บริกส์
บริกส์ (อังกฤษ: BRICS) เป็นอักษรย่อใช้เรียกกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วอันประกอบด้วย บราซิล (Brazil) รัสเซีย (Russia) อินเดีย (India) จีน (China) และแอฟริกาใต้ (South Africa)
ผู้นำบริกส์ในปี ค.ศ. 2023 | |
รัฐสมาชิก | |
ก่อนหน้า | บริก |
---|---|
ประเภท | องค์การระหว่างรัฐบาล |
วัตถุประสงค์ | การเมือง และ เศรษฐกิจ |
สาขาวิชา | การเมืองระหว่างประเทศ |
สมาชิก | |
เว็บไซต์ | https://brics2023.gov.za/ |
ชื่อในอดีต | บริก |
ศัพท์คำนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยจิม โอนีลล์ ในบทวิจัยในปี 2544 ชื่อ "The World Needs Better Economic BRICs"[1][2][3] ชื่อบริกส์ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการย้ายอำนาจเศรษฐกิจโลกจากกลุ่มพัฒนาแล้วอย่างจี7 (G7) มาสู่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
ผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี 2548 กล่าวถึงประเทศเม็กซิโกและเกาหลีใต้ว่าเป็นประเทศที่เทียบเท่าได้กับบริกส์แต่ถูกตัดออกจากกลุ่มตั้งแต่ต้น เพราะถือว่าเป็นประเทศมีการพัฒนามากกว่า เนื่องจากเป็นสมาชิกของกลุ่มโออีซีดี (OECD) [4] โกลด์แมน แซคส์กล่าวว่ากลุ่มบริกส์พัฒนาอย่างรวดเร็วมากจนประมาณปี พ.ศ. 2593 เศรษฐกิจของกลุ่มบริกส์รวมกันจะสามารถบดบังกลุ่มประเทศที่ร่ำรวยในขณะนี้ได้ ปัจจุบัน ประเทศทั้งสี่รวมกันมีพื้นที่มากกว่าหนึ่งในสี่ของแผ่นดินโลก และมากกว่าร้อยละ 40 ของประชากรโลก[5][6]
โกลด์แมน แซคส์ ไม่ได้กล่าวว่ากลุ่มบริกส์จะรวมกลุ่มกันจัดตั้งกลุ่มเศรษฐกิจหรือสมาคมการค้าอย่างเป็นทางการเหมือนสหภาพยุโรป[7] แต่อย่างไรก็ตาม มีข้อบ่งชี้บางอย่างว่า “ประเทศกลุ่มบริกส์ทั้งสี่ได้พยายามที่จะสร้าง สมาคมหรือพันธมิตรทางการเมือง” และพยายามเปลี่ยน “อำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตให้เป็นอำนาจการเมืองทางภูมิภาค” [8][9] ในวันที่ 16 มิถุนายน 2552 ผู้นำกลุ่มประเทศบริกส์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งแรกที่เมืองเยคาเตรินบุร์ก และประกาศเรียกร้องให้ระเบียบโลกใหม่มีหลายขั้วอำนาจ[10] ต่อมา เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554 กลุ่มดังกล่าวได้รับเอาประเทศแอฟริกาใต้เข้าร่วมกลุ่มด้วย[11][12][13]
ประวัติ
โควิด-19
ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (New Development Bank, NDB) ซึ่งตั้งอยู่ในจีน มีแผนจะมอบเงิน 15,000 ล้านดอลลาร์แก่ประเทศสมาชิกเพื่อช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ โดยประเทศสมาชิกต่างหวังว่าจะฟื้นตัวอย่างราบรื่นและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ในระดับเดียวกับก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 การประชุมสุดยอดครั้งที่ 12 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นการประชุมทางไกลผ่านวีดิทัศน์จากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย หารือถึงวิธีจัดการกับภาวะการระบาดทั่วของโควิด และประเด็นการปรับปรุงความร่วมมือพหุภาคีโดยการปฏิรูปองค์กร[14] อัตราการรับวัคซีนโควิด-19 มีความแตกต่างกันภายในกลุ่มบริกส์โดย จีน อินเดีย และแอฟริกาใต้ เต็มใจรับวัคซีนมากที่สุด ขณะที่บราซิลและรัสเซียแสดงความกังวลมากกว่าอีก 3 ประเทศ[15] เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ในระหว่างการประชุมสุดยอดบริกส์ครั้งที่ 13 นเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีอินเดียเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างโปร่งใสภายใต้องค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19 ด้วยความร่วมมืออย่างเต็มที่จาก "ทุกประเทศ" ต่อจากนั้นประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้กล่าวเรียกร้องให้ทุกประเทศในกลุ่มต่อต้านกระบวนการ "ทำให้เป็นการเมือง"[16]
สมาชิก
สมาชิกปัจจุบัน
สมาชิก | หัวหน้ารัฐบาลทางการ | ผู้นำรัฐบาล |
---|---|---|
บราซิล | ประธานาธิบดี | ลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา |
รัสเซีย | ประธานาธิบดี | วลาดีมีร์ ปูติน |
อินเดีย | นายกรัฐมนตรี | นเรนทระ โมที |
จีน | ประธานาธิบดี | สี จิ้นผิง |
แอฟริกาใต้ | ประธานาธิบดี | ไซริล รามาโฟซา |
อียิปต์ | ประธานาธิบดี | อับดุลฟัตตาห์ อัสซีซี |
เอธิโอเปีย | นายกรัฐมนตรี | อาบีย์ อาห์เม็ด |
อิหร่าน | ประธานาธิบดี | เอบรอฮีม แรอีซี |
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | ประธานาธิบดี | โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัลนะฮ์ยาน |
ประเทศที่สมัครสมาชิกแล้ว
รวมทั้งหมด 15 ประเทศ[17] ได้สมัครเข้าร่วมบริกส์อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีรายชื่อดังนี้:[18]
- แอลจีเรีย (สมัครในปี 2022)[19]
- บาห์เรน[20]
- บังกลาเทศ[21] (สมัครในปี 2023)
- เบลารุส[22] (สมัครในปี 2023)
- โบลิเวีย[23] (สมัครในปี 2023)
- คิวบา (สมัครในปี 2023)
- ฮอนดูรัส (สมัครในปี 2023)
- คาซัคสถาน[24] (สมัครในปี 2023)
- คูเวต (สมัครในปี 2023)
- ปากีสถาน (สมัครในปี 2023)
- ปาเลสไตน์ (สมัครในปี 2023)
- เซเนกัล[25] (สมัครในปี 2023)
- ไทย[26]
- เวเนซุเอลา (สมัครในปี 2023)
- เวียดนาม (สมัครในปี 2023)