ตระกูลภาษาขร้า–ไท
ตระกูลภาษาขร้า–ไท (อังกฤษ: Kra–Dai languages) หรือรู้จักกันในนาม ไท–กะได (Tai–Kadai) และ ไดอิก (Daic) เป็นตระกูลภาษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพื้นทวีป จีนตอนใต้ และอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือ ภาษาทั้งหมดในตระกูลนี้เป็นภาษาที่มีวรรณยุกต์ เช่น ภาษาไทยและภาษาลาว ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติของประเทศไทยและประเทศลาว ตามลำดับ[2] ประชากรประมาณ 93 ล้านคนพูดภาษาตระกูลขร้า–ไท โดยร้อยละ 60 พูดภาษาไทย[3] เอทโนล็อก จัดให้ 95 ภาษาอยู่ในตระกูลนี้ โดย 62 ภาษาอยู่ในสาขาไท[4]
ตระกูลภาษาขร้า–ไท | |
---|---|
ไท–กะได, ไดอิก | |
กลุ่มเชื้อชาติ: | Daic people |
ภูมิภาค: | ภาคใต้ของจีน, ไหหลำ, อินโดจีน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย |
การจําแนก ทางภาษาศาสตร์: | หนึ่งในตระกูลภาษาที่มีผู้พูดมากที่สุดในโลก |
ภาษาดั้งเดิม: | ขร้า–ไทดั้งเดิม |
กลุ่มย่อย: | |
กลอตโตลอก: | taik1256[1] |
แผนที่แสดงการกระจายของภาษาตระกูลขร้า–ไท |
ภาษาในตระกูล
ตระกูลภาษาขร้า–ไทประกอบด้วยกลุ่มภาษาที่จัดแบ่งไว้ 5 สาขา ดังนี้
- กลุ่มภาษาขร้า (อาจเรียกว่า กะได หรือ เก-ยัง)
- กลุ่มภาษากัม-ฉุ่ย (จีนแผ่นดินใหญ่ เรียกว่า ต้ง-ฉุ่ย)
- กลุ่มภาษาไหล (เกาะไหหลำ)
- กลุ่มภาษาไท (จีนตอนใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
- ภาษาอังเบ (เกาะไหหลำ เรียกว่า ภาษาเบ)
กลุ่มภาษาไหล
- ภาษาเจียมาว (Jiamao) เจียมาว (ไหหลำ)
- ภาษาไหล (Hlai) (ไหหลำ)
กลุ่มภาษาขร้า
- Yerong (จีนแผ่นดินใหญ่)
- ภาษาเก้อหล่าว (Gelao) (เวียดนาม)
- ภาษาลาติ (Lachi หรือ Lati) (เวียดนาม)
- ภาษาลาติขาว (White Lachi) (เวียดนาม)
- ภาษาปู้ยัง (Buyang) (จีนแผ่นดินใหญ่)
- ภาษาจุน (Cun) (ไหหลำ)
- ภาษาเอน (En) (เวียดนาม)
- ภาษากวาเบียว (Qabiao) (เวียดนาม)
- ภาษาลาคัว (Laqua) (เวียดนาม)
- ภาษาลาฮา (Laha) (เวียดนาม)
กลุ่มภาษาไท
- กลุ่มภาษาไทเหนือ
- กลุ่มภาษาไทกลาง
- ภาษาจ้วงใต้ (จีน)
- ภาษาม่านเชาลาน (เวียดนาม)
- ภาษานุง (เวียดนาม)
- ภาษาตั่ย (เวียดนาม)
- ภาษาซึนลาว (Ts'ün-Lao) (เวียดนาม)
- ภาษานาง (เวียดนาม)
- กลุ่มภาษาไทตะวันตกเฉียงใต้
- ภาษาไทหย่า (จีน)
- ภาษาพูโก (ลาว)
- ภาษาปาดี (จีน)
- ภาษาไททัญ (เวียดนาม)
- ภาษาตั่ยซาปา (เวียดนาม)
- ภาษาไทโหลง (ไทหลวง) (ลาว)
- ภาษาไทฮ้องจีน (จีน)
- ภาษาตุรุง (อินเดีย)
- ภาษายอง (ไทย)
- ภาษาไทยถิ่นใต้ (ปักษ์ใต้) (ไทย)
- กลุ่มภาษาไทกลาง-ตะวันออก
- กลุ่มภาษาเชียงแสน
- ภาษาไทดำ (เวียดนาม)
- ภาษาไทยถิ่นเหนือ (ภาษาล้านนา, ภาษาไทยวน, คำเมือง) (ไทย)
- ภาษาพวน (ไทย)
- ภาษาไทโซ่ง (ไทย)
- ภาษาไทย (ไทย)
- ภาษาไทฮ่างตง (เวียดนาม)
- ภาษาไทขาว (ภาษาไทด่อน) (เวียดนาม)
- ภาษาไทแดง (ภาษาไทโด) (เวียดนาม)
- ภาษาไทเติ๊ก (เวียดนาม)
- ภาษาทูลาว (เวียดนาม)
- กลุ่มภาษาลาว-ผู้ไท
- กลุ่มภาษาไทตะวันตกเฉียงเหนือ (พายัพ)
- ภาษาอาหม (รัฐอัสสัม เป็นภาษาสูญแล้ว; ภาษาอัสสัมซึ่งเป็นภาษาที่ชาวอาหมใช้ในปัจจุบัน จัดอยู่ในตระกูลภาษาอินโด-ยุโรเปียน)
- ภาษาอ่ายตน (รัฐอัสสัม)
- ภาษาลื้อ (ภาษาไทลื้อ) (จีน, เวียดนาม, ไทย, ลาว, พม่า)
- ภาษาคำตี่ (รัฐอัสสัม, พม่า)
- ภาษาเขิน (พม่า)
- ภาษาคำยัง (รัฐอัสสัม)
- ภาษาพ่าเก (รัฐอัสสัม)
- ภาษาไทใหญ่ (ภาษาชาน) (พม่า)
- ภาษาไทใต้คง (ภาษาไทเหนือ) (จีน, เวียดนาม, ไทย, ลาว)
- กลุ่มภาษาเชียงแสน
กลุ่มภาษากัม-ฉุ่ย
- กลุ่มภาษาลักเกีย-เบียว (จีนแผ่นดินใหญ่)
- ภาษาลักเกีย (Lakkia)
- ภาษาเบียว
- ภาษากัม-ฉุ่ย (จีนแผ่นดินใหญ่)
- ภาษาอ้ายจาม (Ai-Cham)
- Cao Miao
- ภาษาต้งเหนือ (Northern Dong)
- ภาษาต้งใต้ (Southern Dong)
- ภาษาคัง (Kang)
- Mak
- ภาษามู่หลาม (Mulam)
- ภาษาเมาหนาน (Maonan)
- ภาษาฉุ่ย (Sui)
- T’en
สาขากัม-ฉุ่ย, เบ และไทมักถูกจัดให้อยู่รวมกันเนื่องจากมีคำศัพท์ที่ใช้ร่วมกันจำนวนมาก (ดูเพิ่มที่กลุ่มภาษากัม-ไท) อย่างไรก็ตามการจัดแบ่งเช่นนี้มีความเห็นที่โต้แย้ง ซึ่งอาจเป็นเพราะมีการแทนที่ศัพท์เข้าไปในสาขาอื่น ความคล้ายกันของระบบหน่วยคำทำให้มีนักภาษาศาสตร์จัดสาขาขร้ากับกัม-ฉุ่ย เป็นกลุ่มขร้า–ไทเหนือทางหนึ่ง และสาขาไหลกับไท เป็นกลุ่มขร้า–ไทใต้อีกทางหนึ่งแทนดังภาพ ตำแหน่งของภาษาอังเบในข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้ถูกพิจารณาไปด้วย
ขร้า–ไท |
| |||||||||||||||||||||
เปรียบเทียบคำศัพท์[5]
ไทย | ไท | เก้อหล่าว | จ้วงใต้ | ไหล |
---|---|---|---|---|
หมา | หมา | มเปา | หมา | ปา |
ไฟ | ไฟ | ไป | ไฟ | เฝ่ยฺ |
หนา | หนา | นเต้า | หนา | หนา |
เมฆ | ฝ้า | เป๊า | ฝ้า | ฝ้า |
หิมะ | นาย (ไทใหญ่) | นไต๊ | นาย(น้ำค้าง) | - |
น้ำค้างแข็ง | เหมือย (ลาว) | มไปล้ | เหมือย | - |
หมายเหตุ
อ้างอิง
ข้อมูล
อ่านเพิ่ม
- Chamberlain, James R. (2016). Kra-Dai and the Proto-History of South China and Vietnam. Journal of the Siam Society, 104, 27-76.
- Diller, A., J. Edmondson, & Yongxian Luo, ed., (2005). The Tai–Kadai languages. London [etc.]: Routledge. ISBN 0-7007-1457-X
- Edmondson, J. A. (1986). Kam tone splits and the variation of breathiness.
- Edmondson, J. A., & Solnit, D. B. (eds.) (1988). Comparative Kadai: linguistic studies beyond Tai. Summer Institute of Linguistics publications in linguistics, no. 86. Arlington, TX: Summer Institute of Linguistics. ISBN 0-88312-066-6
- Mann, Noel, Wendy Smith and Eva Ujlakyova. 2009. Linguistic clusters of Mainland Southeast Asia: an overview of the language families. เก็บถาวร 2019-03-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Chiang Mai: Payap University.
- Norquest, Peter (2021). "Classification of (Tai-)Kadai/Kra-Dai languages". The Languages and Linguistics of Mainland Southeast Asia. De Gruyter. pp. 225–246. doi:10.1515/9783110558142-013. ISBN 9783110558142. S2CID 238672319.
- Ostapirat, Weera. (2000). "Proto-Kra." Linguistics of the Tibeto-Burman Area 23 (1): 1-251.
- Somsonge Burusphat, & Sinnott, M. (1998). Kam–Tai oral literatures: collaborative research project between. Salaya Nakhon Pathom, Thailand: Institute of Language and Culture for Rural Development, Mahidol University. ISBN 974-661-450-9
แหล่งข้อมูลอื่น
- Word lists of Tai–Kadai languages from the Austronesian Basic Vocabulary Database
- Tai–Kadai word lists by Ilya Peiros (Intercontinental Dictionary Series)
- StarLing: Tai–Kadai 100-word lists and etymology
- Appendix:Kra–Dai Swadesh lists (from Wiktionary's Swadesh list appendix)
- Kra–Dai vocabulary lists (from Wiktionary's Vocabulary lists appendix)