ยูฟ่าซูเปอร์คัพ

(เปลี่ยนทางจาก ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ)

ยูฟ่าซูเปอร์คัพ (อังกฤษ: UEFA Super Cup; ชื่อเดิม: ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ อังกฤษ: European Super Cup) [1] เป็นเกมการแข่งขันฟุตบอลสโมสรของทวีปยุโรป ในเดือนสิงหาคม ก่อนหน้าที่ฟุตบอลสโมสรยุโรปฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นขึ้น โดยจะเป็นการแข่งขันกันระหว่างทีมชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกหรือยูโรเปียนคัพเดิม กับทีมชนะเลิศยูฟ่ายูโรปาลีกหรือยูฟ่าคัพเดิม (เมื่อก่อนจะเป็นทีมชนะเลิศยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ แต่เมื่อถ้วยยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ ถูกยกเลิกในปี ค.ศ. 1999 จึงให้สิทธิ์นี้แก่ทีมชนะเลิศยูฟ่ายูโรปาลีกแทน) ในฤดูกาลก่อนหน้านั้น ทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของรายการนี้คือเอซี มิลานจากอิตาลี และบาร์เซโลนาจากสเปน ที่เป็นผู้ชนะเลิศถึง 5 สมัย

ยูฟ่าซูเปอร์คัพ
ก่อตั้งค.ศ. 1972
(ในชื่อ ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ)
ค.ศ. 1995
(ในชื่อ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ)
ภูมิภาคยุโรป (ยูฟ่า)
จำนวนทีม2
ทีมชนะเลิศปัจจุบันอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี
(สมัยที่ 1)
ทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดสเปน บาร์เซโลนา
อิตาลี เอซี มิลาน
สเปน เรอัลมาดริด
(5 สมัย)
เว็บไซต์www.uefa.com/uefasupercup/index.html
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2023

ประวัติ

ยูฟ่าซูเปอร์คัพ หรือยูโรเปียนซูเปอร์คัพ เริ่มทำการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1972 ผู้ริเริ่มคือ แอนตั้น วิทแคมป์ นักข่าวและผู้อำนวยการด้านกีฬาของหนังสือพิมพ์เดอ เทเลกราฟ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ความคิดนี้เริ่มขึ้นเมื่อดัตช์โททัลฟุตบอลกำลังเป็นที่นิยมมากในยุโรป และกำลังอยู่ในยุคทองของสโมสรจากเนเธอร์แลนด์ โดยวิทแคมป์เสนอให้นำเอาทีมชนะเลิศยูโรเปียนคัพ มาพบกับทีมชนะเลิศยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ [2]

เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างพร้อม การแข่งขันรายการใหม่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี ความคิดที่จะเห็นการแข่งขันรายการนี้ เป็นการแข่งขันแบบเป็นทางการของวิทแคมป์ ได้ถูกปฏิเสธโดยประธานของยูฟ่า

แต่ถึงกระนั้น ถ้วยใบนี้ก็ยังยืนยันที่จะเดินหน้าจัดการแข่งขันต่อไป โดยเป็นการแข่งขันแบบเหย้า-เยือน สนับสนุนการเงินโดยหนังสือพิมพ์เดอ เทเลกราฟนั่นเอง ซึ่งอายักซ์ เอาชนะเรนเจอร์ส คว้าแชมป์สมัยแรกมาครองได้สำเร็จ หลังจากนั้น การแข่งขันรายการนี้จึงได้รับการรับรองจากยูฟ่า

แม้ว่าระบบการแข่งขันแบบเหย้า-เยือนจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ในบางปี ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ ก็ต้องทำการแข่งขันแบบนัดเดียว ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับตารางเวลาในการแข่งขันและเหตุผลทางด้านการเมือง และในปี ค.ศ. 1974, 1981 และ 1985 ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ ไม่มีการแข่งขัน

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 เป็นต้นมา ยูโรเปียนซูเปอร์คัพได้ทำการแข่งขันแบบนัดเดียวรู้ผล ที่สนามสต๊าด หลุยส์ เดอซ์ ในโมนาโก

เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 1998-99 ยูฟ่าได้ยกเลิกการแข่งขันรายการยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ และตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 1999-2000 ยูโรเปียนซูเปอร์คัพจะเป็นการแข่งขันกันระหว่างทีมชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (หรือยูโรเปียนคัพเดิม) กับทีมชนะเลิศยูฟ่ายูโรปาลีก (หรือยูฟ่าคัพเดิม)

ถ้วยรางวัลเปลี่ยนแปลง

ถ้วยรางวัลของยูฟ่าซูเปอร์คัพ ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมค่อนข้างมาก ถ้วยใบแรกที่มอบให้กับอายักซ์นั้น มีขนาดใหญ่กว่าถ้วยของยูโรเปียนคัพถ้วยรางวัลรุ่นต่อมามีลักษณะเล็กที่สุดในบรรดาถ้วยรางวัลของฟุตบอลสโมสรยุโรป โดยมีน้ำหนักเพียง 5 ก.ก. และสูง 42.5 ซ.ม. (ถ้วยรางวัลของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก หนัก 8 ก.ก. และถ้วยรางวัลของยูฟ่าคัพ หนัก 15 ก.ก.) และในปัจจุบัน ถ้วยรางวัลใหม่ของยูฟ่าซูเปอร์คัพ มีน้ำหนักอยู่ที่ 12.2 ก.ก.

เช่นเดียวกับถ้วยรางวัลอื่น ๆ ของยูฟ่า สโมสรที่ชนะเลิศ 3 สมัยซ้อนหรือชนะเลิศครบ 5 สมัย จะได้รับถ้วยรางวัลยูฟ่าซูเปอร์คัพ ไปเป็นกรรมสิทธิ์ของสโมสรนั้นโดยถาวร เช่นเดียวกับมิลาน ที่ได้ไปเมื่อปี 2007

การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ

รอบชิงชนะเลิศ (นัดเดียว)

ฤดูกาลทีมชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกผลประตูทีมชนะเลิศยูฟ่ายูโรปาลีกสนาม
2023 แมนเชสเตอร์ซิตี1 – 1
(ชนะดวลจุดโทษ 5–4)
เซบิยาสนามกีฬาคาไรสคาคิส,
ไพรีอัส
2022 เรอัลมาดริด2 – 0 ไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ทสนามกีฬาโอลิมปิกเฮลซิงกิ,
เฮลซิงกิ
2021 เชลซี1 – 1
(ชนะดวลจุดโทษ 6–5)
บิยาร์เรอัลวินด์เซอร์พาร์ก,
เบลฟาสต์
2020 ไบเอิร์นมิวนิก2 – 1
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
เซบิยาปุชกาชออเรนอ,
บูดาเปสต์
2019 ลิเวอร์พูล2 – 2
(ชนะดวลจุดโทษ 5–4)
เชลซีโวดาโฟน พาร์ค,
อิสตันบูล
2018 เรอัลมาดริด2 – 4
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
อัตเลติโกเดมาดริดอ. เลอ ค็อค อาเรนา,
ทาลลินน์
2017 เรอัลมาดริด2 – 1 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดฟิลิป ทู อาเรนา,
สโกเปีย
2016 เรอัลมาดริด3 – 2
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
เซบิยาแลร์คันดัลสตาดีโอน,
ทรอนด์เฮม
2015 บาร์เซโลนา5 – 4
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
เซบิยาบอริส ไพแชดซ์ ดีนาโม อาเรนา,
ทบิลีซี
2014 เรอัลมาดริด2 – 0 เซบิยาคาร์ดิฟฟ์ซิตีสเตเดียม,
คาร์ดิฟฟ์
2013 ไบเอิร์นมิวนิก2 – 2
(ชนะดวลจุดโทษ 5–4)
เชลซีซิโนโบสเตเดียม,
ปราก
2012 เชลซี1 – 4 อัตเลติโกเดมาดริดสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2011 บาร์เซโลนา2 – 0 โปร์ตูสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2010 อินเตอร์มิลาน0 – 2 อัตเลติโกเดมาดริดสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2009 บาร์เซโลนา1 – 0
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ชัคตาร์โดเนตสค์สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2008 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด1 – 2 เซนิตเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2007 มิลาน3 – 1 เซบิยาสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2006 บาร์เซโลนา0 – 3 เซบิยาสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2005 ลิเวอร์พูล3 – 1
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ซีเอสเคเอ มอสโกสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2004 โปร์ตู1 – 2 บาเลนเซียสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2003 มิลาน1 – 0 โปร์ตูสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2002 เรอัลมาดริด3 – 1 ไฟเยอโนร์ดสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2001 ไบเอิร์นมิวนิก2 – 3 ลิเวอร์พูลสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
2000 เรอัลมาดริด1 – 2
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
กาลาทาซาไรสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
ฤดูกาลชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกผลคะแนนชนะเลิศยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพสนาม
1999 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด0 – 1 ลาซิโอสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
1998 เรอัลมาดริด0 – 1 เชลซีสต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก

รอบชิงชนะเลิศ (สองนัดเหย้า-เยือน)

ฤดูกาลทีมเหย้าผลคะแนนทีมเยือนสนาม
1997 บาร์เซโลนา (C2)2 – 0 ดอร์ทมุนท์ (C1)กัมนอว์,
บาร์เซโลนา
ดอร์ทมุนท์1 – 1 บาร์เซโลนาซิกนัล อีดูน่า ปาร์ค,
ดอร์ทมุนท์
รวมผลสองนัด บาร์เซโลนา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1
1996 ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง (C2)1 – 6 ยูเวนตุส (C1)ปาร์กเดแพร็งส์,
ปารีส
ยูเวนตุส3 – 1 ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งสตาดิโอ้ ลา ฟาวอริต้า,
ปาแลร์โม่
รวมผลสองนัด ยูเวนตุส คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 9-2
1995 เรอัลซาราโกซา (C2)1 – 1 อายักซ์ (C1)ลา โรมาเรด้า,
ซาราโกซา
อายักซ์4 – 0 เรอัลซาราโกซาสนามกีฬาโอลิมปิก (อัมสเตอร์ดัม),
อัมสเตอร์ดัม
รวมผลสองนัด อายักซ์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 5-1
1994 อาร์เซนอล (C2)0 – 0 มิลาน (C1)ไฮก์บิวรี่,
ลอนดอน
มิลาน2 – 0 อาร์เซนอลซานซีโร,
มิลาน
รวมผลสองนัด มิลาน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-0
1993 ปาร์มา (C2)0 – 1 มิลาน (C1)เอ็นนิโอ้ ตาร์ดินี่,
ปาร์มา
มิลาน0 – 2
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ปาร์มาซานซีโร,
มิลาน
รวมผลสองนัด ปาร์มา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-1
หมายเหตุ: ทีมชนะเลิศ มาร์แซย์ โดนตัดสิทธิ์ จากกรณีล้มบอลภายในประเทศ มิลาน รองชนะเลิศ จึงได้สิทธิ์แข่งแทน
1992 แวร์เดอร์เบรเมิน (C2)1 – 1 บาร์เซโลนา (C1)เวเซอร์ สตาดิโอน,
เบรเมน
บาร์เซโลนา2 – 1 แวร์เดอร์เบรเมินกัมนอว์,
บาร์เซโลนา
รวมผลสองนัด บาร์เซโลนา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-2
1991 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (C2)1 – 0 เรดสตาร์ เบลเกรด (C1)โอลด์แทรฟฟอร์ด,
แมนเชสเตอร์
หมายเหตุ: แข่งขันกันนัดเดียว เพราะไม่สามารถแข่งขันนัดที่สองได้ เนื่องจากปัญหาทางด้านการเมืองในยูโกสลาเวีย แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คว้าแชมป์
1990 ซามพ์โดเรีย (C2)1 – 1 มิลาน (C1)ลุยจิ แฟร์ราริส,
เจนัว
มิลาน2 – 0 ซามพ์โดเรียซานซีโร,
มิลาน
รวมผลสองนัด มิลาน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1
1989 บาร์เซโลนา (C2)1 – 1 มิลาน (C1)กัมนอว์,
บาร์เซโลนา
มิลาน1 – 0 บาร์เซโลนาซานซีโร,
มิลาน
รวมผลสองนัด มิลาน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-1
1988 เมเชเลน (C2)3 – 0 ไอน์โฮเฟ่น (C1)อาคเตอร์ เดอ คาเซอร์เน่,
เมเชเลน
ไอน์โฮเฟ่น1 – 0 เมเชเลนฟิลิปส์ สตาดิโอน,
ไอนด์โฮเฟิน
รวมผลสองนัด เมเชเลน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1
1987 อายักซ์ (C2)0 – 1 โปร์ตู (C1)เดอ เมียร์ สเตเดี้ยม,
อัมสเตอร์ดัม
โปร์ตู1 – 0 อายักซ์เอสตาดิโอ้ ดาส อันตาส,
โปร์ตู
รวมผลสองนัด โปร์ตู คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-0
1986 สเตอัวบูคูเรสตี (C1)1 – 0 ดีนาโมคียิว (C2)สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก
หมายเหตุ: แข่งขันกันนัดเดียว เพราะไม่สามารถแข่งขันนัดที่สองได้ เนื่องจากปัญหาทางด้านการเมืองในสหภาพโซเวียต สเตอัวบูคูเรสตี คว้าแชมป์
