ฌาอีร์ โบลโซนารู
ฌาอีร์ เมซีอัส โบลโซนารู (โปรตุเกส: Jair Messias Bolsonaro; เกิด 21 มีนาคม พ.ศ. 2498) เป็นนักการเมืองและเป็นอดีตทหารกองทัพบกบราซิล เขาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบราซิลตั้งแต่ พ.ศ. 2534 และปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคสังคมเสรีนิยม โบลโซนารูเป็นบุคคลหนึ่งที่เป็นประเด็นโต้เถียงในบราซิล โดยเป็นที่รู้จักจากมุมมองทางการเมืองฝ่ายขวาจัดและประชานิยม รวมทั้งการแสดงความเห็นเชิงสนับสนุน ระบอบเผด็จการทหารระหว่าง พ.ศ. 2507–2528[1][2][3][4]
ฌาอีร์ โบลโซนารู | |
---|---|
โบลโซนารูใน พ.ศ. 2562 | |
ประธานาธิบดีบราซิล คนที่ 38 | |
ดำรงตำแหน่ง 1 มกราคม พ.ศ. 2562 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 | |
รองประธานาธิบดี | อามิลตง โมเรา |
ก่อนหน้า | มีแชล เตเมร์ |
ถัดไป | ลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบราซิล | |
ดำรงตำแหน่ง 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561 | |
เขตเลือกตั้ง | รัฐรีโอเดจาเนโร |
เทศมนตรีนครรีโอเดจาเนโร | |
ดำรงตำแหน่ง 1 มกราคม พ.ศ. 2532 – 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 | |
เขตเลือกตั้ง | อิสระ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ฌาอีร์ เมซีอัส โบลโซนารู 21 มีนาคม พ.ศ. 2498 กลีแซรียู, รัฐเซาเปาลู, บราซิล |
พรรคการเมือง | เสรีนิยม (2564–ปัจจุบัน) |
การเข้าร่วม พรรคการเมืองอื่น | ดูรายการ
|
คู่สมรส |
|
บุตร | 5 คน รวมถึงFlávio, Carlos และเอดัวร์ดู |
ศิษย์เก่า | สถาบันเตรียมทหารอากุลยัสเนกรัส |
ลายมือชื่อ | |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ทางการ |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | บราซิล |
สังกัด | กองทัพบราซิล |
ประจำการ | พ.ศ. 2514–2531 |
ยศ | ร้อยเอก |
บังคับบัญชา |
|
โบลโซนารูเข้าร่วมกองทัพบราซิลในปี พ.ศ. 2516 และสำเร็จการศึกษาวิชาทหารจากสถาบันเตรียมทหารอากุลยัสเนกรัสในปี พ.ศ. 2520 ในปี พ.ศ. 2529 เขามีชื่อเสียงจากการลงบทความในนิตยสารชื่อดังภายในประเทศวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับปัญหารายได้ต่ำของทหารชั้นผู้น้อย[5] ส่งผลให้เขาถูกจับกุมและถูกจำคุก 15 ปีและถูกปลดออกจากกองทัพ เขาจึงหันเข้าสู่สนามการเมืองโดยเริ่มต้นจากการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐรีโอเดจาเนโรในปี พ.ศ. 2533 และดำรงตำแหน่งนี้ร่วม 27 ปี จากนั้นเขาได้ลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งทั่วไปใน พ.ศ. 2561 และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในการเลือกครั้งที่สอง[4] ซึ่งในสมัยที่เขาดำรงตำแหน่ง เขาดำเนินนโยบายแก้ปัญหาความยากจนของชาวบราซิลรวมทั้งลดปัญหาอาชญากรรมในประเทศ อย่างไรก็ตามด้วยนโยบายของเขาที่เอื้อให้เกิดการทำลายระบบนิเวศในเขตพื้นที่ป่าดิบชื้นแอมะซอน[6] และการบริหารในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019ที่ไร้ประสิทธิภาพโดยรัฐบาลของเขา ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จนเกิดการประท้วงต่อต้านเขาและรัฐบาลของเขาทั่วประเทศ[7] โดยมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศบราซิลร่วม 500,000 คน[8][9] ส่งผลให้เขาถูกฟ้องร้องในข้อหาอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติจากการบริหารสถานการณ์ดังกล่าวที่เป็นไปอย่างไม่สู้ดีนัก
ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลเมื่อปี พ.ศ. 2565 เขาพ่ายแพ้ให้แก่ลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวาซึ่งส่งผลให้ลูลาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง[10] หลังจากนั้นเขาได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐเป็นส่วนใหญ่[11][12] และเกิดการจลาจลในปีเดียวกันจากฝ่ายผู้สนับสนุเขาที่บุกเข้าไปในรัฐสภาของบราซิลเพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านการดำรงตำแหน่งของลูลา[13]
ในทัศนคติทางการเมืองของเขาจัดอยู่ในกลุ่มขวาจัด และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐ[14]และประเทศอิสราเอล[15]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- ประธานาธิบดีบราซิล (ในภาษาโปรตุเกส)
- Profile in the Chamber of Deputies