การจราจรซ้ายมือและขวามือ

การจราจรซ้ายมือ (อังกฤษ: left-hand traffic; LHT) และการจราจรขวามือ (อังกฤษ: right-hand traffic; RHT) เป็นกฎระเบียบที่กำหนดสำหรับการจราจรแบบสองทิศทางทุกรูปแบบให้ขับยานพาหนะชิดซ้ายหรือชิดขวาบนถนนยกเว้นในกรณีอื่น ๆ ที่กำหนด[1] การจราจรนี้เป็นพื้นฐานของทิศทางจราจรซึ่งในบางครั้งถูกเรียกว่าเป็นกฎของถนน (อังกฤษ: rule of the road)[2]

ตำแหน่งมือในการจราจรของแต่ละประเทศในปัจจุบัน
  ⇵ การจราจรขวามือ
  ⇅ การจราจรซ้ายมือ
ประเทศที่เปลี่ยนระบบจราจร
  ขับรถชิดขวา
  ปัจจุบันขับรถชิดขวา, อดีตขับรถชิดซ้าย
  ขับรถชิดซ้าย
  ปัจจุบันขับรถชิดซ้าย, อดีตขับรถชิดขวา
  อดีตขับรถแตกต่างกันทั้งชิดซ้ายและชิดขวา, ปัจจุบันขับรถชิดขวา
ประเทศโดยพวงมาลัยรถ ตามหน่วยระยะทาง/ความเร็ว
  ขับรถชิดซ้าย, กิโลเมตร
  ขับรถชิดซ้าย, ไมล์
  ขับรถชิดขวา, กิโลเมตร
  ขับรถชิดขวา, ไมล์
  ขับรถชิดขวา, ไมล์ และ กิโลเมตร

มี 163 ประเทศและดินแดนที่ใช้การจราจรขวามือ ในขณะที่ 76 ประเทศที่เหลือใช้การจราจรซ้ายมือ ประเทศที่ใช้การจราจรซ้ายมือคิดเป็น 1 ใน 6 ของพื้นที่และ 1 ใน 4 ของถนนบนโลก [3] ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1900 บางประเทศรวมถึงแคนาดา สเปน และบราซิลมีกฎของการจราจรที่ต่างกันในแต่ละพื้นที่ของประเทศ และระหว่างทศวรรษที่ 1900 หลายประเทศได้กำหนดมาตรฐานในเขตอำนาจรัฐและเปลี่ยนจากการจราจรซ้ายมือเป็นขวามือเพื่อให้สอดคล้องกับขนบธรรมเนียมในแต่ละภูมิภาค ใน ค.ศ. 1919 มี 104 ประเทศในโลกที่ใช้การจราจรซ้ายมือและอีกครึ่งเป็นขวามือ ตั้งแต่ ค.ศ. 1919 ถึง 1986 มี 34 ประเทศที่เปลี่ยนการจราจรซ้ายมือเป็นขวามือ[4]

หลายประเทศที่ใช้การจราจรซ้ายมือประกอบด้วยอดีตอาณานิคมของอังกฤษในแคริบเบียน แอฟริกาตอนใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สำหรับญี่ปุ่น ไทย เนปาล ภูฏาน โมซัมบิก ซูรินาเม ติมอร์ตะวันออก และอินโดนีเซียเป็นประเทศที่ใช้การจราจรซ้ายมือนอกเหนือจากจักรวรรดิอังกฤษ ในทวีปยุโรปมีเพียงสี่ประเทศยังคงขับยานพาหนะชิดซ้ายประกอบด้วยสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ มอลตา และไซปรัสซึ่งประเทศทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนเกาะที่ไม่มีถนนเชื่อมต่อโดยตรงกับประเทศที่ขับยานพาหนะชิดขวา

เกือบทุกประเทศใช้เพียงการจราจรเดียวสำหรับทุกพื้นที่ในประเทศ ข้อยกเว้นส่วนใหญ่มาจากดุลยพินิจในอดีตและ/หรือเกี่ยวข้องกับการที่หมู่เกาะไม่มีการเชื่อมต่อกับพื้นที่หลักของประเทศ จีนใช้การจราจรขวามือยกเว้นในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊า สหรัฐใช้การจราจรขวามือยกเว้นหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ[5] สหราชอาณาจักรใช้การจราจรซ้ายมือแต่ดินแดนโพ้นทะเลยิบรอลตาร์และบริติชอินเดียนโอเชียนเทร์ริทอรีใช้การจราจรขวามือ

ตามที่อนุสัญญาว่าด้วยกฎข้อบังคับระหว่างประเทศสำหรับป้องกันเรือโดนกันในทะเล การจราจรทางน้ำจะใช้การจราจรขวามือ สำหรับอากาศยานข้อบังคับว่าด้วยการบินแห่งชาติของสหรัฐกำหนดให้มีการบินผ่านไปทางขวาทั้งในอากาศและทางน้ำ[6]

ในส่วนของทางรถไฟทางคู่ การจราจรบนทางรถไฟโดยทั่วไปวิ่งไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งของเส้นทางซึ่งแตกต่างจากถนน ด้วยเหตุนี้ในเบลเยียม จีน ฝรั่งเศส (นอกเหนือจากแคว้นอาลซัสและลอแรนของเยอรมันในอดีต) สวีเดน (นอกเหนือจากเมืองมัลโมและทางตอนใต้) สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลีเป็นตัวอย่างของการจราจรบนทางรถไฟจะใช้การจราจรซ้ายมือ ในขณะที่ถนนจะใช้การจราจรขวามือ เนื่องจากได้รับอิทธิพลของระบบรถไฟจากอังกฤษในช่วงต้น แต่ในบางประเทศเช่นอินโดนีเซียกลับตรงข้ามกัน (ใช้การจราจรขวามือสำหรับทางรถไฟและการจราจรซ้ายมือสำหรับถนน) รถไฟรางเบาและระบบขนส่งมวลชนเร็วมักใช้ระบบเดียวกับการจราจรบนถนนในประเทศ (ยกเว้นในมาดริด โรม ลิสบอน ลียง สต็อกโฮล์ม ไคโร ลิมา บัวโนสไอเรส เทรนดอลาคอสและสายลิดินโกของสต็อกโฮล์ม

ไม่มีเหตุผลทางเทคนิคว่าการขับชิดฝั่งไหนดีมากกว่ากัน[7] ในกลุ่มประชากรที่มีสุขภาพแข็งแรงความปลอดภัยในการจราจรจะเท่ากันโดยไม่คำนึงถึงความถนัดของมือ แม้ว่านักวิจัยบางคนสันนิษฐานว่าการจราจรซ้ายมืออาจปลอดภัยมากกว่าสำหรับประชากรสูงอายุ[8] เนื่องจากมนุษย์โดยปกติมีความถนัดของตาขวามากกว่าตาซ้าย[9]

ประวัติ

ประวัติในอดีตของตำแหน่งมือในการจราจรของแต่ละประเทศใน ค.ศ. 1900
  ⇵ การจราจรขวามือ
  ⇅ การจราจรซ้ายมือ

ในสมัยโบราณ กองทัพกรีก อียิปต์ และโรมันจัดวางแนวขบวนไว้ทางซ้ายมือ[10] ใน ค.ศ. 1998 นักโบราณคดีค้นพบถนนทางคู่ที่ยังคงสภาพเดิมไว้ซึ่งนำทางสู่เหมืองหินสมัยโรมันใกล้สวินดันทางตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ช่องของถนนทางด้านซ้าย (มองจากเส้นทางที่ออกจากเหมืองหิน) มีความลึกที่มากกว่าฝั่งขวาซึ่งน่าจะเป็นการจราจรซ้ายมืออย่างน้อยในสถานที่นี้ เนื่องจากเกวียนจะออกจากเหมืองหินด้วยการบรรทุกหินจำนวนมากก่อนจะเทออกในภายหลัง [11]

การอ้างถึงการจราจรเป็นครั้งแรกเริ่มในกฎหมายอังกฤษซึ่งกำหนดให้ใช้การจราจรซ้ายมือใน ค.ศ. 1756 ซึ่งเกี่ยวข้องกับสะพานลอนดอน [12]

นักประวัติศาสตร์บางคนเช่นซี. นอร์ทโคท พาร์กินสัน เชื่อว่านักเดินทางขี่ม้าหรือเดินเท้าในสมัยโบราณโดยทั่วไปจะชิดซ้ายเนื่องจากคนส่วนใหญ่ถนัดมือขวา ถ้าคนขี่ม้าสองคนจะเริ่มการต่อสู้แต่ละคนจะชิดไปทางซ้าย[10] ใน ค.ศ. 1300 สมเด็จพระสันตะปาปาบอนิเฟซที่ 8กำหนดให้ผู้แสวงบุญเดินชิดซ้ายมือ[10]

ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1700 การจราจรในสหรัฐเป็นการจราจรขวามือซึ่งมาจากเกวียนบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ของคนขับรถบรรทุกซึ่งถูกพ่วงด้วยม้าจำนวนมาก เกวียนจะไม่มีที่นั่งคนขับทำให้คนขับรถ (โดยทั่วไปถนัดขวา) ใช้มือขวาถือแส้และนั่งอยู่บนหลังม้าทางซ้าย คนขับรถต้องการให้เกวียนคันอื่น ๆ เดินผ่านไปทางซ้ายเพื่อให้เขาสามารถมั่นใจได้ว่าจะมองเห็นล้อของเกวียนที่กำลังสวนมาได้ชัดเจน[13]

ในฝรั่งเศส การจราจรทางเท้าแบบดั้งเดิมจะเดินชิดขวาขณะที่การจราจรของรถจะชิดซ้าย หลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศสการจราจรทั้งหมดถูกกำหนดให้ชิดขวา [12] ตามด้วยสงครามนโปเลียนฝรั่งเศสได้กำหนดให้ใช้การจราจรขวามือในบางส่วนของยุโรป ในช่วงยุคอาณานิคมการจราจรขวามือถูกใช้โดยฝรั่งเศสในฝรั่งเศสใหม่ แอฟริกาตะวันตกของฝรั่งเศส มาเกร็บ อินโดจีนของฝรั่งเศส หมู่เกาะเวสต์อินดีส เฟรนช์เกียนา และเรอูนียง

ในขณะเดียวกันการจราจรซ้ายมือถูกใช้โดยอังกฤษในแอตแลนติกแคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รัฐในอารักขาแอฟริกาตะวันออก บริติชอินเดีย เซาเทิร์นโรดีเชีย และอาณานิคมเคป (ซิมบับเวและแอฟริกาใต้ในปัจจุบัน) บริติชมาลายา (มาเลเซีย บรูไน และสิงคโปร์ในปัจจุบัน) บริติชเกียนา และบริติชฮ่องกง การจราจรซ้ายมือยังถูกใช้โดยจักรวรรดิโปรตุเกสในมาเก๊าของโปรตุเกส อาณานิคมบราซิล ติมอร์ตะวันออก โมซัมบิกของโปรตุเกส และแองโกลา

กฎหมายแรกที่กำหนดให้การขับขี่ในประเทศสหรัฐชิดขวาเริ่มใน ค.ศ. 1792 และถูกใช้บนทางด่วนฟิลาเดลเฟียและแลงคาสเตอร์[7] รัฐนิวยอร์กใช้การจราจรขวามืออย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1804 รัฐนิวเจอร์ซีย์ใน ค.ศ. 1813 และรัฐแมสซาชูเซตส์ใน ค.ศ. 1821[14]

การเปลี่ยน

ยุโรป

แผนที่การจราจรซ้ายมือและขวามือในทวีปยุโรป
เปลี่ยนการจราจรจากชิดซ้ายเป็นชิดขวาในสต็อกโฮล์ม, สวีเดน ในวันที่ 3 กันยายน 1967
  • สหราชอาณาจักร - ขับรถชิดซ้าย ยกเว้นยิบรอลตาร์และบริติชอินเดียนโอเชียนเทร์ริทอรีที่ขับรถชิดขวา
  • ออสเตรีย-ฮังการี - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาหลังจักรวรรดิล่มสลาย
  • ออสเตรีย - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาหลังจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีล่มสลาย
  • ฮังการี - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาหลังจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีล่มสลาย
  • บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาหลังจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีล่มสลาย
  • สโลวีเนีย - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาหลังจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีล่มสลาย
  • โครเอเชีย - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาหลังจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีล่มสลาย
  • เชโกสโลวาเกีย - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาหลังจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีล่มสลายและถูกนาซีเยอรมนียึด
  • เช็กเกีย - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาตามเชโกสโลวาเกีย
  • สโลวาเกีย - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาตามเชโกสโลวาเกีย
  • สวีเดน - เคยขับรถชิดซ้ายตั้งแต่ ค.ศ. 1734-1967 ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • ฟินแลนด์ - เคยขับรถชิดซ้ายจนถึงปี ค.ศ. 1858 ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาหลังจากถูกปกครองโดยรัสเซีย
  • โปรตุเกส - เคยขับรถชิดซ้ายจนถึงปี ค.ศ. 1920 ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • ไอซ์แลนด์ - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1968
  • เนเธอร์แลนด์ - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1906

เอเชียและแปซิฟิก

แผนที่การจราจรซ้ายมือและขวามือในเอเชียตะวันออก
ป้ายเตือนนักท่องเที่ยวให้ขับรถอยู่ด้านซ้ายในประเทศออสเตรเลีย
  • ญี่ปุ่น - ขับรถชิดซ้าย ส่วนหมู่เกาะรีวกีวเคยขับรถชิดขวาหลังถูกสหรัฐปกครองแต่ก็เปลี่ยนมาขับรถชิดซ้ายหลังสหรัฐคืนดินแดนให้ญี่ปุ่น
  • จีน - ได้เปลี่ยนขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1946 ไต้หวันได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา ฮ่องกงและมาเก๊าขับรถชิดซ้าย
  • เกาหลีใต้ - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1945
  • เกาหลีเหนือ - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1945
  • พม่า - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1970
  • ซามัว - เคยขับรถชิดขวา ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดซ้ายในปี ค.ศ. 2009
  • ฟิลิปปินส์ - เคยขับรถชิดซ้ายในช่วงญี่ปุ่นยึดครอง ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1946
  • อินโดนีเซีย - ขับรถชิดซ้ายมาตั้งแต่ต้น ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา และได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดซ้ายในปี ค.ศ. 1975
  • ติมอร์-เลสเต - ขับรถชิดซ้ายมาตั้งแต่ต้น ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1928 และได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดซ้ายในปี ค.ศ. 1976
  • อิสราเอล - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • อิรัก - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • คูเวต - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • จอร์แดน - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • บาห์เรน - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1967
  • กาตาร์ - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • อัฟกานิสถาน - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในทศวรรษ 1950

แอฟริกา

ป้ายวงเวียนสำหรับการจราจรด้านซ้าย
ป้ายวงเวียนสำหรับการจราจรด้านขวา
เคนยาขับรถชิดซ้าย
  • เซียร์ราลีโอน - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1971
  • ไนจีเรีย - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1972
  • กานา - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1974
  • แกมเบีย - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1965
  • ซูดาน - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1973
  • เซาท์ซูดาน - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1973
  • แองโกลา - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • เอธิโอเปีย - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • เอริเทรีย - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • จิบูตี - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • โซมาเลีย - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • นามิเบีย - เคยขับรถชิดขวา ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดซ้ายในปี ค.ศ. 1920
  • แทนซาเนีย - เคยขับรถชิดขวา ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดซ้ายในปี ค.ศ. 1918
  • รวันดา - ขับรถชิดขวา ตั้งใจจะเปลี่ยนมาขับรถชิดซ้าย
  • บุรุนดี - ขับรถชิดขวา ตั้งใจจะเปลี่ยนมาขับรถชิดซ้าย

อเมริกาเหนือ

ในแคนาดาใช้การจราจรทางซ้ายก่อนถึงช่วงปี ค.ศ. 1920 (ในภาพนี้ถ่ายขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1898 ที่เซนต์จอห์น, รัฐนิวบรันสวิก)
  • สหรัฐ - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนมาขับรถชิดขวา ยกเว้นหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐที่ยังขับรถชิดซ้าย
  • แคนาดา - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในทศวรรษ 1920
  • เบลีซ - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1961

อเมริกาใต้

ประเทศโคลอมเบียขับรถชิดขวา
  • บราซิล - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวาในปี ค.ศ. 1928
  • อาร์เจนตินา - เคยขับรถชิดซ้าย ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา
  • อุรุกวัย - เคยขับรถชิดซ้ายตั้งแต่ ค.ศ. 1918-1945 ได้เปลี่ยนเป็นขับรถชิดขวา

การเปลี่ยนตามเขตแดน

ป้ายสลับการจราจรซ้าย-ขวาในสะพานมิตรภาพไทย–ลาว

ประเทศไทยคือประเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศที่ขับรถคนละด้าน คิดเป็นสัดส่วนมากที่สุดในโลก คือมีพรมแดนติดกับ พม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซีย มีแค่มาเลเซียที่ขับรถด้านเดียวกับไทย ที่เหลือติดกับประเทศที่ขับรถคนละด้านกับไทยทั้งหมด

ฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่เชื่อมและเปลี่ยนเส้นทางกันในปี ค.ศ. 2006

สะพานข้ามแม่น้ำตากุตุเป็นเขตแดนเปลี่ยนเส้นทางระหว่างกายอานากับบราซิล

สหราชอาณาจักรเชื่อมเส้นทางเข้ายุโรปแผ่นดินใหญ่ทางช่องแคบอังกฤษ โดยทางเชื่อมอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ

การจราจรทางราง

การจราจรทางรางซ้ายมือและขวามือทั่วโลก
  รถไฟใช้รางด้านขวา
  รถไฟใช้รางด้านซ้าย

หลายรัฐในยุโรปมีการจราจรขวามือสำหรับถนน แต่มีการจราจรซ้ายมือสำหรับรถไฟ: เบลเยียม, อิตาลี, โมนาโก, โปรตุเกส, สโลวีเนีย, สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนฝรั่งเศสมีรจราจรซ้ายมือสำหรับรถไฟ ยกเว้นอัลซาซ-ลอร์แรนซึ่งเป็นดินแดนฝรั่งเศสตะวันออก ซึ่งเคยเป็นของเยอรมนีในประวัติศาสตร์ ส่วนสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์มีการจราจรซ้ายมือทั้งทางถนนและทางราง

การจราจรทางเรือ

ระเบียงภาพ

อ้างอิง

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง