990
Edward Scissorhands
เอ็ดเวิร์ดมือกรรไกร
1991
Freddy's Dead: The Final Nightmare
ผู้ชายทางโทรทัศน์
ใช้ชื่อใน End Credits ว่า Oprah Noodleman
1993
Benny & Joon
แซม
1993
What's Eating Gilbert Grape
กิลเบิร์ต เกรป
1993
Arizona Dream
แอ็กเซิล แบล็กมาร์
1994
Ed Wood
เอ็ดเวิร์ด ดี วู้ด
1995
Don Juan DeMarco
ดอนฮวน เดอร์มาโก/จอห์น อาร์ เดอร์มาโก
1995
Dead Man
วิลเลียม เบลค
1995
Nick of Time
ยีน วัตสัน
1996
Cannes Man
จอห์นนี เดปป์
1997
Donnie Brasco
ดอนนี บราสโก/โจเซฟ ดี พิสโตน
1997
Brave, TheThe Brave
ราฟาเอล
1998
Fear and Loathing in Las Vegas
ราอูล ดุ๊ก
1998
L.A. Without a Map
จอห์นนี เดปป์ และ วิลเลียม เบลค
สองบทบาทในเรื่องเดียว
1999
Ninth Gate, TheThe Ninth Gate
ดีน คอร์โซ่
1999
Sleepy Hollow
อิกาบอท เครน
1999
Astronaut's Wife, TheThe Astronaut's Wife
สเปนเซอร์ อาร์มาคอส
2000
Chocolat
ลุคซ์
2000
Before Night Falls
ร้อยโทวิกเตอร์ และบงบง
สองบทบาทในเรื่องเดียว
2001
Blow
จอร์จ จัง
2001
Man Who Cried, TheThe Man Who Cried
ซีซาร์
2001
From Hell
เฟร็ดเดอริก แอบเบอร์ไลน์
2003
Once Upon a Time in Mexico
เจ้าหน้าที่ CIA เชลดอน เจฟฟรี แซนด์และบาทหลวงในโบสถ์
Gonzo: The Life and Work of Dr. Hunter S. Thompson
พากย์เสียง
2010
When You're Strange
พากย์เสียง
2011
Pearl Jam Twenty
จอห์นนี เดปป์
ไม่มีชื่อในเครดิต
2012
For No Good Reason
จอห์นนี เดปป์
เพลงประกอบภาพยนตร์
เพลงประกอบภาพยนตร์
ปี
เรื่อง
เพลง
2000
Chocolat
เล่นกีต้าร์ในเพลง "Minor Swing", "They're Red Hot", "Caravan"
2003
Once Upon a Time in Mexico
แต่งเพลง "Sands' Theme"
2007
Sweeney Todd: The Demon Barber of Fleet Street
ร้องเพลง "No Place Like London", "My Friends", "Pirelli's Miracle Elixir", "Pretty Women", "Epiphany", "A Little Priest", "Johanna (Act II)", "By The Sea", "The Judge's Return", "Final Scene (Part 1)", "Final Scene (Part 2)"
2011
The Rum Diary
เล่นกีต้าร์และแต่งเพลง "Kemp In The Villagen", เล่นเปียโนเพลง "The Mermaid Song (Instrumental)"
ผลงานในวงการเพลง
ในฐานะนักดนตรี
นักดนตรี
ปี
อัลบั้ม
ตำแหน่ง
ศิลปินเจ้าของอัลบั้ม
หมายเหตุ
1994
The Snake
กีต้าร์ในเพลง That Woman's Got Me Drinking
Shane MacGowan & the Popes
1994
City Of The Violet Crown
คอรัสในเพลง Fidel's Taxi
Bill Carter
1995
Help: A Charity Project for the Children Of Bosnia
กีต้าร์ในเพลง "Minor Swing", "They're Red Hot", "Caravan"
เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Chocolat
2003
Once Upon A Time In Mexico
เล่นเครื่องดนตรีหลายชนิดในเพลง "Sands Theme
เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Once Upon A Time In Mexico
2007
Sweeney Todd, The Demon Barber of Fleet Street
ร้องเพลง "No Place Like London", "My Friends", "Pirelli's Miracle Elixir", "Pretty Women", "Epiphany", "A Little Priest", "Johanna (Act II)", "By The Sea", "The Judge's Return", "Final Scene (Part 1)", "Final Scene (Part 2)"
เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Sweeney Todd: The Demon Barber of Fleet Street
เล่นกีต้าร์ในเพลง "Kemp In The Villagen", เล่นเปียโนเพลง "The Mermaid Song (Instrumental)"
อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Rum Diary
2011
The Pleasures of Self Destruction
กีต้าร์ในเพลง "The Jesus Stag Night Club"
Babybird
2011
From Gainsbourg To Lulu
ร้องเพลงคู่กับ Vanessa Paradis และเล่นเครื่องดนตรีทุกชนิดในเพลง "Ballade de Melody Nelson", เล่นกลองและกีต้าร์ในเพลง "Sous Le Soleil Exactement"
Lulu Gainsbourg
2012
Born Villain
กลองและกีต้าร์ในเพลง "You're So Vain"
Marilyn Manson
2012
Banga
กลองและกีต้าร์ในอินโทรเพลง "Banga"
Patti Smith
2013
West Of Memphis: Voices For Justice
ร้องเพลงและตีกลองในเพลง "Little Lion Man: Tonto's Giant Nuts", เล่นกีต้าร์และกลองในเพลง "You're So Vain", แลปสตีลในเพลง "Anything Made Of Paper", อคูสติกกีต้าร์ในเพลง "Wing", เล่นดนตรีในเพลง "Road To Nowhere"
เพลงประกอบภาพยนตร์สารคดีเรื่อง West Of Memphis: Voices For Justice, ไม่มีเครดิตในเพลง "Little Lion Man: Tonto's Giant Nuts", "Wing" และ "Road To Nowhere"
2013
Unknown
แลปสตีลในเพลง "Anything Made Of Paper"
Bill Carter
2013
ซิงเกิล "State Trooper"
แลปสตีลและเบสดรัมในเพลง "State Trooper"
Bill Carter
2013
Son Of Rogues Gallery: Pirate Ballads, Sea Songs & Chanteys
กีต้าร์โซโล่ในเพลง "Leaving Of Liverpool", กีต้าร์และกลองในเพลง "The Mermaid"
2013
The Manhattan Blues Project
กีต้าร์ในเพลง "The Brooklyn Shuffle"
Steve Hunter
2013
The Lone Ranger: Wanted
เล่นดนตรีในเพลง "Sweet Betsy From Pike"
เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Lone Ranger, ไม่มีเครดิตในเพลง
2013
ซิงเกิล Watching The Sky Turn Blue
ปรบมือและ backing vocals ในเพลง "Watching The Sky Turn Blue"
Louise Goffin
2014
Red Beans And Weiss
เล่นกีต้าร์, กลองและร้อง backing vocals ในเพลง "Boston Blackie", backing vocals ในเพลง "Bomb The Tracks", กีต้าร์ในเพลง "Kokomo (Boy Bruce)", กลองและเบสในเพลง "The Hink-A-Dink", backing vocals ในเพลง "Willy's In The Pee Pee House"
Chuck E. Weiss
2014
Gimme Something Good
เล่นกีต้าร์และโซโล่ในเพลง Aching For More
Ryan Adams
2014
Ryan Adams
เล่นกีต้าร์ในเพลง Kim, เล่นกีต้าร์และ backing vocals ในเพลง Feels Like Fire
Ryan Adams
2014
Lost On The River: The New Basement Tapes
กีต้าร์ในเพลง Kansas City
The New Basement Tapes
อัลบั้มเพลงประกอบสารคดี he Lost Songs: The Basement Tapes Continued
2014
Afraid Of Ghosts
เล่นกีต้าร์ในเพลง 21+
Butch Walker
2014
Joe Perry's Merry Christmas
เล่นกีต้าร์ในเพลง Run Run Rudolph
Joe Perry
EP Joe Perry's Merry Christmas
2014
ร้องเพลง Hello Little Girl
เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Into the Woods
2015
ร้องเพลงและเล่นกีต้าร์ในเพลง No Shadows, เล่นกีต้าร์ในเพลง It's In My Head
Ryan Adams
ซิงเกิล No Shadows
ในฐานะนักแต่งเพลง
นักแต่งเพลง
ปี
เพลง
อัลบั้ม
ศิลปินเจ้าของอัลบั้ม
หมายเหตุ
1986
Mary
Young Man's Blues
Shane MacGowan & the Popes
1995
ทุกเพลงในอัลบั้มยกเว้นเพลง I Save Cigarette Butts และเพลง Dancing Queen
P
P
แต่งรวมกับ Bill Carter, Johnny Depp, Gibby Haynes และ Sal Jenco
1999
Hollywood Affair
A Virgin
Iggy Pop
2000
St. Germain และ Bliss
Bliss
Vanessa Paradis
แต่งทำนองร่วมกับ Vanessa Paradis
2003
Sands Theme
อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Once Upon A Time In Mexico
2011
Kemp in the Village
อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Rum Diary, แต่งร่วมกับ Jeffrey J. Poskin
Gonzo: The Life And Work Of Dr. Hunter S. Thompson - Music From The Film
Executive Producer ของอัลบั้ม, เพลงประกอบภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Gonzo: The Life And Work Of Dr. Hunter S. Thompson
2011
The Rum Diary - Original Motion Picture Soundtrack
Executive Producer ของอัลบั้ม, เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Rum Diary , ได้รับรางวัลในสาขาสกอร์ยอดเยี่ยมสำหรับภาพยนตร์คอเมดี้จาก International Film Music Critics Association Award
2012
You're So Vain
Born Villain
Marilyn Manson
2013
Little Lion Man, และ Damien Echols Death Row Letter Year 16 1/2
West Of Memphis: Voices For Justice
ประกอบภาพยนตร์สารคดีเรื่อง West Of Memphis: Voices For Justice
2013
Son Of Rogue's Gallery: Pirate Ballads, Sea Songs & Chanteys