เกาะสุมาตรา
สุมาตรา หรือ ซูมาเตอรา (อินโดนีเซีย: Sumatra)[a] เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะซุนดาของอินโดนีเซียตะวันตก ถือเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก (มีขนาดประมาณ 475,807.63 km2) ซึ่งรวมเกาะรอบข้างอย่างซีเมอลูเวอ, นียัซ, เมินตาไว, เอิงกาโน, หมู่เกาะรีเยา, หมู่เกาะบังกาเบอลีตุง และกลุ่มเกาะกรากาตัว
ภูมิประเทศของเกาะสุมาตรา | |
ที่ตั้งของเกาะสุมาตราในหมู่เกาะอินโดนีเซีย | |
ภูมิศาสตร์ | |
---|---|
ที่ตั้ง | เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ |
พิกัด | 00°N 102°E / 0°N 102°E |
กลุ่มเกาะ | หมู่เกาะซุนดาใหญ่ |
พื้นที่ | 475,807.63 ตารางกิโลเมตร (183,710.35 ตารางไมล์) |
ระดับสูงสุด | 3,805 ม. (12484 ฟุต) |
จุดสูงสุด | เกอรินจี |
การปกครอง | |
อินโดนีเซีย | |
จังหวัด | อาเจะฮ์ สุมาตราเหนือ สุมาตราตะวันตก เรียว จัมบี เบิงกูลู สุมาตราใต้ ลัมปุง |
เมืองใหญ่สุด | เมดัน (2,097,610 คน) |
ประชากรศาสตร์ | |
ประชากร | 59,977,300 (ประมาณกลาง ค.ศ. 2022) |
ความหนาแน่น | 125.0/กม.2 (323.7/ตารางไมล์) |
กลุ่มชาติพันธุ์ | อาเจะฮ์, บาตัก, กาโย, ลัมปุง, มลายู, เมินตาไว, มีนังกาเบา, นียัซ, ปาเล็มบัง, เรอจัง, จีน, อินเดีย, ชวา, ซุนดา ฯลฯ |
ข้อมูลอื่น ๆ | |
เขตเวลา |
การทำลายป่าบนเกาะนี้ส่งผลให้เกิดหมอกควันหนาทึบปกคลุมประเทศเพื่อนบ้าน อย่างฟ้าหลัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พ.ศ. 2556 ทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างอินโดนีเซียกับประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์[2] นักวิชาการมักอธิบายถึงการตัดไม้ทำลายป่าอย่างกว้างขวางและการทำลายสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ในเกาะสุมาตราและส่วนอื่นของอินโดนีเซียเป็นอีโคไซด์ (ecocide)[3][4][5][6][7]
ศัพทมูลวิทยา
ในสมัยโบราณ เกาะสุมาตรามีชื่อเรียกในภาษาสันสกฤตว่า สุวรรณทวีป (Suwarnadwīpa; 'เกาะทอง') และสุวรรณภูมิ (Suwarnabhūmi; 'ดินแดนทอง') ทั้งนี้เพราะมีการพบทองคำบนที่ราบสูงของเกาะแห่งนี้[8] ส่วนรูปปัจจุบันของ "Sumatra" แบบแรกสุดปรากฏขึ้นใน ค.ศ. 1017 เมื่อกษัตริย์ท้องถิ่น ฮาจีซูมาตราบูมี ("กษัตริย์แห่งดินแดนสุมาตรา")[9]ส่งทูตไปจีน ส่วนนักภูมิศาสตร์ชาวอาหรับระบุถึงเกาะนี้เป็น ลัมรี ลามูรี ลัมบรี และรัมนี (Lamri, Lamuri, Lambri หรือ Ramni) ในคริสต์ศตวรรษที่ 10-13 โดยหมายถึงอาณาจักรที่อยู่ใกล้กับบันดาร์อาเจะฮ์ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นจุดแรกที่พ่อค้าที่เดินเรือมักแวะมาขึ้นฝั่ง เกาะนี้ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก ได้แก่ อันดาลัซ (Andalas)[10] หรือ เกาะเปอร์จา (Percha Island)[11]
ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 มาร์โก โปโลกล่าวถึงอาณาจักรนี้เป็น Samara ในขณะที่ Odoric of Pordenone นักเดินทางชาวอิตาลีร่วมสมัยของเขา ใช้รูปเขียน Sumoltra ต่อมาในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 รูป "Sumatra" กลายเป็นที่นิยมในต่างประเทศ เนื่องจากราชอาณาจักรซามูเดอราปาไซกับรัฐสุลต่านอาเจะฮ์ในยุคหลัง เรืองอำนาจ[12][13]
นับตั้งแต่นั้นมา นักเขียนชาวยุโรปยุคหลังส่วนใหญ่เขียนชื่อเกาะในรูป Sumatra หรือรูปคล้ายกัน[14][15]
ประชากร
ปี | ประชากร | ±% |
---|---|---|
1971 | 20,808,148 | — |
1980 | 28,016,160 | +34.6% |
1990 | 36,506,703 | +30.3% |
1995 | 40,830,334 | +11.8% |
2000 | 42,616,164 | +4.4% |
2005 | 45,839,041 | +7.6% |
2010 | 50,613,947 | +10.4% |
2015 | 55,198,752 | +9.1% |
2020 | 58,557,211 | +6.1% |
2022 | 59,977,300 | +2.4% |
ข้อมูล:[16][17] |
เกาะสุมาตราไม่ได้มีประชากรหนาแน่นเป็นพิเศษ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 126 คนต่อตารางกิโลเมตร ซึ่งรวมแล้วมีประมาณ 59,977,300 คน (รายงานจากจำนวนประมาณการอย่างเป็นทางการในช่วงปลาง ค.ศ. 2022)[18] ถึงกระนั้น เนื่องด้วยขนาดของเกาะ ทำให้เกาะสุมาตราเป็นเกาะที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 5 ของโลก[19]
|
ภูมิศาสตร์
แกนที่ยาวที่สุดของเกาะอยู่ในแนวตะวันตกเฉียงเหนือไปตะวันออกเฉียงใต้ โดยผ่านเส้นศูนย์สูตรตรงกลาง พื้นที่ด้านในของเกาะแบ่งเป็น 2 เขตทางภูมิศาสตร์ใหญ่ ๆ คือ เทือกเขาบารีซัน (Barisan Mountains) ทางตะวันตกและพื้นที่ลุ่มทางตะวันออก
ทางตะวันออกเฉียงใต้คือเกาะชวา แบ่งด้วยช่องแคบซุนดา ทางเหนือคือคาบสมุทรมลายู แบ่งด้วยช่องแคบมะละกา ทางตะวันออกคือเกาะบอร์เนียว แบ่งด้วยช่องแคบการีมาตา (Karimata Strait) ทางตะวันตกของเกาะคือมหาสมุทรอินเดีย
สันหลังของเกาะคือเทือกเขาบารีซัน ภูเขาไฟในภูมิภาคนี้ทำให้เกาะนี้มีทั้งพื้นดินอุดมสมบูรณ์และทัศนียภาพอันสวยงามเช่น รอบ ๆ ทะเลสาบโตบา (Lake Toba) นอกจากนี้ ยังมีแร่ถ่านหินและทองคำด้วย
ทางตะวันออก แม่น้ำใหญ่พัดพาเอาตะกอนดินจากภูเขา ทำให้เกิดลุ่มกว้างขวาง พื้นที่ส่วนใหญ่ไม่เหมาะสำหรับการเกษตร อย่างไรก็ดี พื้นที่นี้มีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่ออินโดนีเซียเป็นอย่างมาก สุมาตราผลิตน้ำมันทั้งจากบนดินและใต้ดิน ("from above the soil and underneath") กล่าวคือ ผลิตทั้งน้ำมันปาล์มและปิโตรเลียม
พื้นที่ส่วนใหญ่ของสุมาตราเคยปกคลุมด้วยป่าชื้นเขตร้อน เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น ลิงอุรังอุตัง สมเสร็จ และ เสือสุมาตรา และพืชพรรณที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น แรฟเฟิลเซีย (Rafflesia) อย่างไรก็ดี การพัฒนาทางเศรษฐกิจ ร่วมกับการคอร์รัปชันและการทำไม้ผิดกฎหมาย ทำให้มีพื้นที่ลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ พื้นที่อนุรักษ์ยังถูกทำลายด้วย
ดูเพิ่ม
- เกาะของอินโดนีเซีย
- เกาะเรียว
อ้างอิง
อ่านเพิ่ม
- Grover, Samantha; Sukamta, Linda; Edis, Robert (August 2017). "People, Palm Oil, Pulp and Planet: Four Perspectives on Indonesia's Fire-stricken Peatlands". The Conversation.
- William Marsden, The History of Sumatra, (1783); 3rd ed. (1811) freely available online.
แหล่งข้อมูลอื่น
- . สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911 (11 ed.). 1911.