โรคหืด

โรคหืด (อังกฤษ: asthma) หรือ โรคหอบหืด[10] เป็นโรคการอักเสบเรื้อรังของทางเดินอากาศหายใจที่พบบ่อย ลักษณะคือ มีอาการหลายอย่างแบบเป็นซ้ำ มีการอุดกั้นทางเดินอากาศหายใจและหลอดลมหดเกร็งแบบย้อนกลับได้[11] อาการทั่วไปมีเสียงหวีด ไอ แน่นหน้าอกและหายใจกระชั้น[2]

โรคหืด
(Asthma)
ท่อพลาสติกสีขาวสองท่อซึ่งส่วนหน้ามีหน้าปัดที่มีส่วนเคลื่อนที่
อุปกรณ์ทดสอบสมรรถภาพปอด ใช้สำหรับตรวจวัดอัตราลมหายใจออกสูงสุด มีความสำคัญทั้งในการติดตามและการวินิจฉัยโรคหืด[1]
สาขาวิชาวิทยาปอด
อาการหายใจมีเสียงหวีดซ้ำเป็นชุด, ไอ, แน่นหน้าอก, หายใจไม่อิ่ม[2]
ระยะดำเนินโรคระยะยาว[3]
สาเหตุพันธุกรรม และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม[4]
ปัจจัยเสี่ยงมลภาวะทางอากาศ, สารก่อภูมิแพ้[3]
วิธีวินิจฉัยขึ้นอยู่กับอาการ, การตอบสนองต่อการบำบัด, ตรวจด้วยสไปโรมิเตอร์[5]
การรักษาหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น, คอร์ติโคสเตอรอยด์ชนิดสูดพ่น, ซัลบูทามอล[6][7]
ความชุก358 ล้านคน (ค.ศ. 2015)[8]
การเสียชีวิต397,100 คน (ค.ศ. 2015)[9]

เชื่อว่าโรคหืดเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมผสมกัน[12] การวินิจฉัยโดยปกติอาศัยรูปแบบของอาการ การตอบสนองต่อการรักษาตามเวลาและการวัดปริมาตรอากาศหายใจ (spirometry)[13] ในทางคลินิก จำแนกตามความถี่ของอาการ ปริมาตรการหายใจออกเบ่งใน 1 วินาที (FEV1) และอัตราการไหลของการหายใจออกสูงสุด (peak expiratory flow rate)[14] โรคหืดยังอาจจำแนกเป็นแบบภูมิแพ้กรรมพันธุ์ (atopic) หรือภายนอก (extrinsic) หรือไม่ใช่ภูมิแพ้กรรมพันธุ์ (non-atopic) หรือภายใน (intrinsic)[15] โดยภูมิแพ้กรรมพันธุ์หมายถึงความไวแฝงรับโรค (predisposition) ต่อการเกิดปฏิกิริยาไวเกินชนิดที่ 1[16]

การรักษาอาการเฉียบพลันโดยปกติใช้ตัวทำการบีตา-2 ที่ออกฤทธิ์สั้นแบบสูด (inhaled short-acting beta-2 agonist) เช่น ซัลบูทามอล เพื่อให้มีฤทธิ์ขยายหลอดลม และคอร์ติโคสเตอรอยด์ทางปาก[7] ในผู้ป่วยที่อาการรุนแรงมาก อาจต้องใช้คอร์ติโคสเตอรอยด์ แมกนีเซียมซัลเฟตทางหลอดเลือดดำ และให้เข้ารักษาในโรงพยาบาล[17] อาการสามารถป้องกันได้โดยการเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น สารก่อภูมิแพ้[6]และยาระคาย และโดยการใช้คอร์ติโคสเตอรอยด์แบบสูด[18] ตัวทำการบีตาที่ออกฤทธิ์ยาว (LABA) หรือสารต้านลิวโคไตรอีน (antileukotriene) อาจใช้เพิ่มเติมจากคอร์ติโคสเตอรอยด์แบบสูดหากยังควบคุมอาการโรคหืดไม่ได้[19][20]

การเกิดโรคหืดเพิ่มขึ้นอย่างสำคัญนับแต่คริสต์ทศวรรษ 1970 ในปี พ.ศ. 2554 มีผู้ได้รับวินิจฉัยเป็นโรคหืดทั่วโลก 235–300 ล้านคน[21][22] และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 250,000 คน[22] ส่วนใหญ่เป็นคนในประเทศกำลังพัฒนา ผู้ป่วยส่วนใหญ่เริ่มมีอาการตั้งแต่วัยเด็ก ประวัติศาสตร์ของโรคหืดมีย้อนไปถึงสมัยอียิปต์โบราณ

การรักษา

การใช้ยา

ยาที่ใช้รักษาโรคหืดแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลักๆ ได้แก่ ยาสำหรับบรรเทาอาการเมื่อมีอาการกำเริบ และ ยาสำหรับควบคุมอาการในระยะยาวเพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการกำเริบ[23] โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับรักษาผู้ป่วยโรคหืดที่มีอาการกำเริบเฉียบพลัน เว้นแต่มีข้อบ่งชี้อื่น[24][25]

พยากรณ์โรค

ผู้ป่วยโรคหืดโดยทั่วไปแล้วจะมีพยากรณ์โรคที่ดี โดยเฉพาะผู้ป่วยเด็กที่มีอาการเล็กน้อย[26] อัตราการเสียชีวิตลดลงอย่างมากในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยครอบคลุมมากขึ้น และการรักษาพัฒนามากขึ้น[27] ใน ค.ศ. 2010 อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหืดอยู่ที่ 170 ในล้าน สำหรับผู้ป่วยชาย และ 90 ในล้าน สำหรับผู้ป่วยหญิง[28] อย่างไรก็ดีอัตราการเสียชีวิตในแต่ละประเทศยังแตกต่างกันมาก โดยอาจแตกต่างกันได้ถึงราว 100 เท่า[28]

อ้างอิง

บรรณานุกรม

แหล่งข้อมูลอื่น

การจำแนกโรค
ทรัพยากรภายนอก
🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง