ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2018

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2018 เป็นการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 โดยเป็นฤดูกาลที่ 63 สำหรับการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรปที่จัดโดยยูฟ่า และเป็นฤดูกาลที่ 26 นับตั้งแต่การเปลี่ยนชื่อการแข่งขันจากยูโรเปียบแชมเปียนคลับคัพ มาเป็นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยการแข่งขันครั้งนี้จะจัดขึ้นที่สนามโอลิมปิสกี เนชันแนล สปอร์ตส์ คอมเพล็กซ์ ในเคียฟ ประเทศยูเครน ในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561[5]

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2018
รายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18
วันที่26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
สนามสนามโอลิมปิสกี เนชันแนล สปอร์ตส์ คอมเพล็กซ์, เคียฟ
ผู้เล่นยอดเยี่ยม
ประจำนัด
แกเร็ธ เบล (เรอัลมาดริด)[1]
ผู้ตัดสินมีโลรัด มาชิช (เซอร์เบีย)[2]
ผู้ชม61,561 คน[3]
สภาพอากาศแดดจัด
20 °C (68 °F)
ความชื้นสัมพัทธ์ 37%[4]
2017
2019

โดยเรอัลมาดริด เป็นทีมชนะเลิศจะได้สิทธิ์พบกับอัตเลติโกเดมาดริดที่ชนะเลิศการแข่งขันยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2017–18 ในการแข่งขันยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2018 อีกทั้งยังได้สิทธิ์ในการลงเล่นฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2018 รอบรองชนะเลิศในนามตัวแทนของยูฟ่า

ทีม

ทีมการเข้าร่วมครั้งที่ผ่านมา (ตัวหนาหมายถึงทีมชนะเลิศ)
เรอัลมาดริด15 (1956, 1957, 1958, 1959, 1960, 1962, 1964, 1966, 1981, 1998, 2000, 2002, 2014, 2016, 2017)
ลิเวอร์พูล7 (1977, 1978, 1981, 1984, 1985, 2005, 2007)

สนามแข่งขัน

สนาม เอ็นเอสซี โอลิมปีย์สกีย์ สเตเดียม ได้รับการประกาศให้เป็นสังเวียนนัดชิงชนะเลิศเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559 (ค.ศ. 2016), หลังจากการตัดสินใจของการประชุมคณะกรรมการบริหารยูฟ่าในกรุง เอเธนส์, ประเทศกรีซ.[5] นี่เป็นนัดชิงชนะเลิศยูโรเปียนคัพ/แชมเปียนส์ลีกครั้งที่หกที่รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพที่สังเวียนใน ฝั่งยุโรปตะวันออก ต่อไปเหล่านั้นใน 1973 ในกรุง เบลเกรด,[6] ประเทศยูโกสลาเวีย, ปี ค.ศ. 1983, ค.ศ. 1994 และนัดชิงชนะเลิศปี 2007 เป็นเจ้าภาพโดยกรุง เอเธนส์,[7][8][9] ประเทศกรีซ เช่นเดียวกับ นัดชิงชนะเลิศปี ค.ศ. 2008 ในกรุง มอสโก, ประเทศรัสเซีย.[10]

ภูมิหลัง

แชมป์เก่า เรอัลมาดริด เอื้อมมาถึงสถิติการเข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 16 หลังเอาชนะด้วยสกอร์รวม 4–3 ในการพบกับทีมจาก เยอรมัน บาเยิร์นมิวนิก, น็อคพวกเขาออกจากการแข่งขันเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน. นี่เป็นการเข้าชิงชนะเลิศครั้งที่สามของเรอัลมาดริด, และเป็นนัดชิงชนะเลิศครั้งที่สี่ในห้าทัวร์นาเมนต์กับโอกาสที่จะชนะ สถิติแชมป์สมัยที่ 13. ครั้งก่อนหน้านี้พวกเขาชนะนัดชิงชนะเลิศในปี 1956, 1957, 1958, 1959, 1960, 1966, 1998, 2000, 2002, 2014, 2016 และ 2017; และแพ้ในปี 1962, 1964 และ 1981. นี่เป็นนัดชิงชนะเลิศครั้งที่ 20 ของพวกเขาด้วยในทุกฤดูกาลการแข่งขันของยูฟ่า, โดยมีการลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศ คัพวินเนอร์สคัพ สองครั้ง (พ่ายแพ้ในปี 1971 และ 1983) และนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่าคัพ สองครั้ง (ชนะในปี 1985 และ 1986). เรอัลมาดริดคือทีมที่สามเท่านั้นนับตั้งแต่การเปลี่ยนชื่อของการแข่งขันในฐานะแชมเปียนส์ลีกเพื่อที่จะไปถึงนัดชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่สามติดต่อกันหลังจากที่ มิลาน ใน 1995 และ ยูเวนตุส ใน 1998. พวกเขากำลังมองหาที่จะเป็นทีมแรกในยุคแชมเปียนส์ลีก, และเป็นครั้งที่สี่โดยรวม, ที่จะชนะในนัดชิงชนะเลิศสามครั้งตรงๆ, ความสำเร็จเพียงครั้งเดียวเท่านั้นสำหรับเรอัลมาดริดในยุค 1950s, ในชณะที่พวกเขารอที่จะชนะเพื่อทำสถิติชนะนัดชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ห้าติดต่อกัน, เช่นเดียวกับผู้เล่นของ อายักซ์ และ บาเยิร์นมิวนิก ในยุค 1970s ในปี 1973 และ 1976, ตามลำดับ.[11]

ลิเวอร์พูล ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่แปดของพวกเขา, เป็นครั้งแรกของพวกเขานับตั้งแต่ 2007, หลังจากเอาชนะสกอร์รวม 7–6 เหนือทีมจาก อิตาเลียน โรมา.[12] พวกเขาชนะในนัดชิงชนะเลิศถึงห้าครั้ง (1977, 1978, 1981, 1984 และ 2005), และพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในปี (1985 และ 2007). นี่เป็นนัดชิงชนะเลิศครั้งที่ 13 ของพวกเขาด้วยในทุกฤดูกาลการแข่งขันของยูฟ่า, โดยมีการลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศ คัพวินเนอร์สคัพ หนึ่งครั้ง (พ่ายแพ้ในปี 1966) และนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่าคัพ/ยูโรปาลีก สี่ครั้ง (ชนะในปี 1973, 1976 และ 2001; และแพ้ในปี 2016).[13] ลิเวอร์พูลเป้นทีมแรกนับตั้งแต่ บาเยิร์นมิวนิก ใน ฤดูกาล 2011–12 ที่ทะลุเข้ามาถึงนัดชิงชนะเลิศด้วยการเข้าแข่งขันผ่านการ รอบเพลย์ออฟ. นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญที่มากที่สุดของพวกเขาในนัดชิงชนะเลิศที่เป็ฯทีมจากอังกฤษ (เชลซี).[14] ลิเวอร์พูลคือทีมที่ยัดเยียดความปราชัยมากที่สุดให้กับเรอัลมาดริดในนัดชิงชนะเลิศยูโรเปียนคัพ, ชนะ 1–0 ในกรุงปารีสในปี ค.ศ. 1981.[15]

นอกเหนือจากนั้นในนัดชิงชนะเลิศปี ค.ศ. 1981, ทั้งสองทีมลงเล่นกันทีมละสี่สมัยในยุคแชมเปียนส์ลีก. ลิเวอร์พูลชนะทั้งสองนัดใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2008–09 รอบ 16 ทีมสุดท้าย, ในขณะที่เรอัลมาดริดชนะทั้งสองนัดใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2014–15 รอบแบ่งกลุ่ม.[16]

เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ

หมายเหตุ: (H: เหย้า; A: เยือน).

เรอัลมาดริดRound ลิเวอร์พูล
บายรอบคัดเลือกคู่แข่งขันผลนัดแรกนัดที่สอง
รอบเพลย์ออฟ 1899 ฮ็อฟเฟินไฮม์6–32–1 (A)4–2 (H)
คู่แข่งขันผลการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มคู่แข่งขันผลการแข่งขัน
อาโปเอล3–0 (H)นัดที่ 1 เซบิยา2–2 (H)
โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์3–1 (A)นัดที่ 2 สปาร์ตัคมอสโก1–1 (A)
ทอตนัฮอตสเปอร์1–1 (H)นัดที่ 3 มารีบอร์7–0 (A)
ทอตนัมฮอตสเปอร์1–3 (A)นัดที่ 4 มารีบอร์3–0 (H)
อาโปเอล6–0 (A)นัดที่ 5 เซบิยา3–3 (A)
โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์3–2 (H)นัดที่ 6 สปาร์ตัคมอสโก7–0 (H)
รองแชมป์กลุ่ม H
อันดับทีมเล่นคะแนน
1 ทอตนัม ฮอตสเปอร์616
2 เรอัลมาดริด613
3 โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์62
4 อาโปเอล62
ตารางคะแนนแชมป์กลุ่ม E
อันดับทีมเล่นคะแนน
1 ลิเวอร์พูล612
2 เซบิยา69
3 สปาร์ตัค มอสโก66
4 มารีบอร์63
คู่แข่งขันผลนัดแรกนัดที่สองรอบแพ้คัดออกคู่แข่งขันผลนัดแรกนัดที่สอง
ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง5–23–1 (H)2–1 (A)รอบ 16 ทีมสุดท้าย โปร์ตู5–05–0 (A)0–0 (H)
ยูเวนตุส4–33–0 (A)1–3 (H)รอบก่อนรองชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ซิตี5–13–0 (H)2–1 (A)
บาเยิร์นมิวนิก4–32–1 (A)2–2 (H)รอบรองชนะเลิศ โรมา7–65–2 (H)2–4 (A)

ก่อนการแข่งขัน

ทูต

ทูตสำหรับนัดชิงชนะเลิศเป็นอดีตนักเตะทีมชาติยูเครน อันดรีย์ เชฟเชนโค, ผู้ที่เคยชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกับ มิลาน ใน ค.ศ. 2003.[17]

การจำหน่ายตั๋ว

ด้วยตัวสนามแข่งขันมีความจุรองรับได้ 63,000 คนสำหรับเกมนัดชิงชนะเลิศ, จากจำนวนตั๋วเข้าชมทั้งหมด 40,700 ใบ ได้ถูกจำหน่ายไปให้กับแฟนบอลและประชาชนทั่วไป, กับทีมที่เข้าชิงชนะเลิศทั้งสองทีมนั้นแต่ละฝั่งจะได้รับตั๋วไปจำหน่าย 17,000 ใบ และตั๋วเข้าชมการแข่งขันอีก 6,700 ใบ พร้อมจำหน่ายให้กับแฟนๆ ทั่วโลกผ่านทางเว็บไซต์ UEFA.com ตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 22 มีนาคม 2561 ในสี่หมวดราคา: €450, €320, €160, และ €70. ส่วนตั๋วที่เหลือจะจัดสรรให้กับคณะกรรมการจัดงานท้องถิ่น, ยูฟ่า และชาติสมาชิก, ห้างหุ้นส่วนร้านค้า และสถานีการถ่ายทอดต่างๆ, และเพื่อรองรับโปรแกรมในการต้อนรับ.[18][19]

พิธีเปิดการแข่งขัน

นักร้องชาวอังกฤษ ดูอา ลิป้า dua lipa จะมาเป็นผู้แสดงในพิธีเปิดการแข่งขันก่อนนัดชิงชนะเลิศจะเริ่มต้นขึ้น.[20]

การแข่งขัน

รายละเอียด

ทีม "เจ้าบ้าน" (สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดการ) จะถูกกำหนดขึ้นโดยการจับสลากเกิดขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นการจับสลากรอบรองชนะเลิศ, ที่ได้จัดขึ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018), 13:00 CEST, ที่สำนักงานใหญ่ยูฟ่าในเมือง นียง, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์.[21]

เรอัลมาดริด[4]
ลิเวอร์พูล[4]
GK1 เกย์ลอร์ นาบัส
RB2 ดานิ การ์บาฆัล 37'
CB5 ราฟาแอล วาราน
CB4 เซร์ฆิโอ ราโมส (กัปตัน)
LB12 มาร์เซลู
CM10 ลูคา โมดริช
CM14 กาเซมีรู
CM8 โทนี โครส
AM22 อิสโก 61'
CF9 การีม แบนเซมา 89'
CF7 คริสเตียโน โรนัลโด
ผู้เล่นสำรอง:
GK13 กิโก กาซิยา
DF6 นาโช 37'
DF15 เตโอ แอร์น็องแดซ
MF20 มาร์โก อาเซนซิโอ 89'
MF23 มาเทออ คอวาชิช
FW11 แกเร็ธ เบล 61'
FW17 ลูกัส บัซเกซ
ผู้จัดการทีม:
ซีเนดีน ซีดาน
GK1 โลริส คารีอุส
RB66 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
CB6 เดยัน ลอฟเรน
CB4 เฟอร์จิล ฟัน ไดก์
LB26 แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน
CM7 เจมส์ มิลเนอร์ 83'
CM14 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตัน)
CM5 จอร์จีนีโย ไวนัลดึม
RF11 มุฮัมมัด เศาะลาห์ 31'
CF9 โรแบร์ตู ฟีร์มีนู
LF19 ซาดีโย มาเน 82'
ผู้เล่นสำรอง:
GK22 ซีมง มีญอแล
DF2 นาแทเนียล ไคลน์
DF17 รักนาร์ กลาวัน
DF18 อัลแบร์โต โมเรโน
MF20 แอดัม ลัลลานา 31'
MF23 แอมแร จัน 83'
FW29 ดอมินิก โชลังเก
ผู้จัดการทีม:
เยือร์เกิน คล็อพ

ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด:
แกเร็ธ เบล (เรอัลมาดริด)[1]

ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:[2]
Milovan Ristić (เซอร์เบีย)
Dalibor Đurđević (เซอร์เบีย)
ผู้ตัดสินที่สี่:[2]
Clément Turpin (ฝรั่งเศส)
ผู้ช่วยผู้ตัดสินเพิ่มเติม:[2]
Nenad Đokić (เซอร์เบีย)
Danilo Grujić (เซอร์เบีย)
ผู้ช่วยผู้ตัดสินสำรอง:[2]
Nemanja Petrović (เซอร์เบีย)

ข้อมูลการแข่งขัน[22]

  • แข่งขันในเวลาปกติ 90 นาที
  • ต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที กรณีทั้งสองทีมเสมอกันในเวลาปกติ
  • ตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษเพื่อหาผู้ชนะ
  • รายชื่อตัวสำรองทีมละ 7 คน

สถิติ

ครึ่งหลัง[23]
สถิติเรอัลมาดริดลิเวอร์พูล
ประตูที่ทำได้31
ยิงทั้งหมด73
ยิงเข้ากรอบ51
เซฟจากผู้รักษาประตู02
เปอร์เซ็นต์การครองบอล58%42%
เตะมุม73
ทำฟาวล์38
ล้ำหน้า32
ใบเหลือง01
ใบแดง00
โดยรวม[23]
สถิติเรอัลมาดริดลิเวอร์พูล
ประตูที่ทำได้31
ยิงทั้งหมด1212
ยิงเข้ากรอบ52
เซฟจากผู้รักษาประตู12
เปอร์เซ็นต์การครองบอล62%38%
เตะมุม95
ทำฟาวล์518
ล้ำหน้า73
ใบเหลือง01
ใบแดง00

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง