เมซุท เออซิล
เมซุท เออซิล (; เกิด 15 ตุลาคม ค.ศ. 1988) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวเยอรมันเชื้อสายตุรกี[4] การเล่นครั้งล่าสุด เขาเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกให้แก่ สโมสรฟุตบอลอิสตันบูลบาชักเชฮีร์
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | เมซุท เออซิล[1] | ||
วันเกิด | [2] | 15 ตุลาคม ค.ศ. 1988||
สถานที่เกิด | เก็ลเซินเคียร์เชิน เยอรมนีตะวันตก | ||
ส่วนสูง | 1.80 เมตร (5 ฟุต 11 นิ้ว)[3] | ||
ตำแหน่ง | กองกลางตัวรุก | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1995–1998 | Westfalia 04 Gelsenkirchen | ||
1998–1999 | Teutonia Schalke-Nord | ||
1999–2000 | Falke Gelsenkirchen | ||
2000–2005 | Rot-Weiss Essen | ||
2005–2006 | ชัลเคอ 04 | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2005 | ชัลเคอ 04 ที่ 2 | 1 | (0) |
2006–2008 | ชัลเคอ 04 | 30 | (0) |
2008–2010 | แวร์เดอร์เบรเมิน | 71 | (13) |
2010–2013 | เรอัลมาดริด | 105 | (19) |
2013–2021 | อาร์เซนอล | 184 | (33) |
2021–2022 | เฟแนร์บาห์แช | 32 | (8) |
2022–2023 | อิสตันบูลบาชักเชฮีร์ | 4 | (0) |
รวม | 427 | (73) | |
ทีมชาติ | |||
2006–2007 | เยอรมนี อายุไม่เกิน 19 ปี | 11 | (13) |
2007–2009 | เยอรมนี อายุไม่เกิน 21 ปี | 16 | (18) |
2009–2018 | เยอรมนี | 92 | (23) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
เออซิลเล่นให้กับแวร์เดอร์เบรเมินและทีมชาติเยอรมนี ต่อมาได้ย้ายไปเรอัลมาดริด และได้ย้ายมาอาร์เซนอลด้วยค่าตัวราว 42.5 ล้านปอนด์ในไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดการซื้อขายตัวนักฟุตบอล ในช่วงต้นฤดูกาล 2013–14 เออซิลเป็นผู้เล่นตัวทำเกมที่มากความสามารถ โดยยิงประตูให้เรอัลมาดริดถึง 74 ลูก ในปี 2010–13
โดยการย้ายมาอาร์เซนอลครั้งนี้ นับเป็นการทำสถิติการซื้อตัวนักฟุตบอลที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ของอาร์เซนอล[5]
ในฤดูกาล 2014–15 เออซิลถูกวิจารณ์ว่าการเล่นตกลงไป ไม่โดดเด่นเหมือนฤดูกาลที่แล้ว ในต้นเดือนตุลาคม ค.ศ. 2014 ขณะที่เดินทางกลับไปเยอรมนี เออซิลได้ถูกตรวจพบว่าได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ต้องพักรักษาเป็นเวลาราว 3 เดือน[6] ก่อนที่จะเริ่มกลับมาซ้อมและกลับมาลงเล่นอีกครั้งได้ในต้นปี ค.ศ. 2015[7] ในฐานะตัวสำรอง ที่เปลี่ยนตัวลงไปในนาทีที่ 73 แทนที่ออลีวีเย ฌีรู ที่ถูกเปลี่ยนออก ในนัดที่อาร์เซนอลพบกับสโตกซิตี ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม ผลการแข่งขันอาร์เซนอลชนะไป 3-0[8] เออซิลถูกส่งลงแข่งขันเป็นตัวจริงนัดแรกหลังจากหายบาดเจ็บกลับมา ในรายการเอฟเอคัพรอบสี่ ที่อาร์เซนอลบุกไปเอาชนะไบรตัน & โฮปอัลเบียน ไปได้ 3-2 โดยเป็นผู้ยิงประตูที่ 2 ได้ในนาทีที่ 24 ด้วย[9] และยิงเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกหลังจากหายอาการบาดเจ็บกลับมา ในนัดที่ 23 ของฤดูกาล ที่อาร์เซนอลเป็นฝ่ายเอาชนะแอสตันวิลลา ไปได้ถึง 5-0 ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม โดยเออซิลยิงได้ในนาทีที่ 56 นับเป็นประตูที่ 2 ของการแข่งขันนัดนี้[10]
และต่อมาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) ประจำเดือนเมษายน ค.ศ. 2015[11]
ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบแบ่งกลุ่ม อาร์เซนอลอยู่ในกลุ่มเอฟ และมีสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องชนะไบเอิร์นมิวนิกให้ได้ที่สนามเอมิเรตส์ เนื่องจากอาร์เซนอลก่อนหน้านั้นแพ้มาแล้ว 2 นัด ยังไม่มีคะแนนเลย ขณะที่ไบเอิร์นมิวนิกตั้งแต่เปิดฤดูกาลมายังไม่เคยแพ้ใคร ซ้ำยังเป็นผู้ชนะติดต่อกันรวด 12 นัดในทุกรายการ และผู้เล่นทุกคนเล่นได้อย่างโดดเด่นมาก โดยเฉพาะรอแบร์ต แลวันดอฟสกี กองหน้าของทีม ที่ยิงในบุนเดิสลีกาได้ถึง 5 ลูกก่อนหน้านั้น แต่ในครั้งนี้ เออซิลสามารถยิงประตูได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 ของครึ่งหลัง นับเป็นประตูที่ 2 จบการแข่งขันอาร์เซนอลชนะไบเอิร์นมิวนิกไป 2-0 ทำให้ยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์เข้ารอบต่อไป และทำให้ไบเอิร์นมิวนิกแพ้เป็นนัดแรกของฤดูกาลอีกด้วย[12]
ในฤดูกาล 2015–16 เออซิลได้ทำสถิติใหม่ ด้วยเป็นผู้จ่ายส่งลูกบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ในลีกมากที่สุด โดยลงเล่นทั้งหมด 57 นัดทำไป 21 การจ่ายส่ง คิดเป็นจ่าย 1 ประตูต่อ 2.71 นัด และยังทำสถิตินี้ติดต่อกันถึง 10 ครั้งด้วยกัน ชนิดที่ไม่มีผู้เล่นคนไหนทำได้มาก่อน[13] ทำลายสถิติเดิมของเอริก ก็องโตนา ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่เคยทำไว้ที่ 1 ประตูต่อ 2.79 นัด[14]
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017 เออซิลได้ออกหนังสืออัตชีวประวัติในชื่อ The Magic of the Game / Gunning for Greatness[15][16]
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2023 เออซิลประกาศยุติการเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการในวัย 34 ปี
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ทางการ
- สถิติของ เมซุท เออซิล ที่ Soccerbase
- เมซุท เออซิล ที่ National-Football-Teams.com
- เมซุท เออซิล – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (ในภาษาอังกฤษ)