1985ไม่มีการแข่งขัน
ยูเวนตุส (C1) กับ เอฟเวอร์ตัน (C2)
หมายเหตุ: เนื่องจากโศกนาฏกรรมอัฒจรรย์ถล่ม ในนัดชิงยูโรเปียนคัพระหว่าง ยูเวนตุส กับ ลิเวอร์พูล ที่เฮย์เซล สเตเดี้ยม
1984 ยูเวนตุส (C2)2 – 0 ลิเวอร์พูล (C1)โอลิมปิค สเตเดี้ยม,
ตูริน
หมายเหตุ: แข่งขันกันนัดเดียว เพราะลิเวอร์พูลไม่สามารถหาวันแข่งขันในนัดที่สองได้ ยูเวนตุส คว้าแชมป์
1983 ฮัมบวร์ค (C1)0 – 0 อเบอร์ดีน (C2)โฟล์คสปาร์ค สตาดิโอน,
ฮัมบวร์ค
อเบอร์ดีน2 – 0 ฮัมบวร์คปิตโตดรี้ สเตเดี้ยม,
อเบอร์ดีน
รวมผลสองนัด อเบอร์ดีน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-0
1982 บาร์เซโลนา (C2)1 – 0 แอสตันวิลลา (C1)กัมนอว์,
บาร์เซโลนา
แอสตันวิลลา3 – 0
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
บาร์เซโลนาวิลลา ปาร์ค,
เบอร์มิงแฮม
รวมผลสองนัด แอสตันวิลลา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1
1981ไม่มีการแข่งขัน
ลิเวอร์พูล (C1) กับ ดินาโม ทบิลิซี่ (C2)
หมายเหตุ: เนื่องจากลิเวอร์พูล ไม่สามารถหาวันแข่งขันกับดินาโม ทบิลิซี่ได้
1980 ฟอเรสต์ (C1)2 – 1 บาเลนเซีย (C2)ซิตี้ กราวน์,
น็อตติงแฮม
บาเลนเซีย1 – 0 ฟอเรสต์หลุยส์ คาซาโนบ้า สเตเดี้ยม,
บาเลนเซีย
รวมผลสองนัด บาเลนเซีย คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-2 (กฎประตูทีมเยือน)
1979 ฟอเรสต์ (C1)1 – 0 บาร์เซโลนา (C2)ซิตี้ กราวน์,
น็อตติงแฮม
บาร์เซโลนา1 – 1 ฟอเรสต์กัมนอว์,
บาร์เซโลนา
รวมผลสองนัด ฟอเรสต์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-1
1978 อันเดอร์เลชท์ (C2)3 – 1 ลิเวอร์พูล (C1)ปาร์ค อัสไทรด์,
บรัสเซลส์
ลิเวอร์พูล2 – 1 อันเดอร์เลชท์แอนฟิลด์,
ลิเวอร์พูล
รวมผลสองนัด อันเดอร์เลชท์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 4-3
1977 ฮัมบวร์ค (C2)1 – 1 ลิเวอร์พูล (C1)โฟล์คสปาร์ค สตาดิโอน,
ฮัมบวร์ค
ลิเวอร์พูล6 – 0 ฮัมบวร์คแอนฟิลด์,
ลิเวอร์พูล
รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 7-1
1976 ไบเอิร์นมิวนิก (C1)2 – 1 อันเดอร์เลชท์ (C2)โอลิมเปีย สตาดิโอน,
มิวนิก
อันเดอร์เลชท์4 – 1 ไบเอิร์นมิวนิกปาร์ค อัสไทรด์,
บรัสเซลส์
รวมผลสองนัด อันเดอร์เลชท์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 5-3
1975 ไบเอิร์นมิวนิก (C1)0 – 1 ดีนาโมคียิว (C2)โอลิมปิค สเตเดียม มิวนิก,
มิวนิก
ดีนาโมคียิว2 – 0 ไบเอิร์นมิวนิกรีพับลิกัน สเตเดี้ยม,
เคียฟ
รวมผลสองนัด ดีนาโมคียิว คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-0
1974ไม่มีการแข่งขัน
ไบเอิร์นมิวนิก (C1) กับ มักเดบวร์ก (C2)
หมายเหตุ: เนื่องจากเหตุผลทางด้านการเมือง ระหว่างเยอรมันตะวันตก กับเยอรมันตะวันออก
1973 มิลาน (C2)1 – 0 อายักซ์ (C1)ซานซีโร,
มิลาน
อายักซ์6 – 0 มิลานสนามกีฬาโอลิมปิก (อัมสเตอร์ดัม),
อัมสเตอร์ดัม
รวมผลสองนัด อายักซ์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 6-1
1972 เรนเจอร์ส (C2)1 – 3 อายักซ์ (C1)ไอบร็อกซ์ ปาร์ค,
กลาสโกว์
อายักซ์3 – 2 เรนเจอร์สเดอ เมียร์ สเตเดี้ยม,
อัมสเตอร์ดัม
รวมผลสองนัด อายักซ์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 6-3

ทำเนียบผู้ชนะเลิศ

ชนะเลิศ (จำแนกตามสโมสร)

สโมสรชนะเลิศรองชนะเลิศปีที่ชนะเลิศปีที่ได้รองชนะเลิศ
บาร์เซโลนา541992, 1997, 2009, 2011, 20151979, 1982, 1989, 2006
เรอัลมาดริด532002, 2014, 2016, 2017, 20221998, 2000, 2018
มิลาน521989, 1990, 1994, 2003, 20071973, 1993
ลิเวอร์พูล421977, 2001, 2005, 20191978, 1984
อัตเลติโกเดมาดริด302010, 2012, 2018
เชลซี231998, 20212012, 2013, 2019
ไบเอิร์นมิวนิก232013, 20201975, 1976, 2001
อายักซ์211973, 19951987
อันเดอร์เลชท์201976, 1978
บาเลนเซีย201980, 2004
ยูเวนตุส201984, 1996
เซบิยา1520062007, 2014, 2015, 2016, 2020
โปร์ตู1319872003, 2004, 2011
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด1319911999, 2008, 2017
ดีนาโมคียิว1119751986
นอตทิงแฮมฟอเรสต์1119791980
แอสตันวิลลา101982
อเบอร์ดีน101983
สเตอัวบูคูเรสตี101986
เมเชเลน101988
ปาร์มา101993
ลาซิโอ101999
กาลาทาซาไร102000
เซนิตเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก102008
แมนเชสเตอร์ซิตี102023
ฮัมบวร์ค021977, 1983
เรนเจอส์011972
ไอน์โฮเฟ่น011988
ซามพ์โดเรีย011990
เรดสตาร์ เบลเกรด 011991
แวร์เดอร์เบรเมิน011992
อาร์เซนอล011994
เรอัลซาราโกซา011995
ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง011996
ดอร์ทมุนท์011997
ไฟเยอโนร์ด012002
ซีเอสเคเอ มอสโก012005
ชัคตาร์โดเนตสค์012009
อินเตอร์มิลาน012010
บิยาร์เรอัล012021
ไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ท012022

ชนะเลิศ (จำแนกตามชาติ)

ประเทศชนะเลิศรองชนะเลิศจำนวน
 สเปน161531
 อังกฤษ101020
 อิตาลี9413
 เบลเยียม303
 เยอรมนี2810
 เนเธอร์แลนด์235
 โปรตุเกส134
 รัสเซีย112
 สหภาพโซเวียต112
 โรมาเนีย101
 สกอตแลนด์101
 ตุรกี101
 ฝรั่งเศส011
 ยูเครน011
ยูโกสลาเวีย011
รวม484896

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น


🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง