อิบน์ อัลฮัยษัม
อะบู อะลี, อัลฮะซัน อิบน์ อัลฮะซัน อิบน์ อัลฮัยษัม (อาหรับ: أبو علي، الحسن بن الحسن بن الهيثم) หรือแผลงด้วยอักษรละตินเป็น แอลแฮซัน (อักษรโรมัน: Alhazen,[10](/ælˈhæzən/;[11] ประมาณ 965 – 1040) เป็นนักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ และนักฟิสิกส์สมัยกลางในยุคทองของอิสลามจากบริเวณที่เป็นประเทศอิรักในปัจจุบัน[12][13] ได้รับการกล่าวถึงเป็น "บิดาแห่งทัศนศาสตร์สมัยใหม่"[14][15] เขามีส่วนสำคัญต่อหลักการทัศนศาสตร์และการรับรู้ทางสายตาเป็นการเฉพาะ ผลงานที่มีอิทธิพลมากที่สุดของเขามีชื่อว่า กิตาบุลมะนาซิร (كتاب المناظر, "หนังสือทัศนศาสตร์") ที่เขียนขึ้นในช่วง ค.ศ. 1011–1021 ซึ่งยังคงเหลือเพียงฉบับภาษาละติน[16] ผลงานของอิบน์ อัลฮัยษัมได้รับการอ้างอิงอย่างมากในช่วงการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ของไอแซก นิวตัน, โยฮันเนิส เค็พเพลอร์, คริสตียาน เฮยเคินส์ และกาลิเลโอ กาลิเลอี
อิบน์ อัลฮัยษัม แอลแฮซัน | |
---|---|
ابن الهيثم | |
เกิด | ป. ค.ศ. 965 (ป. ฮ.ศ. 354)[1] บัสรา เอมิเรตบูยิด |
เสียชีวิต | ป. ค.ศ. 1040 (ป. ฮ.ศ. 430)[1] (ประมาณ 75 ปี) ไคโร รัฐเคาะลีฟะฮ์ฟาฏิมียะฮ์ |
มีชื่อเสียงจาก | กิตาบุลมะนาซิร, Doubts Concerning Ptolemy, Alhazen's problem, การวิเคราะห์,[2] Catoptrics,[3] horopter, ความคลาดทรงกลม, ทฤษฎีการเปล่งของการรับรู้ทางสายตา, ภาพลวงตาดวงจันทร์, วิทยาศาสตร์เชิงทดลอง, ระเบียบวิธีแบบวิทยาศาสตร์,[4] จิตวิทยาสัตว์[5] |
อาชีพทางวิทยาศาสตร์ | |
สาขา | ฟิสิกส์, คณิตศาสตร์, ดาราศาสตร์ |
มีอิทธิพลต่อ | โอมาร์ คัยยาม, ตะกิยุดดีน มุฮัมมัด อิบน์ มะอ์รูฟ, แคมอล แอล-ดีน ฟอรีซี, อิบน์ รุชด์, แอล-ฆอซีนี, จอห์น เพ็กคัม, วิเตลโล, รอเจอร์ เบคอน,[6] โยฮันเนิส เค็พเพลอร์ |
ได้รับอิทธิพลจาก | แอริสตอเติล,[7] ยูคลิด,[8] ทอเลมี,[9] เกเลน, บะนู มูซา, ษาบิต อิบน์ กุรเราะฮ์, อัลกินดี, อิบน์ ซะฮล์, แอบูแซฮล์ แอลกูฮี |
อิบน์ อัลฮัยษัมเป็นบุคคลแรกที่อธิบายทฤษฎีการมองเห็นได้ถูกต้อง[17] และโต้แย้งว่าการมองเห็นเกิดขึ้นในสมอง ชี้ให้เห็นถึงข้อสังเกตที่เป็นอัตวิสัยและได้รับผลกระทบจากประสบการณ์ส่วนตัว[18] เขายังกล่าวถึงหลักการใช้เวลาสำหรับการหักเหน้อยที่สุด ซึ่งภายหลังมีชื่อเรียกว่า หลักการของแฟร์มา[19] เขามีส่วนสำคัญในเรื่องแสงสะท้อนหรือกระจก (catoptric) และการหักเหของแสง (dioptric) โดยศึกษาการสะท้อน การหักเห และธรรมชาติของภาพที่เกิดจากลำแสง[20][21] อิบน์ อัลฮัยษัมเป็นผู้สนับสนุนแนวคิดเบื้องต้นที่ว่า สมมติฐานจะต้องได้รับการสนับสนุนจากการทดลองตามขั้นตอนที่ยืนยันได้ หรือการใช้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ ซึ่งทำให้เขาเป็นผู้บุกเบิกระเบียบวิธีแบบวิทยาศาสตร์ยุคแรกประมาณ 5 ศตวรรษก่อนหน้านักวิทยาศาสตร์สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา[22][23][24][25] ด้วยเหตุผล ทำให้บางครั้งมีการเรียกเขาเป็น "นักวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงคนแรก"ของโลก[15] เขาก็ยังเป็นผู้รู้รอบด้านที่เขียนเนื้อหาในด้านปรัชญา, เทววิทยา และแพทยศาสตร์[26]
เขาเกิดที่บัสรา และใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่ไคโร เมืองหลวงของรัฐเคาะลีฟะฮ์ฟาฏิมียะฮ์ และหาเลี้ยงชีพด้วยการประพันธ์ตำราต่าง ๆ และสั่งสอนสมาชิกขุนนาง[27] บางครั้งมีการเรียกอิบน์ อัลฮัยษัมตามชื่อรอง อัลบัศรี ตามสถานที่ที่เขาเกิด[28] หรือ อัลมิศรี ("ชาวอียิปต์")[29][30] แอบูล-แฮแซน แบย์แฮกีขนานนามอัลฮัยษัมเป็น "ทอเลมีที่สอง"[31] และจอห์น เพ็กคัมเรียกเขาเป็น "นักฟิสิกส์"[32] อิบน์ อัลฮัยษัมได้ปูทางสู่ศาสตร์ของทัศนศาสตร์เชิงฟิสิกส์สมัยใหม่[33]
ประวัติ
อิบน์ อัลฮัยษัม (แอลแฮซัน) เกิดเมื่อประมาณ ค.ศ. 965 จากครอบครัวชาวอาหรับ[13][34][35][36] หรือเปอร์เซีย[37][38][39][40][41] ที่บัสรา อิรักในสมัยเอมิเรตบูยิด อิทธิพลช่วงแรกของเขาคือการศึกษาศาสนาและการให้บริการแก่ชุมชน ในเวลานั้นสังคมมีมุมมองศาสนาที่ขัดแย้งกันหลายประการ จนทำใหเเขาก็พยายามที่จะก้าวออกจากศาสนา สิ่งนี้นำไปสู่การเจาะลึกการศึกษาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์[42] เขาดำรงตำแหน่งวิเซียร์ที่บัสรา และสร้างชื่อให้ตัวเองในด้านความรู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ประยุกต์ เนื่องจากเขาอ้างว่าสามารถควบคุมอุทกภัยของแม่น้ำไนล์ ทำให้เขาได้ัรบเชิญให้พบกับเคาะลีฟะฮ์ อัลฮากิมแห่งฟาฏิมียะฮ์ เพื่อทำโครงการชลศาสตร์ที่อัสวาน อย่างไรก็ตาม อิบน์ อัลฮัยษัมถูกบังคับให้ยอมรับว่าไม่สามารถทำโครงการนั้นได้[43]
เมื่อกลับมาที่ไคโร เขาได้รับตำแหน่งฝ่ายบริหาร หลังจากที่พิสูจน์แล้วว่าตนไม่สามารถทำภารกิจนี้ได้เช่นกัน เขาก็ทำสัญญาความโกรธแค้นต่อเคาะลีฟะฮ์อัลฮากิม[44] และกล่าวกันว่าเขาถูกบังคับให้ซ่อนตัวจนกระทั่งเคาะลีฟะฮ์สวรรคตใน ค.ศ. 1021 หลังจากนั้นก็คืนทรัพย์สินของเขาที่ถูกยึด[45]ตำนานระบุว่าอิบน์ อัลฮัยษัมแสร้งทำเป็นบ้า และซ่อนตัวในบ้าน[46] โดยในช่วงนั้น เขาเขียนหนังสือเรื่อง กิตาบุลมะนาซิร เขายังคงอาศัยอยู่ที่ไคโรในย่านของมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร และดำรงชีวิตจากรายได้ในการผลิตวรรณกรรมของเขา[47] จนกระทั่งเขาเสียชีวิตประมาณ ค.ศ. 1040[43]
อ้างอิง
ข้อมูล
แหล่งข้อมูลอื่น
- ผลงานโดย อิบน์ อัลฮัยษัม ที่โอเพนไลบรารี
- Langermann, Y. Tzvi (2007). "Ibn al‐Haytham: Abū ʿAlī al‐Ḥasan ibn al‐Ḥasan". ใน Thomas Hockey; และคณะ (บ.ก.). The Biographical Encyclopedia of Astronomers. New York: Springer. pp. 556–67. ISBN 978-0-387-31022-0. (PDF version)
- 'A Brief Introduction on Ibn al-Haytham' based on a lecture delivered at the Royal Society in London by Nader El-Bizri
- Ibn al-Haytham on two Iraqi banknotes
- The Miracle of Light – a UNESCO article on Ibn al-Haytham
- Biography from Malaspina Global Portal
- Short biographies on several "Muslim Heroes and Personalities" including Ibn al-Haytham
- Biography from ioNET ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (เก็บถาวร 13 ตุลาคม 1999)
- "Biography from the BBC". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 February 2006. สืบค้นเมื่อ 16 September 2008.
- Biography from Trinity College (Connecticut)
- Biography from Molecular Expressions
- The First True Scientist from BBC News
- Over the Moon From The UNESCO Courier on the occasion of the International Year of Astronomy 2009
- The Mechanical Water Clock Of Ibn Al-Haytham, Muslim Heritage
- Alhazen's (1572) Opticae thesaurus เก็บถาวร 2018-09-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (English) – digital facsimile from the Linda Hall Library