โมเฮนโจ-ดาโร
โมเฮนโจ-ดาโร (อังกฤษ: Mohenjo-daro, /moʊˌhɛndʒoʊ ˈdɑːroʊ/; สินธ์: موئن جو دڙو, muˑənⁱ dʑoˑ d̪əɽoˑ หมายถึง 'เนินของคนตาย';[2][3] อูรดู: موئن جو دڑو ) เป็นโบราณสถานในแคว้นสินธ์, ประเทศปากีสถาน ถูกสร้างประมาณ 2500 ปีก่อนคริสตกาล เป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดในอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุโบราณ และหนึ่งในเมืองยุคแรกสุดของโลก คู่กับอารยธรรมอียิปต์โบราณ, เมโสโปเตเมีย, ไมนอส และการัล เมื่ออารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุสิ้นสุดลง โมเฮนโจ-ดาโร ก็ถูกทิ้งไปในศตวรรษที่ 19 ก่อนคริสตกาล และไม่มีใครพบอีกเลยจนกระทั่งคริสตทศวรรษที่ 1920 และกลายเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกใน ค.ศ. 1980[4] ปัจจุบัน บริเวณมีความเสี่ยงจากการสึกกร่อนและการบูรณะที่ไม่ถูกต้อง[5]
ที่ตั้ง | ลาร์กานะฮ์, แคว้นสินธ์, ประเทศปากีสถาน |
---|---|
พิกัด | 27°19′45″N 68°08′20″E / 27.32917°N 68.13889°E |
ประเภท | ที่อยู่อาศัย |
พื้นที่ | 250 ha (620 เอเคอร์)[1] |
ความเป็นมา | |
สร้าง | ศตวรรษที่ 26–25 ก่อนคริสตกาล |
ละทิ้ง | ศตวรรษที่ 19 ก่อนคริสตกาล |
วัฒนธรรม | อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ |
ชื่อทางการ | ซากโบราณคดีที่โมเฮนโจดาโร |
เกณฑ์พิจารณา | วัฒนธรรม: ii, iii |
อ้างอิง | 138 |
ขึ้นทะเบียน | 1980 (สมัยที่ 4) |
พื้นที่ | 240 เฮกตาร์ |
ศัพทมูลวิทยา
ไม่มีใครทราบถึงชื่อเดิมของเมือง จากการวิเคราะห์ตราของโมเฮนโจ-ดาโร อิราวตัม มหาเทวัน (Iravatham Mahadevan) คาดการณ์ว่า ชื่อเก่าของเมืองนี้คือ กุกกุตารมะ (Kukkutarma "เมือง [-รมะ] ของไก่ตัวผู้ [กุกกุตะ]").[6] การแข่งไก่ชน อาจเป็นพิธีกรรมทางศาสนาของเมือง ซึ่งเต็มไปด้วยไก่ที่ใช้ในทางศาสนามากกว่าอาหาร โมเฮนโจ-ดาโรอาจเป็นจุดกระจายของการเลี้ยงไก่บ้านทั่วโลก[7]
ชื่อปัจจุบันของโมเฮนโจ-ดาโรมาจากการตีความหลายแบบ เช่น "เนินของคนตาย" ในภาษาสินธี และ "เนินของโมฮัน" (โมฮันคือพระกฤษณะ).[3][8]
ที่ตั้ง
โมเฮนโจ-ดาโร ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสินธุ ในอำเภอลาร์กานะฮ์, แคว้นสิทธ์, ประเทศปากีสถาน ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างแม่น้ำสินธุกับแม่น้ำฆักการ์-ฮักรา (Ghaggar-Hakra River) ตัวเมืองตั้งอยู่ในที่ราบน้ำท่วมถึงของลุ่มแม่น้ำสินธุ ห่างจากเมืองลาร์กานะฮ์ไปประมาณ 28 กิโลเมตร (17 ไมล์)[9] บริเวณสันเขาเคนเป็นที่โดดเด่นในอดีต เพราะสามารถป้องกันเมืองจากน้ำท่วม แต่หลังจากท่วมหลายครั้ง ทำให้สันเขาส่วนใหญ่จมลงไปในชั้นตะกอน แม่น้ำสินธุยังคงไหลในฝั่งตะวันออกของบริเวณนี้ แต่ทางที่แม่น้ำฆักการ์-ฮักราไหลผ่านในฝั่งตะวันตก ปัจจุบันแห้งสนิท[10]
ประวัติ
โมเฮนโจ-ดาโรถูกสร้างในศตวรรษที่ 26 ก่อนคริสตกาล[11] โดยเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุโบราณ ที่รู้จักกันในชื่อ อารยธรรมฮารัปปา[12] ซึ่งพัฒนาประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงสูงสุด อารยธรรมสินธุขยายไปไกลทั่วปากีสถานและอินเดีย โดยฝั่งตะวันตกถึงชายแดนประเทศอิหร่าน ทางใต้ถึงรัฐคุชราตของอินเดีย และทางเหนือถึงด่านนอกที่แบกเตรีย ที่มีใจกลางเมืองที่สำคัญอยู่ที่ฮารัปปา, โมเฮนโจ-ดาโร, โลธาล, คาลิบันกาน, โธฬาวีรา (Dholavira) และราคิการ์ฮี (Rakhigarhi) โมเฮนโจ-ดาโรเป็นเมืองที่พัฒนาที่สุดในเวลานั้น เพราะมีระบบวิศวกรรมโยธาและการผังเมืองที่ซับซ้อน[13] เมื่ออารยธรรมสินธุล่มสลายประมาณ 1900 ปีก่อนคริสตกาล โมเฮนโจ-ดาโรก็ถูกทิ้งไป[11]
นักโบราณคดีบางคนเชื่อว่า น้ำท่วมครั้งสุดท้ายทำให้ตัวเมืองจมลงไปในโคลน เป็นสาเหตุให้ต้องทิ้งเมืองไป[14]
ภูมิอากาศ
โมเฮนโจ-ดาโร มีภูมิอากาศแบบทะเลทรายเขตร้อน (การแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิพเพิน BWh) ที่มีฤดูร้อนสูงมากและมีฤดูหนาวอ่อน ๆ อุณหภูมิสูงสุดเท่าที่มีการบันทึกอยู่ที่ 53.5 องศาเซลเซียส (128.3 องศาฟาเรนไฮต์) และอุณหภูมิที่ต่ำที่สุดเท่าที่มีการบันทึกคือ −5.4 องศาเซลเซียส (22.3 องศาฟาเรนไฮต์) บริเวณนี้ไม่ค่อยมีฝน แต่จะมีในช่วงฤดูมรสุม (กรกฎาคม–กันยายน) ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีของโมเฮนโจ-ดาโร อยู่ที่ 100.1 มม. และมักเกิดในฤดูมรสุม ใน ค.ศ. 1994 มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีสูงสุดอยู่ที่ 413.1 มม. และใน ค.ศ. 1987 มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีน้อยสุดอยู่ที่ 10 มม.
ข้อมูลภูมิอากาศของโมเฮนโจ-ดาโร | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 29.4 (84.9) | 36.5 (97.7) | 45.5 (113.9) | 48.5 (119.3) | 53.5 (128.3) | 51.7 (125.1) | 47.6 (117.7) | 46.0 (114.8) | 43.5 (110.3) | 49.5 (121.1) | 39.2 (102.6) | 30.6 (87.1) | 53.5 (128.3) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 24.8 (76.6) | 26.2 (79.2) | 32.1 (89.8) | 38.7 (101.7) | 43.8 (110.8) | 44.2 (111.6) | 40.9 (105.6) | 38.7 (101.7) | 37.5 (99.5) | 35.2 (95.4) | 30.5 (86.9) | 24.8 (76.6) | 34.78 (94.61) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 16.0 (60.8) | 17.0 (62.6) | 22.7 (72.9) | 28.8 (83.8) | 33.9 (93) | 35.8 (96.4) | 34.4 (93.9) | 32.8 (91) | 31.1 (88) | 26.7 (80.1) | 21.1 (70) | 16.0 (60.8) | 26.36 (79.45) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 7.3 (45.1) | 7.9 (46.2) | 13.3 (55.9) | 18.9 (66) | 24.0 (75.2) | 27.4 (81.3) | 27.9 (82.2) | 27.0 (80.6) | 24.7 (76.5) | 18.2 (64.8) | 11.8 (53.2) | 7.3 (45.1) | 17.98 (64.36) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | −5.4 (22.3) | -4.0 (24.8) | 2.2 (36) | 3.0 (37.4) | 13.0 (55.4) | 15.6 (60.1) | 18.4 (65.1) | 18.0 (64.4) | 14.5 (58.1) | 0.0 (32) | -1.0 (30.2) | -4.0 (24.8) | −5.4 (22.3) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 2.6 (0.102) | 5.8 (0.228) | 3.4 (0.134) | 2.9 (0.114) | 2.2 (0.087) | 2.5 (0.098) | 39.9 (1.571) | 26.6 (1.047) | 6.6 (0.26) | 0.4 (0.016) | 0.9 (0.035) | 6.3 (0.248) | 100.1 (3.941) |
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย | 0.2 | 0.5 | 0.9 | 0.2 | 0.3 | 0.4 | 1.9 | 1.4 | 0.3 | 0.1 | 0.1 | 0.3 | 6.6 |
แหล่งที่มา: PMD (1991–2020) [15] |
ดูเพิ่ม
- รายชื่อป้อมในประเทศปากีสถาน
- รายชื่อที่ตั้งของอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ
- รายชื่อพิพิธภัณฑ์ในประเทศปากีสถาน
- รายชื่อแหล่งมรดกโลกในประเทศปากีสถาน
- เมฮ์การ์ฮ (Mehrgarh)
อ้างอิง
บรรณานุกรม
- Chaudhury, N. C. Mohenjo-Daro and the Civilization of Ancient India with References to Agriculture. Calcutta: W. Newman & Co, 1937.
- Mackay, E. J. H., ed. (1937). Further Excavations At Mohenjo-daro: Being an official account of Archaeological Excavations at Mohenjo-Daro carried out by the Government of India between the years 1927 and 1931.
- Marshall, John Hubert, ed. (1931). Mohenjo-Daro and the Indus Civilization: Being an official account of Archaeological Excavations at Mohenjo-Daro carried out by the Government of India between the years 1922 and 1927. Arthur Probsthain
- McIntosh, Jane (2008). The Ancient Indus Valley: New Perspectives. ABC-CLIO, 2008. ISBN 978-1-57607-907-2
แหล่งข้อมูลอื่น
- Official website of Mohenjodaro
- UNESCO World Heritage Sites
- 103 Slide Tour and Essay on Mohenjo-daro by Dr. J.M. Kenoyer