ท่าอากาศยานชางงีสิงคโปร์
ท่าอากาศยานนานาชาติชางงีสิงคโปร์ (IATA: SIN, ICAO: WSSS) (จีน: 新加坡樟宜机场; พินอิน: Xīnjiāpō Zhāngyí Jīchǎng) หรือเรียกโดยทั่วไปว่าสนามบินชางงี ตั้งอยู่ในเขตชางงี เป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์, สิงคโปร์แอร์ไลน์คาร์โก, ซิลค์แอร์, ไทเกอร์แอร์เวย์, เจ็ตสตาร์เอเชียแอร์เวย์ และแวลูแอร์ และเป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางด้านการคมนาคมทางอากาศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ท่าอากาศยานชางงีสิงคโปร์ Lapangan Terbang Changi Singapura 新加坡樟宜机场 சிங்கப்பூர் சாங்கி விமான நிலையம் | |||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ข้อมูลสำคัญ | |||||||||||||||||||
การใช้งาน | ท่าอากาศยานนานาชาติ/ฐานทัพอากาศ | ||||||||||||||||||
เจ้าของ | รัฐบาลสิงคโปร์ | ||||||||||||||||||
ผู้ดำเนินงาน | บจ.ชางงีแอร์พอร์ตกรุ๊ป กองทัพอากาศสิงคโปร์ | ||||||||||||||||||
พื้นที่บริการ | สิงคโปร์ | ||||||||||||||||||
สถานที่ตั้ง | สิงคโปร์ตะวันออก | ||||||||||||||||||
ฐานการบิน |
| ||||||||||||||||||
เมืองสำคัญ | |||||||||||||||||||
ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล | 7 เมตร / 22 ฟุต | ||||||||||||||||||
เว็บไซต์ | www.changiairport.com | ||||||||||||||||||
แผนที่ | |||||||||||||||||||
ทางวิ่ง | |||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||
สถิติ (2023) | |||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||
ในปี พ.ศ. 2549 ท่าอากาศยานแห่งนี้รองรับผู้โดยสารจำนวนถึง 35 ล้านคน เพิ่มมากขึ้น 8% จากปีงบประมาณ 2548 พ.ศ. 2552 ท่าอากาศยานชางงีได้รับการลงคะแนนให้เป็นท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลก อันดับที่สามรองจากท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อนและท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง[4]
ประวัติ
ท่าอากาศยานนานาชาติสิงคโปร์ที่ Paya Lebar เป็นท่าอากาศยานหลักแห่งที่สามของสิงคโปร์นับจากท่าอากาศยาน Seletar (ท่าอากาศยานหลักในปี 2473 - 2480) และท่าอากาศยาน Kallang (2480 – 2498) เปิดในปี 2498 แต่ด้วยรันเวย์เดียวและอาคารผู้โดยสารขนาดเล็ก การขนส่งสนามบินประสบปัญหาความแออัดไม่สามารถรับมือกับการจราจรที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงทศวรรษ 1970 (ปี 2513-2522)จำนวนผู้โดยสารต่อปีเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 300,000 คนในปี 2498 เป็น 1.7 ล้านคนในปี 2513 และ 4 ล้านคนในปี 2518
รัฐบาลขณะนั้นมีสองทางเลือก คือ ขยายท่าอากาศยานที่มีอยู่ที่ Paya Lebar หรือสร้างท่าอากาศยานใหม่ที่สถานที่อื่น หลังจากศึกษาอย่างกว้างขวางในปี 2515 รัฐบาลตัดสินใจรักษาสภาพท่าอากาศยานหลักที่ Paya Lebar ตามคำแนะนำจากที่ปรึกษาด้านการบินของอังกฤษ ทำให้เกิดการสร้างรันเวย์ที่สองและการปรับปรุงและขยายอาคารผู้โดยสารในหนึ่งปีต่อมา อย่างไรก็ตามได้มีการทบทวนใหม่อีกครั้งเมื่อมีแรงกดดันที่จะขยายสนามบินเนื่องจากวิกฤตการณ์น้ำมันปี 2516
ด้วยความกังวลว่าท่าอากาศยาน Paya Lebar ที่มีอยู่ในพื้นที่เดิมตั้งมีความเสี่ยงที่ถูกปิดล้อมในทุกด้านจากการเติบโตของเมือง รัฐบาลจึงตัดสินใจในปี 2518 เพื่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ที่ปลายสุดทางทิศตะวันออกของเกาะหลักที่เขตชางงีในพื้นที่ฐานทัพอากาศชางงีที่มีอยู่เดิม ซึ่งท่าอากาศยานแห่งใหม่นี้จะสามารถขยายได้อย่างง่ายดายด้วยการถมทะเล
อย่างไรก็ตามการจราจรทางการบินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่าอากาศยานจึงต้องเริ่มสร้างและขยายตัวในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้มีการวางแผนให้เครื่องบินต้องบินข้ามทะเลแทนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหามลภาวะทางเสียงหากบินผ่านพื้นที่ที่อยู่อาศัยเช่นเดียวกับที่ท่าอากาศยาน Paya Lebar และช่วยหลีกเลี่ยงผลกระทบร้ายแรงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางอากาศที่อาจเกิดขึ้นบนพื้นดิน
ซึ่งต่อมาท่าอากาศยาน Paya Lebar ได้ถูกดัดแปลงเพื่อใช้เป็นฐานทัพอากาศ Paya Lebar แทนฐานทัพอากาศชางงีเดิม
รายละเอียดท่าอากาศยาน
ท่าอากาศยานชางงีให้บริการโดยสายการบินมากกว่า 100 สายสู่จุดหมายปลายทางกว่า 400 แห่งในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยท่าอากาศยานมีการเคลื่อนไหวของเครื่องบินถึง 7,400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ นับเป็นหนึ่งเที่ยวบินทุกๆ 80 วินาที
ในปี 2019 มีความเคลื่อนไหวของผู้โดยสารมากถึง 68,300,000 คน (เพิ่มขึ้น 4.0% จากปีก่อนหน้า)มากที่สุดในประวัติศาสตร์ 38 ปี ทำให้เป็นท่าอากาศยานที่มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุดอันดับที่เจ็ดของโลกและอันดับที่สามในเอเชีย ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2019 ท่าอากาศยานชางงีมีจำนวนผู้โดยสารกว่า 6.41 ล้านคน เป็นเดือนที่มากที่สุดตั้งแต่เปิดทำการในปี 1981 นอกจากนี้แล้วยังได้ทำลาสถิติจำนวนผู้โดยสารสูงสุดต่อวันในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ด้วยผู้โดยสารกว่า 226,692 คน ท่าอากาศยานชางงีเป็นฐานการบินสำคัญสำหรับสายการบินต่างๆ ทั้งสายการบินโดยสารและสายการบินขนส่งสินค้า โดยในปี 2019 มีอัตราการเคลื่อนที่สินค้ามากถึง 2.01 ล้านตัน การเคลื่อนที่อากาศยานลดลง 1.0% จากปีก่อนหน้าเป็ร 382,000 ลำในปี 2019
อาคารผู้โดยสาร
- อาคาร 1 (เปิดให้บริการปี พ.ศ. 2524)
- อาคาร 2 (เปิดให้บริการปี พ.ศ. 2533)
- อาคาร 3 (เปิดให้บริการปี พ.ศ. 2551)
- อาคาร 4 (เปิดให้บริการวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560)
- อาคาร 5 (เปิดให้บริการประมาณปี พ.ศ. 2563)
- จูเวิลชางงีแอร์พอร์ต (เปิดให้บริการประมาณปี พ.ศ. 2562)
หอควบคุมจราจรทางอากาศ
หอควบคุมจราจรทางอากาศถูกสร้างขึ้นตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานชางงีระยะที่หนึ่ง ให้บริการการควบคุมการจราจรทางอากาศ ทั้งการขึ้นบิน ลงจอด และการเคลื่อนที่อากาศยานภายในและภายนอกท่าอากาศยาน[5] โดยตั้งอยู่บริเวณระหว่างสองทางวิ่งเดิม (02L/20R และ 02C/20C ปัจจุบัน) และมีความสูง 81 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
พื้นที่พาณิชยกรรมเชิงประสม
จูเวิลชางงีแอร์พอร์ต ซึ่งเปิดตัวในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2019 เป็นอาคารพาณิชย์กรรมเชิงประสมและศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่ระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1, 2 และ 3[6] บริเวณที่จอดรถอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 เดิม ซึ่งปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นที่จอดรถใต้ดินแล้ว จูเวิลได้ถูกพัฒนาโดยบมจ.จูเวิลชางงีแอร์พอร์ตทรัสที, กิจการร่วมค้าของชางงีแอร์พอร์ตกรุ๊ปและคาปิตาแลนด์ผ่านบริษัทลูกคาปิตาแลนด์มอลล์เอเชีย[7] โดยมีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์[8]
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วงกระจายผู้โดยสารจากอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 24 ล้านคนต่อปีภายใน ค.ศ. 2018 เนื่องด้วยมีจุดเช็คอินและห้องรับรอง จูเวิลจึงถือเป็นหนึ่งในอาคารผู้โดยสารอย่างไม่เป็นทางการในตัว[9] ภายในมีการติดตั้ง "เดอะเรนวอร์เท็กซ์" น้ำพุวนจากหลังคาซึ่งเป็นน้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลก
รายชื่อสายการบิน
เส้นทางการบินที่ให้บริการในปัจจุบัน
ณ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 ท่าอากาศยานชางงีสิงคโปร์มีสายการบินที่ให้บริการเส้นทางดังนี้:
เที่ยวบินขนส่งสินค้า (คาร์โก)
สายการบิน | จุดหมายปลายทาง |
---|---|
Aerologic | บาห์เรน, เดลี, Leipzig |
แอร์ฮ่องกง | ฮ่องกง |
เอเชียน่าคาร์โก | โซล-อินชอน |
Cardig Air | Balikpapan, โฮจิมินห์ซิตี, Jakarta-Soekarno-Hatta |
Cargolux | Amman, Baku, เจนไน, Damascus, กัวลาลัมเปอร์, ลอสแอนเจลิส, Luxembourg |
คาเธ่ย์แปซิฟิคคาร์โก | ฮ่องกง, ปีนัง |
ไชนาแอร์ไลน์คาร์โก | ไทเป-เถาหยวน |
ไชนาคาร์โกแอร์ไลน์ | เซี่ยงไฮ้-ผู่ตง |
อีวีเอแอร์คาร์โก | กรุงเทพมหานคร-สุวรรณภูมิ, Jakarta-Soekarno-Hatta, ปีนัง, ไทเป-เถาหยวน |
FedEx Express | Anchorage, เซบู, กว่างโจว, Jakarta-Soekarno-Hatta, Memphis, นูอาร์ก, โอะซะกะ-คันไซ, ปีนัง, ซานฟรานซิสโก, เซี่ยงไฮ้-ผู่ตง, Subic, โตเกียว-นาริตะ |
ฮ่องกงแอร์ไลน์ | ฮ่องกง |
Jett8 Airlines Cargo | เจนไน, ดูไบ, ฮ่องกง, Luxembourg, แมนเชสเตอร์ |
โคเรียนแอร์คาร์โก | ฮานอย, โซล-อินชอน |
ลุฟต์ฮันซาคาร์โก | บาห์เรน, เดลี, Leipzig/Halle |
เคแอลเอ็มคาร์โก | อัมสเตอร์ดัม, ดูไบ, ปีนัง |
MASKargo | กัวลาลัมเปอร์ |
Martinair Cargo | อัมสเตอร์ดัม, กรุงเทพมหานคร-สุวรรณภูมิ, Riyadh, Sharjah |
นิปปอนคาร์โกแอร์ไลน์ | กรุงเทพมหานคร-สุวรรณภูมิ, โอะซะกะ-คันไซ, โตเกียว-นาริตะ |
Republic Express Airlines | Jakarta-Soekarno-Hatta |
เซี่ยงไฮ้แอร์ไลน์คาร์โก | โฮจิมินห์ซิตี, เซี่ยงไฮ้-ผู่ตง |
สิงคโปร์แอร์ไลน์คาร์โก | Adelaide, อัมสเตอร์ดัม, Anchorage, แอตแลนตา, โอกแลนด์, Bangalore, กรุงเทพมหานคร-สุวรรณภูมิ, บรัสเซลส์, เจนไน, ชิคาโก-โอแฮร์, โคเปนเฮเกน, ดัสลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ, ธากา, ดูไบ, ฮานอย, ฮ่องกง, โจฮันเนสเบิร์ก, ลอนดอน-ฮีทโธรว์, ลอสแอนเจลิส, เมลเบิร์น, มุมไบ, ไนโรบี, หนานจิง, เซี่ยงไฮ้-ผู่ตง, Sharjah, ซิดนีย์, ไทเป-เถาหยวน, โตเกียว-นาริตะ, Xiamen |
TNT Airways | Liège, เซี่ยงไฮ้-ผู่ตง |
Transmile Air Services[86] | Labuan, กัวลาลัมเปอร์, กูชิง |
Tri-MG Intra Asia Airlines | Balikpapan, Jakarta-Soekarno-Hatta, กัวลาลัมเปอร์, พนมเปญ |
UPS Airlines | กรุงเทพมหานคร-สุวรรณภูมิ, Clark, โคโลญ, ดูไบ, กว่างโจว, ฮ่องกง, มุมไบ, เซินเจิ้น, ซิดนีย์, ไทเป-เถาหยวน |
อุบัติเหตุและอุบัติการณ์
- 26 มีนาคม พ.ศ. 2534: เครื่องบินแอร์บัส เอ310 ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 117 ที่ออกจากกัวลาลัมเปอร์ ถูกชายสี่คนจี้ขณะเดินทางไปยังสิงคโปร์ คนร้ายต้องการเติมน้ำมันให้เครื่องบินเพื่อให้บินไปถึงออสเตรเลีย เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สิงคโปร์ หน่วยจู่โจมได้บุกเข้าไปในเครื่องบินแล้วสังหารคนร้ายชาวปากีสถานทั้งสี่คน ขณะที่ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดไม่ได้รับอันตราย[87]
- 11 ตุลาคม พ.ศ. 2550: อุซามะฮ์ ชูบลัก (Osama R.M. Shublaq) ชาวปาเลสไตน์ ได้ลักลอบขึ้นเครื่องบินของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 119 จากกัวลาลัมเปอร์ แล้วตกออกจากโครงส่วนล่างของเครื่องบิน ตำรวจของท่าอากาศยานได้จับกุมและเนรเทศกลับไปมาเลเซียในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา[88]
- 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553: เครื่องบินแอร์บัส เอ380 ของสายการบินควอนตัส เที่ยวบินที่ 32 ชื่อว่า "Nancy-Bird Walton" ประสบปัญหาเครื่องยนต์ภายในลำตัวเครื่องบินด้านซ้ายขัดข้องอย่างรุนแรง เครื่องบินสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย ผู้โดยสารทั้ง 433 คนและลูกเรือทั้ง 26 คนไม่ได้รับอันตราย ขณะที่ฝาครอบเครื่องยนต์ที่ขัดข้องได้ตกลงไปที่เกาะบาตัม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- ท่าอากาศยานชางงีสิงคโปร์ (อังกฤษ)
- อาคารผู้โดยสารสายการบินต้นทุนต่ำ (อังกฤษ)