สมัยไพลโอซีน
สมัยไพลโอซีน (อังกฤษ: Pliocene epoch หรือ Pleiocene epoch) เป็นสมัยในธรณีกาล กินเวลาตั้งแต่ 5.333 ถึง 2.58[6] ล้านปีก่อน เป็นสมัยลำดับที่สองและใหม่สุดของยุคนีโอจีนในมหายุคซีโนโซอิก สมัยนี้อยู่ถัดจากสมัยไมโอซีนและอยู่ก่อนหน้าสมัยไพลสโตซีน ก่อนการแก้ไขธรณีกาลในปี พ.ศ. 2552 ซึ่งจัดให้ยุคการเปลี่ยนสภาพโดยธารน้ำแข็งสี่ครั้งล่าสุดอยู่ภายในสมัยไพลสโตซีนทั้งหมด โดยสมัยไพลโอซีนนั้นหมายรวมไปถึงช่วงอายุเจลาเซียน ซึ่งกินเวลาตั้งแต่ 2.588 ถึง 1.806 ล้านปีก่อนด้วย แต่ปัจจุบันถูกจัดให้อยู่กับสมัยไพลสโตซีน[7]
สมัยไพลโอซีน | ||
---|---|---|
5.333 ± 0.08 – 2.58 ± 0.04 ล้านปีก่อน | ||
วิทยาการลำดับเวลา | ||
37°23′30″N 13°16′50″E / 37.3917°N 13.2806°E
- อิงกับสภาพขั้วแม่เหล็กหินรุ่น C2r (Matuyama)
- การสูญพันธุ์ของพวกแฮปโตไฟต์ Discoaster pentaradiatus และ Discoaster surculus
37°08′49″N 14°12′13″E / 37.1469°N 14.2035°E
เช่นเดียวกับช่วงเวลาทางธรณีวิทยาอื่น ชั้นหินทางธรณีวิทยาที่เป็นจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดนั้นถูกระบุไว้อย่างชัดเจน แต่จุดเริ่มต้นและสิ้นสุดที่แน่นอนของสมัยนั้นยังคงไม่แน่นอนเล็กน้อย ขอบเขตที่เป็นตัวกำหนดสมัยไพลโอซีนไม่ได้กำหนดไว้บนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่อยู่ที่ขอบเขตระดับภูมิภาคระหว่างสมัยไมโอซีนที่อบอุ่นกว่า และสมัยไพลโอซีนที่ค่อนข้างเย็นกว่า ขณะที่ขอบเขตด้านบนนั้นกำหนดไว้ที่จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนสภาพโดยธารน้ำแข็งสมัยไพลสโตซีน
นิรุกติศาสตร์
ชาลส์ ไลเอลล์ (ในภายหลังเป็นเซอร์ ชาลส์) ตั้งชื่อไพลโอซีนไว้ในหนังสือ Principles of Geology (เล่ม 3 ฉบับปี ค.ศ. 1833)[8]
คำว่า ไพลโอซีน มาจากคำในภาษากรีกว่า πλεῖον (pleion หรือ พลิออน แปลว่า "มาก") และ καινός (kainos หรือ เคนอส ที่แปลว่า "ใหม่" หรือ "ปัจจุบัน")[9] มีความหมายอย่างคร่าว ๆ ว่า "สมัยที่ตามมาจากสมัยปัจจุบัน" อันหมายถึงสมัยของสัตว์ทะเลมอลลัสกาสมัยใหม่
การแบ่งย่อย
ในธรณีกาลทางการของคณะกรรมมาธิการการลำดับชั้นหินสากล (ICS) สมัยไพลโอซีนถูกแบ่งย่อยออกเป็นสองหินช่วงอายุ ไล่จากใหม่สุดไปจนถึงเก่าสุดได้ ดังนี้
- ช่วงอายุปีอาเซนเซียน (3.600–2.58 ล้านปีก่อน)[10]
- ช่วงอายุซานเคลียน (5.333–3.600 ล้านปีก่อน)[11]
บางครั้งช่วงอายุปีอาเซนเซียนถูกเรียกว่าช่วงอายุไพลโอซีนตอนปลาย (อังกฤษ: Late Pliocene) และช่วงอายุซานเคลียนถูกเรียกว่าช่วงอายุไพลโอซีนตอนต้น (อังกฤษ: Early Pliocene)
ในระบบของ
- ช่วงอายุสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบกอเมริกาเหนือ (อังกฤษ: North American Land Mammal Ages; NALMA) ประกอบด้วย เฮมฟิลเลียน (9–4.75 ล้านปีก่อน) [12][13] และ แบลงกา (4.75–1.6 ล้านปีก่อน)[14] โดยแบลงกานั้นยาวจนเข้าสู่สมัยไพลสโตซีน
- ช่วงอายุสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบกอเมริกาใต้ (อังกฤษ: South American Land Mammal Ages; SALMA) ประกอบด้วย มอนเตเฮอร์โมซาน (6.8–4.0 ล้านปีก่อน), ชาปาดมาลาลัน (4.0–3.0 ล้านปีก่อน) และ ยูเคียน (3.0–1.2 ล้านปีก่อน)[15]
ในพื้นที่มหาสมุทรพาราเททิส (ทวีปยุโรปกลางและบางส่วนของทวีปเอเชียตะวันตก) สมัยไพลโอซีน ประกอบด้วย หินช่วงอายุดาเชียน (เทียบเท่าได้คร่าว ๆ กับช่วงอายุซานเคลียน) และ หินช่วงอายุโรมาเนียน (เทียบเท่าได้คร่าว ๆ กับช่วงอายุปีอาเซนเซียนรวมกับช่วงอายุเจลาเซียน) ตามการลำดับชั้นหินปกตินั้นมีการแบ่งส่วนระดับภูมิภาคและท้องถิ่นใช้กันอยู่มากมาย
ในบริเตนใหญ่ สมัยไพลโอซีนแบ่งออกเป็นหินช่วงอายุต่อไปนี้ (จากเก่าไปใหม่) เกดเกรเวียน, วอลโทเนียน, พรีลูดาเมียน, ลูดาเมียน, เทอร์เนียน, บราเมอร์โทเนียน หรือ แอนเทียน, พรีปาสโทเนียน หรือ บาเวนเชียน, ปาสโทเนียน และ บีสโทเนียน ในประเทศเนเธอร์แลนด์ สมัยไพลโอซีนแบ่งออกเป็นหินช่วงอายุเหล่านี้ (จากเก่าไปใหม่) ได้แก่ บรุนส์ซูเมียน เซ (Brunssumian C), รือเฟเรียน อา (Reuverian A), รือเฟเรียน เบ (Reuverian B), รือเฟเรียน เซ (Reuverian C), เพรทิกเลียน (Praetiglian), ทิกเลียน อา (Tiglian A), ทิกเลียน เบ (Tiglian B), ทิกเลียน เซ1-4เบ (Tiglian C1-4b), ทิกเลียน เซ4เซ (Tiglian C4c), ทิกเลียน เซ5 (Tiglian C5), ทิกเลียน เซ6 (Tiglian C6) และ เอบูโรเนียน (Eburonian) ขณะที่ความสัมพันธ์ที่แน่นอนระหว่างหินช่วงอายุท้องถิ่นเหล่านี้กับหินช่วงอายุของคณะกรรมมาธิการการลำดับชั้นหินสากล ยังคงเป็นเรื่องของรายละเอียดต่อไป[16]
ภูมิอากาศ
อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในช่วงกลางของสมัยไพลโอซีน (3.3–3 ล้านปีก่อน) สูงกว่าปัจจุบันประมาณ 2–3 °ซ[17] ส่วนระดับคาร์บอนไดออกไซด์นั้นเท่ากับปัจจุบัน[18] และระดับน้ำทะเลโลกสูงกว่าปัจจุบัน 25 เมตร[19] พืดน้ำแข็งซีกโลกเหนือไม่ถาวรเกิดขึ้นก่อนจะเริ่มมีการเปลี่ยนสภาพโดยธารน้ำแข็งอย่างรุนแรงเหนือกรีนแลนด์ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายยุคไพลโอซีนเมื่อประมาณ 3 ล้านปีก่อน[20]การก่อตัวของพืดน้ำแข็งอาร์กติกส่งสัญญาณโดยการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในอัตราส่วนระหว่างไอโซโทปของออกซิเจนและแพน้ำแข็งในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือและมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ[21] การเปลี่ยนสภาพโดยธารน้ำแข็งในละติจูดกลางอาจดำเนินอยู่ในช่วงก่อนสิ้นสุดสมัย การเย็นลงของโลกที่เกิดขึ้นในสมัยไพลโอซีนนี้อาจกระตุ้นให้เกิดการหายไปของป่าไม้และการแพร่กระจายของทุ่งหญ้าและทุ้งหญ้าสะวันนา[22]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ สมัยไพลโอซีน
- Mid-Pliocene Global Warming: NASA/GISS Climate Modeling เก็บถาวร 2005-06-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Palaeos Pliocene เก็บถาวร 2004-12-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- PBS Change: Deep Time: Pliocene
- Possible Pliocene supernova
- "Supernova dealt deaths on Earth? Stellar blasts may have killed ancient marine life" Science News Online เก็บถาวร 2006-02-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน retrieved February 2, 2002
- UCMP Berkeley Pliocene Epoch Page