อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก
อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก (อังกฤษ: Avengers: Endgame) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวซูเปอร์ฮีโร่ ที่ออกฉายในปี ค.ศ. 2019 มีเค้าโครงจากมาร์เวลคอมิกส์ เรื่อง ดิอเวนเจอร์ส ผลิตโดยมาร์เวลสตูดิโอส์ และจัดจำหน่ายโดยวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์โมชันพิกเชอส์ เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ยี่สิบสองในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล และเป็นภาพยนตร์ลำดับรองสุดท้ายในจักรวาลภาพยนตร์เฟส 3
อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก | |
---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | แอนโทนี รุสโซ โจ รุสโซ |
บทภาพยนตร์ | คริสโตเฟอร์ มาร์คัสและสตีเวน แม็กฟีลี |
สร้างจาก | |
อำนวยการสร้าง | เควิน ไฟกี |
นักแสดงนำ | |
กำกับภาพ | เทร็นต์ โอปาล็อก |
ตัดต่อ | เจฟฟรีย์ ฟอร์ด แมธทิว สมิธ |
ดนตรีประกอบ | แอลัน ซิลเวสทรี |
บริษัทผู้สร้าง | |
ผู้จัดจำหน่าย | วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์ โมชันพิกเชอส์ |
วันฉาย | 24 เมษายน ค.ศ. 2019 (ไทย, จีน) 26 เมษายน ค.ศ. 2019 (สหรัฐ) |
ความยาว | 181 นาที[1] |
ประเทศ | สหรัฐ |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 356 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2] |
ทำเงิน | 2,798 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3] |
ก่อนหน้านี้ | อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล |
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคต่อจาก อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล ซึ่งเป็นภาคต่อจาก ดิ อเวนเจอร์ส และ อเวนเจอร์ส: มหาศึกอัลตรอนถล่มโลก ภาพยนตร์กำกับโดยแอนโทนี และ โจ รุสโซ เขียนบทโดยคริสโตเฟอร์ มาร์คัส และ สตีเวน แม็กฟีลีย์
ภาพยนตร์ได้มีการประกาศสร้างเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2014 ในชื่อ อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล – ภาค 2 พี่น้องรุสโซได้เข้ามารับหน้าที่กำกับในเดือนเมษายน ค.ศ. 2015 และในเดือนพฤษภาคม มาร์คัสและแม็กฟีลีย์ ได้เซ็นสัญญารับหน้าที่ในการเขียนบทภาพยนตร์ ต่อมาในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2016 มาร์เวลได้ทำการเปลี่ยนชื่อเรื่องโดยปัจจุบันยังไม่ได้กำหนดชื่อ ซึ่งภาพยนตร์ได้เริ่มถ่ายทำที่ ไพน์วูดแอตแลนตาสตูดิโอส์ ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2017 โดยถ่ายทำพร้อมกับเรื่อง อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล และถ่ายทำเสร็จสิ้นในเดือนมกราคม ค.ศ. 2018 ชื่อเรื่อง อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก เปิดเผยอย่างเป็นทางการในตัวอย่างภาพยนตร์ที่เผยแพร่ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2018
อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก ทำรายได้เปิดตัว 1,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดเป็นอันดับที่ 1[4] และเคยเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ด้วยรายได้กว่า 2,790 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[5] ก่อนที่ อวตาร จะกลับมาครองสถิตินี้คืนจากการกลับมาฉายซ้ำใน ค.ศ. 2021
การออกฉาย และเผยแพร่
อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก ออกฉายที่ประเทศไทยในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2019 ที่สหราชอาณาจักร วันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2019[6] และที่สหรัฐในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2019[7][8] ในระบบไอแมกซ์ และ สามมิติ[9][10]
โครงเรื่อง
เรื่องราวดำเนินเหตุการณ์หลังจาก อเวนเจอร์ส: มหาสงครามล้างจักรวาล แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์ และ กัปตัน มาร์เวล หลังธานอสเปิดใช้งานถุงมืออินฟินิตีสำเร็จ[N 1] ครอบครัวของคลินต์ บาร์ตันสลายไปพร้อมกับสิ่งมีชีวิตครึ่งจักรวาล เนบิวลาและโทนี สตาร์กถูกทิ้งไว้ในยานอวกาศพร้อมกับเสบียงที่ใกล้จะหมดลง แต่แครอล แดนเวอร์ส มาพบเข้าและช่วยพากลับสู่โลกมารวมกับทีมอเวนเจอร์สที่ยังเหลือ[N 2] ได้แก่ นาตาชา โรมานอฟ, บรูซ แบนเนอร์, สตีฟ โรเจอร์ส, ร็อกเก็ต, ธอร์ และเจมส์ โรดส์ สมาชิกในทีมวางแผนขโมยมณีอินฟินิตีคืนจากธานอสเพื่อใช้หินนั้นย้อนการกระทำของเขา และเดินทางไปยังดาวที่อยู่ของธานอสในปัจจุบัน แต่ก็พบว่าธานอสได้ใช้พลังของมณีทำลายตัวเองเพื่อไม่ให้มีใครนำไปใช้ได้อีก ธอร์บันดาลโทสะใช้ขวานบั่นศีรษะของธานอสจนสิ้นชีวิต
5 ปีต่อมา ค.ศ. 2023 ชาวโลกยังตกอยู่ในความเศร้าโศกจากการสูญเสีย แต่ธรรมชาติของโลกก็อุดมสมบูรณ์ ไม่มีสงคราม ไม่มีการขาดแคลน ไม่มีความขัดแย้งอีก สมาชิกทีมอเวนเจอร์สต่างใช้ชีวิตของตนเองต่อไป โรมานอฟเดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อรับคลินต์ บาร์ตัน กลับมาร่วมทีม แบนเนอร์ประสบความสำเร็จในการควบคุมฮัลค์ และประสานเข้าเป็นร่างเดียวกันในนามศาสตราจารย์ฮัลค์ ธอร์กลายเป็นผู้ปกครองขี้เมาไร้ความรับผิดชอบแห่งดินแดนนิวแอสการ์ดในทอนส์เบิร์ก ประเทศนอร์เวย์ สกอตต์ แลงหลบหนีออกจากมิติควอนสตัมได้ในที่สุด[N 3] เขาอธิบายต่อโรมานอฟและโรเจอร์สว่าแม้เวลาบนโลกจะผ่านไปถึงห้าปี แต่จากมุมมองของเขา เวลาในมิติควอนตัมผ่านไปเพียงห้าชั่วโมงเท่านั้น จึงตั้งสมมติฐานว่าสามารถใช้มิติควอนตัมในการเดินทางข้ามเวลาได้ ทั้งสามจึงนำแผนการไปเสนอต่อสตาร์ก ซึ่งบัดนี้ใช้ชีวิตเรียบง่ายกับเพพเพอร์ พ็อตส์ และบุตรสาวหนึ่งคน โดยเสนอให้เดินทางย้อนเวลาไปขโมยมณีอินฟินิตีจากช่วงเวลาต่าง ๆ ก่อนที่ธานอสจะสามารถรวบรวมได้ ตอนแรกสตาร์กปฏิเสธเนื่องจากกังวลว่าอาจมีผลกระทบต่อประวัติศาสตร์และเส้นเวลา แต่หลังจากรำลึกถึงความทรงจำจากรูปถ่ายของเขากับพีเตอร์ พาร์คเกอร์ ก็ตัดสินใจร่วมแผนการด้วยกัน
อเวนเจอร์สแยกกันเป็นสี่กลุ่มเพื่อทำภารกิจ แบนเนอร์, โรเจอร์ส, แลง, และสตาร์ก เดินทางไปเมืองนิวยอร์กในปี ค.ศ. 2012[N 4] แบนเนอร์ไปที่อาศรมเวทมนตร์เพื่อโน้มน้าวให้แองเชียนวันมอบมณีแห่งเวลาให้ ในตอนแรกแองเชียนวันปฏิเสธเนื่องจากการนำมณีอินฟินิตีออกจากเส้นเวลาของตัวเองจะส่งผลเสียต่อการดำรงอยู่ของจักรวาล แต่ก็มอบให้หลังจากแบนเนอร์เล่าให้ฟังถึงการตัดสินใจของดร.สเตรนจ์ และสัญญาจะนำมาคืนในภายหลัง โรเจอร์สหลอกสายลับไฮดราและสู้ชนะตัวเขาเองในปี ค.ศ. 2012 และชิงมณีแห่งจิตใจ (คฑาโลกิ) มาได้ แต่ความพยายามของแลงและสตาร์กในการขโมยมณีแห่งอวกาศกลับล้มเหลว และโลกิก็หลบหนีไปพร้อมกับเทสเซอแร็ค โรเจอร์สและสตาร์กจึงเปลี่ยนแผนโดยใช้อนุภาคพิมที่เหลืออยู่เดินทางไปยังค่ายทหารของกองทัพสหรัฐที่นิว เจอร์ซีย์ ในปี ค.ศ. 1970[N 5] พวกเขาขโมยมณีแห่งอวกาศมาจากที่นั่น รวมทั้งขวดของอนุภาคพิมจากแฮงก์ พิม และเดินทางกลับสู่ปัจจุบัน
ร็อกเก็ตและธอร์ เดินทางไปแอสการ์ดในปี ค.ศ. 2013 เพื่อดึงมณีแห่งภาวะเป็นจริงออกจากตัว เจน ฟอสเตอร์[N 6] และธอร์ได้นำค้อนมโยเนียร์จากช่วงเวลานั้นกลับมาด้วย[N 7] บาร์ตันและโรมานอฟเดินทางไปวอร์เมียร์ปี ค.ศ. 2014 และพบกับเรดสกัลล์ ผู้รักษามณีแห่งวิญญาณ ซึ่งอธิบายว่าการจะได้มณีแห่งวิญญาณมาจะต้องสละชีวิตของคนที่ตนรักเท่านั้น หลังจากถกเถียงและปะทะกันช่วงสั้น ๆ โรมานอฟเสียสละตัวเองเพื่อให้บาร์ตันได้รับมณีแห่งวิญญาณกลับไป
บนดาวโมแร็กในปีเดียวกัน เนบิวลาและโรดส์ ชิงมณีแห่งพลังมาก่อนที่ปีเตอร์ ควิลล์จะได้ไป[N 8] โรดส์กลับสู่ปัจจุบันพร้อมกับมณีแห่งพลัง แต่ความทรงจำในอุปกรณ์ไซเบอร์เนติกส์ของเนบิวลาจากยุคปัจจุบันเกิดแปรปรวนเข้ากับสัญญาณของเนบิวลาจากช่วงเวลานั้น ธานอสใช้การเชื่อมต่อนี้เข้าถึงความทรงจำของเนบิวลาและได้เห็นแผนของอเวนเจอร์สในอนาคต จึงให้เนบิวลาร่างอดีตปลอมตัวเป็นเนบิวลาในอนาคตและเดินทางกลับปัจจุบันในฐานะของสายลับ
เมื่อรวบรวมมณีอินฟินิตีได้ครบแล้ว ทีมอเวนเจอร์สได้สร้างถุงมือจำลองขึ้นและให้แบนเนอร์เป็นผู้ปลุกพลังของอัญมณีทั้งหมด เพื่อย้อนคืนสิ่งที่ธานอสทำลายไปให้กลับคืนมา ขณะเดียวกัน เนบิวลาจากอดีตที่แฝงตัวมาได้เดินเครื่องไทม์แมชชีน เรียกกองทัพของธานอสให้ปรากฏขึ้นในช่วงเวลาปัจจุบัน และทำลายฐานทัพอเวนเจอร์สจนพินาศย่อยยับ โรเจอร์ส, สตาร์ก และธอร์เข้าต่อสู้กับธานอส แต่ทั้งสามก็โดนธานอสเล่นงานจนเสียท่า แม้โรเจอร์สจะพิสูจน์ว่าตนเองคู่ควรกับค้อนมโยเนียร์และใช้มันสู้กับธานอสได้แล้วก็ตาม ตอนนั้นเองที่โรเจอร์สได้รับการติดต่อจากแซม วิลสัน และสมาชิกฮีโร่คนอื่น ๆ ที่เหลือก็ปรากฏตัวขึ้นจากการเปิดประตูมิติโดยดร.สเตรนจ์ รวมทั้งผู้ใช้เวทมนตร์คนอื่น ๆ ในโลก รวมทั้งกองทัพจากแอสการ์ด และทีมผู้พิทักษ์จักรวาลต่าง ๆ ด้วย ทั้งหมดเข้าต่อสู้กับกองทัพธานอสพร้อมกับพยายามนำมณีอินฟินิตีกลับคืนสู่อดีต แต่ธานอสแย่งถุงมือมาได้ และพยายามจะดีดนิ้วอีกครั้งเพื่อกำจัดทุกชีวิตในจักรวาล แต่สตาร์กแย่งมณีทั้งหมดมาได้ในขณะตะลุมบอนกัน และใช้พลังของมณีทั้งหมดทำให้ธานอสและกองทัพสลายไป แต่ตนเองก็ต้องเสียชีวิตลงจากพลังงานมหาศาลที่มณีปล่อยออกมา
หลังงานศพของสตาร์ก ธอร์มอบหมายให้วาลคีรีเป็นผู้ปกครองนิวแอสการ์ดคนต่อไป ส่วนตนเองออกเดินทางท่องไปในจักรวาลพร้อมกับเหล่าการ์เดียนสออฟเดอะกาแล็กซี โรเจอร์สเดินทางผ่านไทม์แมชชีนเพื่อนำมณีอินฟินิตีกลับไปคืนดังเดิม และตัดสินใจใช้ชีวิตของตนเองกับเพ็กกี คาร์เตอร์เป็นเวลาหลายสิบปี ก่อนเดินทางย้อนกลับมาในปัจจุบัน โรเจอร์สซึ่งแก่ชราแล้วมอบโล่ไวเบรเนียมให้แซม วิลสัน เพื่อรับหน้าที่กัปตันอเมริกาคนต่อไป
นักแสดง
ตัวละครหลัก
- รอเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบท โทนี่ สตาร์ก / ไอรอนแมน
- คริส อีแวนส์ รับบท สตีฟ โรเจอร์ส / กัปตันอเมริกา
- มาร์ค รัฟฟาโล รับบท ดร.บรูซ แบนเนอร์ / เดอะ ฮัลค์
- คริส เฮมส์เวิร์ธ รับบท ธอร์
- สการ์เล็ต โจแฮนสัน รับบท นาตาชา โรมานอฟ / แบล็ก วิโดว์
- เจเรมี เรนเนอร์ รับบท คลินท์ บาร์ตัน / โรนิน / ฮอว์คอาย
- ดอน ชีเดิล รับบท เจมส์ รูเพิร์ต "โรดดี" โรดส์ / วอร์มะชีน
- พอล รัด รับบท สกอตต์ แลง / แอนต์-แมน
- บรี ลาร์สัน รับบท แครอล แดนเวอร์ส / กัปตันมาร์เวล
- คาเรน กิลแลน รับบท เนบิวลา
- ดาไน กูริรา รับบท โอโคเย่
- เบเนดิกต์ หว่อง รับบท หว่อง
- จอน แฟฟโรว์ รับบท แฮปปี้ โฮแกน
- แบรดลีย์ คูเปอร์ รับบท ร็อคเก็ต แรคคูน
- กวินเน็ธ พัลโทรว์ รับบท เป็ปเปอร์ พอตต์ / เรสคิว
- เทสซา ธอมป์สัน รับบท วัลคีรี่
- จอช โบรลิน รับบท ธานอส
ตัวละครอื่น ๆ
- เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ รับบท ดอกเตอร์สเตรนจ์
- แชดวิก โบสแมน รับบท ที'ชาล์ลา / แบล็กแพนเทอร์
- ทอม ฮอลแลนด์ รับบท ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ / สไปเดอร์แมน
- โซอี ซัลดานา รับบท กาโมร่า
- เลทิเชีย ไรท์ รับบท ชูรี
- ปอม เกลม็องตีแย็ฟ รับบท แมนทิส
- เดฟ บอทิสตา รับบท แดร็กซ์
- ทิลดา สวินตัน รับบท ดิแองเชี่ยนวัน
- ทอม ฮิดเดิลสตัน รับบท โลกิ
- แอนโธนี่ แมคกี้ รับบท แซม วิลสัน / ฟอลคอน
- คริส แพร็ตต์ รับบท ปีเตอร์ ควิลล์ / สตาร์-ลอร์ด
- เซบาสเตียน สแตน รับบท บัคกี้ บาร์น / วินเทอร์ โซลเดอร์
- นาตาลี พอร์ตแมน รับบท เจน ฟอสเตอร์
- วิน ดีเซล รับบท กรู๊ท
- อลิซาเบธ โอลเซน รับบท แวนด้า แม็กซิมอฟฟ์ / สการ์เล็ตวิทช์
- อีแวนเจไลน์ ลิลลี รับบท โฮป แวน ไดน์ / เดอะวอสพ์
- แซมมูเอล แอล. แจ็กสัน รับบท นิค ฟิวรี่
- โคบี้ สมัลเดอร์ส รับบท มาเรีย ฮิลล์
- ไมเคิล ดักลาส รับบท แฮงก์ พิม
- มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์ รับบท เจเน็ท แวน ไดน์
- วิลเลียม เฮิร์ต รับบท รัฐมนตรีรอสส์
- เจค็อบ บาเทลอน รับบท เน็ด ลีดส์
- แองเจลา บาสเซตต์ รับบท รามอนดา
- เฮย์ลีย์ แอตเวลล์ รับบท เพ็กกี คาร์เตอร์
- เมริซา โทเม รับบท เมย์ ปาร์คเกอร์
- เรเน รุสโซ รับบท ฟริกก้า
- จอห์น สแลตเทอรี่ รับบท ฮาวเวิร์ด สตาร์ก
- ไทกา ไวทีที รับบท คอร์ค
- วินสตัน ดุ๊ก รับบท เอ็ม'บากู
- ลินดา คาร์เดลล์นิ รับบท ลอร่า บาร์ตัน
- แมคซิมิลาโน่ เฮอร์นานเดซ รับบท แจสเปอร์ ซิทเวลล์
- แฟรงก์ กริลโล รับบท บร็อค รุมโลว์
- โรเบิร์ต เรดฟอร์ด รับบท อเล็กซานเดอร์ เพียร์ซ
- รอสส์ มาร์แควนด์ รับบท เรดสกัลล์
- เคอร์รี่ คอร์ดอน รับบท ฟรายเดย์
- คัลแลน มัลเวย์ รับบท แจ๊ค โรลลินส์
- ไท ซิมพ์กินส์ รับบท ฮาร์ลี่ย์ คีเนอร์
- แจ็ก แชมเปียน รับบท เด็กบนจักรยาน
- ฌอน กันน์ รับบท แครคลิน ออบฟอนเทอริ
- เจมส์ ดี'อาร์ซี รับบท เอดวิน จาร์วิส
- เอมม่า เฟอร์แมน รับบท แคสซี่ แลงก์
- อเล็กซานดร้า เรบ รับบท มอร์แกน สตาร์ก (วัยเด็ก)
- แคทเทอร์รีน แลงก์ฟอร์ด รับบท มอร์แกน สตาร์ก (ตอนโต)
- ไมเคิล เจมส์ ชอว์ รับบท คอร์วัสเกลฟ
- แคร์รี่ย์ คูน รับบท พร็อกซิมามิดไนท์
- ทอม วาห์น-ลอว์เลอร์ รับบท อีโบนีมอว์
- เทอร์รี โนทารี รับบท คัลล์ออบซิเดียน
- โจ รุสโซ รับบท ผู้โศกเศร้า
- สแตน ลี รับบท คนขับรถ
รางวัล
อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก ได้รับรางวัลดังนี้
- โกลเดนเทรเลอร์อะวอดส์ ปี ค.ศ. 2019 สาขา Best Fantasy Adventure และ Best Fantasy Adventure TV Spot (for a Feature Film)[11]
- เอ็มทีวีมูวีแอนด์ทีวีอะวอดส์ ปี ค.ศ. 2019 สาขา Best Movie, Best Hero และ Best Villain[12]
- ทีนชอยส์อะวอดส์ ปี ค.ศ. 2019 สาขา Choice Action Movie, Choice Action Movie Actor (Robert Downey Jr.), Choice Action Movie Actress (Scarlett Johansson) และ Choice Movie Villain (Josh Brolin)[13]
- รางวัลแซทเทิร์น ปี ค.ศ. 2019 สาขา Best Comic-to-Film Motion Picture, Best Actor (Robert Downey Jr.), Best Production Design, Best Editing, Best Make-up และ Best Special Effects[14]
- ดรากอนอะวอดส์ ปี ค.ศ. 2019 สาขา Best Science Fiction or Fantasy Movie[15]
- ฮอลลีวูดฟิล์มอะวอดส์ ปี ค.ศ. 2019 สาขา Hollywood Blockbuster Award[16]
- พีเพิลส์ชอยซ์อะวอดส์ ปี ค.ศ. 2019 สาขา Movie of 2019, Action Movie of 2019 และ Male Movie Star of 2019 (Robert Downey Jr.)[17]
- ฮอลลีวูดมิวสิกอินมีเดียอะวอดส์ ปี ค.ศ. 2019 สาขา Best Original Score – Sci-fi/Fantasy (Alan Silvestri)[18]
- สมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์วอชิงตัน ดี.ซี. ปี ค.ศ. 2019 สาขา Best Motion Capture Performance (Josh Brolin)[19]
- สมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์เซนต์หลุยส์ ปี ค.ศ. 2019 สาขา Best Visual Effects[20]
- สมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์ออสติน ปี ค.ศ. 2020 สาขา Best Motion Capture/Special Effects Performance (Josh Brolin)[21]
- รางวัลมะเขือเทศทองคำ ปี ค.ศ. 2020 สาขา Best-Reviewed Wide Release และ Comic Book/Graphic Novel Movie[22]
- สมาคมนักวิจารณ์ฮอลลีวูด ปี ค.ศ. 2020 สาขา Best Blockbuster และ Best Visual Effects[23]
- คริติกส์ชอยส์มูฟวีอะวอดส์ ปี ค.ศ. 2020 สาขา Best Visual Effects และ Best Action Movie[24]
- รางวัลสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ ปี ค.ศ. 2020 สาขา Outstanding Action Performance by a Stunt Ensemble in a Motion Picture[25]
- รางวัลแอนนี ปี ค.ศ. 2020 สาขา Outstanding Achievement for Character Animation in a Live Action Production (Sidney Kombo-Kintombo)[26]
- รางวัลสมาคมผู้กำกับศิลป์ ปี ค.ศ. 2020 สาขา Excellence in Production Design for a Fantasy Film (Charles Wood)[27]
- โกลด์เดอร์บีอะวอดส์ ปี ค.ศ. 2020 สาขา Best Visual Effects (Dan DeLeeuw, Russell Earl, Matt Aitken และ Daniel Sudick)[28]