ภาษาคุชราต
ภาษาคุชราต (คุชราต: ગુજરાતી, อักษรโรมัน: Gujarātī, คุชราตี, ออกเสียง: [ɡudʒˈɾɑːtiː]) เป็นภาษากลุ่มอินโด-อารยันในรัฐคุชราต ประเทศอินเดีย โดยหลักพูดโดยชาวคุชราต ภาษาคุชราตสืบต้นตอจากภาษาคุชราตเก่า (ป. ค.ศ. 1100–1500) โดยมีสถานะเป็นภาษาราชการในรัฐคุชราตและดินแดนสหภาพดาดราและนครหเวลี และดามันและดีอู ณ ค.ศ. 2011 ภาษาคุชราตเป็นภาษาที่มีผู้พูดมากเป็นอันดับที่ 6 ของประเทศอินเดียตามจำนวนผู้พูดภาษาแม่ (55.5 ล้านคน ซึ่งเท่ากับประมาณ 4.5% ของประชากรทั้งประเทศ)[2] ณ ค.ศ. 2007 ภาษานี้เป็นภาษาที่มีผู้พูดมากในอันดับที่ 26 ของโลกตามจำนวนผู้พูดภาษาแม่[5]
ภาษาคุชราต | |
---|---|
ગુજરાતી | |
ศัพท์ "คุชราต" ในอักษรคุชราต | |
ออกเสียง | [ɡudʒəˈɾɑːtiː] |
ประเทศที่มีการพูด | ประเทศอินเดีย |
ภูมิภาค | รัฐคุชราต |
ชาติพันธุ์ | ชาวคุชราต |
จำนวนผู้พูด | 56 ล้านคน (2011)[1][2] ผู้พูดภาษาที่สอง: 4 ล้านคน[1] |
ตระกูลภาษา | อินโด-ยูโรเปียน
|
รูปแบบก่อนหน้า | Shauraseni Prakrit
|
ระบบการเขียน |
|
สถานภาพทางการ | |
ภาษาทางการ | อินเดีย |
ภาษาชนกลุ่มน้อยที่รับรองใน | แอฟริกาใต้ (ภาษาที่ได้รับการป้องกัน)[4] |
ผู้วางระเบียบ | Gujarat Sahitya Akademi, รัฐบาลรัฐคุชราต |
รหัสภาษา | |
ISO 639-1 | gu |
ISO 639-2 | guj |
ISO 639-3 | guj |
Linguasphere | 59-AAF-h |
แผนที่ขอบเขตภาษาคุชราต สีแดงอ่อนคือบริเวณที่เป็นภาษาของชนกลุ่มน้อย และสีแดงเข้มมีประชากรที่ผู้ภาษานี้จำนวนมาก |
ภาษาคุชราตมีอายุมากกว่า 1,000 ปี และมีผู้พูดมากกว่า 55 ล้านคนทั่วโลก[6] มีผู้อพยพชาวคุชราตที่ใช้ภาษานี้ในเอเชียใต้ส่วนอื่น โดยเฉพาะในมุมไบและปากีสถาน (ส่วนใหญ่อยู่ในการาจี)[7] และยังมีหลายประเทศนอกเอเชียใต้ที่ผู้พลัดถิ่นชาวคุชราตใช้ภาษานี้ ในทวีปอเมริกาเหนือ ภาษาคุชราตถือเป็นหนึ่งในภาษากลุ่มอินเดียที่เติบโตเร็วที่สุดและใช้พูดมากที่สุดในสหรัฐและแคนาดา[8][9] ในทวีปยุโรป ภาษาคุชราตเป็นภาษาที่มีจำนวนผู้พูดมากเป้นอันดับ 2 ในชาวอังกฤษเอเชียใต้ และเป็นภาษาที่มีผู้พูดในลอนดอนมากเป้นอันดับที่ 4[10] นอกจากนี้ยังมีผู้พูดในแอริกาตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในเคนยา, ยูกันดา, แทนซาเนีย, แซมเบีย และแอฟริกาใต้[11][12][13] ส่วนทที่เหลือ มีจำนวนผู้พูดน้อยในฮ่องกง, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ออสเตรเลีย และประเทศแถบตะวันออกกลางอย่างบาห์เรนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์[11][14][15]
ประวัติ
ภาษาคุชราตเป็นภาษากลุ่มอินโด-อารยันสมัยใหม่ที่พัฒนามาจากภาษาสันสกฤตโดยทั่วไปแบ่งภาษาในกลุ่มนี้ออกเป็น 3 กลุ่มตามระยะเวลาคือ:[16]
- ภาษากลุ่มอินโด-อารยันโบราณ ได้แก่ภาษาพระเวทและภาษาสันสกฤตคลาสสิก
- ภาษากลุ่มอินโด-อารยันยุคกลางได้แก่ภาษาปรากฤตสำเนียงต่างๆ และภาษาอปพราหมศัส
- ภาษากลุ่มอินโด-อารยันสมัยใหม่ เช่น ภาษาฮินดี ภาษาปัญจาบ ภาษาเบงกอล
จากทั้งสามกลุ่มที่กล่าวมา ภาษาคุชราตมีพัฒนาการแยกจากภาษากลุ่มอินโด-อารยันอื่นๆเป็น 4 ขั้นตอนด้วยกันคือ:[17]
- ภาษากลุ่มอินโด-อารยันแยกเป็นกลุ่มเหนือ กลุ่มตะวันออกและตะวันตกขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงลักษณะ เช่นเปลี่ยนเสียงกักเป็นเสียงก้องในกลุ่มเหนือ (ภาษาสันสกฤต ทันตะ เป็นภาษาปัญจาบ ทานต์) และเสียงจากฟันและเสียงม้วนลิ้นรวมกับเสียงเพดานแข็ง (เช่น ภาษาสันสกฤต สันธยา เป็น ภาษาเบงกอล สาฌ)[18]
- กลุ่มตะวันตกแยกเป็นกลุ่มกลางและกลุ่มใต้
- กลุ่มกลางแยกเป็นภาษาคุชราต/ราชสถาน ภาษาฮินดีตะวันตก และภาษาปัญจาบ/ลหันทะ/สินธี ตามลักษณะการเปลี่ยนกริยาช่วยและปรบทในภาษาคุชราต/ราชสถาน[16]
- ภาษาคุชราต/ราชสถาน แยกเป็นภาษาคุชราตและภาษาราชสถานโดยการพัฒนาของลักษณะบางอย่าง เช่นเครื่องหมายความเป็นเจ้าของ -n- ในพุทธศตวรรษที่ 20[19]
การเปลี่ยนแปลงจากภาษาสันสกฤตที่สำคัญที่พบในภาษาคุชราตได้แก่:[17]
- สัทวิทยา ได้แก่ ตัดเสียงสระที่ตัวสุดท้ายออก เปลี่ยนกลุ่มพยัญชนะเป็นพยัญชนะตัวเดียวที่มีเสียงสระยาวขึ้น
สันสกฤต | ปรากฤต | คุชราต | ไทย | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|
hasta | hattha | hāth | มือ | [20] |
sapta | satta | sāt | เจ็ด | [21] |
aṣṭā | aṭṭha | āṭh | แปด | [22] |
sarpa | sappa | sāp | งู | [23] |
- ด้านลักษณะคำ ได้แก่ ลดจำนวนคำประสม รวมทวิพจน์ เข้ากับพหูพจน์ เปลี่ยนปัจจัยแบบการกเป็นแบบปรบท พัฒนาโครงสร้างของกาล การกระทำ มาลาที่อ้อมค้อม
- การเรียงประโยค ได้แก่ตัดสัมพันธการก มีระบบการตกลงที่ซับซ้อน
ภาษาคุชราตเองแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้:[16]
คุชราตเก่า
- ภาษาคุชราตเก่า (જૂની ગુજરાતી; พ.ศ. 1643 - 2043) บรรพบุรุษของภาษาคุชราตและภาษาราชสถาน[24] ใช้พูดโดยคุรชารส์ที่อาศัยและปกครองในรัฐคุชราต, ปัญจาบ, ราชปุตนะ และอินเดียตอนกลาง[25][26] เอกสารในยุคนี้แสดงลักษณะของภาษาคุชราต เช่นรูปแบบของนามแบบกรรมตรง ปรบท[27]และกริยาช่วย มี 3 เพศ เช่นเดียวกับภาษาคุชราตในปัจจุบัน และในราว พ.ศ. 1843 มีการจัดมาตรฐานภาษาขึ้น ในขณะที่ภาษานี้เป็นที่รู้จักในชื่อภาษาคุชราตโบราณ แต่มีนักวิชาการบางคนเรียกภาษาราชสถานตะวันตกโบราณ โดยถือว่าภาษาคุชราตและภาษาราชสถานไม่แยกออกจากกันในเวลานั้น ไวยากรณ์ที่เป็นทางการของภาษาเริ่มต้นของภาษานี้เขียนโดยนักบวชในศาสนาเชนและนักวิชาการ เหมาจันทระ สุรี ในสมัยกษัตริย์ราชบุตร สิทธราช ชยสิญแห่งฮัญ อญิลลวธะ (ปาตาน) งานเขียนที่สำคัญในยุคนี้ได้แก่
- ราสะ เป็นเรื่องเล่าที่เป็นคำสอน
- ผาคุ
- พัรมาสี อธิบายเกี่ยวกับธรรมชาติทั้ง 12 เดือน
- อาขยานะ เป็นบทร้อยกรอง
- ภาษาคุชราตยุคกลาง (พุทธศตวรรษ 20 -23)แยกออกจากภาษาราชสถาน ปรากฏเสียง ɛ และ ɔ ตัวช่วย -ch และเครื่องหมายความเป็นเจ้าของ -h- ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างภาษาคุชราตยุคโบราณกับยุคปัจจุบันได้แก่
- u เป็น ə ในพยางค์เปิด
- เสียงกล้ำ əi, əu เปลี่ยนเป็น ɛ และ ɔ ในพยางค์แรกและเป็น e และ o ในที่อื่น
- əũ เป็น ɔ̃ ในพยางค์แรกและเป็น ű ในพยางค์สุดท้าย
การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลต่อไวยากรณ์ในลำดับต่อมา ตัวอย่างเช่น ภาคุชราตโบราณมีรูปการกเครื่องมือ-สถานที่ เอกพจน์เป็น -i กลายมาซ้ำกับ การกประธาน-กรรมตรง เอกพจน์ ซึ่งเป็น -ə
คุชราตใหม่
- ภาษาคุชราตสมัยใหม่ (ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 23 เป็นต้นมา) ความเปลี่ยนแปลงทางด้านสัทวิทยาที่สำคัญตัดเสียงท้าย ə's มีคำที่ลงท้ายด้วยเสียงพยัญชนะ มีเครื่องหมายพหูพจน์ใหม่ ลงท้ายด้วย -o[28]
การแพร่กระจาย
ในจำนวนผู้พูดภาษาคุชราตประมาณ 46 ล้านคนใน ค.ศ. 1997 เกือบ 45.5 ล้านคนอาศัยอยู่ในอินเดีย 150,000 คนอยู่ในยูกันดา 50,000 อยู่ในแทนซาเนีย 50,000 คนในเคนยา และเกือบ 100,000 คนในการาจี ประเทศปากีสถาน ซึ่งไม่รวมชาวเมโมนแสนกว่าคนที่ไม่ได้ระบุตนเองเป็นชาวคุชราต แต่อาศัยอยู่ในรัฐคุชราต[31] อย่างไรก็ตาม ผู้นำชุมชนคุชราตในปากีสถานอ้างว่ามีผู้พูดภาษาคุชราตในการาจี 3 ล้านคน[32] และยังพบผู้พูดในแคว้นปัญจาบตอนล่าง[33] ภาษาคุชราตปากีสถานน่าจะเป็นภาษาย่อยของ Gamadia[33]
มหาตมา คานธีใช้ภาษาคุชราตเป็นสื่อกลางในการแสดงออกทางวรรณกรรม เขาช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการขยายวรรณกรรมภาษานี้[34] และใน ค.ศ. 1936 เขาเสนอแบบการสะกดคำในการประชุมครั้งที่ 12 ของ Gujarati Literary Society[35][36]
ชาวมอริเชียสและเรอูว์นียงหลายคนเป็นลูกหลานชาวคุชราต และมีบางส่วนสามารถพูดภาษานี้ได้[37]
สหราชอาณาจักรมีผู้พูดมากกว่า 200,000 คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลอนดอน โดยเฉพาะในนอร์ธเวสต์ลอนดอน มีชาวคุชราตจำนวนหนึ่งที่มาจากแอฟริกาตะวันออกที่มีการเลือกปฏิบัติและนโยบายการทำให้เป็นแอฟริกาในประเทศที่กลายเป็นเอกราช (โดยเฉพาะในยูกันดาที่อีดี อามินขับไล่ชาวเอเชีย 50,000 คน) ถูกขับออกไปโดยที่มีอนาคตและสิทธิพลเมืองไม่แน่นอน คนที่มีพาสพอร์ตอังกฤษส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานในสหราชอาณาจักร[34][38]
นอกจากชาวคุชราตแล้ว พลเมืองที่ไม่ใช่ชาวคุชราตในรัฐคุชราตสามารถพูดภาษานี้ได้ ส่วนใหญ่เป็นชาว Kutch (ในฐานะภาษาวรรณกรรม)[34] ปาร์ซิส (รับเป็นภาษาแม่) และผู้อพยพชาวสินธ์ที่นับถือศาสนาฮินดูจากปากีสถาน[39]
สถานะทางการ
ภาษาคุชราตเป็นหนึ่งใน 22 ภาษาทางการและ 14 ภาษาประจำภูมิภาคของอินเดีย และหนึ่งในภาษาชนกลุ่มน้อยในปากีสถาน[40] ภาษานี้มีสถานะทางการในรัฐคุชราตและดินแดนสหภาพดาดราและนครหเวลี และดามันและดีอู
ภาษาคุชราตได้รับการยอมรับและการสอนในฐานะภาษาชนกลุ่มน้อยในรัฐราชสถาน, รัฐมัธยประเทศ, รัฐมหาราษฏระ และรัฐทมิฬนาฑู และดินแดนสหภาพเดลี[41]
สถานะการเป็นภาษาทางการ
ภาษาคุชราตเป็นภาษาทางการหนึ่งใน 22 ภาษาของอินเดีย และเป็น 1 ใน 14 ภาษาประจำถิ่นของอินเดีย และเป็นภาษาทางการของรัฐคุชราต
สำเนียง
สำเนียงที่ถือเป็นมาตรฐานของภาษาคุชราตคือสำเนียงที่ใช้พูดในบริเวณพโรทะจนถึงอะห์เมดาบัดและทางเหนือ.[43] สำเนียงอื่นๆของภาษาคุชราตได้แก่
- สำเนียงมาตรฐาน แบ่งได้อีกเป็น สำเนียงมาตรฐานเสารัตตระ สำเนียงนครี สำเนียงคุชราตบอมเบย์ สำเนียงปัตนุลี
- สำเนียงกะมะเดีย แบ่งได้อีกเป็น สำเนียงครัมยะ สำเนียงสุรตี สำเนียงอนาละ สำเนียงพรเดละ สำเนียงคุชราตพรอชตะวันออก สำเนียงจโรตรี สำเนียงปติทรี สำเนียงวโททรี สำเนียงอะห์เมดาบัด สำเนียงปตนี
- สำเนียงปาร์ซี
- สำเนียงกถิยวดี แบ่งได้อีกเป็น สำเนียงฌลวดี สำเนียงโสรถี สำเนียงโหลดี สำเนียงโคหัลวดี สำเนียงภัพนครี
- สำเนียงบัรวา
- สำเนียงบกรี
- สำเนียงตริมุขี แบ่งได้อีกเป็น สำเนียงฆิสดี
ภาษาใกล้เคียง
ภาษากุจจิหรือภาษากัจฉิหรือภาษาโขชกีเป็นภาษาที่มักจะถูกกล่าวถึงว่าเป็นสำเนียงของภาษาคุชราต แต่นักภาษาศาสตร์ส่วนใหญ่กล่าวว่าภาษานี้ใกล้เคียงกับภาษาสินธี
ระบบการเขียน
เขียนด้วยอักษรคุชราตซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับอักษรเทวนาครี ต่างกันแต่อักษรคุชราตไม่มีเส้นขีดด้านบนของอักษร ภาษากัจฉิเขียนด้วยอักษรคุชราตด้วยเช่นกัน และทั้งสองภาษานี้เคยเขียนด้วยอักษรอาหรับแบบเปอร์เซียด้วย
คำศัพท์
โดยทั่วไป ภาษากลุ่มอินโด-อารยันสมัยใหม่แบ่งคำศัพท์โดยทั่วไปเป็น 3 กลุ่มคือ ตัตสัม ตัคภัพ และคำยืม[44]
ตัคภัพ
ภาษาคุชราตเป็นภาษากลุ่มอินโดอารยันสมัยใหม่ที่เป็นลูกหลานของภาษาศัพท์ในหมวดนี้เกี่ยวข้องกับภาษาสันสกฤต เป็นศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และศัพท์ทางศาสนา
อินโด-อารยันเก่า | คุชราต | อ้างอิง | ||
---|---|---|---|---|
ข้า | ahám | hũ | [45] | |
ตก, ลื่น | khasati | khasvũ | เคลื่อนตัว | [46] |
ทำให้เคลื่อน | arpáyati | āpvũ | ให้ | [47] |
รับ, ได้รับ | prāpnoti | pāmvũ | [48] | |
เสือ | vyāghrá | vāgh | [49] | |
เท่ากัน, คล้ายกัน, ระดับ | samá | samũ | ขวา, เสียง | [50] |
ทั้งหมด | sárva | sau/sav | [51] |
ตัตสัม
เมื่อเลิกใช้ภาษาสันสกฤตเป็นภาษาพูด และเปลี่ยนมาสู่ยุคของภาษากลุ่มอินโด-อารยันยุคกลาง มีการจัดมาตรฐานให้เป็นภาษาเขียนและภาษาสำหรับศาสนาในยุคนั้น ศัพท์ในหมวดนี้จึงเป็นคำยืมจากภาษาสันสกฤตในรูปแบบที่เป็นทางการ ศัพท์เทคนิค มีการผันคำและใช้เครื่องหมายตามแบบภาษาสันสกฤต ตัตสัมโบราณบางคำมีการเปลี่ยนความหมายไปในภาษาสมัยใหม่ ตัวอย่างเช่น ปรสาระหมายถึงการแพร่ ทำให้กระจาย แต่ในปัจจุบันหมายถึงการออกอากาศ คำบางคำเป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่เช่น โทรศัพท์ ในภาษาคุชราตใช้ว่าทุรภาษ หมายถึงการพูดในระยะไกล แต่ชาวคุชราตมักใช้ว่า โฟนมากกว่า
ตัตสัม | ไทย | คุชราต |
---|---|---|
lekhak | นักเขียน | lakhnār |
vijetā | ผู้ชนะ | jītnār |
vikǎsit | ได้รับการพัฒนา | vikǎselũ |
jāgǎraṇ | การทำให้ตื่น | jāgvānũ |
คำยืมจากภาษาอื่น
นอกจากศัพท์ที่มาจากภาษาสันสกฤตแล้ว ยังมีศัพท์ที่มาจากภาษาอื่นๆที่มาเป็นคำยืมในภาษาคุชราต ได้แก่ ภาษาเปอร์เซีย ภาษาอาหรับ ภาษาอังกฤษ และมีบางส่วนมาจากภาษาโปรตุเกสและภาษาคำยืมจากภาษาอังกฤษจัดว่าใหม่ที่สุด ส่วนคำยืมจากภาษาเปอร์เซียและภาษาอาหรับมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า คำศัพท์จากทั้งสามภาษานี้จัดว่ามีความสำคัญและใช้เป็นศัพท์ทั่วไป ควบคู่กับตัตสัม
ภาษาเปอร์เซียและภาษาอาหรับ
ประเทศอินเดียเคยถูกปกครองด้วยมุสลิมที่พูดภาษาเปอร์เซียเป็นเวลานาน ทำให้ภาษาในประเทศอินเดียมีการเปลี่ยนแปลงรวมทั้งภาษาคุชราต โดยรับคำยืมจากภาษาอาหรับและภาษาเปอร์เซียเข้ามามาก ตัวอย่างเช่น การใช้คำสันธาน ke ที่มาจากภาษาเปอร์เซีย เมื่อเวลาผ่านไป คำเหล่านี้ถูกทำให้มีลักษณะของภาษาคุชราตมากขึ้น โดยทุกคำมีเครื่องหมายเพศตามแบบภาษาคุชราต
ในขณะที่ภาษากลุ่มอินโด-อารยัน เช่น ภาษามราฐี ภาษาเนปาลีและภาษาเบงกอลพยายามรักษารากศัพท์ของตนเองไว้ แต่ภาษากลุ่มอินโด-อารยันทางตะวันตก ตอนกลางและตะวันตกเฉียงเหนือเช่นภาษาปัญจาบ ภาษาฮินดูสตานี ภาษาสินธีและภาษาคุชราตกลับรับเอาลักษณะของภาษาเปอร์เซียไว้มาก ภาษาฮินดูสตานีสำเนียงที่ใช้พูดในเดลฮีเคยถูกทำให้เป็นเปอร์เซีย แล้วต่อมาจึงถูกตัดลักษณะของภาษาเปอร์เซียออกแล้วทำให้เป็นภาษาสันสกฤต ซึ่งเป็นผลมาจากการแบ่งแยกอินเดียและปากีสถาน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นภาษาฮินดีและภาษาอูรดูแม้ว่าภาษาคุชราตจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะดังกล่าว แต่ก็มีคำยืมจากภาษาเปอร์เซียมากเช่นกัน การออกเสียงคำยืมเหล่านี้หากเทียบกับภาษาเปอร์เซียใหม่แล้ว จะมีพัฒนาการเป็นเช่นเดียวกับผู้พูดภาษาเปอร์เซียในอัฟกานิสถานและเอเชียกลางเมื่อ 500 ปีก่อน ผู้อพยพชาวเปอร์เซียที่นับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์ หรือที่เรียกว่าชาวปาร์ซี พูดภาษาคุชราตในรูปแบบที่ได้รับอิทธิพลจากภาษาเปอร์เซียมาก
ภาษาอังกฤษ
อังกฤษเป็นประเทศที่เข้ามามีอิทธิพลในอินเดียเมื่อสิ้นสุดอิทธิพลของเปอร์เซียและอาหรับ ภาษาอังกฤษเข้ามามีอิทธิพลในอินเดียในฐานะภาษาเพื่อการศึกษา การนำศัพท์ภาษาอังกฤษมาใช้ในภาษาคุชราตมีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ที่เห็นได้ชัดคือภาษาคุชราตมี 3 เพศ แต่ในภาษาอังกฤษไม่มี เมื่อนำมาใช้จึงต้องกำหนดเพศให้ศัพท์นั้น ตามแบบของภาษาคุชราต โดยดูจากความหมายของคำ
ภาษาโปรตุเกส
มีอิทธิพลต่อภาษาคุชราตเล็กน้อย ต่างจากบริเวณอื่นที่มีภาษาลูกผสมของภาษาโปรตุเกส โดยมาก ภาษาโปรตุเกสมีอิทธิพลต่อภาษาตามแนวชายฝั่งมากกว่า
ไวยากรณ์
ลักษณะการเรียงคำในภาษาคุชราต คำขยายอยู่หน้าคำนาม กรรมตรงมาก่อนกริยา มีปรบท การเรียงประโยคเป็นแบบประธาน-กรรม-กริยา มี 3 เพศ และ 2 พจน์ ไม่มีคำนำหน้านาม กริยาใช้ในรูปรากศัพท์ตามด้วยปัจจัยที่แสดงความมุ่งหมายและข้อตกลงซึ่งถือเป็นรูปแบบหลัก และอาจตามด้วยรูปช่วยที่แสดงกาลและมาลา
อ้างอิง
บรรณานุกรม
แหล่งข้อมูลอื่น
- ภาษาคุชราต ที่เว็บไซต์ Curlie
- Gujarati language at Encyclopædia Britannica
- Gujarati Online Dictionary & Language Resources
- Bharatiya Bhasha Jyoti: Gujarati—a textbook for learning Gujarati through Hindi from the Central Institute of Indian Languages.
- English to Gujarati Dictionary