ภาษาเวียดนาม

ภาษาเวียดนาม (เวียดนาม: tiếng Việt เตี๊ยงเหฺวียด, tiếng Việt Nam, Việt ngữ) เป็นภาษาในตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก อันเป็นภาษาประจำชาติและภาษาราชการของประเทศเวียดนาม ภาษาเวียดนามมีผู้ใช้เป็นภาษาแม่ประมาณ 85 ล้านคน[1] คำจำนวนมากมีรากศัพท์ร่วมกับตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก[5] ภาษาเวียดนามเป็นภาษาแม่ของประชากรชาวเวียดนาม (ชาวญวน) และยังเป็นภาษาที่สองหรือภาษาแม่ของชนกลุ่มน้อยในประเทศเวียดนาม โดยภาษาเวียดนามแบ่งออกเป็นสามสำเนียงหลัก อันได้แก่ สำเนียงเหนือ (ฮานอย) สำเนียงกลาง (เว้) และสำเนียงภาคใต้ (โฮจิมินห์ซิตี้) ผลจากการอพยพ-ย้ายถิ่นฐาน ทำให้สามารถพบเจอผู้พูดภาษาเวียดนามได้ในพื้นที่ต่างๆในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เอเชียตะวันออก, อเมริกาเหนือ, ยุโรป และออสเตรเลีย นอกจากนี้ภาษาเวียดนามก็ยังได้รับการรองรับให้เป็นภาษาชนกลุ่มน้อยในสาธารณรัฐเช็ก[a]

ภาษาเวียดนาม
Tiếng Việt
ออกเสียง[tiəŋ˧˦ viət̚˧˨ʔ] (ภาคเหนือ)
[tiəŋ˦˧˥ viək̚˨˩ʔ] (ภาคกลาง)
[tiəŋ˦˥ viək̚˨˩˨] ~ [tiəŋ˦˥ jiək̚˨˩˨] (ภาคใต้)
ประเทศที่มีการพูด
จำนวนผู้พูด85 ล้านคน (2019)[1]  (ไม่พบวันที่)
ตระกูลภาษา
รูปแบบก่อนหน้า
เหวียด-เหมื่อง
ระบบการเขียนอักษรละติน (จื๋อโกว๊กหงือ)
อักษรเบรลล์เวียดนาม
จื๋อโนม (อดีต)
สถานภาพทางการ
ภาษาทางการ เวียดนาม
ภาษาชนกลุ่มน้อยที่รับรองใน เช็กเกีย[2]
 สโลวาเกีย[3]
ผู้วางระเบียบVietnam Academy of Social Sciences
รหัสภาษา
ISO 639-1vi
ISO 639-2vie
ISO 639-3vie
Linguasphere46-EBA
อาณาเขตของผู้ที่พูดภาษาเวียดนาม (ไม่นับชนกลุ่มน้อย) ภายในประเทศเวียดนาม[4]
บทความนี้มีสัญลักษณ์สัทอักษรสากล หากระบบของคุณไม่รองรับการแสดงผลที่ถูกต้อง คุณอาจเห็นปรัศนี กล่อง หรือสัญลักษณ์อย่างอื่นแทนที่อักขระยูนิโคด

เช่นเดียวกับภาษาอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ภาษาเวียดนามเป็นภาษาคำโดดที่มีวรรณยุกต์ การเรียงประโยคเป็นแบบประธาน-กริยา-กรรม และมีการผันคำตามไวยากรณ์ นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้คำนามในรูปแบบลักษณนาม คำศัพท์ในภาษาเวียดนามได้รับอิทธิพลจากภาษาจีนและภาษาฝรั่งเศสเป็นจำนวนมาก

ภาษาเวียดนามเดิมใช้อักษรจื๋อโนมในการเขียน ซึ่งเป็นตัวหนังสือคำที่ดัดแปลงมาจากอักษรจีน (จื๋อฮั๊น) ไว้ใช้สำหรับยืมคำศัพท์จากภาษาจีนและคำภาษาเวียดนามดั้งเดิมเป็นบางคำ พร้อมกับคิดค้นอักษรเฉพาะขึ้นมาเองในแต่ละท้องถิ่นเพื่อแสดงความหมายของคำอื่นๆนอกเหนือจากที่มีอยู่[6][7] ผลจากการล่าอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศส ทำให้ภาษาเวียดนามต้องเปลี่ยนไปใช้อักษรจื๋อโกว๊กหงือ ซึ่งพัฒนามาจากอักษรละตินแทน โดยมีทวิอักษรและเครื่องหมายเสริมสัทอักษรไว้แสดงเสียงวรรณยุกต์และเสียงเฉพาะ

การจำแนก

งานภาษาศาสตร์เมื่อ 150 ปีที่แล้ว[8] ได้จัดหมวดหมู่ให้ภาษาเวียดนามเป็นสาขาหนึ่งในตระกูลภาษามอญ-เขมร อันเป็นตระกูลย่อยของตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก (รวมถึงภาษาเขมรที่ใช้พูดในประเทศกัมพูชา, ภาษาชนกลุ่มน้อย-ภาษาท้องถื่นต่างๆ เช่น ภาษามุนดาและภาษาคาซีที่ใช้พูดกันในภูมิภาคตะวันออกของประเทศอินเดีย, ภาษาอื่น ๆ ภายในประเทศลาว, ทางตอนใต้ของประเทศจีน และพื้นที่บางส่วนในประเทศไทย) ต่อมาการค้นพบว่าภาษาเหมื่องมีความเกี่ยวข้อง-ใกล้ชิดกับเวียดนามมากกว่าภาษามอญ–เขมรภาษาอื่นๆ จึงได้มีการจำแนกออกไปเป็นกลุ่มภาษาเหวียด-เหมื่อง รวมถึงภาษาทะวืง ภาษาชุต ภาษากูออย ฯลฯ[9] คำว่า "เวียตติก" ถูกเสนอขึ้นโดยเฮส์ (1992)[10] ที่เสนอให้มีการจำแนกกลุ่มภาษาเหวียด-เหมื่องเสียใหม่ โดยกำหนดให้สาขาย่อยของกลุ่มภาษาเวียตติก มีเพียงแค่ภาษาเวียดนามและภาษาเหมื่อง ในขณะที่เฌราร์ ดิฟโฟลธ เสนอให้มีการใช้คำว่า "เวียตติก" ซึ่งมีข้อเสนอต่างไปเล็กน้อยในเรื่องของการจัดตระกูลย่อยของภาษา โดยกำหนดให้คำว่า "เหวียด-เหมื่อง" หมายถึงกลุ่มภาษาที่ย่อยลงไป (อยู่ภายในสาขาตระกูลภาษาเวียตติกตะวันออก) อันประกอบไปด้วยภาษาเวียดนาม, ภาษาเหมื่อง และภาษางวน (พบเจอได้ในจังหวัดกว๋างบิ่ญ)[11]

สำเนียงท้องถิ่น

ภาษาเวียดนามมีสำเนียงท้องถิ่นที่หลากหลาย แต่โดยมากถือว่ามี 3 หลัก ดังนี้

ถิ่นหลักท้องถิ่นชื่อในยุคอาณานิคมของฝรั่งเศส
เวียดนามตอนเหนือถิ่นฮานอย, ถิ่นอื่นทางเหนือ: ไฮฟอง และถิ่นระดับจังหวัดจำนวนมากตังเกี๋ย
เวียดนามตอนกลางถิ่นเว้, ถิ่นเหงะอาน, ถิ่นกว๋างนามอันนัมสูง
เวียดนามตอนใต้ถิ่นไซ่ง่อน, ถิ่นแม่น้ำโขง (ตะวันตกไกล)โคชินไชนา

ภาษาถิ่นเหล่านี้มีน้ำเสียง การออกเสียง และบางครั้งก็มีคำศัพท์ที่แตกต่างไปบ้าง แต่ภาษาถิ่นเฮว้จะมีคำศัพท์ที่แตกต่างค่อนข้างมากจากภาษาถิ่นอื่น ๆ วรรณยุกต์ "หอย" และ "หงา" มีความแตกต่างในภาคเหนือ แต่กลืนเป็นวรรณยุกต์เดียวกันในภาคใต้ ส่วนพยัญชนะ ch และ tr นั้นจะออกเสียงแตกต่างกันในถิ่นใต้และกลาง แต่รวมเป็นเสียงเดียวในถิ่นเหนือ สำหรับความแตกต่างด้านไวยากรณ์นั้นไม่ปรากฏ

ระบบเสียง

เสียงสระ

 หน้ากลางหลัง
กึ่งกลางia/iê [iə̯]ưa/ươ [ɨə̯]ua/uô [uə̯]
ปิดi/y [i]ư [ɨ]u [u]
กึ่งกลาง/
กลาง
ê [e]ơ [əː]
â [ə]
ô [o]
กึ่งเปิด/
เปิด
e [ɛ]a [aː]
ă [a]
o [ɔ]

เสียงพยัญชนะ

เสียงพยัญชนะในภาษาเวียดนามมีหน่วยเสียงตามตารางทางด้านล่าง โดยอักษรทางด้านซ้ายเป็นอักษรที่ใช้เขียนแทนหน่วยเสียงนั้น ๆ ในภาษาเวียดนาม ในขณะที่อักษรด้านขวาเป็นสัทอักษร

ริมฝีปากปุ่มเหงือกปลายลิ้นม้วนเพดานแข็งเพดานอ่อนเส้นเสียง
นาสิกm [m]n [n]nh [ɲ]ng/ngh [ŋ]
กักไม่ก้องp [p]t [t]tr [ʈ]ch [c]c/k/q [k]
พ่นลมth [tʰ]
ก้องb [ɓ]đ [ɗ]
เสียดแทรกไม่ก้องph [f]x [s]s [ʂ~s]kh [x~kʰ]h [h]
ก้องv [v]d/gi [z~j]g/gh [ɣ]
เปิดl [l]y/i [j]u/o [w]
รัวr [r]

เสียงวรรณยุกต์

นักภาษาศาสตร์ได้ศึกษาภาษาเวียดนามและจัดให้อยู่ในภาษาตระกูลออสโตรเอเชียติก เช่นเดียวกับภาษาเขมร ซึ่งเป็นภาษาระบบคำสองพยางค์ (disyllable) และมีลักษณะน้ำเสียง (register) เป็นลักษณะสำคัญของภาษา อีกทั้งเป็นภาษาที่ไม่มีระบบเสียงวรรณยุกต์ แต่ภาษาเวียดนามปัจจุบันได้พัฒนาระบบเสียงวรรณยุกต์ขึ้นใช้ เนื่องจากอิทธิพลของภาษาที่มีเสียงวรรณยุกต์อันได้แก่ภาษาตระกูลไทที่อยู่โดยรอบและภาษาจีนที่เข้ามาปกครองเวียดนามในขณะนั้น

สระในภาษาเวียดนามนั้น ออกเสียงโดยมีวรรณยุกต์ภายใน (thanh หรือ thanh điệu) โดยวรรณยุกต์มีความแตกต่างกันที่

  • ระดับเสียง
  • ความยาว
  • น้ำเสียงขึ้นลง
  • ความหนักแน่น
  • การออกเสียงคอหอย (ลักษณะเส้นเสียง)

เครื่องหมายกำกับวรรณยุกต์นั้น ปกติจะเขียนเหนือหรือใต้สระ [ส่วนใหญ่เขียนไว้เหนือสระ แต่วรรณยุกต์หนั่ง (nặng) เป็นจุดใต้สระ] วรรณยุกต์ทั้ง 6 ในภาษาถิ่นเหนือ (รวมฮานอยด้วย) มีดังนี้

ชื่อลักษณะเครื่องหมายตัวอย่างตัวอย่างสระออกเสียง
งาง (ngang)   'ระดับ'สูงระดับ ˧ (ไม่มีเครื่องหมาย) ma  'ผี'อา
ฮเหวี่ยน (huyền)   'แขวน'ต่ำตก ˨˩`  'แต่'อ่า
ซัก (sắc)   'คม'สูงขึ้น ˧˥´  'แก้ม, แม่ (ถิ่นใต้) 'อ๊า
หอย (hỏi)   'ถาม'ต่ำขึ้น ˧˩˧ ̉mả  'หลุมศพ, สุสาน'อ๋า
หงา (ngã)   'ตก'สูงขึ้นหยุด ˧˥ˀ˜  'ม้า (จีน-เวียดนาม), รหัส'อะ-อ๊ะ
หนั่ง (nặng)   'หนัก'ต่ำตกหยุด ˧˨ˀ ̣mạ  'สีข้าว'อะ (เสียงหนัก)

ไวยากรณ์

ภาษาเวียดนามเป็นภาษารูปคำโดดเช่นเดียวกับภาษาจีนและภาษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ ไวยากรณ์เน้นที่การเรียงลำดับคำและโครงสร้างประโยคมากกว่าการผันคำ แสดงโดยการเพิ่มคำเช่นเดียวกับภาษาไทย ภาษาเวียดนามเป็นภาษาคำโดด แต่ก็มีคำสองพยางค์อยู่เป็นจำนวนมาก การเรียงคำในประโยคเป็นแบบประธาน-กริยา-กรรม

กาล

ปกติแล้วไม่จำเป็นต้องแสดง โดยทั่วไปอดีตแสดงโดยคำว่า đã ปัจจุบันกาลกำลังกระทำ เติม đang อนาคตเติม sẽ

โครงสร้างแสดงหัวข้อ

เป็นโครงสร้างประโยคที่สำคัญในภาษาเวียดนาม ตัวอย่างเช่น Tôi đọc sách này rồi = ฉันอ่านหนังสือนี้แล้ว อาจเรียงประโยคใหม่เป็น Sách này thi tôi đọc rồi = หนังสือนี้น่ะฉันอ่านแล้ว (thi เป็นตัวแสดงหัวข้อ)

พหูพจน์

โดยทั่วไปไม่ต้องแสดง ถ้าแสดงจะใช้คำเติมเข้าไปในประโยค เช่น những, các, chúng

ลักษณนาม

ภาษาเวียดนามมีคำลักษณนามใช้แสดงลักษณะของนามเช่นเดียวกับภาษาไทยและภาษาจีน เช่น con ใช้กับสัตว์ cái ใช้กับสิ่งของไม่มีชีวิต คำลักษณนามบางคำอาจใช้ร่วมกันได้ เช่น cái con

คำสรรพนาม

คำสรรพนามในภาษาเวียดนามต่างจากภาษาอังกฤษ คือคำสรรพนามแต่ละคำไม่ได้ถูกแบ่งอย่างชัดเจนว่าเป็นบุรุษที่ 1 2 หรือ 3 ขึ้นกับผู้พูดและผู้ฟัง นอกจากนั้นยังต้องระมัดระวังในการระบุความสัมพันธ์ทางสังคมซึ่งขึ้นกับอายุและเพศ

การซ้ำคำ

พบมากในภาษาเวียดนามซึ่งเป็นการสร้างคำใหม่ ซึ่งมีความหมายต่างไปจากเดิม เช่นเป็นการลดหรือเพิ่มความเข้มของคำคุณศัพท์

คำศัพท์

คำศัพท์ทางการเมืองและวิทยาศาสตร์โดยมากมาจากภาษาจีน กว่าร้อยละ 70 ของคำศัพท์มีรากศัพท์มาจากภาษาจีน คำประสมหลายคำเป็นการประสมระหว่างคำดั้งเดิมในภาษาเวียดนามกับคำยืมจากภาษาจีน ซึ่งคำเหล่านี้ปัจจุบันมักถูกแทนที่ด้วยคำเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีคำยืมจากภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษ เช่น tivi มาจาก TV

ระบบการเขียน

ก่อนที่ฝรั่งเศสจะเข้ามายังเวียดนามนั้น ภาษาเวียดนามมีระบบการเขียนสองแบบ ซึ่งทั้งสองแบบก็มีที่มาจากอักษรจีนเช่นเดียวกัน

  • จื๋อญอ (chữ nho, 字儒) หรือฮ้านตึ (Hán tự, 漢字) คืออักษรจีนที่ใช้เขียนภาษาจีนโบราณ
  • จื๋อโนม (chữ nôm, 字喃) เป็นอักษรที่ใช้เขียนภาษาเวียดนาม โดยนำอักษรจีนมาดัดแปลงเล็กน้อย

ปัจจุบันภาษาเวียดนามเขียนด้วยจื๋อโกว๊กหงือ (chữ Quốc ngữ แปลว่า "อักษรของภาษาประจำชาติ") ซึ่งเป็นอักษรละตินที่เพิ่มเติมเครื่องหมายต่าง ๆ เข้ามาเพื่อให้มีอักษรเพียงพอที่จะใช้เขียนภาษา อักษรดังกล่าวได้รับการคิดค้นขึ้นมาในคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยอาแล็กซ็องดร์ เดอ รอด ซึ่งเป็นมิชชันนารีชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนา โดยมีรากฐานมาจากระบบที่มิชชันนารีชาวโปรตุเกสคิดไว้ก่อนหน้านั้น ในระหว่างที่เวียดนามยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสนั้น จื๋อโกว๊กหงือได้เป็นอักษรราชการของอาณานิคม ซึ่งได้ทำให้อักษรดังกล่าวเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ จื๋อโกว๊กหงือในปัจจุบันมีรูปแบบการเขียนที่อ้างอิงการออกเสียงของภาษาถิ่นเวียดนามกลาง ซึ่งสระและพยัญชนะท้ายจะคล้ายคลึงกับภาษาถิ่นเหนือ ส่วนพยัญชนะต้นจะคล้ายกับภาษาถิ่นใต้

ตัวอย่างประโยค

คำพูดที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

  • Xin chào [ซีนจ่าว] = สวัสดี
  • Bạn [บั่น] = เพื่อน

หมายเหตุ

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์หน้าหลักองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีพิเศษ:ค้นหาดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)กรงกรรมอสมทลิซ่า (แร็ปเปอร์)จีรนันท์ มะโนแจ่มสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดธี่หยดฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024เฟซบุ๊กสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาประเทศไทยเอเชียนคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024วิทยุเสียงอเมริกาสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลพระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท)พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรักวุ่น วัยรุ่นแสบวันไหลนริลญา กุลมงคลเพชรสโมสรฟุตบอลเชลซีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหลานม่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพ (ละครโทรทัศน์)สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิกกรุงเทพมหานครสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคิม ซู-ฮย็อนภาวะโลกร้อนสาธุ (ละครโทรทัศน์)รายชื่ออักษรย่อของจังหวัดในประเทศไทยสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง